สุดฝั่งฝัน

-

เขียนโดย ปุญณิศา

วันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2555 เวลา 00.20 น.

  3 ตอน
  0 วิจารณ์
  7,072 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทนำ...

 

ห้องทำงานในคฤหาสน์ของตระกูลเคลย์ตันดูเยียบเย็นและเคร่งขรึม ถึงแม้จะเลยเวลาเช้าตรู่มาแล้ว หากทั่วทั้งห้องก็ยังคงดูสลัวรางเมื่อหน้าต่างทุกบานปิดสนิท ความเงียบยังคงปกคลุมไปทั่ว กระทั่งร่างสูงที่ยืนนิ่งอยู่นานเอื้อมมือไปหยิบกรอบรูปที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานขึ้นมาพิจารณา รูปที่เพิ่งจะถูกนำมาวางไว้เมื่อเจ้าของห้องคนเดิมล้มป่วยลง และเขา แอนดรูว์ เคลย์ตันผู้เป็นลูกชายได้เข้ามาครอบครองต่อจากบิดา

 

  ชายหนุ่มร่างสูงในชุดสูทสีดำยืนก้มหน้าเล็กน้อย เส้นผมสีทองที่ปกคลุมศีรษะทุยได้รูปหวีอย่างเรียบร้อยกว่าที่เคย ดวงตาสีเทาจ้องลึกลงไปยังภาพถ่ายในมือ และดูราวกับเด็กชายตัวน้อยเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มที่อยู่ภายในกรอบไม้ราคาแพงจะกำลังจ้องตอบกลับมา ส่งผลให้ริมฝีปากของชายหนุ่มหยักยิ้มขึ้นอย่างอ่อนโยน

     

  “นิคกี้ ”

     

  เสียงทุ้มพึมพำแผ่วเบา รอยยิ้มเมื่อสักครู่จางหายไปอย่างรวดเร็ว ทันทีที่ความคิดคำนึงหวนกลับไปยังเมื่อสิบเก้าปีก่อน วันที่นิโคลัส น้องชายคนเดียวถูกพรากไป โดยที่ผู้เป็นพ่อเพียงยืนมองด้วยแววตาเยือกเย็น และเขาผู้ซึ่งเป็นพี่ชายก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้เลย

 

ในวันนั้นเขาไม่เข้าใจการกระทำของผู้ใหญ่ หากต่อมาความแค้นของตระกูลเคลย์ตันอันเก่าแก่ที่มีต่อตระกูลเกรแฮมซึ่งยิ่งใหญ่ไม่แพ้กันก็ถูกถ่ายทอดให้แก่เขาผู้เป็นทายาท แอนดรูว์คงจะยินดีซึมซับความแค้นของบรรพบุรุษที่มีมายาวนานนั้นไว้ ถ้าหากว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช่...นิโคลัส เกรแฮม และนั่นก็เพียงพอที่จะทำให้ชายหนุ่มตัดสินใจที่จะยุติความแค้นทั้งมวล แม้ว่ามันจะทำให้ใครต่อใครมองว่าเขาอ่อนแอก็ตาม เมื่อเขารู้ตัวดีว่าไม่อาจทำลายล้างน้องชายคนเดียวของตนเองได้

 

ชายหนุ่มละสายตาจากกรอบรูป เขาเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตูเบา ๆ เจนนิ่งส์ผู้รับใช้เก่าแก่ของตระกูลก้าวเข้ามาในห้องด้วยท่าทีนอบน้อม เสมือนทุกครั้งที่เขายืนอยู่ต่อหน้าบิดาของแอนดรูว์

 

“รถพร้อมแล้วครับนายท่าน”

 

“เรียกชื่อฉันเหมือนเดิมเถอะเจนนิ่งส์”

 

“ครับคุณแอนดรูว์” เจนนิงส์ยิ้มรับกับความปรานีของผู้นำตระกูลคนใหม่ เขามองไปยังกรอบรูปในมือของเจ้านายหนุ่ม แววตาของชายที่สังขารเริ่มล่วงเลยเข้าสู่วัยชราฉายประกายแห่งความเข้าใจ แอนดรูว์ลดสายตากลับไปยังรูปของน้องชาย

 

“วันนี้เขาจะมาไหมเจนนิ่งส์”

 

เจนนิ่งส์มองเจ้านายด้วยความรักและเทิดทูน เขารับใช้ตระกูลนี้มาตั้งแต่รุ่นหนุ่ม รับรู้เหตุการณ์ทั้งหมดของตระกูลเคลย์ตันเป็นอย่างดี ตั้งแต่ก่อนแอนดรูว์จะเกิดด้วยซ้ำ

 

“ผมไม่กล้ารับรอง คุณนิคน้อยไปจากพวกเราตั้งแต่ยังเด็กเหลือเกินครับ แล้วก็ไปด้วยความรู้สึกที่ไม่ดีนัก”

 

แอนดรูว์ก้มหน้าลง คนรับใช้ชราพูดถูกทุกอย่าง ใครจะคาดเดาได้ว่านิโคลัสจะเติบโตขึ้นเป็นเช่นไร ชายหนุ่มวางกรอบรูปลงที่เดิมด้วยอาการทะนุถนอม

 

“ฉันรู้ แต่ฉันก็ยังหวังว่าเขาจะมา”

 

ร่างสูงเดินนำคนรับใช้ออกไปจากห้อง ถึงแม้ว่าความหวังที่จะได้เจอกับน้องชายนั้นริบหรี่เต็มที หากในเมื่อวันนี้เป็นวันประกอบพิธีฝังศพของบิดา อย่างน้อยนิโคลัสก็น่าที่จะมาแสดงความอาลัยเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าน้องชายของเขาจะยอม...ให้อภัย

 

 

แอนดรูว์ยืนอยู่หน้าหลุมศพของบิดา พิธีฝังเพิ่งจะเสร็จสิ้นไปได้ไม่นานนัก ผู้คนที่มาร่วมพิธีล้วนทยอยกลับกันไปจนหมด หากชายหนุ่มยังคงรอ เขามองไปทั่วบริเวณก่อนจะทอดถอนลมหายใจออกมาอย่างหมดหวัง ในที่สุดน้องชายของเขาก็ไม่มา นั่นหมายถึงว่านิโคลัสยังไม่ให้อภัยต่อบิดาผู้ล่วงลับ

 

“กลับเถอะครับ” มีเพียงเจนนิ่งส์เท่านั้นที่เข้าใจอาการกวาดสายตาไปทั่วของผู้เป็นนาย

 

แอนดรูว์มองไปรอบ ๆ อีกเป็นครั้งสุดท้าย เขาพยักหน้าอย่างขรึม ๆ ก่อนจะก้าวตรงไปยังรถลิมูซีนที่จอดรออยู่

 

เมื่อรถยนต์สีดำเป็นมันปลาบคันหรูนั้นลับหายไปจากสายตา ชายหนุ่มร่างสูงคนหนึ่งจึงก้าวออกมาจากหลังแนวต้นไม้ใหญ่ เส้นผมสีดำสนิทช่วยเพิ่มความคมเข้มของใบหน้าหล่อเหลานั้นยิ่งขึ้น เขายกมือขึ้นถอดแว่นกันแดดออก ดวงตาสีน้ำเงินเข้มดุจท้องทะเลลึกเพ่งมองไปยังหลุมศพที่เพิ่งเสร็จสิ้นพิธีฝัง เพียงแค่ได้เห็นป้ายกางเขนเหนือหลุมฝังศพ สถานที่พักผ่อนชั่วนิรันดร์ของผู้ที่เขาเคยเรียกว่าพ่อ สีหน้าของชายหนุ่มก็กระด้างขึ้นทันที แนวกรามแข็งแรงขบกันแน่นจนเป็นสันนูน มือข้างที่ถือดอกไม้อยู่กำแน่นเข้าอย่างไม่รู้ตัว ก่อนที่เสียงของผู้ติดตามคนหนึ่งของเขาจะดังขึ้น

 

“จะเข้าไปไหมครับคุณนิค”

 

“ไม่!” เสียงตวาดตอบกลับทันควัน หากดูเหมือนคนตวาดจะรู้ตัวในทันทีเช่นกัน เมื่อนิโคลัสคลายมือที่กำช่อดอกไม้นั้นออก และเบือนหน้าจากสุสานไปยังผู้เป็นลูกน้อง

 

“ขอโทษแบรนด์ นายช่วยเอาดอกไม้ไปวางที่หลุมศพที”

 

นิโคลัสส่งดอกไม้ช่องามที่เกือบจะแหลกเหลวคามือของตนเองให้กับแบรนดอน จากนั้นจึงหมุนตัวเดินจากไปอย่างเร็วจนเสื้อโอเวอร์โค้ทสีดำนั้นสะบัดส่งเสียงดังพรึ่บ หากแบรนดอนเพียงยิ้มเล็กน้อยอย่างไม่ถือโกรธ เขาเป็นผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลและติดตามนิโคลัสมาหลายปี และรู้นิสัยของเจ้านายดี นิโคลัสใจร้อนและค่อนข้างมีปัญหาแต่ชายหนุ่มก็รักลูกน้องทุกคน เจ้านายเป็นคนที่รักใครก็รักจริง แต่ถ้าเกลียดใครแล้วล่ะก็...แค่คิดเขาก็สยองแทน

 

นิโคลัสก้าวขึ้นไปนั่งรอแบรนดอนปฏิบัติภารกิจแทนเขาอยู่ในรถ ความเย็นจากเครื่องปรับอากาศไม่ได้ทำให้จิตใจที่สุมไปด้วยเพลิงแค้นนั้นเย็นลง นิโคลัสหลับตาลงเพื่อให้จิตใจสงบ เขาไม่แน่ใจว่าเขารู้สึกอย่างไรที่ตอนนี้ผู้นำตระกูลเคลย์ตันได้เปลี่ยนจากนายเอ็ดเวิร์ดมาเป็นแอนดรูว์ ดวงตาคมรีบเปิดกว้างขึ้นก่อนที่ภาพในวัยเยาว์จะผุดขึ้นมา ประกายตาสีน้ำเงินเข้มลึกนั้นกร้าวกระด้างชนิดที่แม้แต่แบรนดอนที่เพิ่งเดินมาถึงยังขนลุก

 

“ไปได้” แบรนดอนสั่งคนขับเมื่อเห็นว่าเจ้านายยังคงนิ่งเงียบ

 

และเสียงของลูกน้องคนสนิทนี่เองที่ทำให้นิโคลัสเพิ่งรู้ตัวว่ารถยนต์ของตนกำลังเคลื่อนห่างออกจากสุสานของตระกูลเคลย์ตันอันยิ่งใหญ่  ดวงตาคมของนิโคลัสหรี่แคบลงอย่างหมายมาด

 

ใช่! การแก้แค้นที่รอคอยกำลังจะเริ่มขึ้น ถึงแม้ว่าจะเป็นนาย...แอนดรูว์...มันกำลังจะอุบัติขึ้นในไม่ช้า

......................................................................

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา