love hormone สัมผัส(รัก)หน่อยนะMy Darling
2) ท่านเฟลอร์
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ~~ 3 ปี ต่อมา ~~
“ แกมันหมดประโยชน์ !!!”
“ ไม่มีที่ๆจะให้คุณยืนอยู่ในบ้านหลังนี้อีกต่อไปแล้วนะคะ ”
“ นี่ !!! ได้ยินแล้วก็รีบๆจัดของเร็วเข้าสิฉันยืนด่าเธออยู่นี่มา 2 ชั่วโมงกว่าจนเมื่อยปากหมดแล้วนะยัยดอกไม้เน่า !!!”
ณ เที่ยงเศษๆของวันเสาร์อันแสนน่ารื่นรมวันหนึ่งได้มีนกกระจอกเทศอยู่ 3 ตัวกำลังเกาะติดหนึบอยู่ ณประตูห้องของฉันซึ่งกำลังบรรเลงเพลงร้องประสานเสียงที่ไม่สามารถจะฟังได้อยู่มาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้วคงไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกเขาเป็นใครนอกจากลูกๆของคุณพ่อและคุณแม่บุญธรรมของฉันเองและเรื่องที่พวกคุณๆเขากำลังแว้ดกันอยู่ก็เช่นเดียวกันที่ไม่ต้องตั้งข้อสงสัยนั่นก็คือกำลังจะเฉดหัวฉันออกจากบ้านหลังนี้น่ะเองซึ่งจริงๆแล้วเรื่องจัดกระเป๋าเสื้อผ้าสัมภาระต่างๆนั้นฉันเองทำเสร็จมาตั้งแต่เมื่อคืนแล้วล่ะแต่ใครเขาใช้ให้พวกหล่อนมายืนด่าฉันถึงหน้าห้องแล้วไม่ยอมหยุดกันเองล่ะนั่น --? แต่ก็เอาเถอะคงได้เวลาที่ต้องไปจริงๆแล้วล่ะนะ
“ ฉันชื่อ ‘ เฟลอร์ ’ แปลว่าดอกไม้ในภาษาฝรั่งเศสอายุ 17” และแล้วเมื่อฉันเปิดประตูออกมาพร้อมลากกระเป๋ามาด้วยเสร็จสรรพสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าฉัน มันมีอยู่ 3 ตัวด้วยกันทั้งหมดแต่ถ้ามองดูดีๆแล้ว...ส่วนประกอบก็มีเช่นฉันหมดเหมือนกันแต่อาจเป็นเพราะความสูงเพียง 165 เซนติเมตรทำให้ฉันไม่สามารถพูดกับพวกเขาได้ถ้าไม่ก้มเป็นมุม 45 องศาจากระดับสายตาการมองตรง 6..6 ...
“ ออกมาแล้วเหรอนังตัวดี เฮอะ ! สมน้ำหน้าแม่ฉันอุตส่าห์ยื่นข้อเสนอดีๆให้แล้ว แต่กลับไม่ยอมรับมันเอาไว้ก็ต้องเป็นอย่างนี้แหล่ะ ” อ้อ ! ลืมแนะนำ คนคางยาวหัวแหลมหน้าตัวตุ่นที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันนี่ก็เป็นพี่คนโตของเจ้าของที่นี่และมักจะเป็นหัวโจกในทุกๆเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องยกพวกกันแกล้งฉันทั้งๆที่อายุเกือบจะ 30 แต่กลับอยู่อย่างกับผู้สูงอายุราว 60 กว่าๆแต่ว่ายังโสดนะประมาณว่า ‘ ไม่มีใครเอา ’ อะไรอย่างนี้แหล่ะชื่อของหล่อนคือ ‘ เซอเดน ’ ซึ่งคงจะมาจากคำภาษาไทยที่ว่า ‘ คนเซอเดนนรก ’ ...ล่ะมั้ง
“ ช...ใช่ค่ะทั้งๆที่เป็นข้อเสนอดีๆอย่างนั้นแท้ๆ ” ส่วนคนที่มีนอเหมือนแรดอยู่กลางหน้าคนนี้ก็เป็นลูกคนรองน่ะนะอายุเท่าฉันนี่แหล่ะแต่ถือเป็นโชคดีที่ไม่ได้อยู่โรงเรียนเดียวกับยัยนี่...เจ้าหล่อนคนนี้ดูภายนอกคงจะจัดว่าน่ารักเป็นที่หมายปองของผู้ชายทั่วไปแต่ถ้าลองรู้นิสัยจริงๆของเธอเข้าสิ่งแรกที่อยู่ในสมองของคนที่พบเจอคงจะคิดเช่นเดียวกันว่าขนาดสุนัขเพศผู้ซักตัวก็คงจะไม่อยากเอาเธอไปทำพันธุ์หรอก... หล่อนชื่อว่า ‘ ซินเดอเรลล่า ’ ชื่ออย่างกับเจ้าหญิงใช่มั้ยล่ะแต่ไม่รู้ทำไมเวลาฉันเผลอมักเรียกชื่อเธอเป็น ‘ ดาวน์ซินโดม ’ ทุกที
“ จะยืนทึ่มอยู่ทำไมล่ะนั่นน่ะออกไปได้แล้ว ! ยัยเน่า !!!” อ้อ 0o0! คนนี้ลืมไม่ได้เด็กที่ดูเหมือนไส้เดือนตากแห้งคนนี้ล่ะตัวดีที่สุด เป็นน้องคนสุดท้องแต่นิสัยอย่างกับพี่คนโตเหมือนโคลนนิ่งอายุน้อยกว่าฉัน 3 ปี ชื่อว่า ‘ แซมเบส ’ แต่ฉันมักจะ ‘ แกล้ง ’ เรียกผิดเป็น “ แซมโบ้ ” เสมอเหตุผลน่ะเหรอ...หน้าตาหล่อนให้น่ะ
ว่าแล้วในเมื่อเขาไล่ฉันจึงก้มลงหยิบกระเป๋าก่อนจะมองหน้าพวกเขานิ่งๆอีกครั้งแล้วจึงเดินผ่านไป
“ อ้อ ! ลืมเลย ” แต่แล้วหลังจากเดินไปได้ประมาณสามก้าวฉันจึงนึกเรื่องสำคัญออกเลยต้องหันกลับไปมองหน้าคุณๆทั้งสามที่ยืนเท้าสะเอวเป็นนกกระจอกเทศคิ้วขมวดจ้องหน้าฉันแบบไม่พอใจอย่างมากอีกครั้งประมาณว่า ‘ อะไรอีก ’ ก่อนจะพูดในสิ่งนั้นที่ฉันอยากบอกพวกเขามากๆ
“ ฉันไม่อยู่คงว่างอย่าลืมไปให้หมอเช็คสมองด้วยล่ะ ” ด้วยท่าทางที่นิ่งเป็นกิจคงจะทำให้ใครบางคนรู้สึกอยากกรี๊ดออกมาดังๆก็เป็นได้แต่นั่นล่ะ...จะสนใจทำไม ?
ฉันหันหลังกลับแล้วเดินออกไปจากตรงนั้นและเดินไปเรื่อยๆจนออกมาจากตัวตึกที่มีชื่อว่า ‘ อาบอบ นวด สเปคตรัม ’ ซึ่งครั้งหนึ่งฉันเคยเป็นเจ้าของห้องๆหนึ่งที่อยู่บนสุดของตึกถึงแม้ว่าฉันจะไม่ได้มีส่วนร่วมกับงานภายในที่นี่ซักอย่างและถึงแม้คุณแม่บุญธรรมของฉันจะยื่นข้อเสนอให้ฉันได้ร่วมแจมกับสาวๆที่อยู่ภายในตู้กระจกใสแต่เพราะฉันเกรงใจไม่อยากทำจึงทำให้ต้องออกจากที่นี่ไปแต่ฉันก็ยังรู้สึกมีความสุข ถึงแม้ว่าอีกไม่นานสถานที่แห่งนี้จะกลายเป็นแค่ตำนานก็ตาม
ฉันเดินเข้าไปที่หลังต้นหูกวางต้นยักษ์ข้างตึก(เผอิญตึกตั้งอยู่เกือบๆป่าอยู่แล้วด้วย) ที่ซึ่งมีนายตำรวจในเครื่องแบบคนหนึ่งอายุราวๆ 50 กว่าๆยืนหลบอยู่ฉันเดินเข้าไปทักเขาอย่างเรียบๆด้วยความเคารพ “ ฝากด้วยนะคะ คุณลุงตำรวจ ฉันจะไปรอที่สน. แล้วกัน ” เป็นคำพูดประโยคแรกและประโยคสุดท้ายที่ฉันฝากเอาไว้ก่อนจะยกมือสวัสดีเขาอีกครั้งเป็นการลาและเดินออกไปหลังจากเขาพยักหน้าตอบรับฉันอย่างเคร่งขรึมและจากนั้น...
“ บุก !” ใช่แล้วและหลังจากนั้นตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบหลายรายที่ซุ่มอยู่อย่างกระจัดกระจายในที่ต่างๆก็ออกมากันเกือบหมดก่อนจะจัดการงานที่ได้รับมอบหมายตามแผนการที่ได้ตกลงกันไว้ในข้อหา ‘ เปิดสถานที่ให้บริการทางเพศแบบผิดกฎหมาย ’ อีก1คดี
...ส่วนหน้าที่ของฉันก็เหลือเพียงอย่างเดียวเท่านั้นคือ...นั่งรอสบายๆที่สถานีตำรวจ ~ ...
ณ ช่วงเวลาต่อมา...
~ สถานีตำรวจ ~
“ แก ! ไอ้เด็กสารเลว !!! กล้าทรยศฉันเหรอ ! ฉันเป็นคนเลี้ยงแกมานะ !!!” เสียงของน้าอารีหรือแม่บุญธรรมของฉันอ้อ ! คงเป็นอดีตซะมากกว่าหล่อนตะโกนโหวกเหวกด้วยความหัวเสียและแค้นเคืองอย่างมหาศาลเพราะดันอยู่ในที่ๆเรียกว่า ‘ ตาราง ’ แล้วก็คงอึดอัดล่ะมั้งส่วนตัวฉันก็กำลังยืนมองหล่อนอย่างนิ่งเฉยพร้อมถือซองเช็คเงินสดจำนวนหนึ่งอยู่ไม่ต้องทายหรอกรางวัลของฉันเองที่ยอมเป็นสายให้ มีใบเดียวรวมมูลค่าแล้วก็จำนวน 50,000 บาท
“ ฟ...เฟลอร์ นี่แกเป็นคนทำเหรอ ” ไม่นานนักลูกหมูสามตัวก็เดินทางมาถึงโรงพักและพี่ใหญ่ก็เริ่มบรรเลงเป็นคนแรก
“ คุณ...คุณมันนังงูพิษชัดๆ ” ต่อด้วยคนรองและคนสุดท้ายก็ทำท่าจะกระโจนเข้าทำร้ายฉันพอๆกับพี่ๆของเธอแต่โชคยังเข้าข้างฉันนิดหน่อยตรงที่คุณตำรวจเข้ามารั้งพวกเธอเอาไว้
“ งั้นลาก่อนนะคะ ” ฉันโค้งไหว้คุณๆตำรวจที่เพิ่งช่วยชีวิตฉันไปเมื่อกี้ก่อนจะหมุนตัวไหว้ตำรวจทั้งสน. และ...เดินออกไปอย่างไม่เหลียวมองหลัง + ไม่สะทกสะท้าน... ......แล้วจะให้สะทกสะท้านเรื่องไหนล่ะ ?
แต่ถึงอย่างนั้นพอฉันเดินออกจากสถานีตำรวจเดินห่างไปได้ประมาณครึ่งกิโลเมตรนางสาว คนเซอเดนนรกก็เดินออกมากระชากแขนฉันจากด้านหลังอย่างแรงจนทำให้ข้ากระหม่อมต้องหันไปประสบพบตากันอีกครั้งแต่แปลกแฮะ ! ทำไมคราวนี้คุณเธอยืนอยู่ในระดับสายตาฉันล่ะเนี่ย
0_0 ... ~ ... u_u ... ~ ... 6_6 ... ~ ... 6_6!+ >>>Get! ส้นตึกนี่เอง !!!
“ นี่ ! มองไรของหล่อนน่ะ ”
“ ...ขอโทษค่ะ แค่รู้สึกไม่ชินตา ” บางทีก็อึ้งในความสามารถตัวเองเหมือนกันทำไมเราถึงสามารถอยู่เอื่อยๆแบบนี้ได้เป็นกิจวัตินะ
“ ช่างเถอะ ! แต่...มันจะมากเกินไปแล้วนะยัยดอกไม้เน่า ! ... ”
“ เฟลอร์ค่ะ ”
“ เอ๊ะนี่ ! ฉันพูดอย่าขัดสิ !”
“ ก็คุณ...เอ่อ คุณ... ” ฉันทำท่าคิดอยู่ซักพักว่าชื่อจริงๆของคุณคนนี้ชื่ออะไรแล้วน้า...ก็จำแต่แบบที่ฉันเรียกในใจจนชินไปซะแล้วนี่สิ
“ อ้อ ! คุณเดนนรก !”
“O_O!? ...กรี๊ด !>[]<!!! ฉันชื่อเซอเดนนะยะเรียกให้มันถูกหน่อยสิ เธอนี่มัน !”
“ อ...อ๋อ อ๋อ...ค่ะก็คุณเดน...เอ้ย ! คุณเซอเดนเรียกชื่อฉันผิดเองนี่ ”
“ อีนังบ้า ! อีนังกาฝาก ! ยัยปรสิตส่งมาเกิดไม่สินรก ใช่นรกชัดๆ !” ...จงย้อนกลับไปที่คนพูดทั้งหมด สาธุ...
“ แก...แกทำอย่างนี้กับพวกฉันได้ยังไงแกกล้าทรยศคนที่ฟูมฟักแกมาตลอด 5 ปีที่ผ่านเนี่ยนะแล้วยังเรื่องที่พวกยัยนิดาพากันลาออกไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้วอีก ! ฝีมือแกใช่มั้ยนี่แกเอาพวกใช่มั้ย ! นังงูเห่า ! ... ” งูเห่า ? ...งั้นเธอก็งูจงอางล่ะสินะ...
“ แกมัน...แกมัน... ” คุณคนเซอเดนนรกหยุดค้างกึกอยู่แค่นั้นพร้อมๆกับหมัดที่เริ่มกำแน่นขึ้นเรื่อยๆก่อนที่ฉันที่ยืนฟังอย่างตั้งใจค่อยๆเงยหน้าขึ้นสังเกตแววตานั้นของเธอ
“ คุณครับ ! หยุดนะครับ !” นายตำรวจนายหนึ่งรีบวิ่งตามมาด้วยความเร็วและเมื่อมาถึง ณจุดๆนี้เขาก็ต้องหันมองไปยังใบหน้าที่เปื้อนคราบน้ำตาของคุณคนเซอเดนนรกเฉกเช่นเดียวกับฉัน
“ เอ่อ... ” คนนี้คุณคนตำรวจนะ
“ แกมัน ...แกมันนังสารเลว...แกมันระยำจริงๆทำไมทำกับฉันได้ลงคอ พวกเราต้องพังก็เพราะแก !” เธอเค้นเสียงออกมาอย่างเคียดแค้นและถลึงตาใส่ฉันจนเห็นเส้นเลือดแดงอยู่ในเบ้าตาที่เคล้าด้วยน้ำ...เค็มๆ
“ ทำไม ! ทำไมต้องทำถึงขนาดนี้ ! ฮะ !!!” หล่อนกระโจนเข้ามาเขย่าร่างของฉันอย่างแรงด้วยความแค้นในขณะเดียวกันคุณตำรวจก็พยายามแยกเราสองคนให้ออกจากกันส่วนฉันในตอนนี้...กำลังยืนสงบนิ่งและก้มหน้าลงปล่อยให้เจ้าหล่อนเขย่าไปซักพักก่อนที่หล่อนจะไม่มีโอกาสทำแบบนี้ได้อีกเป็นครั้งที่สอง...
“ ทำไม !”
“ ... ”
“ ตอบฉันมาสิ !!! ไอสารเลว !!!”
หมับ !
“ อ๊ะ 0-0!?” นับจนนาทีที่ฉันโดนรุกเร้าจนทนไม่ไหวฉันค่อยๆเอามือที่จับกระเป๋าลากอยู่ข้างหนึ่งขึ้นมาจับข้อมือของเธอเอาไว้ และค่อยๆบีบ มันทีละเล็ก ทีละน้อย...
“ ทั้งๆที่รู้คำตอบ...จะถามไปเพื่ออะไรล่ะคะ คุณเซอเดน ” เสียงเรียบๆที่แฝงด้วยแรงอาฆาตแค้นเคลือบน้ำแข็ง แผ่ซ่านเข้าทุกอณูคุณคนเซอเดนนรกและคุณตำรวจหยุดนิ่งเหมือนถูกสะกดก่อนที่พวกเขาจะมองมายังใบหน้าฉันที่ผมหยักศกสั้นเทียมบ่าลงมาปรกตอนที่ของฉัน
“ ทั้งๆที่รู้ว่ามันเป็นเกมส์แห่งการแก้แค้น...คุณก็ยังจะถามมันอีกเหรอ... ” ฉันค่อยๆเงยหน้าขึ้นช้าๆในขณะที่พูดและ...สายตาที่น่าขยะแขยงที่เต็มไปด้วยความเย็นชาและจิตสังหารของฉันก็ถูกส่งไปยัง ‘ เซอเดน ’
ท่าทางหวาดผวาของเธอช่างเป็นอาหารอันเลิศรสของฉันในตอนนี้ไม่เว้นแม้แต่คุณตำรวจก็ด้วย ที่กำลังมองฉันในแบบๆเดียวกับหล่อน
“ พ่อ...แม่...และน้องสาวฉัน...พวกคุณเป็นคนเริ่มและฉัน...คือคนสานต่อ ”ท่าทางของเธอเริ่มลุกรี้ลุกรนขึ้นเรื่อยๆและเพราะแรงที่บีบอัดลงที่ข้อมือข้างหนึ่งของเธอเริ่มทำให้เธอเจ็บเซอเดนจึงผละมืออีกข้างของเธอออกจากบ่าของฉันเพื่อเอื้อมไปจับแขนอีกข้างที่กำลังเจ็บสะท้านไปถึงกระดูกส่วนคุณตำรวจนั้นก็ได้แต่ยืนมองพวกเราอยู่ห่างๆอย่างไม่กล้าเข้ามาขัด
“ โอ้ย !”
“ ยังจำแววตาฉันในตอนนี้ได้ใช่มั้ยแววตาตอนที่พวกเธอ...พรากอาโม่ไปจากฉัน”
“ ธ...เธอพูดอะไรน่ะ ! โอ้ย ! ปล่อยฉันนะ โอ้ย !”
“ จำได้ใช่มั้ยล่ะ วันนั้น... ” ฉันหยุดก่อนจะดึงตัวของเซอเดนเข้ามากระซิบข้างหู
“ ...วันที่ฉัน...เกือบจะเป็นฆาตรกร... ” เสียงแผ่วๆที่รอดผ่านไรฟันของฉันแผ่ซ่านเข้าไปยังตัวของเธอก่อนที่ฉันจะค่อยๆปล่อยมือข้างนั้นออกจากแขนเล็กๆ...ของหล่อน
“ ให้มันจบเพียงแค่นี้ก่อนที่ฉันจะทำอะไรมากกว่านี้ลงไปก็แล้วกัน... ” ฉันหยิบกระเป๋าที่ตั้งอยู่บนพื้นขึ้นและลากกระเป๋าเสื้อผ้าเดินหันหลังจากไปทันที
~เฟลอร์จบ 1~
------ พื้นที่ข้างสถานีตำรวจ ------
“ อ...เอ่อ...ค...คุณครับ ” นายตำรวจหนุ่มเพียงคนเดียวที่อยู่ในเหตุการณ์ครั้งนี้เดินเข้าไปหาเซอเดนหญิงสาวร่างเล็กที่กำลังทรุดลงนั่งพร้อมมือข้างหนึ่งที่กำลังจับแขนอีกข้างตรงบริเวณร่องรอยถูกบีบอัดอย่างแรงจนกลายเป็นรอยจ้ำแดงเส้นผมเหยียดตรงโปรยลงปิดใบหน้าซีดๆที่กำลังแสดงความรู้สึก ‘ หวาดผวา ’ ...
กึกๆๆๆ !~ ...
“ เซอเดน !/ พี่ !” เสียงเรียกของสองสาวพี่น้องสลับกับเสียงส้นรองเท้ากระทบพื้นที่เริ่มเพิ่มความถี่มากยิ่งขึ้นเมื่อเห็นสภาพของผู้เป็นพี่ของตน จนเข้าไปกุมร่างของหล่อนเอาไว้
“ โทษนะพี่เซอเดนทางตำรวจเขาไม่ยอมปล่อยตัวมาง่ายๆไม่งั้นฉันคง... พี่... พี่เป็นอะนะ !?” แซมเบสและซินเดอเรลล่าถามพรางเขย่าร่างเซอเดนอย่างเป็นกังวล ‘ทำไมพี่ถึงไม่ตอบพี่เป็นอะไรไป !?’
“ พี่ !”
“ น่ากลัว... ” เสียงสั่นเทาอันแผ่วเบาวลีหนึ่งออกมาจากริมฝีปากหนาๆของเซอเดนทั้งๆที่ยังก้มศีรษะอยู่
“ ฮะ ”
“ น่ากลัว น...น่ากลัวน่าขยะแขยง น่ากลัว... ”
“ พึมพำอะไรน่ะคะ ”
“ พี่ ! เป็นอะไรไปอะ พี่เป็นอะไร ”
“ ....น่ากลัว น่ากลัวที่สุดขยะแขยง... ” ไม่ว่าใครจะพูดอะไร แต่ภาพของเฟลอร์ที่ถือมีดเปื้อนเลือดใช้ด้านคมวางเป็นแนวตั้งฉากบนหนังคอเธอตรงหน้ากระจกบานใหญ่ในวันนั้นและสายตานั่นสายตาของสัตว์กระหายเลือดของเฟลอร์ก็ได้กลับมาหลอกหลอนเธออีกครั้งและเป็นครั้งที่อาจจะทำให้เธอเป็นบ้าไปอีกก็ได้...
“ กลัว... น่ากลัวที่สุด...ยัยยัยนั่นเป็นตัวอะไรกันแน่... ”
~ ผู้พากย์ จบ 1~
------ทางคนเดิน------
และแล้วเมื่อฉันสลัดตัวออกมาจากคุณคนเซอเดนนรกได้ซักระยะและตอนนี้ฉันก็กำลังเดินไปเรื่อยๆเพื่อจุดหมายที่กำลังให้ไปถึงหลังจากลงจากรถมอร์เตอร์ไซด์รับจ้างตรงหน้าปากทางเข้าได้ซักพักหนึ่ง ฉันก็ได้เตรียมออกเดินทางต่อไปคงจะสงสัยล่ะสิท่าว่าฉันมีที่ไปด้วยหรือคงไม่ต้องสาธยายให้มากความอีกแล้วเพราะในเมื่ออีกเมื่อนานก็คงจะรู้กันเอาเองล่ะนะ
ครืด...
เสียงประตูรั้วไม้ทรงญี่ปุ่นเปิดขึ้นโดนฝ่ามือของฉันก่อนที่ตัวของฉันเองจะเดินตามเท้าเข้าไปเหยียบย่ำในขอบเขตของตัวบ้าน และจากนั้น
“ ยินดีต้อนรับครับ ! ท่านเฟลอร์ !!!”
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ