The Kid , No kid.

9.7

เขียนโดย ปรัสรา

วันที่ 11 เมษายน พ.ศ. 2555 เวลา 13.01 น.

  11 chapter
  3 วิจารณ์
  15.89K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

10)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                "ฉันเองไม่รู้หรอกนะ  ว่าทำไมถึงได้เป็นแบบนี้ไปได้น่ะ  เจ้าความรู้สึกแปลกๆที่น่ารำคาญนี่มันก็ชวนสับสนไปหมด  หมายถึงว่ามันเข้าใจยากแล้วฉันก็รู้สึก...แปลกๆ?  มันก็แค่เรื่องงี่เง่า  เรื่องงี่เง่า..."  

                เซโตะรู้สึกเหมือนตัวเองทั้งประหม่าทั้งโมโหจนรู้สึกเหมือนจะระเบิด  คู่สนทนาอดเป็นห่วงไม่ได้  ก็ไม่รู้หรอกนะว่าจู่ๆเซโตะเป็นอะไรขึ้นมาหรืออินกับบทจริงๆ  รู้แต่ว่าท่าทางเขาจะว้าวุ่นมากๆเท่านั้นเอง  "เอ่อ ช่างมันเถอะ  ไม่ต้องพูดก็ได้..."

                "ก็แค่พูดว่าว่าฉันชอบนายไง  ทำไมมันยากเย็นนัก!"  เซโตะตะโกนออกมาในที่สุด

                ทว่า เมื่อตะโกนออกมาแล้วก็ใช่ว่ามันจะรู้สึกดีขึ้นเลย  ตรงกันข้าม เขากลับรู้สึกอยากจะวิ่งออกจากที่ตรงนั้นจนแทบทนไม่ไหว  แน่นอน ในเมื่อขนาดตะโกนยังทำมาแล้ว  นับประสาอะไรกับการวิ่งออกจากร้านอาหารล่ะ  เขาทิ้งคาโอรุให้นั่งอึ้งอยู่ตรงนั้นเพียงลำพัง  กับสายตาอักนับสิบคู่ที่จับจ้อง...

 

                นี่เรา...วิ่งออกมาทำไมเนี่ย!

                เซโตะรู้ตัวอีกทีก็ยืนอยู่หน้ามัธยมไคเซย์แล้ว  นี่เขาวิ่งจากจากคิด คิด แลนด์มาจากนี่เลยหรือ  เอ ไม่สิ  รู้สึกว่่จะต่อรถบัสก่อนนี่นะ  ต่อแล้วก็วิ่งมาอยู่ที่นี่  แล้วเขามาทำอะไรที่โรงเรียนกลางดึกกัน  ยังไงก็เถอะ แค่ความรู้สึกบ้าบอนั่นหายไปได้  เขาก็โล่งใจแล้ว

                สาวผมทองเดินออกมาจากด้านหลังเสาไฟฟ้าอย่างเงียบงัน  ใบหน้าไม่ได้ยิ้มยียวนอย่างที่เคยเป็น  กลับกัน เธอทำหน้าเหมือนสงสัยปนไม่เข้าใจกึ่งจะโกรธ

                "นายทำไมทิ้งคาโอรุไว้ที่โต๊ะอย่างนั้นล่ะ  คิดไหมว่าเขาจะรู้สึกยังไงน่ะ"  โรซารี่หน้ามุ่ย  "แบบนี้ก็สมควรจะกลายเป็นเด็กแล้ว!"

                "เธอรู้ใช่ไหมว่าฉันกลายเป็นเด็กได้ยังไง  รู้ใช่ไหมว่าฉันจะกลับคืนร่างเดิมได้ด้วยวิธีไหน!"

                โรซารี่สะบัดหลุดจากการโดนเขย่าได้  เธอตะโกนให้เขาใจเย็นๆทันที  เด็กสาวเดินถอยหลังไปพร้อมกับรอยยิ้มยียวน  หยิบโทรทัศน์เด็กเล่นอันเล็กๆออกมาจากด้านหลัง  เมื่อกดปุ่มเปิดมันไม่ได้เป็นภาพสัตว์หรือตัวการ์ตูนอย่างของเด็กเล่นทั่วไป  และไม่ใช่ช่องทีวีอีกเช่นกัน  มันฉายภาพของเซโตะกับคาโอรุที่กำลังเถียงกัน  สักพัก เซโตะก็ดันร่างของคู่กรณีไปติดกับกำแพง  ท้ายสุดก็ท่องกวีเซนทริล่าและเริ่มต้นจุมพิต...

                "อะ...อะไรกันน่ะ"  

                เซโตะมองภาพในทีวีแล้วอึ้งไป  ยัยสาวผมทองคนนี้ไปเอาภาพแบบนี้มาจากไหนกันน่ะ  แล้วคิดจะทำอะไร  แบล็กเมล์เขาเหรอ?  ไม่มั้ง ก็เขาเล่นทำแบบนั้นต่อหน้าคนทั้งห้องเลยนี่นา  ไม่มีอะไรต้องกังวลสักหน่อย  อย่างดีก็แค่โดนซุบซิบไปสักระยะ  เขาไม่แคร์หรอก  ในเมื่อตัวเขาก็อยู่คนเดียวมาตลอด  น่าจะใช่นะ ก่อนจะมาอยู่กับคาโอรุน่ะ

                เส้นผมของโรซารี่โบกพัดไปตามสายลมเหมือนเส้นไหมสีทอง  เธอเก็บของเขากระเป๋าแล้วเอามือไพล่หลังยิ้มเช่นเดิม  "เธอคิดยังไงกับภาพนั้นเอ่ย?"

                เซโตะยื่นมือออกไปรับลูกเห็บแล้วทำหน้ามุ่ยๆ  "ก็ไม่ยังไง  มันก็ปกติดีนี่นา  มันก็แค่จูบ..."

                "รู้ไหมว่าเธอทำร้ายจิตใจคาโอรุคุงแค่ไหนน่ะ?  แถมถ้าหากว่าตอนนั้นเขาไปทำร้ายคนอื่นในห้องขึ้นมาล่ะ  ถ้าหากตอนนั้นมีคนโดนลูกหลงล่ะ  แล้วถ้าหากว่าคาโอรุคุงโดนพักการเรียน  โดนไล่ออกขึ้นมาล่ะ..."

                เซโตะขมวดคิ้ว  เขาไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้เลยสักนิดเดียว  ที่สำคัญคือไม่รู้ว่าทำไมต้องมายุ่งกับเขานัก  เอานู่นเอานี่มาให้ฟรีๆ  ยังมีเรื่องบัตรสวนสนุกด้วย  นิสัยพิลึกพิลั่นชอบไปโผล่ในที่ต่างๆดักหน้า  อย่างกับรู้ว่าเขาจะไปที่ไหนหรืออย่างน้อยก็อยู่ที่ไหน

                โรซารี่เปิดทีวีเด็กเล่นอันเดิมมาฉายฉากในตอนนั้นอีกครั้ง  เพียงแต่คราวนี้เธอเอาสายติดกับตัวของเซโตะเหมือนกับเชื่อมต่อ  เด็กหนุ่มผมแดงได้แต่คิดปลง  ถ้าหากว่ายอมให้สาวผมทองคนนี้ทำอะไรแปลกๆแล้วจะยอมบอกวิธีกลับคืนร่างเดิมล่ะก็  จะยอมทนสักนิดก็ได้

                โรซารี่มองหน้าเบื่อโลกของเซโตะแล้วกดเปิด  แสงสว่างวาบฉายไปทั่วจนเด็กหนุ่มผมแดงต้องเอามือป้อง  นี่มันอะไรกันเนี่ย  ยัยผมทองเล่นตลกอะไรกับเขา!?

                ในที่สุด เซโตะก็สัมผัสได้ว่าแสงภายนอกลดความสว่างลงแล้ว  พลัน มือและปากของเขาขยับไปโดยอัตโนมัติ  กลายเป็นบทพูดและการกระทำในตอนนั้น  รวมทั้งสถานที่และเวลาที่กลายเป็นกลางวัน  ทั้งที่ตอนนี้น่าจะทุ่มกว่าแล้วแท้ๆ!  เด็กหนุ่มผมแดงสุดจะเหวอเมื่อตัวเองดึงคาโอรุเข้าไปจุมพิต  ทั้งที่ตอนนั้นมันไม่มีความหมายอะไรสักอย่าง  แต่ตอนนี้กลับ...รู้สึกแปลกๆ?

                "ฉัน...ฉัน"

                บทพูดของเซโตะกลับมาเป็นปกติ  เด็กหนุ่มผมแดงหลับตาแน่นเพราะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้  เอาเถอะ จะชกก็ชกมาเลย  ไหนๆก็เคยโดนแล้วนี่  จะโดนอีกสักครั้งจะเป็นไรไป!

                แต่ผิดคาด คาโอรุไม่ได้ชกเขามาเต็มแรงอย่างที่อดีตเคยเป็นและเห็นในทีวีของเล่น  อีกฝ่ายกลับทำหน้าเศร้าหมองกล่าวเสียงเบา  "เซโตะ ฉันเคยบอกนายแล้วใช่ไหมว่าเกลียดการโดนจูบน่ะ"

                "อะ...อือ  แต่ว่านายบอกหลังจากนั้น"

                คาโอรุสัมผัสบริเวณอกซ้าย  ซึ่งมีหัวใจเต้นตุ้บๆอยู่  มันส่งแรงสั่นมาจนถึงฝ่ามือของผู้สัมผัส  ผู้มีเนตรราตรีค่อยๆมีหยดน้ำตาไหลลงมา  ทีละหยด  ทีละหยด  ทีละหยด...

                "เมื่อกี้นายกำลังรู้สึกแบบไหนกันน่ะ?"  คาโอรุถามด้วยเสียงสุดแสนเศร้า  "ตอนที่ฉันกำลังรู้สึกเสียใจและรู้สึกแย่  นายกำลังคิดอะไรอยู่เหรอ?  นายคิดอะไรอยู่  นายกำลังรู้สึกยังไงอยู่ล่ะ..."

                ฉัน...  รู้สึก...

                "บอกมาสิ เซโตะ  ความรู้สึกในตอนนั้น  มันมี..."  คาโอรุใช้ดวงตาสีดำที่แฝงไปด้วยความเศร้าสบตากับเขา  "...ความรู้สึกผิดบ้างไหม?"

                ตัวของเซโตะชาวาบเหมือนกับมีสายฟ้าฟาด  นั่นสินะ เมื่อครู่เขาเผลอรู้สึก...รู้สึกดี?  ทำไมเขาถึงรู้สึกดีกันล่ะ  แล้วเขากำลังรู้สึกดีท่ามกลางความรู้สึกแย่ของคาโอรุอย่างนั้นหรือ  บ้าที่สุดเลย  เขา...ตัวเขาน่ะ!

                "ขอโทษ"  เซโตะพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา  "ฉันขอโทษ"

                ทั้งห้องเรียนและโต๊ะ  ทุกอย่างค่อยๆละลายกลายเป็นหมอกควันสีขาวไป  เด็กหนุ่มผมแดงค่อยๆหลับตาลงให้ความรู้สึกคล้ายกับทุกอย่างว่างเปล่าราวกับจะเป็นลม  แต่ครู่ต่อมา เซโตะพบว่าตนเองยืนอยู่ที่เดิม  หน้าโรงเรียนไคเซย์  ทว่า สาวผมทองจอมยุ่งกลับหายไปแล้ว?  คงเหลือไว้ก็แต่หนังสือนิทานเรื่องเจ้าชายกบซึ่งมีสัญลักษณ์ของร้านสายฝนและลูกเห็บตกอยู่ที่พื้นเพียงเท่านั้นเอง

                งั้นก็ไปทำสิ่งที่นายคิดว่าอยากจะทำในตอนนี้สิ...  เสียงก่อนจะจางหายไปของคาโอรุภาพมายาคนนั้นดังก้องขึ้นในใจเขา 

                ในตอนนั้นเซโตะรู้ทันทีว่าตัวเองกำลังคิดยังไง  ไม่สิ ต้องพูดว่าเขากำลังคิดอะไรๆกับใครต่างหาก  บ้าจริงๆเลย ก็น่าจะรู้ตั้งแต่ตอนที่พูดคำนั้นออกไปแล้วนะ!

                โชคชะตาคงไม่เป็นใจนัก  ทันทีเซโตะจะออกวิ่ง  ลูกเห็บที่ตกลงมาน้อยนิดตั้งแต่เมื่อกี้เริ่มเปลี่ยนเป็นหิมะตามที่มันควรจะเป็น  ร่างกายของเด็กมัธยมเริ่มหดเล็กจนสะดุดเสื้อผ้าล้มลง  เซโตะสวมแต่เสื้อกับรองเท้าเท้าออกวิ่งไป  ถ้าในมือถือพลาสติกนั่นมีชุดของเด็กบ้างก็ดีหรอก!

                แต่หิมะก็คือหิมะ  ความหนาวเย็นของมันต่างจากลูกเห็บมาก  ที่สำคัญยังหนาขึ้นเรื่อยๆ  การเดินที่ยากอยู่แล้วยิ่งลำบากมากไปอีก  เด็กน้อยผมแดงที่สวมเพียงเสื้อเชิ้ตกับรองเท้าสุดหลวมพยามเดินให้ไวที่สุดให้ไปถึงบ้าน  ป่านนี้คาโอรุคงกลับแล้วล่ะ  หรือถ้ายังทานมื้อเย็นอยู่ที่เดิมล่ะก็  เขาจะรอจนกว่าจะกลับก็ได้  มันดีกว่าการไปที่ภัตตาคารแล้วพลาด

                หิมะโปรยปราย  เซโตะก็ยิ่งรู้สึกมึนหัว  ความอ่อนล้าปกคลุมร่างกาย  บ้าจริงเชียว ทำไมถึงต้องมาตกเอาตอนนี้ด้วยนะ  เจ้าขานี่ก็เหมือนกัน  ทำไมต้องวิ่งมาที่มัธยมไคเซย์ด้วย  ถ้าวิ่งกลับบ้านไปซะคงไม่ลำบากขนาดนี้หรอก  เด็กน้อยยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกเจ็บใจตนเองพอๆกับที่โกรธคาโอรุ  อีกฝ่ายจะจามไปกี่ทีแล้วนะเนี่ย  ช่างสิ มาทำให้เขาเพี้ยนถึงขนาดวิ่งฝ่าหิมะตกด้วยชุดแค่นี้  จามสักสิบครั้งก็น้อยไปด้วยซ้ำ!  เซโตะคิดแล้วหัวเราะเบาๆ  ก่อนจะฟุบลงกับพื้นถนนในที่สุด

 

                "อือ..."

                เซโตะตื่นขึ้นมาบนเตียงโดยมีคาโอรินั่งกระดกกาแฟอยู่  เธอเหลือบมองเขาที่ฟื้นขึ้นมาด้วยสีหน้าอิดโรยแล้วถามว่านึกยังไงถึงได้ไปเดินท่ามกลางหิมะด้วยชุดอย่างนั้นรอบที่สอง  หรือว่ารอบแรกยังเจ็บไม่พอ  อยากขออีกสักทีหรือ  เธอเริ่มคิดแล้วว่าเด็ก (ปลอม) ในอุปการะ (ชั่วคราว) นี่อาจมีรสนิยมเป็นมาโซคิสท์  ชอบทำให้ตัวเองเจ็บปวด

                อย่างไรก็ดี คาโอรุกลับขึ้นมาพร้อมกับถุงน้ำร้อนใบใหม่  แต่คาโอริบอกว่าไม่ต้องแล้ว  ท่าทางเด็กน้อยก็ไม่ได้หนาวสั่น  ไม่ได้มีอาการอะไรแทรกซ้อน  ถึงเธอจะไม่ได้เป็นแพทย์แต่ก็มีเครื่องมือคือๆกันอยู่  พอถูไถไปได้  แต่แบบนี้จะเรียกได้ว่าแ็ข็งแรงผิดมนุษย์หรือว่ามีนางฟ้าคอยหนุนหลังอยู่ไม่ให้ป่วยดีล่ะเนี่ย  ในกรณีของเซโตะที่กลายเป็นเด็ก  อาจจะเป็นอย่างที่สองก็ได้

                คาโอรุไต่ถามอาการด้วยความเป็นห่วง  เขาที่วิ่งตามไม่ทันนั้นเที่ยวหาตัวเด็กน้อยไปทั่ว  แต่จุดที่น่าตกใจที่สุดคือตอนที่กำลังจะวิ่งเข้าไปหา  อีกฝ่ายก็ล้มลงไปพอดี

                "จริงสิ ตอนที่ฉันไปเจอนายน่ะ  ข้างๆมีหนังสือนิทานตกอยู่ด้วยนะ  ความจริงก็คืดอยู่ว่าอาจเป็นของคนอื่น  แต่ก็มีตราสัญลักษณ์ของร้านสายฝนและลูกเห็บ  แถมริบบิ้นกับการ์ดที่ผูกไว้ก็ลงชื่อว่าเป็นของขวัญของนายด้วย  มันมีอะไรพิเศษเหรอ  เจ้าชายกบเนี่ย..."

                คาโอรุเปิดดูผ่านๆก็ยังไม่มีอะไรพิเศษ  แน่นอนว่าไม่มีกบกระโดดออกมาจากหนังสือหรืออะไรแบบนั้น  เพียงแต่ปกติจะต้องมีวิธีใช้แนบมาด้วย  ทำไมคราวนี้ถึงเป็นนิทานเพียวๆล่ะ

                เซโตะเอื้อมมมือไปรับนิทานมาอ่านอย่างตั้งอกตั้งใจ  ถึงจะสารภาพรักแบบไม่ตั้งใจไปแล้วรอบหนึ่งก็เถอะ  แต่คราวนี้เขาจะอ่านเจ้าหนังสือนี้จนหาทางกลับเป็นร่างเดิมแบบเต็มร้อย  จากนั้นก็จะหาโอกาสสารภาพรักอีกรอบให้ได้เลย!

                "อ่านไปก็เท่านั้นล่ะน่า"  คาโอริกระดกกาแฟอีกแก้วอย่างกับดื่มน้ำเปล่า  จากนั้นก็ทำหน้าเหมือนสะใจที่ได้สปอล์ย  "ตอนจบของเจ้าชายน่ะนะ  ได้จุมพิตกับเจ้าหญิงแล้วก็กลับเป็นหนุ่มรูปงาม  ยี้...แหวะ หนุ่มรูปงามที่โป๊น่ะสิ  ถึงกบจะใส่เสื้อผ้าหรือไม่ก็เหอะ  มันต้องขาดเป็นชิ้นๆแล้วล่ะ"

                เซโตะเหล่มองคาโอริแล้วพลิกไปอ่านตอนจบโดยเร็ว  ตอนจบใช่อย่างที่คาโอริว่าจริงๆ  เจ้าหญิงและเจ้าชายได้ครองคู่กันอย่างมีความสุข  จริงสิ ในนิทานแนวนี้มักต้องหารักแท้มาแก้สินะ  เขาเองก็ใช่ว่าจะไม่มีสักหน่อย  เซโตะมองคาโอรุสลับกับนิทานแล้วจับมือกับอีกฝ่ายแน่น  "ฉันว่าฉันเข้าใจวิธีแก้ไขเรื่องนี้แล้ว"

 

                "ฉันรู้ว่านายมีนัดกับฉันตอนมื้อเที่ยงเรื่องการกลับคืนร่างเดิม"  คาโอรุคีบไข่ม้วนยัดเข้าไปในปากอีกฝ่าย  เชิงล้อว่าเซโตะยังเป็นเด็ก  "ยังไงก็ตั้งใจกินข้าวกลางวันหน่อยสิ  นี่อุตสาห์ทำมาเป็นพิเศษเลยนะ"

                แทนที่จะรีบกลืนรีบว่า  เด็กน้อยกลับเคี้ยวไข่ม้วนตุ้ยๆอย่างเอร็ดอร่อยอย่างหน้าชื่นตาบาน  เล่นเอาคาโอรุงง  จับหน้าผากว่าเหตุการณ์เมื่อวานทำให้เซโตะไข้ขึ้นหรืออย่างไร  แต่แน่นอนว่าไม่ได้เป็นเช่นนั้น  ที่เขากินโดยไม่เถียงแบบนี้เป็นเพราะคนป้อนต่างหากล่ะ  ไหนๆเขาก็จะกลายเป็นเด็กมัธยมตามเดิมแล้ว  ปล่อยให้สนุกอย่างนี้ไปอีกนิดก็ได้

                ที่สำคัญ ถ้าอารมณ์ดีๆอาจจะยอมให้ทำอย่างนั้น...

                เซโตะจินตนาการถึงฉากนั้นแล้วประหม่าจนสำลัก  ทำเอาคาโอรุส่งอะไรให้วุ่นวายไปหมด  ผู้มีนัยย์ตาราตรีเริ่มคิดจริงๆว่าวันนี้เด็กน้อยมีอะไรแปลกๆ  แล้วเรื่องกลับคืนร่างเดิมนั่นก็เหมือนกัน  เขารู้วิธีได้ยังไง  หรือว่าโรซารี่บอกอะไรงั้นเหรอ  นั่นสินะ เมื่อวานนี้ตอนที่หายตัวไป  เด็กน้อยอาจไปพบกับโรซารี่แล้วสอบถามมาแล้วก็ได้

                "นี่..."  เซโตะพยามทำหน้าเหมือนลูกแมวอ้อน  แต่ผลที่ได้คือคาโอรุตอบกลับด้วยสีหน้าที่รู้สึกเหมือนเขาพิลึก  เด็กน้อยคิ้วกระตุก  "ฉันก็ไม่ได้อยากทำหน้าอย่างนั้นนักหรอกน่า!"

                ผู้มีนัยย์ตาสีราตรีไม่วางใจ  เขาจะทำกับสถานการณ์แบบนี้ยังไงดี  จะแอบโทรหาคาโอริเพื่อปรึกาาอาการ  หรือว่าควรจะโทรหาครูห้องพยาบาลเลยดี  ท่าทางเซโตะคงได้รับการกระทบกระเทือนอะไรสักอย่างมาแน่นอนถึงได้ทำหน้าแบบนี้  หรือว่าจะโดนตัวอะไรที่มีไวรัสประหลาดกัด?  ไม่หรอกมั้ง...

                เซโตะจ้องหน้าแล้วอ่านความรู้สึกจากสายตาคาโอรุ  เดาได้ทันทีว่าคนที่เขามุ่งเป้าว่าเป็น 'รักแท้' กำลังคิดเรื่องอะไรที่มันประหลาด  แล้วมีความเป็นไปได้สูงว่าต้องเกี่ยวกับเขาแหงๆ

                เซโตะตัดสินใจคิดว่าตัวเองเข้าใจผิดเพื่อป้องกันความกราดเกรี้ยวทั้งมวล  ซึ่งอาจจะมาขัดขวางการคืนร่างของเขา  เพราะถ้าเขาโมโหแล้วทำคาโอรุโกรธไปด้วย  งานนี้มีแต่พังกับพัง  เขาก็จะอดจูบคาโอรุ เอ๊ย เขาก็จะอดคืนร่างเดิมเป็นแน่แท้

                "ช่วยฟังหน่อยนะ  นี่อาจเป็นข้อสรุปที่ไม่ค่อยได้เรื่องเท่าไหร่  แต่ว่าถ้าฉันเข้าใจถูกต้องล่ะก็..."  เซโตะเหลือบมองปฏิกริยาของคู่สนทนา  "ถ้าฉันจะกลับคืนร่างเดิมได้  นาย...ต้อง...จูบฉัน"

                สีหน้าของคาโอรุเปลี่ยนไปในทันทีแล้วรัวหมัดมาไม่ยั้ง  เด็กน้อยหลบหลักเป็นพัลวันพลางโวยวายให้เขาใจเย็นๆก่อน  เมื่อเห็นว่าฝ่ามืองามๆหยุดชกแล้ว  เซโตะจึงอธิบายให้ฟังว่าตอนที่เขาไปถามเรื่องคืนร่าง  โรซารี่ได้มอบนิทานเรื่องเจ้าชายกบมาให้  ถ้าหากเปรียบเขาที่กลายเป็นเด็กแทนกบล่ะก็  การจะคืนร่างได้ก็ต้องมีจุมพิตจากคนที่เป็นรักแท้เท่านั้น

                คาโอรุชี้มาที่ตนเองอย่างงุนงง  ก่อนจะถามว่าเขาเป็นรักแท้ของเซโตะตั้งแต่เมื่อไหร่  ตั้งแต่จำความได้มันก็อยู่ในสถานะมิตรก็ไม่ใช่ คู่อริก็ไม่เชิงนี่นา 

                ผู้มีนัยย์ตาสีราตรีคิดไปคิดมาแล้วเบิกตากว้าง  "นายคิดยังไงๆกับฉันเหรอ!?"

                เซโตะหน้ามุ่ย  เจ้าคำว่ายังไงๆนี่มันคงหมายถึงคำว่าชอบใช่ไหม  ให้มันได้อย่างนี้สิ  ถ้าพูดว่าคิดยังไงๆกับคาโอรุมันชวนให้นึกถึงเรื่องอกุศลชอบกล  จะเลยเถิดไปทางที่เขาไปไล่ล่าหาตัวคาโอรุมาจูบเอาเปล่าๆ  เด็กน้อยผมแดงสีหน้าประหม่า  เขาหลับตาพลางสูดหายใจเข้าลึกๆ  พยามคิดว่าตนเองมีร่างเป็นเด็กหนุ่มวัยมัธยม  เซโตะยึดไหล่ทั้งสองข้างของอีกฝ่ายไว้

                "ฉันไม่รู้ว่าฉันรู้สึกอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่  เพียงแต่ว่า...นายเป็นคนแรกในรอบหลายปีที่ฉันจับมือได้อย่างสนิทใจ  นายเป็นคนแรกที่ฉันรู้สึกอุ่นใจเวลาอยู่ใกล้ๆ  ถึงแม้เป็นตอนที่เถียงกัน  มันก็มีบ้างที่ฉันจะโมโห  แต่ฉันก็อยากจะกลับมาเจอนายอยู่ดี  ฉะนั้น ฉันจึงอย่างบอกกับนายสองข้อ  ข้อแรก ฉันขอโทษที่จูบนายไปตอนนั้น  ส่วนข้อสอง..."

                เซโตะสบตากับนัยย์ตาสีนิลของคาโอรุแล้วพูดอย่างหนักแน่น  "ถึงจะเป็นเวลาสั้นๆ  แต่ตอนนี้ฉันมั่นใจว่านายคือรักแท้ของฉัน"

                ความเงียบปกคลุมอยู่ชั่วขณะ  ในตอนนี้เขาอยากสลบไปเลยด้วยซ้ำ  ถ้าสลบแล้วคงรู้สึกดีขึ้นมากว่านี้แน่  แต่ถ้าเขาหลับไปล่ะก็  เขาคงไม่รู้ว่าตัวเองจะได้กลับคืนร่างไหม  และถ้าหากการพูดครั้งนี้ทำให้พวกเขาไม่ใกล้ชิดกันเหมือนเดิม  มันคงแย่ทั้งการที่เขาคงไม่ได้คินร่าง  และอีกทางคือการที่คาโอรุคงห่างเหิน  บ้าจริงเลย นี่เขากำลังกลุ้มใจในเรื่องเดียวกับพวกงี่เง่าด้านความรักในห้องเหรอ!

                คาโอรุพูดอย่างแผ่ว  "เอางั้นก็ได้"

                เซโตะเงยหน้าจากพื้นอย่างอึ้งๆ  แต่ก่อนจะได้พูดอะไรกับถูกคว้าตัวไปจุมพิตเบาๆแต่เนิ่นนาน  สำหรับคาโอรุมันเป็นเพียงแค่การเอาปากชนกันเท่านั้น  โดยไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆ  แต่สำหรับเซโตะ  ความอบอุ่นแบบที่เขาเคยได้รับจากภาพมายามันกลับมาอีกครั้ง  ซ้ำคราวนี้เขายังรู้สึกมากกว่าเดิมด้วย

                จากที่ห่างไกล  โรซารี่ยืนมองอยู่บนยอดเสาไฟฟ้า  สายลมโบกพัดเส้นผมสีทอง  เด็กสาวกอดอกพูดกับเพื่อนสาวที่อยู่ด้านหลังว่า  " 'เขา' เข้าใจถึงจุมพิตแห่งรักแท้แค่ไหนนะ?"

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา