พี่ชายจำเป็น!

7.7

เขียนโดย nonggifs

วันที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2554 เวลา 23.50 น.

  6 บท
  57 วิจารณ์
  17.15K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

5)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

         หลังจากผ่านค่ำคืนอันโหดร้ายที่ฉันต้องรับมือกับหนุ่มน้อยที่อายุสมองน้อยกว่าตัวฉันก็ต้องตื่นขึ้นอีกครั้งเมื่อเสียงแหกปากของเขาดังอยู่หน้าประตูห้อง ในที่สุดฉันก็โซเซลงจากชั้นบนโดยมีเขาเดินตามอยู่ไม่ห่าง

 

         “อ้าว! ลงมากันแล้ว รีบๆ มากินข้าวเร็วลูก เดี๋ยวก็ไปเรียนไม่ทันกันพอดี” แม่ตะโกนเรียกพวกฉันทันทีที่เท้าบองโทโมะก้าวลงไปบนพื้นที่ทำจากหินอ่อน โทโมะดึงฉันให้วิ่งไปที่โต๊ะอาหารพร้อมๆ กัน กลิ่นข้าวต้มฉุยลอยมาจากหม้อที่พี่ฟ้ายกออกมาจากห้องครัว

 

         “อืม~หอมจัง” คำชมของโทโมะเล่นเอาพี่ฟ้ายิ้มแก้มแทบปริ ถึงแม้จะไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ฉันก็รู้ดีว่าพี่ฟ้าคงจะนึกชอบใจผู้ชายคนนี้อยู่ไม่น้อย ฉันยอมรับว่าโทโมะเป็นคนที่มีเสน่ห์ การกระทำของเขาทำให้คนรู้สึกรักและเอ็นดูได้ไม่ยาก...แต่ฉันไม่ได้หมายถึงตัวเองนะ >_<;;!

 

         หลังจากกินข้างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ฉันก็หยิบกระเป๋าและเดินออกมาใส่รองเท้าที่หน้าประตูบ้าน

 

         “แม่คะ แก้วไปเรียนก่อนนะคะ”

 

         “จ้า! ตั้งใจเรียนนะลูก” เสียงของแม่ตะโกนมาจากด้านในบ้าน ฉันฮัมเพลงเบาๆ และในขณะที่กำลังจะเปิดประตูบ้าน สายตาก็เหลือบไปเห็นโทโมะที่ยืนอยู่ด้านหลัง

 

         “นายจะทำอะไร -_-”

 

         “ฉันก็จะออกไปกับเธอด้วย แม่ฮะ! ผมไปส่งน้องไปโรงเรียนนะฮะ” โทโมะตอบฉันก่อนที่เขาจะหันหลังไปตะโกนบอกแม่เช่นเดียวกับฉัน โทโมะสวมบทบาทพี่กล้าได้เป็นอย่างดี

 

         “เดินไปสิ เดี๋ยวก็ไปโรงเรียนสายหรอก ^__^”

 

         ฉันมองรอยยิ้มของเขาแล้วก็ต้อยถอนหายใจ ก่อนจะยอมเดินออกจากบ้านมาโดยไม่เถียงอะไร เมื่อออกมาข้างนอก โทโมะกลับเดินนำฉันไปอย่างรวดเร็วโดยไม่คิดจะหันมาสนใจฉันเลยสักนิด สองขาเรียวก้าวฉับๆ เข้าไปประชิดตัวเขาจนมือบางคว้าปลายเสื้อของเขาเอาไว้ได้

 

         “เดินรอกันบ้างสิ”

 

         โทโมะชะลอฝีเท้าลงเล็กน้อย เราสองคนเดินเคียงคู่กันไป แล้วอยู่ๆ เขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา กดปุ่มรัวๆ และเอามันขึ้นไปแนบหู

 

         “ฮัลโหล เออ ฉันเอง โทโมะไง!” เมื่อโทโมะเริ่มพูด ฉันก็หันไปให้ความสนใจเขาอีกครั้ง เราสองคนก้าวไปตามทางเดินซีเมนต์อย่างเชื่องช้า โทโมะตะโกนใส่โทรศัพท์เสียงลั่นส่วนฉันก็ตั้งใจแอบฟังเขาอย่างเต็มที่

 

         “เออ แกยังไม่ออกจากบ้านใช่มั้น เอาชุดนักเรียนมาเผื่อฉันด้วย เหอะน่า! อย่าถามมาก แค่นี้นะ ติ๊ด” แล้วโทโมะก็ยัดโทรศัพท์กลับใส่กระเป๋ากางเกงไปอย่างรวดเร็วในขณะที่ฉันยังยืนเอ๋อ

 

         “เดี๋ยว...นายจะไปโรงเรียนเหรอ?”

 

         “อืม” เขาตอบสั้นๆ ก่อนจะก้าวเดินต่อไป ฉันสาวเท้าตามเขาไปไม่ลดละ

 

         “ได้ไง เมื่อกี้นายบอกแม่ฉันว่าจะออกมาส่งฉันเฉยๆ ไม่ใช่เหรอ!”

 

         “เธอมีความสำคัญอะไร ทำไมฉันต้องไปส่งเธอด้วยยัยถั่วแมนจู -_-”

 

         “ง่ะ แต่นายบอกแม่ว่าจะไปส่งฉัน...”

 

         “ฉันก็แค่หาข้ออ้างออกจากบ้านเธอเท่านั้นแหละ ถ้าฉันบอกว่าจะไปโรงเรียนแม่เธอจะให้ฉันออกมาหรือไง ถึงฉันจะยอมทำตัวเป็นพี่กล้าอะไรนั่นให้เธอ แต่ฉันก็มีชีวิตของฉันเองเหมือนกันนะ” โทโมะบ่นอุบ และฉันก็ไม่กล้าเถียงเขา รบกวนเขาแค่นี้มันก็มากเกินพอแล้ว แต่แม่ฉันน่ะสิ ต้องนั่งรเขากลับไปแน่เลย T__T

 

         “ถ้านายจะไม่กลับไปก็ล่วยโทรบอกแม่ฉันสักนิดนึงก็ยังดี” ฉันยื่นข้อเสนอขณะที่ก้าวเท้าตามเขาไปติดๆ โทโมะเอามือซุกกระเป๋ากางเกงและเดินฮัมเพลงต่อไปอย่างสบายอารมณ์

 

         “นี่นาย!”

 

         “ฉันไม่มีเบอร์แม่เธอ -O-”

 

         “เดี๋ยวฉันบอกให้”

 

         “ตังค์โทรศัพท์ฉันหมดไปแล้ว”

 

         “ได้ไง! เมื่อกี้นายยังโทรหาเพื่อนอยู่เลย”

 

         “ก็ไม่รู้ๆๆ” โทโมะสะบัดหน้าพึ่บพั่บพร้อมกับทำทางน่ารัก แต่ฉันไม่ยอมหลงกลเขาอีกหรอก!

 

         “ไม่ได้ ยังไงนายก็ต้องโทรไปบอกแม่ฉัน อ่ะนี่ ฉันกดเบอร์แม่ให้แล้ว แค่นายกดโทรไปก็เท่านั้น” ฉันยัดโทรศัพท์ของตัวเองใส่มือของโทโมะ เขามองมันด้วยตาลุกวาว

 

         “หูย~ นี่มันสุ่นล่าสุดเลยนี่ เธอซื้อมาไหร่อ่ะ OoO!”

 

         “ไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่อง -_-^ กดโทรออกเสียดีๆ”

 

         “ง่า” โทโมะส่งเสียงประหลาด เขาเหลือบมองโทรศัพท์ในมือสลับกับใบหน้าภมึงทึงของฉัน ก่อนที่จะ...

 

         “ยัยถั่วแมนจู โทรศัพท์เธอแบตฯ หมดนี่”

 

         “หา! จริงง่ะ” ฉันคว้าโทรศัพท์คืนมาจากโทโมะอย่างรวดเร็ว เสียงหัวเราะคิกคักจากหนุ่มน้อยทำให้ฉันรู้สึกสงสัยก่อนจะพลิกด้านหลังของโทรศัพท์ดู

 

         “เฮ้ย! นายถอดแบตฯ มือถือฉันทำไม! เอาคืนมาเดี๋ยวนี้นะ!”

 

         “แบร่~ อยากได้คืนก็ตามมาเอาเองสิ ยัยถั่วน้อย~~” เสียงหัวเราะของเขาเริ่มห่างออกไปเรื่อยๆ เพราะโทโมะวิ่งหนีฉันไปตั้งแต่ตอนฉันหันดูแบตฯ โทรศัพท์แล้ว ฉันไม่รอช้า รีบวิ่งกวดเขาไปในทันที

 

         “เอาแบตฯ ฉันคืนมานะไอ้โคโดโมะ!!!”

 

         “ฮ่าฮ่า”

 

         ด้วยระยะห่างของเราสองคนเพิ่มมากขึ้นทำให้ฉันเห็นร่างของโทโมะเป็นเพียงจุดเล็กๆ ฉันว่าฉันพยายามวิ่งตามเขาแล้วนะ แล้วทำไมเขายิ่งดูไกลห่างออกไปอีกล่ะ T_T และด้วยความกลัวว่าเขาจะหายไปโดยไว้ร่องรอย ฉันรีบโกยอ้าวสุดชีวิต สองขาซอยถี่ยิบแบบไม่ลืมหูลืมตา จนกระทั่งชนเข้ากับอะไรบางอย่างจนกระเด็นหงายหลังล้มลง

 

         “โอ๊ย!! ก้นช้านนน TT^TT อะไรกันวะเนี่ย! นาย!! ทำไมหยุดไม่บอกกันก่อนเลยล่ะ!” ฉันตวาดแว้ดเมื่อเห็นสาเหตุที่ทำให้ฉันล้มลงก็คือแผ่นหลังอันกว้างใหญ่ของโทโมะเขายืนนิ่งและไม่รับรู้ถึงเสียงตะโกนของฉัน

 

         “โทโมะ!” ฉันลองตะโกนเรียกอีกครั้ง แต่หนุ่มน้อยก็ยังคงยืนหันหลังให้ฉันในท่าเดิม ดังนั้นฉันจึงคว้าปลายเสื้อของเขาและโหนตัวเองลุกขึ้นยืน

 

         “นี่นายไม่คิดจะช่วยฉันเลยหรือไง!” เมื่อลุกขึ้นมาได้ฉันก็ตรงปรี่เข้าไปหาเรื่องไอ้ตัวต้นเหตุโดยทันที สองขาเดินอ้อมไปยืนจังก้าตรงหน้าเขาพร้อมตะโกนต่อว่า แต่สีหน้าของโทโมะกลับเรียบเฉย สายตาของเขามองตรงไปยังด้านหลังของฉัน ราวกับเขาไม่เห็นฉันอยู่ในสายตา

 

         “โทโมะ...?” ฉันลองโบกไม้โบกมือผ่านหน้าเขา แต่โทโมะก็ยังคงนิ่งจนฉันเริ่มผิดสังเกต ฉันหันหลังกลับและมองตามสายตาของเขาดูก็พบว่า เขากำลังจ้องบ้านหลังหนึ่ง บ้านหลังนั้นมีลักษณะเป็นบ้านพักตากอากาศ ตัวบ้านทำจากไม้ถูกฉาบด้วยสีขาว และมีระเบียงยื่นออกมาข้างนอกเล็กน้อย

 

         “บ้านหลังนั้น...” โทโมะเอ่ยออกมาด้วยเสียงแผ่วเบาราวกับเสียงกระซิบ ฉันหันกลับไปมองเขาด้วยดวงตาที่แสดงความประหลาดใจ

 

         “บ้านหลังนั้นทำไมเหรอ”

 

         โทโมะไม่ตอบ เขาเงียบไปโดยไร้สาเหตุ ดังนั้นฉันจึงเลือกที่จะทำลายความเงียบโดยชวนคุยไปเรื่อยเปื่อย

 

         “แม่ฉันเคยเล่าให้ฟังว่า บ้านหลังนั้นมีมาก่อนที่หมู่บ้านของเราจะถูกสร้างขึ้นเสียอีกที่จริงบ้านหลังนั้นถูดปล่อยให้รกร้าง จนกระทั่งมีครอบครัวหนึ่งมาซื้อมันไป แล้วก็ซ่อมแซมมันใหม่จนเป็นอจ่างที่นายเห็น พวกเขาชอบมาพักที่นี่ตอนช่วงปิดเทอม อยากจะบอกว่าลูกสาวสองคนของบ้านหลังนั้นหน้าตาดีมากๆ เลยแหละ”

 

         “พี่สาว...สวยมาก”

 

         “ใช่ๆ โดยเฉพาะคนโตนะ หน้าคมเว่อร์ๆ ว่าแต่...นายรู้ได้ยังไงอ่ะ O_O!”

 

         “ไม่มีอะไรหรอก ไปโรงเรียนกันเถอะ” ฉันจิ้มที่สีข้างของเขาเบาๆ เพื่อให้เขาหันมาสนใจฉันบ้าง โทโมะเหลือบมองฉันด้วยหางตา ก่อนจะสอดสายตาไปข้างหน้าโดยไร้จุดหมาย อีตาบ้านี่เป็นอะไรไปอีกเนี่ย =_= และก่อนที่ฉันจะได้พูดอะไรกับเขา รถเมล์สายประจำก็มาจอดสนิทอยู่ตรงหน้า

 

         “ขึ้นไปสิ” โทโมะเอ่ยกับฉันด้วยถ้วยคำสั้นๆ ก่อนจะดันให้ฉันปีนขึ้นรถเมล์ไปอย่างรวดเร็ว โดยมีเขาตามขึ้นมาอยู่ไม่ห่าง เมื่อผู้โดยสารขึ้นมาจนครบ รถเมล์ก็แล่นออกจากป้ายรถเมล์อีกครั้ง เมื่ออารมณ์ของหนุ่มน้อยไม่คงที่ ฉันจึงเลือกที่จะไม่รบกวนเขา รถเมล์ยังคงแล่นต่อไปตามทางที่คุ้นเคยด้วยความเร็วสูง จนมาหยุดอยู่ที่ป้ายรถหน้าโรงเรียนของฉัน เมื่อประตูรถเปิดออก ฉันก็เห็นยัยฟางกับยัยเฟย์สองเพื่อนซี้ที่กำลังยืนรออยู่หน้าประตูโรงเรียน และยัยสองคนนี้ก็หันมาเห็นฉันพอดี

 

         “แก้ว!” ฟางโบกไม้โบกมือเรียกฉันพร้อมกับรอยยิ้ม ส่วนยัยเฟย์ก็กวักมือเรียกฉันยิกๆ ฉันส่งยิ้มให้พวกมันและกำลังจะก้าวลงไปจากรถ ถ้าไม่ติดมือหนาของใครบางคนที่คว้าคอเสื้อของฉันไว้

 

         “ไอ้หนูจะลงไม่ลง!” คนขับรถตะโกนถาม ฉันยังไม่ทันจะได้อ้าปากตอบ โทโมะก็ตอบแทนฉันเสียแล้ว

 

         “ไม่ครับ ออกรถได้เลยครับลุง!”

 

         ถึงแม้คำตอบนั้นมันจะตรงข้ามกับความคิดของฉันโดยสิ้นเชิงก็เถอะ T__T

 

         “ปล่อยนะ! นี่นายทำบ้าอะไรเนี่ย คุณลุงช่วยเปิดประตูรถด้วยค่ะ!” ฉันตะโกนบอกลุงคนขับรถ แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ทัน รถเมล์แล่นออกจากหน้าโรงเรียนฉันไปเสียแล้วยัยฟางกับยัยเฟย์เบิกตาถลนก่อนจะตะโกนโหวกเหวกโวยวายอะไรสักอย่างที่ฉันจับความไม่ได้

 

         “เธอคงไม่คิดว่าฉันจะช่วยเธอเฉยๆ หรอกนะ” โทโมะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็น และแน่นอน ฉันคิด Y_Y

 

         “นายต้องการอะไรจากฉันกันแน่!” ฉันตะโกนใส่หน้าเขาด้วยเสียงดังลั่น เป็นนาทีเดียวกับรถเมล์ซิ่งมหาโหดจอดลงอีกครั้ง

 

         “ลงไปสิ -_-” เมื่อประตูเปิดออกโทโมะก็ผลักฉันลงจากรถด้วยแรงอันถึกควายของเขา ส่งผลให้ฉันแทบจะหน้าทิ่มลงพื้น ถ้าไม่คว้าเสาป้ายรถเมล์เอาไว้ได้ทัน

 

         “นายทำบ้าอะไรเนี่ย!” ฉันตวาดแว้ดเป็นรอบที่ล้านของวัน แต่โทโมะกลับทำแค่ยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจและเริ่มออกเดินอีกครั้ง เมื่อเขาหันหลัง ฉันก็เตรียมตัวชิ่งกลับโรงเรียนทันที แต่...หมับ!

 

         “นั่นเธอจะไปไหน -_-^”

 

         ...ฉันกลับหนีเขาไม่พ้นน่ะสิ โฮ TTOTT

 

         “ปล่อยฉันนะ ฉันจะไปโรงเรียน! ไอ้โทโมะ ฉันบอกให้ปล่อยช้านน~” เสียงโหยหวนของฉันยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ ตลอดทางที่โทโมะลากคอฉันไป ผู้คนมากมายในชุดนักเรียนหันมามองเราสองคนด้วยความสนใจจนฉันเริ่มรู้สึกว่าหน้าหดเล็กลงเหลือสองนิ้ว แต่กระนั้นไอ้บ้าโทโมะก็ยังคงหน้าหนาต่อไป เขาลากคอเสื้อฉันต่อไปเรื่อยๆ โดยไม่แคร์สายตาใดๆ ทั้งสิ้น ก่อนที่เขาจะโยนฉันให้ก้นจ้ำเบ้าตรงหน้าป้ายโรงเรียนนานาชาติ โรงเรียนที่อยู่ห่างจากโรงเรียนของฉันไปหนึ่งป้ายรถเมล์ โทโมะควักมือถือออกมาอีกครั้ง

 

         “ฮัลโหล เออ ถึงแล้ว อยู่หน้าโรงเรียน เออ! รีบมาล่ะ แค่นี้นะ ติ๊ด” แล้วโทโมะก็วางสายจากโทรศัพท์คู่กาย ก่อนจะหันมากระชากคอเสื้อฉันที่พยายามจะย่องหนีจากเงื้อมมือปีศาจของเขา

 

         “เธอหนีฉันไม่พ้นหรอกยัยถั่วแมนจู”

 

         “ปล่อยฉันไปเถอะ เดี๋ยวฉันไปโรงเรียนสายนะ T^T”

 

         “ไม่สายหรอก นี่เพิ่งเจ็ดโมงครึ่งเอง โรงเรียนเธอเข้าแปดโมงไม่ใช่เหรอ” โทโมะหันมาถามฉันด้วยสายตาสุดแป๊ว ฉันไม่ปฎิเสธว่าเขาดูน่ารัก แต่ขอเถอะ ช่วยปล่อยฉันไปที~~!

 

         “ไอ้โมะ!!” เสียงตะโกนพร้อมกับร่างสูงที่พุ่งตรงมาที่เราสองคนด้วยความเร็วสูงเล่นเอาฉันผงะไปเล็กน้อย โทโมะยื่นมือออกไปคว้าคอเสื้อของผู้ชายคนนั้นเอาไว้อย่างรวดเร็ว

 

         “แกมาช้านะ” โทโมะพูดกับผู้ชายคนนั้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ริมฝีปากของเขาเบ้ออกไปด้านข้างเล็กน้อย ผู้ชายที่ย้อมผมสีทองโคลงหัวไปมาก่อนจะก้มตัวลงหอบ

 

         “ฉันซ้อมวิ่งอยู่ นี่แอบโดดออกมาเลยนะเนี่ย”

 

         “หนีซ้อมออกมาแบบนี้ พี่โยชิไม่โกรธเอาเหรอ?”

 

         “ก็ถ้าพี่เขาโกรธก็เป็นเพราะแกนั่นแหละ! ทำไมวันนี้มาช้าจังวะ พี่โยชิเขาบ่นจนรูหูฉันจะกระเด็นไปอีกด้านแล้วนะ! แล้วนี่ทำไมแกใส่ชุดนี้มาวะ!?”

 

         “เหอะน่า มันเรื่องของฉัน แล้วชุดที่ฉันโทรไปบอกแกล่ะ”

 

         “อยู่นี่ไง” ผู้ชายหัวทองโยนกระเป๋าสีดำในมือ หนุ่มน้อยรับมันมาก่อนจะเปิดดูข้างใน

 

         “ขอบใจ เข้าไปข้างในกันเถอะ” โทโมะหันมาคว้าข้อมือฉันเอาไว้ไม่ให้หนี ส่วนผู้ชายหัวทองคนนั้นกลับจดๆ จ้องๆ ฉันด้วยสายตาเปิดเผยเต็มที่ว่าสงสัย แต่มองผู้หญิงด้วยสายตาแบบนั้นมันเสียมารยาทนะ -_-^

         “ไอ้เขื่อน แกทำบ้าอะไรของแก” โทโมะตบหัวเพื่อนของเขาเบาๆ เขื่อนงั้นเหรอ O_O!?

 

         “นายคนที่วิ่งผ่านรถเมล์คนเมื่อวานนี่!”

 

         “ขอโทษนะครับ ผมไม่รู้ว่าคุณพูดเรื่องอะไร ^O^ ไอ้โมะ ผู้หญิงคนนี้เป็นใครวะ” เพื่อนของโทโมะทำหน้าเอ๋อ ก่อนที่เขาจะหันไปกระซิบกระซาบกับโทโมะ ส่วนฉันก็ยืนกระดิกขาเพราะไม่รู้จะทำอะไร

 

         “ผู้หญิงคนนี้เป็นผู้จัดการส่วนตัวของฉัน ชื่อถั่วแมนจู”

 

         “ถั่วแมนจู O_O?”

 

         “เฮ้ย! ไม่ใช่ ฉันชื่อแก้วค่ะ นายอย่ามาเปลี่ยนชื่อฉันมั่วๆ เซ่!” ฉันหันไปวีนใส่โทโมะที่ตีหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เพื่อนของโทโมะมองเราสองคนสลับกันไปมา ก่อนที่เขาจะเอ่ยถามพร้อมกับเบิกตาโต

 

         “พวกเธอสองคนเป็นแฟนกันเหรอ"

 

         “ไม่ใช่ค่ะ!” ฉันรีบตอบอย่างรวดเร็ว โทโมะจับหัวของฉันเอาไว้และโยกไปมา

 

         “ยัยนี่เป็นแค่ผู้จัดการส่วนตัวของฉันเท่านั้น”

 

         “ฉันไปเป็นผู้จัดการส่วนตัวของนายตั้งแต่เมื่อไหร่!”

 

         “ก็ตั้งแต่ฉันไปเป็นพี่กล้าของเธอนั่นแหละ มีอะไรจะเถียงอีกมั้ย -_-?”

 

         เมื่อโทโมะยกเรื่องพี่กล้ามาอ้าง ฉันเลยรีบหุบปากเงียบในทันที

 

         “สรุปว่านี่มันเรื่องอะไรกัน” เพื่อนของโทโมะยื่นหน้าเข้ามาตรงกลางระหว่างเราสองคน และโทโมะก็ผลักหัวเขาออกไป พร้อมกับลากฉันเดินเข้าไปในรั้วโรงเรียนของเขาอย่างรวดเร็ว

 

         “นั่นนายจะไปไหนน่ะโมะ!” เขื่อนตะโกนถามพร้อมกับรีบวิ่งตามเราสองคนมาด้วยฝีเท้าระดับพระกาฬ ฉันแอบตกใจเล็กน้อยกับความเร็วของเขา

 

        “ก็จะรีบไปซ้อมนะสิ ฉันยังไม่อยากโดนพี่โยชิทำโทษหรอกนะ!!” โทโมะตะโกนตอบพร้อมกับเร่งฝีเท้าให้มากขึ้นจนฉันต้องกวดเท้าตามเขาไปจนเกือบจะล้ม

 

         “นายเดินช้าๆ หน่อยสิ ฉันตามไม่ทันแล้วนะ!”

 

         “ถ้าฉันโดนพี่โยชิทำโทษเธอจะยอมโดนแทนฉันมั้ยล่ะยัยถั่วแมนจู! เธอรู้มั้ยว่าพี่โยชิน่ะ...บรื๋อ รีบๆ ไปดีกว่า” โทโมะทำท่าขนลุกก่อนจะเร่งฝีเท้าให้มากขึ้นอีก ส่งผลให้ตัวฉันแทบจะลอยขึ้นจากพื้นไปตามแรงฉุดของเขา

 

         แล้ววันนี้ฉันจะได้ไปโรงเรียนมั้ยเนี่ย TT_TT

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา