อีกด้านหนึ่งใจจิตใจ
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
“เจตื่นได้แล้ว!”
“ค๊าบ!”
“ขออีกสิบห้านาทีนะ”
“ ตื่น ได้แล้วไอ้ เด็กขี้เซา”
“รู้แล้วน่าหน้าเบื่อจริง”
“หือ! เมื่อกี้นี้ใครพูดกับเราวะ?”
“โอ๊ยคิดแล้วเครียด!”
“ไปเรียนดีกว่า!”
นั้นเป็นครั้งแรกที่ผมได้ยินเสียงปริศนาที่จู่ๆก็ดังขึ้นไม่รู้ว่ามันเป็นเสียงของใครแต่ฟังแล้วคุ้นหูยังไงก็ไม่รู้แต่รู้สึกได้ว่ามันต้องมีอะไรเกี่ยวกับผมแน่เพราะวันนี้เป็นวันเกิดของผมปีนี้ผมจะอายุ 18 ปี บรรลุนิติภาวะสักที ฮ่าๆๆ แต่ยังไงก็ต้องอยู่กับพี่สาวอยู่ดีอะ
“ไงไอ้เจ สุขสันต์วันเกิดนะไอ้เพื่อน”
“เออ”
“ขอบใจวะ”
“แล้วทำไมวันนี้มึงทำหน้าหยั่งงั้นนะ”
“ช่างกูเถอะ”
นี้คือเพื่อนคนเดียวที่ผมยอมรับว่าเป็นเพื่อนรักที่สุดชื่อว่าไอ้โหน่งเหตุผลที่ยอมรับมันเป็นเพื่อนก็เพราะเวลาผมมีปัญหาอะไรไอ้หมอนี้ก็จะคอยเป็นที่ปรึกษาอยู่เสมอไม่เคยทำให้ผมต้องเสียใจเหมือนคนอื่นๆ
“แล้วนี่มึงเจอเมย์ยังละ”
“ยังไม่เจอเลยเค้าคงไม่อยากเจอหน้ากูมั้ง”
“พูดแบบนี้อีกแล้วนะมึงเมย์เค้าเป็นแฟนมึงไม่ใช้เหรอแล้วจะมีเหตุผลอารัยต้องไม่อยากเห็หน้ามึงด้วยหะ
ไม่รู้สิ”
เมย์ เป็นรักแรกของผมเพราะผมไม่เคยเห็นผู้หญิงคนไหนที่ถูกใจไปมากกว่าเธออีกแล้วแต่ว่าความรักของผมกับเธอไปไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่เธอดูเหม่อลอยและไม่ค่อยสนใจอะไรผมเลยทั้งที่ผมไม่ได้เป็นคนบอกชอบเธอเลยแต่เป็นเธอที่มาขอผมซะเอง
“นี่นาย!”
“อะไร”
“ฉัน...ฉันชอบนาย”
“ห่ะ!”
“เป็นแฟนกับฉันได้มั้ย?”
“เอ่อ”
“ไม่ตอบถือว่าตกลงนะ”
คิดเอง เออเองเลยนี่
“เอาเบอร์มา!”
นั้นเป็นครั้งแรกที่ผมรู้จักเธอเธอเป็นผู้หญิงที่ใจกล้ามากที่มาขอผู้ชายเป็นแฟนแต่พอผมคบกับเธอไปผมไม่เห็นว่ามันจะใช้การเป็นแฟนกันสักนิดเธอไม่เคยเป็นฝ่ายถามท่าผมไม่ถามเธอก่อนเวลาตอบก็จะตอบแบบสั้นๆ และวันนี้เป็นวันเกิดผมเธอยังไม่ปรากฏตัวให้เห็นเลยไม่รู้ว่าเค้าสนใจผมมากขนาดไหนแต่ที่ผมชอบในตัวเอตรงที่เธอใจดีกับใครหลายๆคนเพียง
แต่ไม่ใช้ผมแต่ผมไม่สนใจหรอกเพราะว่าแค่เห็นเธอยิ้มได้แค่นี้ผมก็มีความสุขแล้วและผมเชื่อว่าสักวันรอยยิ้มนั้นจะเป็นรอยยิ้มที่ยิ้มให้กับผมอย่างจริงใจ
“นี่!”
“เหวอ!”
“อ้าวเมย์มาตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“มาตั้งแต่นั้งเหม่อแล้ว”
“โหน่ง!”
เอ้าเปลี่ยนเป้าหมายซะงั้น
“จ๋าว่าไง”
“มีเรื่องจะปรึกษามาด้วยกันหน่อย”
“ได้ก๊าบป๋ม!”
“เดียวมาน่ะเว้ย”
“เออ อย่านานน่ะว้อยเดียวจะเข้าเรียนแล้ว”
“ก๊าบบบบบบบบป๋ม”
“ดูท่าทางเหมาะกันดีเนอะ”
“หะ!”
อีกแล้วมีเสียงลึกรับที่ไม่รู้ว่ามาจากไหนแต่มีความรู้สึกว่ามันจะไดยินทุกครั้งที่ผมทุกใจเสียงนี่ฟังดูแล้วคุ้นหูจริงๆด้วย
“ไม่ตามไปดูจะดีเหรอ”
“ใครอ่ะ!”
“เอ้าไม่รู้ว่าฉันเป็นใครซะงั้นแย่จัง”
ผมมองไปทั่วว่าต้นเสียงมาจากไหนแต่มองไปทางไหนก็ไม่พบเจ้าของเสียงมี่พูดกับผมเลยผมจึงตัดสินใจวิ่งไปตามสองคนนั่นและสิ่งที่ผมมองเห็นก็คือภาพแห่งความสุขที่เพื่อนรักกับแฟนสาวนั้งคุยกันอย่างมีความสุขมากดูแล้วทั้งคู่ก็เหมาะสมกันมากจริงๆแต่สิ่งที่ผมรู้สึกตอนนี้มันเป็นความรู้สึกที่อยากจะ................ฆ่า ฆ่า ฆ่า ฆ่า เสียงนั้นอีกแล้วเสียงยุยงที่เคยได้ยินในความฝันมือของผมเริ่มสั่นสติเริ่มเลือนรางลงไปเหมือนกับว่าร่างกายเริ่มขยับไปเองแต่สิ่งที่ผมเริ่มทำก็คือวิ่งไปตามความต้องการของตัวเองและหยุดอยู่หน้าห้องน้ำผมก็เลยเข้าไปล้างหน้าล้างตาแต่สิ่งที่ผมเห็นในกระจกก็คือตัวผมเองยืนอยู่ด้านข้างของผมผมถึงกับเขาอ่อนแต่ร่างนั้นกลับเดินเข้ามาหาผมแล้วพูดว่า ฆ่ามันซะ ฆ่ามันซะ ฆ่ามันซะ และนั้นเป็นนาทีสุดท้ายก่อนที่สติของผมเลือนรางไป
“ไอ้เจ!... ไอ้เจ!...ไอ้เจ!”
“มึงอยู่ที่ไหน!”
“ไอ้เจ”
จู่ตอนที่ผมหันไปสิ่งที่ผมเห็นก็คือไอ้เจยืนอยู่ตรงหน้าและก็วิ่งหนีหายไปผมเริ่มเป็นห่วงกลัวไปทำอะไรบ้างๆผมคิดที่จะอธิบายเรื่องเมื่อกี่แต่ว่าตอนนี้ผมหาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอสักที่และตอนนี้มันก็เย็นแล้วด้วยผมโทรไปถามพี่สาวก็บอกว่ายังไม่กลับบ้านนั้นต้องไม่ใช้เรื่องดีแน่ๆ
“ไอ้เจ!...ไอ้เจ!...ไอ้เจ!
“ว่าไงเหรอเพื่อน!”
“ไอ้เจ!”
ในที่สุดผมก็พบตัวไอ้เจจนได้แต่น้ำเสียงที่พูดกับผมนั้นมันเยือเย็นมากผมรู้สึกไม่ดีแทบไม่อยากเข้าใกล้แต่ผมไม่สนผมรีบวิ่งเข้าไปดูหน้าเพื่อนรักอย่างเป็นห่วงแต่สายตาที่ไอ้เจมองมาที่ผมนั้นมันเหมือนกับอยากจะฆ่ากันหยั่งไงหยั่งงั้นแหละและความรู้สึกบางอย่างก็เกิดขึ้นรู้สึกจุกที่ท้องและสิ่งที่ผมเห็นก็คือหมัดของไอ้เจมันอยู่ที่ท้องของผมและผมก็เหมือนลอยข้ามหัวไอ้เจไป
“ตุบ!”
จู่ๆร่างกายก็กระเด็นติดกำแพง
“อ๊าก!”
“หึๆๆๆๆ”
“ไอ้เจมึงทำอะไร?”
“กูกำลังจะฆ่ามึงไง!”
คำพูดที่เยือกเย็นนั่นทำให้ผมรู้ว่ามันเอาจริงและผมต้องทำอะไรสักอย่างไม่งั้นผมตายแน่แต่จะให้ทำยังไงในเมื่อตอนนี้ผมถูกไอ้เจนั้งค่อมอยู่บนตัวและรัวหมัดใส่ผมอย่างไม่หยุดมือทั้งสองข้างของผมก็ถูกเท้าเหยียบไว้และตอนนั้นเองมีของแหลสีเงินออกมาจากกระเป๋ากางเกงนักเรียนของไอ้เจคงรู้กันน่ะครับว่ามันคืออะไรใช้มันก็คือมีดพกนั่นเองในตอนนั้นร่างกายของผมมันสั่นแบบอัตโนมัติและก็มีคำถามอย่างเยือเย็น
“กลัวอะไรเหรอ”
ช่างเป็นคำถามที่เยือกเย็นมาก
“ทำไมมึงทำแบบนี้?”
“คำถามนั้นกูขอถามมึงดีกว่า! ว่าทำไมมึงถึงทำกับกูอย่างนี้?”
“มึงกำลังเข้าใจผิดแล้ว”
“เข้าใจผิดตรงไหนวะ”
“กูเห็นกับสองตามึงสองคนคุยกันอย่างมีความสุขมาก แหมคุยกันนี่หวานเชียวน่ะมึง”
“มึงเข้าใจผิแล้ว!”
“เข้าใจผิดตรงไหนวะ มึงคิดว่ากูโง่นักเหรอไง”
“มึงเข้าใจผิดแล้วฟังกูพูดก่อน”
“กูไม่ฟังอะไรทั้งนั้น เตรียมตัวตายซะ!”
พูดจบแล้วมันก็ง้างมีดขึ้นเตรียมที่จะแทงอกผมแต่ว่าผมไม่สนเพราะผมไม่ดีเองที่คิดปิดเรื่องนั้นเป็นความรับกลับเมย์สองคนเลยทำให้ไอ้เจเข้าใจผิด
“วันนี้หลังเลิกเรียนเราว่าจะเอาของขวัญไปให้เจ”
“เหรอ! ดีเหมือนกันเราก็ว่าจะให้มันหลังเลิกเรียน”
“แต่เราไม่กล้าให้อะกลัวจะโดนหัวเราะใส่”
“จะกลัวอารัยเล่ามันต้องดีใจแน่ๆ”
“งั้นโหน่งเอาไปให้แทนเราหน่อสิ”
“ห่ะ! จะบ้าเหรอเธอเป็นมันแล้วทำไมไม่เอาไปให้เองล่ะ”
“ก็เราไม่กล้านิ นะ นะ ของร้องล่ะ”
“เฮ้อ ก็ได้ๆจะเอาไปให้ก็ได้”
“เย้! ขอบใจจ๊ะ”
“จริงสิจะว่าไปแล้วของขวัญตอนนี้อยู่ไหนนะ”
“อะ! แย่แล้วของขวัญอยู่ไหนเนีย”
ฉึก!
เสียงมีดปักอะไรบางอย่าง
“ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!”
เสียงร้องของไอ้นั้นฟังแล้วเจ็บปวดมากมันทำให้ผมรีบผลักไอ้เจออกทันที่ผมรีบลุกถอยหากออกจากตัวไอ้ทันที่ภาพนั้น
ไม่น่าเชื่อแทนที่มีดจะแทงลงบนตัวผมกลับแทงที่ขาไอ้เจแทน
“ไอ้เจ!”
“ออกไปให้พ้น!...ออกไป!... ออกไปให้พ้นๆหน้ากูซะ!”
ผมได้สติกลับมาหลังจากที่เอามีดแทงขาตัวเองผมนอนกลิ้งอยู่กับพื้นด้วยความเจ็บปวดและทรมานผมพยามไม่ให้ไอ้ด้านมืดควบคุมผมอีกและพอผมมองดูอีกทีท่าสิ่งที่ผมคิดเป็นจริงเมื่อกี้ผมกำลังจะฆ่าเพื่อนที่รักมากที่สุดพอผมลุกขึ้นยืนทั้งที่ขายังเจ็บร่างกายของเพื่อนผมเต็มไปด้วยบาดแผลและสิ่งของที่ตกอยู่บนพื้นนั้ทำให้น้ำตาของผมไหลออกมาโดยไม่รู้ตัวผมรีบวิ่งออกห่างจากตัวไอ้โหน่งทันทีและไม่คิดที่จะหันกลับไปถึงแม้ว่าจะมีเสียงเรียกตามหลังก็ตาม
“ไอ้เจ! ไอ้เจ! ไอ้เจจจจจจจจจจจจจจ!”
นั้นเป็นเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินและไม่คิดที่จะได้ยินเป็นครั้งที่สองเพราะผมได้ทำสิ่งที่เลวร้ายไว้กับเพื่อนคนสำคัญในชีวิตที่ไม่อาจแก้ไขได้แล้วผมวิ่งแบบไม่หยุดถึงขาจะเจ็บเลือดจะไหลแต่ตอนนี้ผมไม่มีความรู้สึกอะไรเลยนอกจากน้ำตาที่ไหลรินด้วยความเจ็บปวดที่เกือบจะทำให้คนที่สำคัญจะต้องตายเพราะความอ่อนแอจนทำให้ด้านมืดที่อยู่ภายในใจควบคุมตนเองและผมคงไม่มีหน้าไปมองหน้าไอ้โหน่งอีก ลาก่อน.....
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ