Bad Tomboy ร้ายกี่ครั้ง...ก็รักเธอ

-

เขียนโดย ออยล์

วันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2554 เวลา 11.55 น.

  2 chapter
  4 วิจารณ์
  7,060 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) ผู้คุมกฏ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

วันนี้นักเรียนห้องมอ 5/7 ดูคึกคักเป็นพิเศษ หลังได้รับแจ้งว่าจะมีเด็กใหม่เข้ามาเรียนห้องนี้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นหญิงหรือชายกันแน่จึงเกิดเรื่องถกเถียงกันระหว่างนักเรียนชายและหญิง ทั้งห้องถูกแบ่งเป็นสองเขตนั่นคือฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย ฝ่ายหญิงต่างลงความเห็นว่าเด็กใหม่ต้องเป็นผู้ชายแน่นอน ซึ่งตรงข้ามกับฝ่ายชายที่คิดว่าเด็กใหม่ต้องเป็นผู้หญิงสวยๆ เท่านั้น จนกระทั่ง

 

ประตูหน้าชั้นเรียนถูกเปิดออก ครูเจนเดินนำใครบางคนเข้ามาในห้อง พร้อมรอยยิ้มหวานชวนเสียวสันหลังวาบเช่นเคย นักเรียนทุกคนต่างรีบแยกย้ายกันกลับไปนั่งประจำที่อย่างรวดเร็วแทบจะอัตโนมัติทันทีที่สบนัยน์ตาคมดุของอาจารย์สุดสวย ร่างสูงผมสีทองเห็นเช่นนั้นก็หัวเราะขำเล็กน้อยกับสีหน้าหวาดผวาของเหล่านักเรียนห้องนี้ก่อนกลับมาตีหน้าขรึมทันควัน เมื่อนัยน์ตาเรียวคมกริบของครูสาวหันมาจ้องตาขวาง

 

“เอาล่ะ วันนี้เรามีเด็กใหม่จะเข้ามาเรียนที่นี่วันแรก ครูขอแนะนำให้รู้จัก ลียุนอา ย้ายมาจากโรงเรียนนานาชาติ”

 

“หวัดดีครับ”

 

ยุนอาโค้งตัวทักทายเพื่อนในห้องพร้อมรอยยิ้มหวานชวนสาวใจละลายเกือบครึ่งห้อง หนุ่มในห้องเห็นแล้วหมั่นไส้และพร้อมใจกันตั้งตัวเป็นศัตรูกับเด็กใหม่ทันที ผิดกับนักเรียนหญิงที่นึกอยากตั้งชมรมแฟนคลับเด็กใหม่หน้าหล่อคนนี้เสียเหลือเกิน ครูเจนเห็นว่านักเรียนในห้องเริ่มส่งเสียงโห่ร้องทั้งดีใจและไม่พอใจที่เห็นหน้าเด็กใหม่จึงต้องตวาดเสียงเข้มให้ทุกคนเงียบ!

 

“เงียบ!” ได้ผล นักเรียนทุกคนรีบปิดปากตัวเองทันควัน เพราะกลัวครูสุดโหดจะฆ่าพวกเขาให้ตายด้วยสายตาคมดุคู่สวยนั่น

 

หลังเห็นว่านักเรียนนิ่งเงียบเรียบร้อยดีแล้วจึงกล่าวต่อว่า “ยุนอาเป็นเด็กเรียนเก่ง กีฬาเด่น แต่... ระวังอย่าสบตาเขาให้มากนัก ไม่อย่างนั้นอย่าหาครูไม่เตือน”

 

“หึ อากลัวว่ายุนจะจับนักเรียนสาวมากินหรือฮะ” ยุนอาโน้มตัวลงมากระซิบข้างหูผู้เป็นอาด้วยน้ำเสียงขบขัน คนผู้เป็นครูประจำชั้นในเวลานี้หันมาถลึงตาเขียวปัดใส่เจ้าตัวดี ก่อนหันกลับไปกล่าวกับนักเรียนต่อ

 

“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปครูขอฝากหลานสาวคนนี้ให้พวกเธอดูแลด้วยละกัน” รอยยิ้มชวนสยองกับน้ำเสียงนุ่มหวานเชิงขู่บังคับนั่นไม่ได้สร้างความหวาดกลัวให้กับเหล่านักเรียนแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้ทุกคนมุ่งความสนใจไปที่ ‘หลานสาว’ ของอาจารย์มากกว่า  

 

“เออ อาจารย์ค่ะ อาจารย์มีหลานสาวมาเรียนที่นี่วันนี้ด้วยหรือค่ะ” เด็กสาวคนหนึ่งยกมือขึ้นถามอย่างสงสัย

 

“ใช่จ๊ะ” ครูเจนคลี่ยิ้มหวานน่ากลัวแล้วดันตัวยุนอามายืนด้านหน้า “ก็เด็กคนนี้เป็นหลานสาวของครูเองไงจ๊ะ”

 

“หา!!” นักเรียนทั้งห้องถึงกับอ้าปากหวอ ตาค้างต่างหันขวับไปจ้องใบหน้าหล่อเหลาของยุนอาที่ยืนฉีกยิ้มหวานหยดด้วยสีหน้ามึนงง

 

นักเรียนใหม่คนนี้เป็นผู้หญิงอย่างนั้นเหรอ! แต่ไม่ว่าจะดูมุมไหน... ก็ผู้ชายชัดๆ!!

 

“อ๊ะๆ ไม่ต้องแปลกใจ ไม่เคยเห็นสาวหล่อกันบ้างหรือไงจ๊ะ” ครูเจนหัวเราะขำๆ กับท่าทีตกอกตกใจของเหล่านักเรียนสุดที่รัก

 

“ขอฝากตัวด้วยนะครับ” ยุนอาคลี่ยิ้มกว้างรู้สึกถูกใจที่ได้เห็นสีหน้าเหวอๆ ของเหล่านักเรียนห้องนี้ไม่น้อย

 

“ยุนอาไปนั่งตรงนั้นนะ”

 

ครูเจนหรืออาสาวที่รักของยุนอาชี้นิ้วไปที่โต๊ะว่างข้างๆ เด็กสาวสวมแว่นตาหนาเตอะคนหนึ่งซึ่งนั่งติดริมหน้าต่างหลังห้อง ร่างสูงก้าวยาวๆ ตรงไปทิ้งตัวนั่งที่โต๊ะตัวนั้นทันที โดยมีสายตาอึ้งๆ ของเพื่อนร่วมห้องมองตามร่างสูงนั้นไปตลอดทางอย่างมึนๆ ครูเจนเห็นเช่นนั้นจึงตบมือเรียกความสนใจให้นักเรียนหันกลับมาหน้าชั้นแล้วเริ่มสอนตามปกติ

 

“นาย เอ้ย! เธอเป็นผู้หญิงจริงๆ เหรอ” นักเรียนสาวด้านหน้าหันมากระซิบถามด้วยสีหน้าอึ้งไม่หาย

 

“ครับ ยุนเป็นผู้หญิง” ยุนอาตอบยิ้มๆ ทำให้อีกฝ่ายถึงกับหน้าแดงก่ำก่อนหันกลับไปฟังครูเจนสอนต่อ

 

ร่างสูงเอนกายพิงพนักเก้าอี้อย่างผ่อนคลาย นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเหลือบมองสาวแว่นที่นั่งข้างๆ ด้วยความสนอกสนใจ โดยไม่คิดจะหันไปฟังครูเจนสอนสักนิด เรือนผมสีดำยาวประบ่าปรกหน้าเนียนใสที่มีแว่นตาหนาเตอะปิดบังดวงตาของเด็กสาว ยุนอานึกเสียดายที่ไม่ได้เห็นดวงหน้าภายใต้แว่นเฉิ่มนั่น และดูเหมือนสาวแว่นจะรู้ตัวว่าถูกจ้องมองอยู่จึงละสายตาจากกระดานดำหันขวับมามองยุนอาด้วยสีหน้าแดงก่ำ ยุนอาหัวเราะขำก่อนฉีกยิ้มทักทายเสียงใส

 

“หวัดดีเราชื่อยุนอา เธอล่ะ”

 

“รินค่ะ”

 

“ยินดีที่ได้รู้จัก” ยุนอายื่นมือมาจับมือกับเธอพร้อมรอยยิ้มหวานเชื่อมแล้วยักคิ้วหลิ่วตาให้ ก่อนเอ่ยถามเสียงใส (ซื่อ)

 

“แล้วไม่ทราบว่าสนใจมาเป็นกิ๊กกับฉันสักเดือนนึงมั้ย”

 

“....!!”

 

คำพูดของสาวหล่อผมทองเรียกสายตาจากนักเรียนใกล้เคียงรวมทั้งอาจารย์สาวที่กำลังเดินอธิบายเรื่องอะไรสักอย่าง (ซึ่งยุนอาไม่ได้สนใจฟัง) มาหยุดตรงหน้าของเด็กสองคนนี้พอดีถึงกับนิ่งอึ้งตาค้างไปหลายวิ รินพยายามก้มหน้าก้มตาหลบสายตาหวานเชื่อมของคนตรงหน้าด้วยใบหน้าที่แดงก่ำกว่าเดิม ยุนอากลั้นเสียงหัวเราะจนแก้มแทบปริที่ได้เห็นสีหน้าตื่นตะลึงของทุกคนในห้องที่อยู่ๆ เธอก็ขอยัยเฉิ่มเป็นกิ๊กหน้าตาเฉย

 

“ยุนอา!”

 

ครูเจนกัดฟันกรอด พยายามระงับอารมณ์คุกรุ่นที่กำลังจะระเบิดใส่หลานสาวตัวดีเสียเดี๋ยวนั้น แค่เข้ามาเรียนวันแรกและผ่านไปไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงดี หลานสาวเจ้าเล่ห์ก็เริ่มสวมวิญญาณเสือจีบนักเรียนสาวของเธอเสียแล้ว ให้ตายสิ แม้เด็กคนนี้ยังเป็นนักเรียนดีเด่นที่ไม่เคยมีผู้ชายหน้าไหนตาถั่วมาจีบสักคน จะมีก็สาวหล่อตัวป่วนของเธอคนนี้คนแรกนี่แหละ!

 

“ฮ่ะๆ ล้อเล่นน่า อย่าทำหน้าซีเรียสอย่างนั้นสิครับ คุณครูสุดสวย” ยุนอาคลี่ยิ้มแหยๆ รีบปล่อยมือสาวแว่นทันควัน เมื่อสบนัยน์ตาคมดุยิ่งกว่ามีดของแม่มดหลงยุคที่ทำท่าจะเข้ามาบีบคอเธอให้ตายคาที่ยังไงยังงั้น

 

ทั้งครูทั้งนักเรียน (โดยเฉพาะผู้หญิง) ต่างถอนใจยาว โล่งอกที่ยุนอาไม่คิดที่จะจีบยัยแว่นจอมเฉิ่มคนนี้จริงๆ ก่อนหันกลับไปเรียนต่อด้วยสีหน้าสบายอกสบายใจเช่นเดิม รินเองก็แอบโล่งใจที่ยุนอาไม่ได้คิดจะเอาเธอไปเป็นกิ๊กจริงๆ แต่ต้องสะดุ้งโหยง ก้มมองมือตัวเองที่ถูกยุนอาคว้าไปจับตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ด้วยสีหน้าแดงก่ำอีกครั้ง แถมสายตาเจ้าเล่ห์น่าหมั่นไส้นั่นทำให้หัวใจเธอเต้นไม่เป็นส่ำอีกด้วย!

 

“หึ ไม่เป็นกิ๊กแต่เราก็เป็นเพื่อนกันได้นะ”

 

“........”

 

เด็กสาวชักไม่ไว้ใจที่จะนั่งใกล้เพื่อนใหม่คนนี้แล้วสิ รินคิดในใจอย่างหวาดหวั่นก่อนแกล้งเสมองไปทางอื่น เมื่อนัยน์ตาสีน้ำตาลคมสวยของคนข้างๆ ส่องประกายแวววาวแปลกๆ จนเธอไม่อยากคิดว่าตั้งแต่วันนี้ไปจะมีเรื่องวุ่นวายเกิดอะไรขึ้นกับเธออีก

 

...เพราะแค่นี้สาวหล่อจอมเจ้าเล่ห์ก็เล่นทำเธอเขินอายต่อหน้าเพื่อนทั้งห้องแล้ว!

 

คาบพักเที่ยง มีนักเรียนหญิงกลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาชวนยุนอาไปทานข้าวด้วยกัน สาวหล่อจึงคลี่ยิ้มหวานตอบตกลงแล้วลุกเดินออกจากห้องไปพร้อมกับสาวๆ ที่ทำเนียนมาควงแขนเธอ แต่ยุนอาก็ไม่ได้ว่าอะไร โดยมีสายตาอิจฉาริษยาของเหล่าผู้ชายในห้องมองตามร่างเด็กใหม่หน้าหล่อไปด้วยความหมั่นไส้ ส่วนรินก็หยิบข้าวกล่องใต้โต๊ะขึ้นมานั่งทานคนเดียวในห้องอย่างเช่นทุกวัน

 

ทันทีที่ยุนอาก้าวเข้ามาในโรงอาหาร สายตาของสาวๆ ต่างให้ความสนใจในตัวเธอไม่น้อย ไม่ว่าเธอจะเดินไปตรงไหนก็ดูโดดเด่นกว่าชายคนอื่นเสียอีก นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนคู่สวยส่องประกายความพึงพอใจที่เข้ามาเรียนวันแรกก็มีสาวหลายคนต่างหลงใหลได้ปลื้มกับเสน่ห์เหลือร้ายของเธอได้มากกว่าที่คิด

 

หึๆ เด็กสาวที่นี่หน้าตาน่ารักกันทั้งนั้น แต่ละคนก็รวยๆ เสียด้วย ยุนอาคิดในใจพลางกวาดตามองหากิ๊กรายใหม่ไปทั่วอย่างเพลิดเพลิน

 

เพล้ง!

 

“ว้าย! ขอโทษค่ะ”

 

“เฮ้ย เดินประสาอะไรของเธอน่ะ ยัยบ้า!”

 

เด็กสาวคนหนึ่งเดินถือถาดข้าวไปชนกับกลุ่มนักเลงสามคนจนแก้วน้ำหกรดใส่เสื้อของหนุ่มร่างบึกคนหนึ่งเข้าอย่างจังก่อนจะหล่นลงสู่พื้นเสียงดัง เรียกสายตาผู้คนในโรงอาหารให้หันมามองพวกเธอเป็นตาเดียวด้วยความตกใจ และตอนนี้เด็กสาวก็กำลังจะถูกนักเลงกลุ่มนั้นเอาเรื่องอย่างถึงที่สุด 

 

            “แค่คำขอโทษมันไม่พอหรอกเว้ย เธอต้องเอาเสื้อนอกของฉันไปซักให้แห้งเดี๋ยวนี้!” หนุ่มร่างบึก ผมย้อมสีน้ำเงินถอดเสื้อนอกแล้วปาใส่หน้าเด็กสาวผู้โชคร้ายคนนั้นอย่างฉุนเฉียว

 

“เอาไปซะ พรุ่งนี้เอามาคืนฉันด้วยล่ะ ฮ่ะๆ”

 

หนุ่มผมน้ำเงินหัวเราะสะใจ ก่อนเดินผ่านหน้าเด็กสาวที่ยืนร้องไห้ตัวสั่นไปพร้อมกับเพื่อนสองคน โดยมีสายตาของผู้คนในโรงอาหารที่เห็นเหตุการณ์ต่างมองตามหลังนักเลงกลุ่มนั้นไปด้วยความหวาดกลัว ก่อนจะเบิกตาโพลงตกใจเมื่อเห็นใครบางคนวิ่งตามนักเลงกลุ่มนั้นไปและกระโดดถีบหัวของเจ้าผมสีน้ำเงินเต็มแรงจนมันทรุดหน้าคว่ำไปนอนกับพื้น

 

พลั่ก!!

 

บรรยากาศในโรงอาหารเงียบกริบ ไม่มีใครกล้าส่งเสียงหรือพูดอะไรสักคำนอกจากอ้าปากหวอด้วยความตื่นตะลึง เมื่อเห็นร่างสูงเจ้าของเส้นผมสีทองยืนเด่นสง่าอยู่บนร่างของเจ้าผมสีน้ำเงิน ยุนอาคลี่ยิ้มพึงพอใจกับผลงานของตัวเองเล็กน้อย ก่อนใช้เท้าเหยียบเจ้าหัวน้ำเงินที่พยายามจะโงหัวขึ้นมาดูหน้าเจ้าของรองเท้าคู่งามที่ประดับอยู่บนหัวของเขา

 

“แกเป็นใครวะ” เจ้าหัวสีเงินตะโกนถามเสียงลั่นอย่างโกรธเคือง

 

“คนที่จะฆ่าแกให้ตายวันนี้ไงล่ะ” น้ำเสียงเรียบเย็นของคนที่ยืนเหยียบหลังของเขาเล่นเอาเพื่อนอีกสองคนถึงกับขนลุกซู่ ชะงักถอยห่าง ไม่กล้าเข้ามาช่วยเจ้าผมน้ำเงินเพราะกลัวจะถูกสาวหล่อจอมโหดเหยียบหัวเละเหมือนเขา

 

“ปะ ปล่อยฉันนะโว้ย!” เจ้าผมน้ำเงินพยายามดิ้นหนี แต่ดูเหมือนยิ่งดิ้นเท่าไร แรงเหยียบบนหัวก็ยิ่งเพิ่มขึ้น

 

“ถ้าอยากให้ฉันปล่อยแก แกต้องไปก้มกราบขอโทษผู้หญิงคนนั้นซะ” ยุนอาชี้นิ้วไปที่เด็กสาวผมสีน้ำตาลประกายแดง ซึ่งยืนมองเหตุการณ์ด้วยสีหน้าหวาดผวา “เธอขอโทษนายแล้วยังไม่พอใจอีกหรือไง เจ้ายักษ์ รีบๆ คลานไปขอโทษผู้หญิงคนนั้นซะ โทษฐานที่แกโยนเสื้อเน่าๆ ใส่หน้าเธอไงล่ะ เร็วๆ ...เร็วๆ สิโว้ย!”

 

“ไม่มีทาง... อั๊ก!!”

 

ยุนอาเตะใบหน้าขี้เหล่ของเจ้าผมน้ำเงินเต็มแรง เรียกเลือดสีแดงเข้มไหลออกจากปากที่ดูท่าจะมีฟันหักสักซี่สองซี่เล่นเอาเจ้าตัวถึงกับอึ้ง นัยน์ตาเรียวเล็กเงยหน้าสบดวงตาสีน้ำตาลของสาวหล่อร่างสูงที่ยืนกอดอกคลี่ยิ้มหวานชวนสยองอยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าหวาดหวั่น เจ้าผมน้ำเงินใช้แขนเสื้อเช็ดเลือดออกจากปากลวกๆ ก่อนรีบลุกขึ้นจ้องหน้ายุนอาอย่างเอาเรื่อง

 

“อยากต่อยหน้าฉันหรือไง” ยุนอาถามเสียงกวน

 

“.......”

 

“หึ ถ้าแน่จริงก็เข้ามาเลย!”

 

“ทนไม่ไหวแล้วโว้ย!”

 

ปึก!

 

แต่ก่อนที่หมัดเจ้ายักษ์จะพุ่งตรงใส่ดวงหน้าเนียนใสของยุนอากลับมีมือของใครบางคนมาขวางหมัดของเขาไว้อย่างง่ายดาย ดวงตาสีสนิมคมดุจ้องหน้าเจ้าของหมัดด้วยสีหน้าเรียบเฉย โดมผลักร่างยักษ์กระเด็นไปชนเสาข้างๆ เต็มแรง เพื่อนเจ้ายักษ์ทั้งสองตกใจรีบเข้าไปพยุงเจ้าผมน้ำเงินทันที

 

“เกิดอะไรขึ้นที่นี่” คำถามเรียบง่ายแต่แฝงอารมณ์คุกรุ่นไม่น้อย เล่นเอาผู้คนในโรงอาหารต่างรีบแยกย้ายกันไปทำกิจกรรมของตัวเองต่อ ปล่อยให้เด็กหนุ่มหน้าโหดจัดการสอบสวนตามระเบียบ

 

“ฉันเคยบอกแล้วใช่ไหมว่าอย่ามาหาเรื่องกันในโรงเรียน!” โดมตะโกนลั่นด้วยความโกรธเกรี้ยว เขาไม่ชอบให้ใครมาก่อเรื่องวุ่นวายที่นี่โดยเฉพาะเวลาพักเที่ยงเช่นนี้ และไม่คิดเลยว่าหลานสาวของอาจารย์ฝ่ายปกครองจะเป็นหนึ่งในเหตุการณ์บ้าๆ แบบนี้ด้วย

 

“พวกฉันไม่ผิดนะ เจ้าผมทองนั่นต่างหากที่เข้ามาเตะหัวฉันก่อน” เจ้าผมน้ำเงินว่าพลางชี้นิ้วมาที่ยุนอาอย่างฉุนเฉียว ลูกน้องสองคนพยักหน้าเห็นด้วยแล้วพร้อมใจกันส่งสายตาอาฆาตให้เจ้าผมทอง ถ้าเป็นไปได้พวกเขาอยากกระทืบเจ้านี่ให้ติดดินเสียตรงนี้

 

“จริงหรือ ยุนอา” โดมหันมาถามตาขวาง

 

“เขาไม่ผิดค่ะ” เด็กสาวผมสีน้ำตาลประกายแดงที่ทำน้ำหกใส่เสื้อนักเลงผมน้ำเงินรีบเข้ามาค้านเสียงลั่น “เขาคนนี้พยายามจะช่วยฉันจากนักเลงปากเสียพวกนี้ต่างหาก ...ใช่หรือเปล่าคะ” ประโยคหลัง เธอหันมาถามยุนอาที่ยืนนิ่งไม่ยอมพูดอะไรด้วยความปลาบปลื้ม

 

“ใช่ ผู้หญิงคนนี้เผลอทำน้ำหกใส่เจ้าหัวน้ำเงินนิดเดียว แต่มันกลับส่งเสื้อเน่าเหม็นนี้ให้เธอซัก” ไม่ว่าเปล่า ยุนอายังเอาเสื้อสูทสีดำของเจ้ายักษ์จากเด็กสาวมาทิ้งบนพื้นแล้วเดินเหยียบเสื้อนั้นจนเกิดรอยเท้าเล่นเอาเจ้าของเสื้อถึงกับตัวสั่นด้วยความโกรธา

 

“อ๊ะ ขอโทษ ฉันไม่ได้ตั้งใจ” ยุนอาแกล้งทำสีหน้าตกใจ ก่อนก้มหยิบเสื้อคืนให้เจ้าผมสีน้ำเงินหน้าตาเฉย “หึ เสื้อตัวนี้เหมือนผ้าขี้ริ้วไม่มีผิดเลยนะ” นัยน์ตาสีน้ำตาลส่องประกายเยาะเย้ยจนเจ้าของเสื้อชักควบคุมอารมณ์ไม่อยู่เสียแล้ว

 

“กะ แก!!”

 

“หยุด!” โดมเดินเข้ามาขวางหน้าเจ้ายักษ์ไม่ให้ชกหน้ายุนอาด้วยสีหน้าดุดัน “สรุปเรื่องนี้ผิดกันทั้งสองฝ่ายนั่นแหละ ชอบใช้กำลังไม่รู้จักควบคุมอารมณ์ คราวหลังถ้าพวกนายยังหาเรื่องผู้หญิงอีกล่ะก็ ฉันจะบอกอาจารย์ฝ่ายปกครองให้ไล่พวกนายออกแน่”

 

“โธ๋เว้ย!”

 

เจ้าผมน้ำเงินดูท่าจะหัวเสียไม่น้อยแต่ก็ยอมถอยทัพกลับไปพร้อมกับลูกน้องสองคน ตอนนี้บรรยากาศในโรงอาหารกลับมาคึกคักตามเดิมหลังผ่านเหตุการณ์วุ่นๆ ไป เด็กสาวผมสีน้ำตาลประกายแดงยังก้มหัวขอบคุณยุนอาไม่หยุด โดมเห็นแล้วอดหมั่นไส้ไม่ได้กับรอยยิ้มหวานเชื่อมของเจ้าหล่อนที่ส่งให้สาวหล่อจอมแสบคนนี้

 

“ขอบคุณที่ช่วยฉันนะคะ ถ้าไม่ได้คุณ ป่านนี้ฉันคงต้องเอาเสื้อสูทของหมอนั่นไปซักแห้งตามคำสั่งแน่ๆ”

 

“ทีหลังอย่าซุ่มซ่ามอีกล่ะ คราวหน้าเธออาจไม่มีฉันคอยช่วยอย่างนี้หรอกนะ”

 

หลังจากโบกมือบ๊ายบายเด็กสาวคนนั้นแล้วยุนอาก็เริ่มกวาดสายตามองหาอาหารกินต่อ กระเพาะของเธอส่งสัญญาณมาว่า ‘ไม่ไหวแล้วครับเจ้านาย หิวจะแย่อยู่แล้ว~’ แต่ไม่ทันที่เธอจะก้าวเดินตรงไปซื้ออาหาร มือแข็งแกร่งของใครบางคนก็รั้งเธอไว้เสียก่อน ยุนอาหันขวับไปสบตาสีสนิมคมกริบคู่นั้นแล้วเลิกคิ้วสูงเป็นเชิงถามว่ามีอะไรอีก (วะ)

 

“เรื่องยังไม่จบ” น้ำเสียงเรียบเย็นของเขาเล่นเอายุนอาถึงกับขนลุกซู่ โดมกระตุกยิ้มเยาะมุมปากนิดๆ ก่อนดึงแขนลากยุนอาตรงไปยังตึกฝั่งตรงข้าม โดยไม่สนใจเสียงร้องโวยวายของเธอสักนิด

 

ดวงตาสีน้ำตาลส่องแววหงุดหงิดที่ไม่ว่าจะพยายามสะบัดมือออกจากการจับกุมของเขามากเท่าไร เขาก็เพิ่มแรงจับมากขึ้นเท่านั้น ยุนอาเบ้ปากไม่พอใจก่อนตัดสินใจเลิกดิ้นหนี โดมมองการกระทำนั้นแล้วแอบหัวเราะขำในลำคออย่างขบขันและยอมคลายแรงจับลง

 

ไม่ถึงสิบนาที เด็กหนุ่มก็พาเธอขึ้นมาชั้นสามและพาเดินเข้ามาในห้องกว้างหรูห้องหนึ่ง ร่างสูงก้าวยาวๆ ตรงไปเปิดหน้าต่างบานใหญ่เพื่อรับแสงแดดภายนอก ยุนอากวาดตามองไปทั่วห้องที่มีชั้นวางหนังสือรอบด้านและมีโต๊ะทำงานตัวใหญ่เพียงตัวเดียวตั้งอยู่กลางห้อง

 

หมอนี่พาเธอมาห้องสมุดทำไมกัน ยุนอาคิดคำถามขึ้นในใจด้วยสีหน้าบึ้งตึง เพราะเธอเกลียดการอ่านหนังสือมากที่สุดนั่นเอง แค่เห็นชั้นหนังสืออย่างเดียวก็แทบทำเอาเธออยากจะอ้วกออกมาเป็นตัวอักษรเสียตรงนั้น

 

“ทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ” โดมเอ่ยถาม หลังเดินไปทิ้งตัวนั่งลงที่เก้าอี้หมุนตัวใหญ่สีดำหลังโต๊ะทำงานกลางห้องราวกับตัวเองเป็นเจ้าของห้องยังไงยังงั้น “ฉันอุตส่าห์พาเธอมาถึงห้องประธานนักเรียนเชียวนะ”

 

“ห้องประธานนักเรียน?” ยุนอาขมวดคิ้วมุ่นสงสัยและลองมองไปรอบๆ อีกครั้ง แต่ก็ไม่เจอใครนอกจากเธอกับเขาสองคนเท่านั้น แล้วเจ้าของห้องไปไหนเสียล่ะ ปล่อยให้หมอนี่พาเธอเข้ามาได้อย่างไร หึ สงสัยจะเป็นเพื่อนกันกระมัง

 

“ใช่ ปกติห้องนี้ไม่ค่อยเปิดต้อนรับใครหรอกนะ โดยเฉพาะ... เด็กมีปัญหา” ประโยคหลัง โดมจงใจเน้นเสียจนคนฟังต้องกัดฟันกรอดพยายามสะกดกลั้นอารมณ์คุกรุ่นไว้ด้วยการผ่อนลมหายใจเข้าออกช้าๆ

 

หมอนี่หาว่าเธอเป็นเด็กมีปัญหาอย่างนั้นเหรอ!

 

“ฉันไม่ใช่เด็กมีปัญหานะ” ยุนอาแก้ตัวเสียงลั่น

 

“อะไร? ฉันไม่ได้หมายถึงเธอสักหน่อย ถ้าไม่ใช่ก็อย่าร้อนตัวสิ” โดมยักคิ้วล้อเลียนก่อนจะผายมือไปที่เก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

 

“เชิญนั่งสงบสติอารมณ์ก่อนดีกว่ามั้ย”

 

ยุนอากระแทกตัวนั่งที่เก้าอี้หมุนหน้าโต๊ะทำงานฝั่งตรงข้ามกับเขาอย่างหงุดหงิด นัยน์ตาสีสนิมส่องแววพอใจที่ได้เห็นสีหน้าหงุดหงิดของอีกฝ่าย เด็กหนุ่มก้มลงไปค้นหาอะไรบางอย่างในลิ้นชักแล้วหยิบแฟ้มหนาบึกเล่มหนึ่งขึ้นมาวางตรงหน้าเด็กสาว ยุนอาขมวดคิ้วมุ่นไม่เข้าใจว่าเขาจะให้เธออ่านแฟ้มเล่มยักษ์นี้หรืออย่างไร

 

“นี่คือกฎของโรงเรียนเซนจูเนียร์ที่เธอต้องรับรู้ไว้ตลอดเวลาที่เรียนที่นี่”

 

“กฎ?” ยุนอาเลิกคิ้วสูงไม่เข้าใจ ก่อนหยิบแฟ้มยักษ์สีดำขึ้นมาเปิดอ่านแล้วต้องเบิกตากว้างตกใจกับกฎระเบียบมากมายนับร้อยข้อนั่น ความหงุดหงิดยิ่งทวีคูณจนเจ้าตัวถึงกับปาแฟ้มใส่โต๊ะอย่างเดือดดาล

 

“ถามจริงเหอะ ใครเป็นคนตั้งกฎระเบียบโรงเรียนงี่เง่านับร้อยข้อหา!”

 

“ฉันเอง” โดมตอบหน้านิ่ง

 

“....!!” ยุนอาเบิกตากว้างตกใจปนมึนงง

 

“ฉันคือประธานนักเรียนเป็นผู้คุมกฎของโรงเรียนนี้ที่เธอต้องเชื่อฟังและทำตามกฎของฉันอย่างไม่มีข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น” โดมอธิบายคร่าวๆ และนั่นทำให้เด็กสาวชักสีหน้าไม่พอใจขึ้นเรื่อยๆ “ถ้าเข้าใจแล้วก็เชิญเอากฎทั้งหมดนี้ไปอ่านให้เข้าใจด้วยนะครับ นักเรียนใหม่”

 

“ฉัน – ไม่ – อ่าน” ยุนอาเน้นทีละคำเสียงเข้ม

 

“แต่ – เธอ – ต้อง – อ่าน” โดมเลียนแบบเสียงเข้มปนขู่เช่นกัน

 

“ฉันไม่มีทางจำกฎงี่เง่าพวกนี้หมดร้อยข้อหรอกนะ (โว้ย!)”

 

“แต่เธอเป็นนักเรียนของโรงเรียนนี้แล้วนะ ครูเจนฝากให้ฉันดูแลควบคุมความประพฤติของเธอตลอดสองปีนี้และอยากให้เธอรู้จักกับกฎระเบียบของโรงเรียนนี้ทั้งหมด ถ้าเกิดเธอไม่รู้กฎของที่นี่แล้วเผลอไปทำผิดอะไรเข้าก็อาจจะถูกหักคะแนนความประพฤติหรืออาจถูกไล่ออกก็ได้!”

 

“ไม่ว่านายจะพูดยังไง ฉันก็ไม่มีทางอ่านกฎบ้าๆ พวกนี้หรอก (โว้ย!)”

 

สิ้นคำ ยุนอาก็ปาแฟ้มใส่หน้าเขาอย่างหงุดหงิดแล้วลุกพรวดออกจากห้องไปแล้วปิดประตูเสียงดังปัง ปล่อยให้โดมนั่งกุมจมูกที่ขึ้นสีแดงเรื่อด้วยความเจ็บแสบในห้องคนเดียว เขาจ้องประตูที่เพิ่งปิดลงด้วยสายตาอาฆาต ก่อนก้มลงเก็บแฟ้มที่ตกบนพื้นขึ้นมาปาใส่โต๊ะอย่างหงุดหงิดไม่แพ้กัน

 

“ถ้าเธอทำผิดกฎเมื่อไหร่อย่างหาว่าฉันไม่เตือนก็แล้วกัน!”

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา