Home Sweet Home [yuri] จอมโจร ปล้นรัก

10.0

เขียนโดย ~Napaeae~

วันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 เวลา 20.03 น.

  4 ตอน
  5 วิจารณ์
  18.54K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

2) บทที่ 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บทที่ 1

“สงสัยวันนี้ฝนจะตก” เสียงเด็กสาวขานินทาประจำห้องดังขึ้น

“ทำไมล่ะ”

“อารยามาโรงเรียนพร้อมเขมนิต ประหลาดมั้ยล่ะ”

“เออ...เนอะ”

ร่างหนึ่งสูงจนเหมือนมองข้ามศีรษะคนอื่นตลอด อีกร่างหนึ่งเตี้ยกว่าเพื่อนร่วมห้องอย่างเห็นได้ชัดเดินเข้าห้องมาคู่กัน ออกอาการเหมือนคนไม่รู้จักกันดังเดิม ทั้งสองเดินมานั่งที่โต๊ะเล็กเชอร์ตัวติดกันอันเป็นที่ประจำของตน ชะเอมทักทายเพื่อนแถวนั้น2-3คำ แล้วเอาการบ้านไปส่ง ส่วนลูกนัท ฝากชะเอมส่งโดยไม่พูดกับใครเลย

“นี่ ยัยเอมี่” ชะเอมหันขวับไปมองคนพูด...ยัยแตนนี่เอง...

“เอม...” ชะเอมย้ำชื่อตัวเองเป็นครั้งที่ร้อยในรอบปี

“...วันนี้ทำไมมาโรงเรียนพร้อมกับเขมนิตได้”

เพื่อนเจ้าของบ้านเธอเป็นคนที่เรียนดี กีฬาเก่ง และหน้าตาดีทีเดียว ด้วยคุณสมบัติดังที่กล่าวมา บวกกับความสุภาพเรียบร้อยและอ่อนน้อมถ่อมตนจึงเป็นที่รักใครไว้วางใจของอาจารย์ มีงานให้ทำอยู่บ่อยๆ แหลายงานก็เป็นหน้าเป็นตาของโรงเรียน จึงไม่แปลกที่จะเป็นที่สนใจของบรรดาเพื่อนๆในโรงเรียนสตรีแห่งนี้

“เอ่อ...ก็” ชะเอมอึกอัก เมื่อรู้ว่ามีหลายหูที่รอคำตอบอยู่ แล้วอาจารย์ก็เดินเข้าห้องมาพอดี

“นักเรียนเก็บของ วันนี้ทั้งวันเราต้องลงปฏิบัติงานเกษตร เร็ว” ครูสาวมีอายุออกคำสั่ง พลางไล่นักเรียนราวห้าสิบคนออกจากห้องไป ตอนแรกห้องเรียนมีนักเรียนหกสิบกว่าคน พอเริ่มเรียนจริงก็ทยอยกันย้ายจนเหลืออยู่เท่าที่เห็นนี่แหละ ขนาดเรียนวิทย์-คณิต ก็ยังหนีวิชาพื้นฐานไม่พ้น วิชากพอ.นี่ก็ยังบังคับเรียนไม่เปลี่ยนแปลง ดีอย่างที่หนีพวกวิชาบัญชีที่นักเรียนห้องนี้ขยาดได้ แต่ก็ไม่วายมีเสียงบ่นขรมให้กับวิชาที่มีภาคปฏิบัติแบบโหดเดือนละครั้ง แต่ละครั้งก็หนึ่งวันเต็มโดยไม่บอกล่วงหน้า

แถวเดินเรียงเดี่ยวเคลื่อนมาถึงที่โล่งข้างโรงเรียน ซึ่งดินค่อนข้างแข็ง เนื่องจากไม่ได้ปลูกอะไร แดดแผดเปรี้ยงอยู่เหนือศีรษะ นักเรียนถูกจัดเป็นกลุ่ม กลุ่มละ5คน กลุ่มของเธอประกอบไปด้วย ชะเอม ลูกนัท แตน และขานินทาประจำห้องอีกสองคน

“โอ๊ย...ร้อน” นินจา หรือนิน ขาเม้าท์ประจำห้องโวยเอามือพัดตัวเอง รายนี้เรียกได้ว่าช่างสอดไปเสียทุกเรื่อง

“เออ...ว่ะ ทำไมต้องมาทำบ้าอะไรอย่างนี้วะ ค่าเรียนก็แพง แถมยังต้องมาหลังขดหลังแข็งอย่างนี้ด้วย” แบมเสริม ขณะที่มือจับจอบฟันดิน

“...” ไม่มีเสียงจากอีกสามคนในกลุ่ม นอกจากแตนที่เออออบ้างเป็นระยะ

ร่างสูงถอดเสื้อสูทออก กองรวมไว้ที่โคนต้นไม้ต้นหนึ่งรวมกับคนอื่น ขยับไทให้หลวม ปลดกระดุมปกเสื้อออก พับแขนเสื้อขาวขึ้นจนถึงศอก  เส้นผมจำนวนหนึ่งกระจายลงมาปรกหน้าผาก จับจอบทำงานไม่พูดอะไร แต่หยาดเหงื่อเกาะพราว

ร่างเล็กอีกร่างจับจอบทำงานไม่ค่อยถนัดนัก เนื่องจากมือเล็กเกินกว่าที่จะจับด้ามจอบที่อวบกลมนั้นถนัด แต่ก็ไม่ปริปากบ่นสักคำ บางเวลาก็ขยับมือปาดเหงื่อที่หน้าผาก ใบหน้าแดงก่ำเป็นสีเชอร์รี่ หัวปวดตุบ เพราะแดดร้อนๆและเสียงแหลมของเพื่อนร่วมกลุ่ม

แล้วเสียงแตนก็ดังขึ้น

“ไส้เดือน” เสียงนั้นลิงโลด แล้วทิ้งจอบลงไปนั่งพิจารณา ชะเอมและนัทเดินมานั่งดูอย่างสนใจ(ตามประสาเด็กวิทย์)

“ยี้!!” สองเสียงประสานขึ้นเดินหลบไปที่ร่มไม้ หาเรื่องอู้

“อยากลองผ่าดูจัง” ชะเอมพูดแล้วจับไส้เดือนวางบนฝ่ามือ

“บ้ารึเปล่า / อี๊...” เสียงคนที่นั่งใต้ร่มไม้นินทาลอยตามลมมา

ชะเอมอมยิ้ม แล้วแกล้งพูดเสียงแหลม

“เฮ้ย...มันไม่ยอมหลุดจากมือฉันอ่ะ ว้าย” ว่าแล้วก็แกล้งสะบัดมือแรงๆ แบบขยะแขยง แล้วไส้เดือนตัวน้อยก็ลอยละลิ่ว ไปตกบนน่องขาที่กระโปรงสั้นๆร่นขึ้นไปของแบม รอแปบเดียวก็...

“กรี๊ดดดด...” แบมใช้มือปัดออกอย่างรวดเร็วพาให้เจ้าสัตว์ไม่มีเท้าไปตกบนหัวของนินที่นั่งอยู่ข้างกัน

“กรี๊ดดด...” นินลุกขึ้นเต้นเร่า ก่อนจะวิ่งเตลิดไป แบมจึงต้องวิ่งตามไปติดๆ “นิ๊น...”

“คิก...คิก...แจ๋วเลยเอมี่...” แตนหัวเราะกิ๊กให้กับเจ้าแม่นินทาประจำห้องทั้งสอง ขณะที่ชะเอมยืนอมยิ้ม แม้แต่ลูกนัทก็มีรอยยิ้มบนหน้า

“เล่นบ้างมั้ย” ชะเอมยิ้มแล้วใช้มือซ้ายยื่นไส้เดือนอีกตัวไปใกล้หน้าร่างสูง ปฏิกิริยาตรงข้ามกับสองคนเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิง เมื่อร่างนั้นยิ้มแล้วรับมาวางบนฝ่ามือตัวเอง แล้วเอานิ้วเขี่ยเล่นแบบ รอยยิ้มเหมือนเด็กได้ของเล่นปรากฏบนใบหน้าอย่างไม่ค่อยสมวัย เล่นอยู่ครู่เดียวก็เดินไปหาร่มที่เพื่อนมาแอบนั่งอู้เมื่อครู่ ดินไม่แห้งไปนัก วางไส้เดือนลง

“ลงตรงนี้แหละ อย่าออกไปร้อนๆ เดี๋ยวแห้งตายนะ” ชะเอมอมยิ้มเมื่อได้ยินสิ่งที่ร่างสูงพูดกับไส้เดือน ก่อนหันมาถามกับเธอ

“หน้าเธอแดงจัง เป็นอะไรหรือเปล่า”

“ไม่มีอะไรหรอก เวลาโดนแดด หน้าฉันก็เป็นอย่างนี้แหละ...” ...และ...

ฮัดชิ่ว...อึ๋ย...เลือดสีแดงจำนวนหนึ่งกระเด็นไปเปื้อนเสื้อขาวของคนตรงหน้า เพราะแรงดันจากลมกระทำกับมือที่ปิดไว้ พอเปิดมือที่ปิดจมูกและปากออกก็พบเลือดเต็มฝ่ามือ แล้วหยดแหมะลงบนดิน

“ผ้าเช็ดหน้า...” ชะเอมพึมพำ ขณะที่มืออีกข้างควานหาผ้าผืนเล็กในกระเป๋ากระโปรง “...อยู่ในกระเป๋าสูท” แล้วก็ตั้งท่าจะวิ่งไปเอาผ้าที่อยู่กับเสื้อสูท แต่ผ้าผืนสีน้ำตาลอ่อนผืนหนึ่งก็ลอยมาแปะหน้า ผ้าของนัทที่ตอนนี้มีเลือดสีแดงๆเปื้อนเป็นรอยที่เสื้อ ร่างสูงทำตาดุแล้วคว้าข้อมือชะเอมลากมาที่ร่มไม้ ชะเอมคว้าผ้าเช็ดหน้าไปที่เสื้อของนัท

“ขอโทษนะ เสื้อเธอเลยเปรอะเลย”

“พอเถอะ ไม่เป็นไร เดี๋ยวซักได้ เธอนั่นแหละ...เลือดหยุดยัง” มือเรียวเชยคางมนขึ้นเพื่อดูให้ถนัด

“ยังเลย” ชะเอมตอบพอเอาผ้าเช็ดหน้าออก เลือดก็ไหลลงมาใหม่

“ถ้ามันยังไม่หยุด เธอต้องไปห้องพยาบาล” ลูกนัทพูดหน้าเคร่ง

“ไม่เอา เดี๋ยวมันก็หยุด” ชะเอมส่ายหัวจนผมปลิว ออกอาการแสยงห้องพยาบาลอย่างเห็นได้ชัด ลุกขึ้นยืนอย่างเร็ว

“ไปไหน”

“ห้องน้ำ”

“ไปด้วย” ลูกนัทพูดสั้นๆ แล้วเดินตาม

“เขมนิตเป็นอะไรน่ะ” อาจารย์ประจำวิชาถาม เมื่อเห็นเธอที่เดินมาถึงมีรอยเลือดเป็นวงกว้างบนเสื้อนักเรียน

“เปล่าค่ะ แต่อารยาเป็น” ลูกนัทว่า แล้วชี้ไปทางชะเอมที่เอาผ้าเช็ดหน้าออก ให้เห็นเลือดที่ไหลลงมาใหม่

“ไป...พาเพื่อนไปห้องพยาบาลซะ”

“ค่ะ”

เมื่อเดินไปสักพัก ชะเอมก็ดึงข้อมือให้หยุด

“ทำไม”

“ไม่ไปห้องพยาบาล ล้างหน้าเดี๋ยวมันก็หาย”

“...”

“นะ...นะ” ชะเอมอ้อนตาใส...จนลูกนัทใจอ่อน ช่วยไม่ได้ คนมันเกลียดกลิ่นห้องพยาบาลอย่างแรงนี่นา

“ก็ได้”

ทั้งคู่เปลี่ยนทางเดินไปห้องน้ำแทน เอมเอาผ้าเช็ดหน้าออกดู พอดีกับที่นินและแบมเดินสวนมา

“กรี๊ดดด” แบมร้องแล้วหน้ามืดไป เมื่อเห็นของเหลวสีแดงจำนวนมากบนใบหน้า ผ้าเช็ดหน้ารวมไปถึงบนเสื้อขาวของลูกนัทก็เกิดอาการกลัวเลือดเป็นลมไปเสียเฉยๆ ชะเอมและลูกนัททิ้งนินให้จัดการกับเพื่อนเอง

“ใจเสาะ” ลูกนัทออกปากว่าเป็นครั้งแรก ขณะที่ชะเอมหัวเราะ ก็เลือดของเธอแท้ๆ ยัยแบมยังออกอาการกลัวซะขนาดนั้น

ซ่า...ก๊อกน้ำเปิดให้น้ำเย็นๆไหลลงอ่าง เอมวักน้ำเย็นลูบที่แดงจัดเพราะไอแดด และล้างเลือด อยู่พักใหญ่ จนน้ำที่นองในอ่างแดงเถือก แล้วร่างสูงก็ยื่นผ้าเช็ดหน้าสีเขียวอ่อนอันเป็นของเจ้าตัวเองมาให้ เพราะผ้าเช็ดหน้าของนัทที่เอมถืออยู่เปื้อนเลือดจนชุ่ม นัทก็ล้างเลือดออกจากเสื้อนักเรียนตัวเอง

“เฮ้ย...ทำอะไรน่ะ” ชะเอมร้องเสียงหลง สองมือปิดตา เมื่อร่างสูงถอดเสื้อขาวออกซะงั้น

“เอามือออกเถอะน่า” ลูกนัทว่า เมื่อชะเอมเอามือออกก็พบว่า ภายใต้เสื้อขาวยังมีเสื้อยืดผ้าบางอยู่อีกชั้น ก่อนจะลงมือขยี้ผ้าเอารอยเลือดออก

ว่าแต่ ยัยลูกนัท...ตาสีอ่อนตวัดมอง...ใหญ่แฮะ เฮ้ย...คิด’ไรบ้าๆ ทำตัวเป็นพวกตาแก่โรคจิตไปได้...ด่าตัวเองแล้วก็เอามือกระแทกหัวแรงๆสองสามที หน้าแดงเถือก

“หยุดยัง...ยังไม่หายหน้าแดงเลย”

“อะ...อื้อ หยุดแล้วล่ะ” ชะเอมพยักหน้า “ผ้าเช็ดหน้า เดี๋ยวฉันคืนให้ทีหลังนะ”

ทั้งคู่รีบกลับไปที่แปลงเกษตรที่ทิ้งแตนไว้คนเดียว ตอนแรกลูกนัทไม่ยอมให้ชะเอมทำต่อ พยายามไล่อีกฝ่ายให้ไปนั่งรวมกับแบมที่ได้ทีถือโอกาสพักยาว แต่คนตัวเล็กไม่ยอม

“ไปนั่งเถอะน่า” ลูกนัทว่าอย่างหงุดหงิด เพราะร่างเล็กดื้อเหลือประมาณ

“บ้าน่า... ให้ไปนั่งร่วมกับยัยนั่นเหรอ ทำงานสามวันฉันก็ยอม” ชะเอมลดเสียงเถียงเป็นกระซิบ “ไม่งั้นฉันได้ปวดหูตายแน่นอน” ขนาดอยู่ตรงนี้ เสียงสั่งงานของคนไม่ทำงานยังดังแปร๋แปร๋นให้ได้ยินอยู่เลย

“ไป”

“ไม่ล่ะ ฉันไม่อยากเอาเปรียบใคร” ชะเอมยืนยันหนักแน่น ลูกนัทไม่เถียงต่อ แต่บ่นอุบ “ไปโรยปุ๋ยแล้วกัน...”

ดินที่ต้องพรวนแข็งพอสมควร เนื้อที่ก็ขนาดกว้าง4เมตร ยาว6เมตร แปลงนี้พรวนไปได้เกือบจะเสร็จแล้ว ดินยังเป็นก้อนเหนียวเกาะแน่นจึงต้องคอยสับให้แตก พวกเธอเลือกใช้หลักสูตรระยะสั้น คือใส่ปุ๋ยผสมไปเลย ดีกว่าพรวนเสร็จแล้วมาใส่ ชะเอมจึงต้องไปโรยปุ๋ยระหว่างที่เพื่อนยืนฟันดินอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก แล้วเดินไปรองน้ำมารดเป็นระยะ

 พักเที่ยง...วันนี้ห้องอาหารดูมีสีสันเป็นพิเศษ เมื่อนักเรียนจากห้องหนึ่งแต่ละคนถลาเข้าห้องอาหารมาด้วยอาการหิวโซ แล้วแยกย้ายไปสั่งอาหารอย่างเร่งด่วน แล้วมานั่งรวมอยู่โซนเดียวกันอันเป็นที่ประจำ เนื่องจากนักเรียนสายอื่นไม่ยอมให้นั่งร่วมด้วย เพราะคุยกันไม่รู้เรื่อง

“ป้าขาข้าวผัดหนึ่ง ราดหน้าหนึ่งค่ะ” ลูกนัทรับออเดอร์ก่อนเดินไปสั่งอาหารให้กับเพื่อนสาวที่หลับได้ทุกที่ฟุบหลับไปกับโต๊ะแล้ว

“ได้แล้ว” ร่างสูงวางอาหาร ร่างเล็กผงกหัวขึ้นมองก่อนจะค่อยๆยันตัวขึ้นนั่งตรง

“นี่...” ชะเอมเอ่ยขึ้น

“หือ...”

“ยื่นมือมาซิ”

ลูกนัทก้มหน้ากิน ส่งมือซ้ายมาให้ ชะเอมทำอะไรกับมือของเธอไม่ทราบ แต่สักพัก เธอก็ต้องร้องออกมาเมื่อแสบมือขึ้นมา

“อุ้ย...” มือนั้นชักกลับ ถลึงตามอง แต่มือเล็กกว่ายึดไว้ ตาโตตวัดฉับ มองแล้วเสียวต้นคอพิกล

“ดูสิว่ามือตัวเองเป็นอะไร” ชะเอมดุขึ้นมาบ้าง แล้วยกมือไปติดหน้าลูกนัท ให้เห็นรอยถลอกแดงจากการเสียดสีกับด้ามไม้ของจอบ ร่างเล็กกำลังทายาสีใสเย็นลงไปบนมือ แล้วเอาพลาสเตอร์ยาปิด “อีกมือ...” ชะเอมสั่งเสียงเคร่ง

เมื่อเสร็จสองข้าง ร่างเล็กก็เริ่มจัดการกับมือตัวเองบ้าง จนมาพบกับปัญหา เมื่อปิดพลาสเตอร์ไม่ถนัด ลูกนัทยิ้มแล้วแย่งไปทำให้ ชะเอมเอียงคอมองแล้วพูดขึ้น

“เวลาเธอยิ้มแล้วดูดีขึ้น”

“ทำไม...เวลาฉันไม่ยิ้มแล้วเป็นไง” ลูกนัทหุบยิ้มฉับแล้วถามขึ้น

“เหมือน...” ชะเอมแกล้งเอียงคอเหมือนคิดหนัก “ยายเพิ้งบ้าเรียน...โอ้ย” แล้วก็ต้องจ๊ากร้องลูบมือป้อยๆ เมื่อนัทแกล้งกดรอยถลอก เสียงพึมพำจากผู้เห็นเหตุการณ์ดังเบาๆอยู่รอบห้องอาหาร เพราะทั้งสองคนเป็นสาวหน้าตาดีของชั้น ระดับโรงเรียนก็ว่าได้ แต่ไม่เคยทำตัวเด่นอย่างจงใจ(เพราะทั้งหมดเป็นผลมาจากงานที่ได้รับมอบหมายและถูกยัดเยียด)หรือมีข่าวว่าสุงสิงกับใครสักที...ครั้งแรก เป็นครั้งแรกที่เรียกเสียงฮือฮาจากกลุ่มแฟนคลับเงาได้อย่างดี...

เสียงสนทนาของทั้งคู่เริ่มเงียบลง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเงียบสนิท เมื่อรับรู้ได้ถึงสายตาจำนวนไม่น้อยที่จ้องมองมา นานๆทีจึงพูดกันซะที พลางเร่งสปีดการกิน

“จะปลูกอะไรกันดี”ชะเอมกระซิบถามราวกับกำลังว่าราชการลับ เพราะดูเหมือนกำลังมีเครื่องดักฟังนับสิบที่มาพร้อมกับสายตาประหลาด

“ทานตะวันมั้ย”

“จะรอดมั้ย...”

“...”

“กล้วยไม้มั้ย” ลูกนัทตอบด้วยเสียงระดับเดียวกัน

“กล้วยไม้เธอสิ ปลูกบนดินแบบนั้น” ชะเอมสวนขวับ

“ฉันหมายถึงกล้วยไม้ดิน กล้วยไม้ก็มีบางตระกูลที่ปลูกบนดินได้”

อ้าว...เพล้ง...

“อ้าว เหรอ...เอ่อก็น่าสนดีนะ”

“ฉันเห็นเรือนเพาะมีอยู่3-4กระถางใหญ่ๆ น่าจะเอามาแยกได้”

“ก็ดี” พอกินหมดชามเธอก็ฟุบโต๊ะหลับรอ งึมงำตอบ

ลูกนัทได้แต่ส่ายหน้า อมยิ้มขำๆ

กรี๊ดดดด พี่ลูกนัทยิ้ม...เสียงระงมแซ่ พยายามไม่ให้เป้าหมายจับเสียงได้พร้อมกับ...อุ้ย พี่อารยากำลังหลับแหละ น่าร้ากก...

“เธอไปอดหลับอดนอนมาจากไหน” ร่างสูงโน้มใบหน้าลงมาใกล้ เอานิ้วเขี่ยหน้าผาก

“ยุ่งน่า...” ชะเอมบอกปัดๆ โงหัวขึ้นนิดนึง เหยียดแขนไปคว้าหนังสือพิมพ์ที่อยู่ใกล้มา

อืม.. เอ๊ะ...งานประมูลเครื่องเพชรโบราณ...

ดวงตาสีน้ำตาลอ่อนเบื้องหลังกรอบแว่นเบิกกว้างขึ้นนิดนึง ไล่มองรายชื่อของประมูลอย่างรวดเร็ว

แม้กระทั่งของบูชาในเทวสถานยังมีเลยแฮะ...อืม...ใช่ๆ เครื่องทรงกษัตริย์ประเทศเพื่อนบ้านนี่ก็มี...อ๊ะ อันนั้น ดวงตาเบิกโตเมื่อเห็นรูปประกอบ อันบ่งชี้ว่าของชิ้นนั้นเป็นไฮไลท์ของงาน

“ไปทำงานต่อได้แล้ว”

พริบตานั้นหนังสือพิมพ์ก็หลุดออกจากมือไปอย่างน่าเสียดาย ข้อมือเล็กก็ถูกคว้าหมับลากไป...

ฮ้าว...

ลูกนัทอมยิ้มขำๆ เมื่อเห็นดวงตาของร่างเล็กหรี่ปรือ ในขณะที่มือก็ยังจับมีดแยกและแต่งรากต้นไม้อยู่กับแตน ท่าทางคุณเธอเหมือนเข้าฌานทำงานไม่มีผิด ห่างไปไม่ไกลนัก สองสาวถือต้นไม้ค้างสุมหัวกระซิบกระซาบกันอยู่สองคน พลางมองมาทางเขมนิตเป็นระยะ

...สายตาแบบนั้น...คิ้วเข้มกระตุกยิกๆ เขมนิตก้มหน้าก้มตาง่วนกับงานทันทีที่สบตาสองสาว...น่ากลัวสิ้นดี...

งานอันต้องอาศัยความระมัดระวังเต็มที่ผ่านไปด้วยดี เกินกว่าครึ่งเป็นฝีมือของเขมนิตเอง ก่อนจะนำต้นไม้เล็กๆนั้นปลูกลงบนดิน

“อ๊า...เสร็จซะที” แตนว่าพลางยืดแข้งยืดขา

“เฮ้อ ชั้นก็เนื๊อย...เหนื่อย” นินจาถอนหายใจพลางว่า

ลูกนัทแอบหงุดหงิดอยู่ไม่น้อย แล้วเหลือบเห็นขมับของสมาชิกอีกคนขึ้นเส้นเลือด ฉีกยิ้ม

“ถ้าเหนื่อยเธอก็กลับไปก่อนละกัน”ชะเอมส่งยิ้มใจดี ขณะที่แตนดีดตัวออกห่างเล็กน้อย เมื่อรู้สึกได้ถึงไอทะมึน

“งั้นไปนะ” แบมว่า แล้วพากันชิ่งทันที

“หนอยยัยพวกนั้น เธอปล่อยมันไปทำไมน่ะ” แตนที่เงียบที่สุดยังโมโห มีอย่างเหรองานก็ไม่ทำ ยังมีหน้ามาบ่นว่าเหนื่อย

“เปล่า ฉันให้ไปก่อนที่จะมีฆาตกรเกิดขึ้นต่างหาก” ชะเอมว่าพลางชี้ให้ดูวัชพืชที่แสนโชคร้าย ถูกทึ้งกระชากขึ้นมาขยี้แหลกคามือ

แตนหัวเราะแหะๆ “งั้นเราก็ขอกลับก่อนละกัน” ว่าแล้วก็ชิ่งไป

“เอ้า พวกนั้นกลับไปหมดแล้ว เราก็กลับบ้างเถอะ” ร่างเล็กไม่สะดุ้งสะเทอนกับรังสีทะมึนนั้นเท่าไหร่ คล้องแขนนัทลากออกเดินไป

 

‚R‚R‚R‚R‚R‚R‚R‚R‚R‚R‚R‚R‚R‚R‚R‚

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา