นที เมฆา วายุ อัสนี
เขียนโดย ผู้อ่อนหัด
วันที่ 8 กันยายน พ.ศ. 2554 เวลา 07.29 น.
6) บทที่6 หลงทางในความมืด
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความบทที่6 หลงทางในความมืด
เมื่อลุงอินเดินมาถึงทางเข้าของป่าช้าหลังโรงเรียนก็มีความรู้สึกว่าเหมือนมีมนต์ดำป้องกันไว้
อยู่จึงหยิบทลายจากพื้นขึ้นมาพรางร่ายคาถาว่า”นะ มัส พุทธ ธา ยะ มะ อะ อุ สาธุ นัง ตัง มะ รัง”กล่าวจบก็
ปาทรายเสกไปข้างหน้าทันใดนั้นทรายเสกกลายร่างเป็นหอกทรายอีกครา พุ่งชนเข้ากำแพงมนต์ดำทันที เสียง
สนั่นดัง ตึงตัง หอกทรายเสกแตกกระจายไปทั่ว ลุงอินถอยหลังไปสามก้าว พลั้นรู้ลึกเหมือนถูกกำแพงมนต์ดำผลัก
ออกมาดังนั้นจึงเคาะระฆังเตือนภัยของโรงเรียน เหล่าอาจารย์และผอ.ตื่นขึ้นจากนั้นพวกเขาจึงรีบเดินมาที่เกิดเหตุ
ทันที พอมาถึงก็เจอพวกนักเรียนทั้งหมดมายืนบังที่เกิดเหตุแล้ว จากนั้นลุงอินจึงร้องสั่ง”ไอ้พวกเด็กเวรถอยไป
ผอ.เดชามาแล้ว”พูดจบทุกคนก็หลีกทางให้ชายชราอายุราว80เสดผมขาวยาวรากพื้นหนวดเคราก็ยาวจรดเท้าสวม
ชุดคลุมสีเทาถือไม้เท้าเก่าๆบนหัวไม้เท้าเป็นรูปองค์หลวงพ่อโสธร ชายชรานั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากผอ.เดชานั้น
เองท่านค่อยๆเดิมเข้ามาที่เกิดเหตุอย่างใจเย็นพร้อมๆกับมีอาจารย์เยาว์ภาและอาจารย์ยงยุทธเดินตามหลังประกบ
ซ้ายขวา พอมาถึงผอ.ก็เหลือบตามองไปที่ทางเข้าป่าช้าแล้วกล่าวคำ”ทางเข้านี้ถูกผีร้ายร่ายมนต์ดำสะกดไว้”พูด
จบก็เอานิ้วชี้เคาะเบาๆไปที่กำแพงมนต์ ทันใดนั้นกำแพงมนต์แตกกระจายทันที ผอ.กล่าวต่อ”อาจารย์ยงยุทธคุณ
คิดว่ายังไง”อาจารย์ยงยุทธกล่าวตอบ”ผมคิดว่าผีตนนั้นหลุดออกมาครับท่าน”พูดจบ อาจารย์เยาว์ภาออกคำ
สั่ง”มายืนมุงอะไรกันกลับเข้าหอตัวเองได้แล้วเร็วเข้า!!!”พูดจบนักเรียนทั้งหมดก็ค่อยทยอยกลับหอกันหมดจาก
นั้นผอ.กล่าวต่อ”ภารโรงอิน และอาจารย์ยงยุทธผมขอมอบหน้าที่การตามหาเด็กที่หลบอยู่ในป่าทั้ง5คนออกมาให้
ที”พูดจบลุงอินก็ตะลึงร้องถามต่อ”ผอ.ท่านรู้ได้ยังไงว่ามีเด็กหลงอยู่ในป่า5คนแสดงว่าต้องเป็นพวกมันที่ปลด
ปล่อยผีตนนั้นออกมา”พูดจบ ผอ.ก็ตอบ”ใช่แล้วเขาเป็นคนปล่อยผีตนนั้นออกมาเองแหละแต่ว่าเขาไม่ได้ตั้งใจทำ
หรอกนะอย่าได้ช้าอยู่เลยคุณสองคนไปได้แล้วกระมัง”พูดจบ อาจารย์ยงยุทธและลุงอินก็คว้าตะเกียงคนละอันเดิน
เข้าป่าไปจากนั้นผอ.ร้องสั่นให้อาจารย์ธันวาร่ายอาคมสักสิทธิ์ป้องกันโรงเรียนไว้ไม่ให้กลุ่มเงาดำผ่านเข้ามาหลัง
จากนั้นทุกคนก็เข้านอนตามปกติ ทางด้านของเด็กห้าคนที่กำลังเดินเข้าป่าช้ามาจนหลงทางก็รู้สึกว่าหิวโหยเหลือ
เกินจึงนั่งพักกันข้างลำธารพร้อมกับก่อกองไฟเล็กๆขึ้นเพื่อให้ความอบอุ่น อัฉริยากล่าว”แย่จังเลยรู้อย่างงี้น่าจะ
ออกไปให้ลุงอินจับทำโทษเสียให้จบเรื่อง”พูดจบ อัสนีกล่าวตอบ”ช่างเถอะน่าเอาหละเดี๋ยวฉันจะไปตกปลามาย่าง
กิน”พูดจบอัสนีก็รุกขึ้นพร้อมกับหากิ่งไม้แข็งๆมาทำเบ็ตตกปลาจากนั้นก็เดินไปที่ลำธารเอาตะเกียงวางข้างกาย
เพื่อให้ความสว่าง นทีก็มาช่วยหาปลาอีกแรง ส่วนเมฆานั้นทำหน้าที่ปีนเก็บผลไม้ลงมาเป็นเสบียงส่วนหทัยชนกที่
ชำนานเรื่องคาถาก็ร่ายเวทย์มนต์กำบังตาไว้เพื่อสัตว์ป่าและผีร้ายจะมองไม่เห็นส่วนอัฉริยากับวายุก็จัดแจงหาใบไม้มากองทำ
เป็นที่นอนให้เพื่อนๆจากนั้นเมื่อทุกคนทำกิจของตนเสร็จก็มานั่งกินปลากันหทัยชนกกล่าว”ดูจากทิศทางแล้วพวกเรา
หลงมาไกลเลยนะเนี้ยโชคยังดีที่ฉันเอาเข็มทิศมาจะได้ดูทางได้”พูดจบ อัฉริยาก็คิดในใจว่า”แหมพ่อแกรวยหนิ”จาก
นั้นนทีก็พูดต่อ”อืมดีจังแล้วคาถาที่หทัยชนกใช้เนี้ยมันจะไม่ผิดพลาดหรอ”พูดจบ หทัยชนกก็ตอบ”ไม่หรอกคาถาพวกนี้ฉัน
ฝึกมาจนชำนาญแล้วละ”พูดจบ อัสนีก็พูดต่อ”เออนี่อัฉริยา เธอเอาถุงผ้าสีแดงมาทำไมอะของใครหรอ”พูดจบ
หทัยชนกก็มองไปดูที่ถุงผ้ากับอัสนีและวายุสามคน จากนั้นอัฉริยาจึงเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังจากนั้นจึงพูดว่า”เออเกือบลืมไปไหนๆก็ไม่มี
อะไรทำอยู่แล้วงั้นเปิดห่อผ้าเลยละกัน”พูดจบก็ค่อยๆแก้ปมที่ถูกมัดไว้ออกแต่แกะยังไงก็แกะไม่ออกสักทีหทัยชนกจึง
กล่าวขึ้น”นี่ๆหยุดแก้ได้แล้วเดี่ยวขอดูหน่อยสิ”พูดจบอัฉริยาก็ส่งหอผ้าให้ หทัยชนกเอามาพร้อมดูอย่างตั้งใจพราง
กล่าว”ห่อผ้านี้มันถูกลงอาคมไว้เป็นอาคมแกล่กล้าสะด้วยต้องให้ระดับอาจารย์มาค่ายอาคมออก อะสิถึงจะแก้ห่อ
ผ้านั้นได้”กระนั้นหทัยชนกก็ยังอยากจะรองจึงวางหอผ้าลงแล้วใช้นิ้วชี้ไปทางถุงผ้าพรางกล่าว”เตโช กสิณ นัง”ร่าย
อาคมจบ บังเกิดเปลวไฟที่นิ้วของหทัยชนกพุ่งเข้าใส่ห่อผ้าทันที ผลออกมาคือห่อผ้าไม่ได้รับความเสียหายอะไรเลย
แม้งแต่น้อย หทัยชนกจึงกล่าว”อืมนั้นไง เป็นอาคมแกล่กล้าจริงๆระดับพวกเราคายอาคมไม่ได้หรอก”พูดจบทั้งห้าคนก็
ดับไฟแล้วก้มตัวลงนอน ทางด้านลุงอินที่ขณะเดินทางก็พบกลุ่มขอเงาดำหัวโจก จึงเกิดการต่อสู้กัน เงาดำหัว
โจกกล่าว”ไอ้อินมึงทำกูเจ็บนักเอาหอกทรายเสกของมึงออกไปทีเถิดกูขอร้อง”พูดจบ ลุงอินกล่าวตอบ”มิได้มึงทำ
กรรมชั่วมามากมายวันนี้แหละที่กูจะต้องผนึกมึงไว้อีกครา”พูดจบ เงาดำหัวโจกร้องดังกึกก้องเหล่าสาวกมากันมาก
มาย ทันใดนั้นเกิดแสงสีขาวเลืองๆส่องสว่างทั่วผืนป่าผู้ที่ใช้อาคมนี้ไม่ใช่ใครอื่นนั้นก็คืออาจารย์ยงยุทธนั้นเอง
จากนั้นเหล่าผีร้ายก็หนีหายไปในบัดดล.........
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ