คดีร้าย พ่ายพิศวาส (สำนักพิมพ์ simplybook ตีพิมพ์)
บทนำ
บทนำ ลางสังหรณ์บอกเหตุ
‘ อาชีพ สถานภาพที่แตกต่าง การมาพบเจอกันด้วยเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน กลับเปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปตลอดกาล ’
ร่างบางระหงยืนนิ่งที่หน้าเคาเตอร์บาร์ สายตาเธอจับจ้องที่ถ้วยกาแฟตรงหน้า แต่กลับปรายตามองบิดา ซึ่งท่านกำลังยืนคุยโทรศัพท์อยู่ด้วยสีหน้าอันเคร่งเครียด
“ อีกแล้วหรือ! นี่ครั้งที่เท่าไหร่แล้ว ทำไมยังจับกุมไม่ได้อีก เอาล่ะ! คราวนี้ฉันจะรับเรื่องเอาไว้เอง วันพรุ่งนี้เข้าประชุมพร้อมกัน ฉันจะแจกแจงรายละเอียดของคดีนี้ใหม่ทั้งหมด ”
สุรพศวางสายไป ก่อนจะถอนหายใจยาว ใบหน้าท่านบ่งบอกได้ถึงความเครียดที่ยังไม่จางหายไปจนพศิกาอดกังวลไม่ได้ มือบางยกเอาถ้วยกาแฟเดินก้มหลังเข้ามาหาบิดาอย่างนอบน้อม
“ กาแฟค่ะคุณพ่อ วันนี้คงทำงานดึกเหมือนเดิมใช่ไหมคะ ”
“ เฮ้อ! คดีนี้ไม่มีที่สิ้นสุดเสียที เพราะคนร้ายยังลอยนวลไปได้ทุกครั้งที่มีการจับกุมและต่อสู้กันเกิดขึ้น แถมลูกน้องในพื้นที่ยังต้องเสียไปหลายสิบคนในคราวเดียวกัน เห็นทีพ่อคงต้องหามาตรการขั้นเด็ดขาดมาจัดการกับพวกมันเสียแล้ว ”
ท่านกล่าวเสียงเครียด ในหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ลูกน้องในพื้นที่ของเขาต้องสังเวยชีวิตให้กับคนพวกนี้เป็นจำนวนมาก เขาจะไม่ทนอีกต่อไป เขาจะไม่คอยแต่บัญชาการแล้วไม่ลงมือทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันอีก ในเมื่อพวกมันกล้าขนาดนี้ เขาก็จะสู้กับพวกมันสักตั้ง คนอย่าง พล.ต.ท. สุรพศ พัตร์พิมล ไม่เคยกลัวใครอยู่แล้ว แม้กระทั่งความตายจากอาชีพตำรวจที่จะพรากเขาไปจากโลกใบนี้ได้ทุกเสี้ยว วินาที
“ คุณพ่อขา พักบ้างนะคะ ถ้าอะไรที่คุณพ่อทำไม่ไหว คุณพ่อก็ให้ลูกน้องคุณพ่อทำบ้างนะคะ พิณเป็นห่วงค่ะ ”
พศิกาเอ่ยขึ้น ด้วยห่วงผู้เป็นบิดาเหลือแสน อะไรก็ไม่กังวลเท่างานที่กำลังทำในขณะนี้ ซึ่งถูกแขวนชีวิตไว้บนเส้นด้ายบางๆ ทุกวินาทีมีความสำคัญมาก หากประมาทแม้เพียงน้อยนิด นั่นหมายถึงมัจจุราชอาจมาพรากเอาผู้เป็นพ่อไปจากเธอทุกเมื่อ
“ ไม่ต้องเป็นห่วงพ่อหรอกลูก คนอย่างพ่อน่ะหนังเหนียว ที่ผ่านมาลูกก็เห็นนี่ว่าพ่อผ่านมรสุมร้อนหนาวมาหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นระเบิด ปืน มีด หรืออาวุธใดๆก็ไม่สามารถทำอันตรายพ่อได้ ลูกอย่ากังวลไปเลย เอาเวลาไปตั้งใจทำงานดีกว่า ไปพักผ่อนเถอะลูก พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า อย่าให้นายรัสต้องมาคอยนาน มันไม่ดี พ่อขอทำงานต่อสักพักนะ ”
มือใหญ่ลูบเรือนผมงามอย่างเอ็นดู ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปกี่ปี บุตรสาวท่านก็น่ารักเสมอ เขาจึงเป็นห่วงชีวิตของพศิกา ว่าหากไม่มีเขาแล้ว เธอจะอยู่ได้อย่างไร หากเขาต้องจบชีวิตลงจากการปฏิบัติหน้าที่ แล้วเธอจะอยู่กับใคร
“ ค่ะพ่อ พิณไปนอนแล้วนะคะ ”
พศิกาเดินขึ้นบันไดไป ดวงตาหวานมองลงมาหาผู้เป็นบิดา ก่อนจะยิ้มให้แล้วเดินขึ้นไปช้าๆ สุรพศถอนหายใจทันทีที่ลับร่างบุตรสาวแล้ว ในมือเขาหยิบเอาหนังสือพิมพ์ฉบับวันนี้ขึ้นมาอ่านยามดึก เป็นหัวข้อใหญ่ของวันที่ขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์โดยพาดหัวข่าวว่า
‘ ปัญหาสังคม คดีไม้เถื่อน พรากชีวิตนายตำรวจนับสิบจากการล้อมจับกุมนับครั้งไม่ถ้วน อ่านต่อหน้า 15 ... ’
พศิกาเดินขึ้นห้องนอนมาด้วยใจ ที่ไม่เป็นสุข คดีนี้พ่อเธอทำมาร่วมปีได้แล้ว แต่คนร้ายที่เป็นหัวหน้าก็ยังตามจับกุมไม่ได้ เพราะพวกของมันเยอะเหลือเกิน จับได้ก็แต่ลูกน้องชั้นปลายแถว ซึ่งมันจะมีประโยชน์อะไร ในเมื่อจับมาแล้วพวกมันก็ไม่ปริปากบอกอะไร ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็ตามแต่ เพราะพวกมันถูกนายใหญ่สั่งมาเป็นอย่างดี มิให้เรื่องนี้สาวไส้ไปยังนายของมันให้เดือดร้อนได้
เฮ้อ! เธออยากช่วยพ่อเธอ แต่ในเมื่อช่วยอะไรไม่ได้ หญิงสาวจึงได้แต่ดูอยู่ห่างๆอย่างห่วงๆแบบนี้ เพราะหน้าที่ตำรวจถึงแม้จะอยู่ในระดับสูงที่ใครๆก็คิดว่าสบาย ได้ทำงานในออฟฟิศ ใครจะรู้ได้ ว่าพ่อเธอแหวกหน้าที่ลงมาบัญชาการเองและคอยคุมคดีนี้อยู่อย่างเต็มที่ มิให้ใครว่าเอาได้ว่าใช้ตำแหน่งหน้าที่สูงๆเพื่อปกป้องตัวเอง
พศิกานอนกอดหมอนอยู่บนเตียงนอนหนานุ่ม ด้วยเพราะนอนไม่หลับ เสียงโทรศัพท์ข้างหัวเตียงจึงสะกดให้เธอหลุดออกจากภวังค์ หญิงสาวเอื้อมไปหยิบมากดรับ เมื่อเห็นว่าเป็นใคร
“ สวัสดีค่ะพี่รัส มีอะไรกับพิณเสียดึกเชียว ”
หญิงสาวกล่าว กับรุ่นพี่แสนดีอย่าง รวิภาส ซึ่งเป็นเจ้านายเธอ คงไม่มีใครสงสัยเพราะเจ้านายหนุ่มหล่อคนนี้ยอมรับเธอเข้ามาทำงานด้วยความ เต็มใจเอง
“ เปล่าหรอกจ๊ะ พี่ก็แค่อยากโทรมาถามว่าน้องพิณหลับหรือยัง ”
เพียงแค่ได้ยินเสียง เขาก็นอนหลับฝันดี แม้ไม่มีคำพูดหวานหูดั่งคนรัก แต่เขาก็ยังชื่นใจแค่ได้ยินเสียงเธอ
“ ถ้าพิณหลับ แล้ว ยังไงพิณก็ต้องตื่นมารับสายพี่รัสอยู่ดีนั่นแหละค่ะ ”
เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงสดใสแกมแซว
“ อ้าว! ตายจริง! นี่แสดงว่าพี่มารบกวน เวลานอนของน้องพิณน่ะสิ ใช่ไหม! ”
พศิกากลั้นเสียงหัวเราะตัวเองเอาไว้ เพราะสิ่งที่ตนพูดเพื่อแซวรวิภาส กลับทำให้ชายหนุ่มนั่งไม่ติดพื้น
“ พิณยังไม่หลับหรอกค่ะ พิณกังวลเรื่องคดีของคุณพ่อจนนอนไม่หลับต่างหาก ”
“ คดีไม้เถื่อนที่เป็นข่าวดังอยู่ใน ตอนนี้น่ะหรือ ”
รวิภาสถาม ทำไมจะไม่รู้เกี่ยวกับข่าวนี้ เล่นออกหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์ถี่เสียขนาดนั้น เพราะตำรวจหลายสิบนายต้องเสียชีวิตจากการประจันหน้ากับกลุ่มค้าไม้เถื่อน ใครไม่ทราบข่าวนี้ก็ถือว่าหลังเขาแล้ว และใครๆก็รู้โดยเฉพาะเขาว่าพ่อของพศิกาคุมคดีนี้เอง ด้วยเพราะโกรธแค้นตัวบงการที่อยู่เบื้องหลัง ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้ลูกน้องต้องเสียชีวิตขึ้นเรื่อยๆจนเขาเองก็อดเป็นกังวล แทนไม่ได้
“ ใช่ค่ะพี่รัส พิณเป็นห่วงคุณพ่อ ยิ่งคุณพ่อคุมคดีนี้เอง พิณยิ่งห่วงความปลอดภัยของคุณพ่อ ”
“ ถ้าพิณห่วงท่าน ก็คอยให้กำลังใจท่านห่างๆ อย่าเข้าไปยุ่งวุ่นวายจนทำให้ท่านทำงานไม่สะดวกว ”
“ ค่ะพี่รัส พิณเองก็ทำอย่างนั้นตลอดมาเช่นกัน ขอบคุณพี่รัสมากนะคะที่เป็นห่วงพิณกับคุณพ่อ ”
คำพูดที่ไม่ได้แฝงอะไร แต่กลับทำให้รวิภาสหน้าแดงด้วยความเขิน เขายิ้มให้ปลายสายก่อนจะพูดตัดบทเป็นประโยคสุดท้าย
“ ไว้เจอกันพรุ่งนี้นะครับน้องสาว พี่รัสจะรอ ”
“ ค่ะ ราตรีสวัสดิ์ค่ะพี่รัส ”
พศิกาวางสายไป แล้ว แต่ชายหนุ่มยังคงเอาโทรศัพท์แนบหูตนเองด้วยความเคลิ้มในเสียงหวานๆของเธอ น้องสาวที่เขารักมาตั้งแต่เด็กๆ น้องสาวที่เขาไม่ได้คิดเพียงแค่น้อง แต่เป็น...
เย็นไว้ก่อนรวิ ภาส! ยังไงเราก็ต้องพิชิตใจน้องสาวคนนี้ให้ได้สักวัน เพราะเธอยังไม่มีใคร ดังนั้นเขาก็มีสิทธิ์ ยิ่งเธอทำงานที่รีสอร์ทเขา ชายหนุ่มก็ยิ่งมีโอกาสใกล้ชิดพศิกามากขึ้น เขาจะใช้ความอ่อนโยนของตัวเอง คว้าหัวใจเธอมาครองให้ได้ ไม่วันนี้ ก็พรุ่งนี้ รวิภาสสัญญากับตัวเอง ก่อนจะหลับไปในท่านั้น
เช้า วันใหม่มาเยือน แสงแดดอุ่นๆส่องผ่านหน้าต่างเข้ามากระทบปลายเตียง แม้แสงเพียงริบหรี่ แต่ก็ทำให้ร่างน้อยพลิกตัวไปมาเพราะรู้สึกแสบตาได้ เธอพึมพำเสียงบางเบา
“ เช้าแล้วหรือ... ”
ขนตางามงอนพัดโบกไหวไปมา ก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นนั่ง และส่ายหน้าไล่ความขี้เกียจออกไปให้พ้นตัว มือบางหยิบเอานาฬิกาข้างหัวเตียงขึ้นมาดู แล้วจึงถอนใจโล่งอก เธอนึกว่าสายเสียแล้ว พศิการีบทำธุระส่วนตัวในยามเช้าภายในยี่สิบนาที ก่อนจะเดินลงบันไดบ้านมา ดวงตาหวานมองสอดส่องหารวิภาส แต่กลับพบเพียงร่างของบิดานั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โต๊ะอาหาร
“ คุณพ่อขา... ”
“ อ้าว! ตื่นแล้วหรือลูก ”
สุรพศหันมายิ้มให้บุตรสาวด้วยความเอ็นดู ก่อนจะตอบอย่างรู้ทัน
“ นายรัสติดธุระกะทันหัน พี่เขาเลยขอให้ลูกขับรถไปเองนะ ”
เป็นธรรมดาทุกวันที่รวิภาสจะขับรถมารับเธอไปทำงานที่รีสอร์ท ด้วยเพราะบ้านหญิงสาวกับเขาอยู่ใกล้กันมาก แม้พศิกาจะเคยแย้งด้วยความเกรงใจว่าเธอเองก็มีรถ แต่ชายหนุ่มก็ยังคงขอบิดาเธอจนได้ กับเหตุผลที่ว่าเจ้าของรีสอร์ทอย่างเขาควรดูแลพนักงานแผนกต้อนรับอย่างเธอ เป็นอย่างดี นี่จึงเป็นสาเหตุที่หญิงสาวต้องติดรถรวิภาสไปทำงานทุกวัน แต่ในเมื่อวันนี้เขาติดธุระ สงสัยเจ้า ‘ มินิพิ้งค์ ’ รถมินิสีชมพูคันสวยของเธอคงได้ออกโรงใช้งานเสียแล้ว
“ ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อ พิณเอาเจ้ามินิพิ้งค์ออกไปก็ได้ค่ะ ”
สุรพศชินแล้วกับคำเรียก ฉายารถยนต์ของบุตรสาว เพราะมัน ‘มินิพิ้งค์’ สมชื่อดังว่า แต่ท่านก็ไม่วายเอ่ยถาม
“ หรือจะให้นายสันขับรถตู้ไปส่ง ”
“ ไม่ต้องหรอกค่ะคุณพ่อ พิณไปคนเดียวไม่อยากใช้รถตู้ให้เปลืองน้ำมัน พิณไปแล้วนะคะ ”
พศิกาไม่อยากรบกวนคนของบิดา ซึ่งก็คือ นายสันและนายศร เป็นนายตำรวจที่บิดาจ้างถาวรให้มาคอยดูแลความปลอดภัยภายในบ้านให้เธอและบิดา
“ ข้าวเช้าไม่ทานก่อนหรือลูก ”
“ ไม่เป็นไรค่ะ สายมากแล้ว พิณไปทานที่รีสอร์ทเลยดีกว่า พิณลานะคะ ”
พศิกาไหว้ลาบิดา ก่อนจะเดินออกไปจากบ้าน ทิ้งให้สุรพศนั่งส่ายหน้าอยู่ตามลำพัง ภายในใจกังวลบางอย่าง เหมือนมีลางสังหรณ์ที่ไม่ดี ท่านพยายามไม่คิดอะไร โดยไม่รู้เลยว่าการที่บุตรสาวขับรถของตนออกไปในครั้งนี้จะพานพบกับอะไรบ้าง ซึ่งเหตุการณ์ร้ายๆที่บุตรสาวกำลังจะประสบพบเจอนั้นอาจเปลี่ยนแปลงชีวิตของ เธอไปตลอดกาล
........................................................................................................................................................
- จบไปแล้วกับบทนำของเรื่อง นึกตะหงิดๆใจบางอย่างหรือเปล่า ประโยคสุดท้าย!!! คงยังจำกันได้ดี แล้วนางเอกเราจะต้องพบเจอกับอะไรกันล่ะ อยากรู้ ติดตามต่อจ้า ^^ ขอบคุณที่เข้ามาติดตามกันนะคะ ฝากเรื่อง 'คดีร้าย พ่ายพิศวาส' ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกๆคนด้วยค่ะ รับประกันความเข้มข้นถึงใจ อัดแน่นด้วยเนื้อหาจ้า แต่ไม่ใช่นิยายอีโรติกอย่างแน่นอน สบายใจได้ แค่ช่อแอบเข้าข่าย หุหุ พี่บ.กตั้งให้จ้า ^^
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ