ไกลปืนเที่ยง

9.0

เขียนโดย เจ้ากลอน

วันที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2554 เวลา 10.46 น.

  13 ตอน
  4 วิจารณ์
  21.54K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

10)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

      รถจี๊ปเปิดประทุนเคลื่อนที่ไปเรื่อยๆตามถนนดินแดง  ลัดเลาะไปตามตรอกซอกซอยที่ถนนนั้นพอจะนำพาไป   บ้างก็หยุดแวะตามบ้านรายทางเพื่อคนในรถจะได้โอกาสแนะนำตัวกับชาวบ้าน  และบุคคลสำคัญๆที่คอยดูแลให้หมู่บ้านโคกอีแร้งสงบเรียบร้อยได้รู้จัก

        "เป็นไงครับผู้กองธนู ...... ชาวบ้านที่นี่" หมู่ศักดิ์ผู้ซึ่งนั่งอยู่ตอนท้ายของรถชะโงกหน้ามาถามเจ้าหน้าที่คนใหม่

        "มีน้ำใจมากเลยครับ ...... ลุงแย้มที่อยู่ท้ายหมู่บ้านฝากกล้วยมาให้ด้วยตั้ง 2 เครือ  ป้าหวีก็เอามะพร้าวน้ำหอมให้มาอีก 6 ลูก ทานด้วยกันครับหมู่" ผู้กองธนูชวนพลางยื่นให้หมู่ศักดิ์   หมู่ศักดิ์รับมะพร้าวมาดื่มน้ำข้างในอย่างชื่นใจ

        "โปรแกรมต่อไปของเราที่ผมกำลังจะพาผู้กองไปชม  ก็คือตลาดในโคกอีแร้งของเราครับ   กลัวผู้กองจะเบื่อกับการนั่งรถจี๊ปลุยสวนไปตามบ้าน   จะขอพาผู้กองเข้าเมืองบ้างถือโอกาสเลี้ยงข้าวเย็นผู้กองเลยก็แล้วกัน" จ่าวุฒิผู้ทำหน้าที่ขับรถหันมาพูดยิ้มๆ

        "ครับผม"  ผู้กองหนุ่มยิ้มตอบ   แล้วจ่าวุฒิก็ขับพาทั้งสองไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวของ"โกตัน"  ซึ่งเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่อร่อยที่สุดในโคกอีแร้ง

        "เส้นเล็กสองใหญ่หนึ่งนะโก"  หมู่ศักดิ์ตะโกนสั่งชายชราหน้าจีนๆ  อายุราวๆ 60 ปี   พลางเดินไปเลือกโต๊ะที่นั่งเมื่อเข้าภายในตัวร้านแล้ว     ภายในร้านก็ดูซอมซ่อๆ  มีโต๊ะเก้าอี้อยู่ประมาณ 6 ชุด   คราบดำของเขม่าควันเต็มร้าน    บรรยากาศไม่ค่อยน่านั่งทานเท่าไหร่   โปสเตอร์ที่ประดับร้านก็เก่าๆขาดๆห้อยร่องแร่งเหมือนไม่ได้รับการดูแล  ภายในร้านก็มีชาวบ้านนั่งทานก๋วยเตี๋ยวอยู่ประมาณ 3 โต๊ะอยู่ก่อนแล้ว  ระหว่างที่ทั้ง 3 กำลังรอก๋วยเตี๋ยวอยู่ก็มีชายกลุ่มหนึ่งมีประมาณ 4 คนเข้ามาในตัวร้านท่าทางนักเลง

        "โก .... บะหมี่แห้ง 2 น้ำ 2 ไม่งอก"  คนสั่งคือไอ้เชิดลูกน้องของเคราดำนั่นเอง   ส่วนเคราดำหันมายิ้มให้จ่าวุฒิและหมู่ศักดิ์อย่างแสยะยิ้มคล้ายๆยียวนกวนโทโส  แล้วก็ย่นคิ้วเล็กน้อยเมื่อหันมาเจอผู้กองธนู

        "จ่าวุฒิ ..... ดีใจที่ได้เจอกันอีกครั้งนะครับ   แล้วคนที่นั่งข้างจ่านี่ใคร  ผมไม่เคยเห็นหน้า" เคราดำเปิดฉากทักทาย

        "อ่อ .... นี่คือเจ้าหน้าที่คนใหม่  ร้อยตำรวจเอกธนู  พิทักษ์ประชา   จะมาเริ่มช่วยราชการที่นี่พรุ่งนี้" จ่าวุฒิแข็งใจแนะนำทั้งๆที่ไม่อยากจะสนทนาพาทีกับพวกนี้สักเท่าไหร่

        "ผมเคราดำ ...... ยินดีที่ได้รู้จักนะผู้กองธนู" เคราดำแนะนำตัวด้วยคำพูดสุภาพแต่น้ำเสียงและท่าทางหยิ่งผยอง   คล้ายคนอยากลองดี

        "ผมก็เช่นกันครับ ..... นายเคราดำ" ผู้กองธนูพยักหน้ารับเป็นเชิงทักทาย  แต่สายตาคมกริบยังจ้องที่เคราดำเหมือนไม่เป็นมิตร  ด้วยสัญชาตญาณตำรวจในกายบ่งบอกออกมาว่าชายที่อยู่ตรงหน้าไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดาแน่นอน   เคราดำพยักหน้ารับพลางยิ้มแสยะแล้วพาพวกกลับไปที่นั่งโต๊ะ

        "ดีใจว่ะพวกเราได้เจ้าหน้าที่คนใหม่มา ..... ชาวประชาบ้านโคกอีแร้งคงอบอุ่นขึ้นเป็นกอง"  เคราดำทำคุยกับลูกน้องเสียงดังหวังให้โต๊ะผู้กองธนูได้ยิน

        "ฉันกลัวว่าจะมาตายเปล่าเหมือนเจ้าหน้าที่คนก่อนน่ะซี่.....พี่เคราดำ"  ไอ้เชิดตะเบ็งเสียงบ้าง

        "เออว่ะไอ้เชิด ..... ถูกยิงซะพรุนเลย   ตายเหมือนอะไรว้านึกไม่ออก"

        "เหมือนหมาข้างถนนไงพี่  ฮ่าๆๆๆๆ"  ไอ้เชิดพร้อมลูกน้องพากันหัวเราะเสียงดัง  คล้ายจะเย้ยและข่มขวัญเจ้าหน้าที่คนใหม่

 หมู่ศักดิ์ทนแทบไม่ได้กำหมัดจะลุกขึ้นยืน  แต่จ่าวุฒิกดหัวไหล่ให้นั่งลงไว้  พลางหันมาดูท่าทีทางผู้กองธนู  กลัวว่าจะทำอะไรรุนแรง  แต่ก็เห็นผู้กองยังคงนั่งนิ่งจิบน้ำชาเย็นที่โกตันเอามาเสริฟอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว   แต่สายตาคมกริบของผู้กองจ้องไปทางที่โต๊ะเคราดำอย่างไม่วางตา  คล้ายกับมันเป็นสายตาของนกเหยี่ยวเวลาที่จะตะปบเหยื่อ    

        "เออพี่ ..... ว่าแต่เรื่องของอีมะปรางล่ะจะเอาไง"  ไอ้เชิดเริ่มหรี่เสียงลงเมื่อคุยถึงเรื่องความลับ   เคราดำนิ่งคิดอยู่อย่างไม่สบายใจจึงหันไปสั่งเบียร์จากโกตันมา 3 ขวด  กินไปพลางคิดไปพลาง

         "ฉันว่าฉุดเลยเหอะ   รอนังนั่นมันมีใจให้ฉันว่าไม่สำเร็จหรอก" ไอ้เชิดออกความเห็นอีกเมื่อเห็นเคราดำนิ่งเฉย

         "กูรักกูชอบมันจริงๆ .... ไม่อยากรุนแรงกับมันเลยบอกตามตรง"  เคราดำจิบเบียร์พลางรินให้ลูกน้องทั้ง 3

          "แหมพี่ .... ผู้หญิงก็แบบนี้แหละแรกๆก็ดื้อด้าน  พอได้แล้วโดนแล้วสิ  ขี้คร้านจะทุ่มให้พี่ทั้งกายและใจ"  ไอ้เชิดพูดพลางกระดกเบียร์เข้าปาก  เคราดำครุ่นคิดพลางเอามือลูบศรีษะที่โดนขวดน้ำเป๊บซี่เมื่อวันก่อน

          "มันจะดีเหรอวะไอ้เชิด    ทำแบบนี้แล้วมะปรางมันจะรักข้าลงเหรอวะ"  เคราดำยังคงย้ำเพื่อความแน่ใจ

           "โห .... ดีสิพี่   พี่คิดดูนะขนาดในหนังทีวีอ่ะ   พระเอกข่มขืนนางเอกทำรุ่มร่ามทำหยาบๆกับนางเอก   นางเอกยังรักลงเลยขอให้พระเอกรวยมีเงินมีอำนาจก็พอ   แม้จะชั่วจะเลวกับนางเอกขนาดไหนก็ต้องลงรักปักใจกับพระเอกอยู่ดีแหละ"

             "อืมมมม .... ละครทีวีเดี๋ยวนี้มันก็มีแต่เรื่องแบบนี้  ตบจูบๆแทบทุกเรื่อง  จริงของเอ็งว่ะไอ้เชิด   คนที่ดีมีมรรยาทเรียบร้อยกลายเป็นพระรองกินน้ำใต้ศอกซะหมด   บ๊ะ .... เข้าท่าโว้ยตกลงตามนี้"

             "เขาว่าละครสะท้อนสังคม   สังคมเรามันอำนาจเงินเป็นใหญ่  ใครมีเงินคนนั้นได้เป็นพระเอกอย่างพี่เนี่ยพระเอกแบบเถื่อนๆไง" 

              "สำบัดสำนวนจริงโว้ยไอ้นี่ ..... ถูกใจกูซะจริง  มา... กูรินให้อีกแก้ว" เคราดำหัวเราะชอบใจรินเบียร์ให้ไอ้เชิดใหญ่

              "พี่อย่าหัวเราะเสียงดังไป"

              "ทำไมวะไอ้เชิด"

               "เกรงใจพระรองสีกากีโต๊ะโน้นบ้าง ..... ดูสิมองมาทางเราตาเขียวปั๊ดเลย"ไอ้เชิดพูดจบก็หัวเราะครืนๆกันทั้งโต๊ะดังสนั่นร้านอย่างไม่เกรงใจใคร   เมื่อเมากันได้ที่ไอ้เชิดก็คิดจะลองดีกับโต๊ะของผู้กองธนู

                "พี่เคราดำ ..... ฉันขออนุญาติพี่เชือดไก่ให้ลิงดูสักหน่อยนะพี่  เป็นการข่มขวัญผู้กองหน้าใหม่ของเรา"

                "เอาสิวะ ... อย่ารุนแรงนักล่ะ"  เคราดำพูดจบไอ้เชิดก็สั่งโอเลี้ยงมาแก้วหนึ่งกำลังร้อนๆเดินถือมาที่โต๊ะของผู้กองธนู

                "ผู้กองครับ ...... พี่เคราดำเลี้ยงโอเลี้ยงผู้กองแก้วนึง"

  ไอ้เชิดพูดพลางส่งแก้วโอเลี้ยงให้แล้วมันทำแกล้งสะดุดขาตัวเองทำโอเลี้ยงหกใส่เสื้อผู้กอง   น้ำโอเลี้ยงร้อนๆราดบนตัวผู้กองธนูทำเอาทั้งโต๊ะแตกตื่น

                 "เฮ้ย .... ทำไรวะ" หมู่ศักดิ์ลุกขึ้นยืนจะเอาเรื่อง  โต๊ะของเคราดำกับลูกน้องก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกันทั้งโต๊ะเหมือนเตรียมจะมีเรื่องกันเต็มที่  ผู้กองธนูยุดไหล่หมู่ศักดิ์เอาไว้ให้ใจเย็นๆ

                 "ใจเย็นน่าหมู่ ..... เขาไม่ได้ตั้งใจ  ก็อย่าไปว่าเขาเลย  อีกอย่างโดนผมไม่ได้โดนหมู่เสียหน่อย   ไม่เป็นไรหรอกครับ"  ผู้กองธนูหันมาพูดยิ้มๆกับหมู่ศักดิ์  แต่ส่งสายตาเชิงปราม   หมู่ศักดิ์จึงนั่งลงแต่โดยดี

                  "ขอโทษนะครับผู้กอง" ไอ้เชิดพูดขอโทษ  แต่แววตาหาได้สำนึกผิดแม้แต่น้อย  แถมยังยิ้มยียวน

                  "นายกลับไปที่โต๊ะเถอะ .... นายไม่ได้เจตนาฉันไม่เอาเรื่องหรอก  คนเราไม่ได้เจตนาก็หมายความว่าไม่มีความตั้งใจที่จะแกล้งกัน" พูดจบผู้กองหนุ่มก็ดึงเก้าอี้นั่งลงอย่างเรียบร้อย  ส่วนไอ้เชิดก็ยิ้มยียวนเหมือนเคยแล้วเดินกลับไปที่โต๊ะ

                    "มึงนี่แน่จริงๆว่ะไอ้เชิด .... ขนาดแกล้งแบบนั้นแล้วไอ้ผู้กองนั่นยังทำเฉยได้อีก"  เคราดำชมสมุนมือขวา

                    "ผมอ่านคนออกพี่ .... ถึงขั้นนั้นยังไม่ตอบโต้แสดงว่าเป็นขนมจีนไม่มีน้ำยาแล้วล่ะ   แค่ทำท่ากร่างๆก๋าๆอวดชาวบ้านไปงั้นเอง"

                    "มึงนี่มันแน่จริงๆ!!! เห็นทีเรื่องนังมะปรางกูต้องเชื่อมึงละ .... มาเว้ยกูขอรินให้ในความใจกล้าของมึงอีกแก้วก่อนกลับ"  เคราดำรินเบียร์ขวดสุดท้ายให้สมุนมือขวา  ก่อนที่จะลุกพากันกลับ  มิวายหยุดแวะทักทายโต๊ะของผู้กองธนูเป็นการสั่งลาแบบเย้ยหยัน

                     "ผมไปล่ะครับจ่า ....หมู่ ..... และผู้กอง" เคราดำพูดจบมันก็เดินนำหน้าลูกน้องไป  โดยมีไอ้เชิดเดินรั้งท้ายสุดแถมยักคิ้วหลิ่วตาให้ผู้กองธนูเป็นการเย้ย   โดยไม่ทันสังเกตช่วงล่างที่ผู้กองธนูให้สามคนแรกผ่านไป  พอถึงตามันจะผ่านผู้กองรูปหล่อก็ยืดขาขัดมันจนล้มหน้าจูบพื้นปูนอย่างแรงจนฟันหน้ามันหักเลือดกลบปาก

                     "ห่าเอ้ย!!!!....."  ไอ้เชิดลุกขึ้นได้ง้างจะสวนหมัด  แต่ผู้กองไวกว่าลุกขึ้นจับข้อมือมันไว้ได้พลางบีบแรงๆพร้อมพูดด้วยแววตาที่แข็งกร้าวแต่เรียบเฉย

                     "หวังว่านายเชิดคงไม่ถือสาผมหรอกนะ ..... เพราะผมไม่ได้เจตนา  เผอิญมันเมื่อยขาเส้นมันยึดเลยยืดออกไป   นึกว่านายเชิดพ้นไปแล้วเสียอีกผมเองก็ต้องขอโทษเช่นกัน"   แรกๆไอ้เชิดคิดจะสวนมืออีกข้างตามไปแต่พอมาสดุดกับสายตาที่กร้าวแกร่งกับแรงบีบข้อมือที่แน่นเหนียวทำให้มันใจฝ่อลงเยอะทีเดียว  จึงได้แต่นิ่งเฉยเอามือลง  เคราดำเห็นท่าไม่ดีและฝ่ายตรงข้ามจะเอาจริงจึงตัดบท

                      "พวกเราไม่ถือสาผู้กองหรอก   ถือซะว่าเป็นการเจ๊ากันกับโอเลี้ยงเมื่อครู่ก็แล้วกันแล้วเด็กผมมันเดินไม่ระวังเองจะโทษใครได้ลาล่ะครับผู้กอง  หวังว่าคราวหน้าคงจะได้เจอกันอีก"  เคราดำพูดพลางจ้องตาผู้กองหนุ่มเขม็งเหมือนฝากแววอาฆาตไว้พลางขับรถจี๊ปพาลูกน้องออกไป   ในใจและสัญชาตญาณในการเป็นนักเลงของมันเตือนให้รู้ว่า  ผู้กองคนนี้คงไม่ธรรมดาอย่างที่มันคิดเสียแล้ว 

                    

                                 

   

                         

       

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา