ขอรับไว้...แค่หัวใจของเธอ

10.0

เขียนโดย sivach_13

วันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 เวลา 01.00 น.

  2 ตอน
  5 วิจารณ์
  6,717 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ศิชล

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ท่ามกลางแดดที่ร้อนแรงของเดือนเมษายน พรายแดดบนผิวถนน

ไหวตัวระริก ถนนเส้นหนึ่งของมหาวิทยาลัยย่านบางมดมีชายร่าง

สูงหนากำลังพยายามสตาร์ทมอเตอร์ไซค์คันเก่าอยู่ใต้ร่มก้ามปู

 

"บรึ้ม บรึ้ม ฟุ่บ"

 

เสียงมอเตอร์ไซค์พาหนะอันเป็นสมบัติล้ำค่าเพียงไม่กี่ชิ้นของ

ชายหนุ่มอาการประท้วงยามเจ้าของถีบคันสตาร์ท

 

"เอาแล้วไงหว่า เกเรซะแล้วไอ้ลูกพ่อ ติดหน่อยน่า"

 

เจ้าของมอเตอร์ไซค์ยังพยายาม ถ้าเจ้าสองล้อพูดได้มันคงบอก

กับชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของไปแล้วว่า

 

"หนูม่ายหวายแล้ว"

 

"ไง..ศิ ไอ้แก่ประท้วงอีกแล้วหรือไง"

 

ชายหนุ่มเจ้าของผิวคล้ำและเรือนร่างบึกบึนแบบนักกีฬาหันไปมอง

ต้นเสียง ก่อนจะร้องด้วยความยินดี

 

"พี่ปัฐ พี่ปัฐจริงๆด้วย ลมอะไรหอบมาครับพี่"

 

ชายหนุ่มเจ้าของชื่อศิชล เอาขาตั้งรถลงจอดแล้วเดินกึ่งวิ่ง มาหา

"พี่ปัฐ"ด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มอย่างยินดี

 

"พี่ปัฐ"ชายหนุ่มรูปหล่อ เรียนดี ลูกชายคนโตของเจ้าของบริษัท

ผลิตอะไหล่ รถยนต์ยี่ห้อดัง ชายหนุ่มอายุมากกว่าศิชล 3 ปี

สนิทและใจดีกับศิชลมาก

 

ชายหนุ่มเป็นเจ้าของดวงตายาวรีสีดำสนิท ลึกล้ำ คิ้วเข้มและ

เรือนผมหยักศก พี่ปัฐมีผิวสองสีแต่ค่อนข้างขาว  ผิดกับศิชล

ที่ค่อนไปทางคล้ำเพราะตากแดดตากลมทั้งจากงานทำงานและ

กีฬาสุดโปรด

 

ทั้งคู่เล่นอเมริกันฟุตบอลในตำแหน่งควอเตอร์แบ็กเหมือนกันเมื่อ

สมัยที่พี่ปัฐยังเรียนอยู่

 

ชายหนุ่มมีทุกอย่างที่ศิชลไม่มีและไม่มีวันจะได้มี

 

ศิชลนั้นเคารพรักปฐพีอย่างมาก  ก็พี่ปัฐไม่ใช่เหรอที่ยกโน้ตบุ๊ค

ให้ เมื่อเห็นรุ่นน้องทำรายงานแล้วไม่มีคอมพิวเตอร์ใช้ต้องวิ่งงกๆ

ไปเสียเงินนั่งร้านอินเตอร์เน็ตรายชั่วโมง

 

ไหนจะมอเตอร์ไซค์คันนี้อีก แล้วก็งานสอนพิเศษรายได้ดีหลาย

อย่างที่ช่วยหาให้รุ่นน้อง บางครั้งที่ค่าเทอมหรือค่าเช่าห้องพัก

ไม่พอจ่ายก็พี่ปัฐอีกนั่นแหละที่คอยยื่นมือเข้ามาช่วย

 

ศิชลเป็นคนที่ค่อนข้างหยิ่งในศักดิ์ศรี การที่ได้รับความช่วยเหลือ

อย่างไม่หวังผลตอบแทนจากปฐพีจึงทำให้ชายหนุ่มทั้งเกรงใจและ

อึดอัดใจกับความเอื้ออารีของรุ่นพี่คนนี้ยิ่งนัก

 

หลายครั้งที่ศิชลมีโอกาสได้รับงานพิเศษที่มีค่าใช้จ่ายก้อนโต

จากอาจารย์ในภาควิชา ครั้นพอเขานำมาคืนให้รุ่นพี่ก็กลับได้รับ

การปฏิเสธ

 

"ศิเอาไว้ใช้ก่อนเถอะ ไว้มีจริงๆค่อยเอามาคืนพี่ ศิลำบากกว่าพี่

เยอะ เรียนโทน่ะมันใช้เงินเยอะกว่าที่คิดนะ ได้ทุนเท่าไรก็ไม่พอ

หรอก"

 

ซึ่งก็จริงดังที่ปฐพีพูด ยิ่งเรียนสูงค่าใช้จ่ายก็ทวีขึ้นเป็นเงาตามตัว

เงินทองที่ดิ้นรนหามาได้หมดไปกับหนังสือค่าใช้จ่ายเพื่อทำเล่ม

วิจัยและอุปกรณ์การเรียนจนแต่ละเดือนเกือบไม่พอใช้ ถึงกระนั้น

ศิชลก็ไม่เคยเอ่ยปากหยิบยืมหรือร้องขอความช่วยเหลือจากใคร


ปฐพีและศิชลนั้นเรียนปริญญาตรีในสาขาเดียวกันคือวิศวกรรม

เครื่องยนต์ ครั้นพอถึงระดับปริญาโทปฐพีก็ยังเลือกเรียนวิศวกรรม

ยานยนต์ ซึ่งเป็นสาขาที่เขาชอบ

 

แต่เมื่อเรียนได้เพียงสองปี ชายหนุ่มก็ต้องเปลี่ยนสาขาไปเรียน

บริหารธุรกิจตามใจบิดาเพื่อจะได้สืบทอดกิจการของครอบครัวต่อไป

 

ขณะที่ศิชลยังคงเรียนวิศวกรรมยานยนต์ต่อ และปีนี้ก็เป็นปีสุดท้าย

ที่แสนทรหดของชายหนุ่ม ศิชลเกือบจะลาออกไปทำงานหลายครั้ง

เพราะความขัดสนที่บีบคั้น

 

"พี่ปัฐหายไปนานเลย เป็นไงมั่งครับ"

 

ศิชลเข้าไปยืนชิดเบนซ์สีดำหรูหราของปฐวี หนุ่มรุ่นพี่เปิดกระจกคุย

กับศิชล ไม่ยอมออกมาข้างนอก ไอเย็นที่ลอยมากระทบทำให้ชาย

หนุ่มรู้สึกสดชื่นขึ้นเล็กน้อย

 

"ขึ้นมาก่อนเลย ไอ้แก่น่ะจอดไว้นี่แหละ เดี๋ยวพี่จัดการให้"

ปฐพีออกคำสั่ง ขณะที่อีกฝ่ายทำท่าลังเล รุ่นพี่สุดหล่อก็สำทับซ้ำ

 

"ให้ไวเลยไอ้ศิ ข้างนอกโครตร้อนเลย พี่เปิดกระจกนานแล้วนะเนี่ย"

นั่นแหละศิชลจึงก้าวขึ้นมานั่งข้างพี่ปัฐ

 

วันนี้พี่ปัฐแต่งตัวสบายๆ ชายหนุ่มใส่เชิ้ตแขนยาวสีอ่อนของอาร์มานี่

พับแขนเสื้อถึงข้อศอกกับกางเกงสแล็คสีดำยี่ห้อเดียวกัน เสื้อผ้ามี

ยี่ห้อหลายตัวของศิชลก็มาจากปฐวีอีกเช่นเคย

 

"เดี๋ยววันนี้ไปกินหมูกระทะกัน พี่นัดพวกเราไว้หลายคน อาจารย์

สิทธิศักดิ์ด้วย แกยังกินหมูกระทะไหวป่ะเนี่ย"

พี่ปัฐเอียงหน้ามาบอกก่อนจะเบนสายตาสู่ถนนเบื้องหน้า

 

ขณะที่ศิชลมีท่าทางลำบากใจ เดือนนี้ค่าใช้จ่ายของเขาค่อนข้าง

สูง นอกจากนี้ศิชลยังไม่ได้จ่ายค่าหอพักมาเกือบสามเดือนแล้วด้วย

 

ปฐพีเป็นคนช่างสังเกต ท่าทางผิดปกติแม้จะเพียงเล็กน้อย แต่เขา

ก็รู้เกือบทันทีว่ารุ่นน้องมีอะไรให้หนักใจอย่างแน่นอน

 

"เดี๋ยวแวะร้านลุงยศแป๊บนะ"

 

ร้านลุงยศเป็นร้านซ่อมจักรยานยนต์เก่าแก่ข้างมหาวิทยาลัย ซึ่งอยู่

มานานแทบจะก่อนมหาวิทยาลัยแห่งนี้ซะด้วยซ้ำ ปฐพีเองก็เคยเป็น

ลูกค้าร้านนี้เมื่อสมัยเรียนอยู่บ่อยๆ เนื่องจากชายหนุ่มมีทั้งรถยนต์

และมอเตอร์ไซค์ พอเรียนจบปริญญาตรีมอเตอร์ไซค์คันนั้นก็กลาย

เป็นมรดกตกทอดให้กับศิชลอีกที

 

"รถจอดอยู่ใต้ต้นก้ามปู ตรงถนนที่จะไปหอพักชายนะครับ ทะเบียน

ก็.... เดี๋ยวซ่อมเสร็จผมจะให้น้องมาเอาที่ร้าน น่าจะไม่เกิน3000

ผมให้เงินไว้ก่อนขาดก็เก็บที่ไอ้ศิเอานะลุง แต่ถ้าเหลือเงินก็ไว้ที่ไอ้ศิ

เหมือนกัน"

 

ปฐพีเรียกกุญแจรถจากศิชลก่อนจะส่งให้ช่างที่สนิทกันดี ก่อนจะ

ร่ำลาแล้วขึ้นมานั่งประจำที่คนขับ

 

"รบกวนพี่ปัฐอีกแล้ว"

ศิชลถอนหายใจพรวด รู้สึกไม่สบายใจรุนแรง เขากำลังจะจบ

ปริญญาโทอยู่แล้ว ยังต้องรบกวนพี่ปัฐเสมอๆ

 

"ไม่เป็นไร คราวนี้มีเรื่องให้ช่วยเหมือนกัน ศิจะไหวรึเปล่าล่ะ"

 

ศิชลหันขวับ นี่เป็นครั้งแรกที่พี่ปัฐเอ่ยปากขอให้ช่วย ชายหนุ่ม

จึงกระตือรือร้นเต็มที่

 

"อะไรครับพี่ ว่ามาได้เลย"

 

ปฐพีจึงโยนเอกสารบางอย่างลงบนตักรุ่นน้อง

 

"เอาให้จบใน1ปี ด้วยคะแนนสูงสุด ข้อมูลทุกเม็ดทำเป็นรายงาน

ให้พี่ ไหวมั้ย ค่าใช้จ่ายเดี๋ยวพี่ออกให้เอง"

 

ศิชลกลืนน้ำลายลงคอก่อนจะอ่านรายละเอียดเอกสารที่รุ่นพี่ส่งให้

มันเป็นคอร์สมินิเอ็มบีเอ บริหารธุรกิจระยะสั้นเพียงสองเทอม แต่

อาจารย์ผู้สอนล้วนเป็นอาจารย์มีชื่อและเหล่าคนดังในแวดวงธุรกิจ

 

"พี่ไม่มีเวลาลง แต่สนใจมาก แล้วก็อยากรู้ว่าศิจะไหวมั้ยด้วย ว่าไง

ถ้าทำได้พี่มีค่าใช้จ่ายให้นิดหน่อยด้วย แต่รายงานต้องเพอร์เฟ็คนะ"

 

ศิชลหรือจะปฏิเสธ แม้คำขอจะแสนท้าทาย

 

"ได้เลย พี่ปัฐ"

 

อีกฝ่ายจึงหัวเราะอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเฉลยให้หนุ่มรุ่นน้องได้รู้ว่า

งานนี้ไม่หมูอย่างที่คิด

 

"คอร์สเปิดสิ้นเดือนนี้นะ แล้วก็ถ้างานไม่เวิร์ค บาทเดียวพี่ก็ไม่ช่วย

ค่าขนมนะเว้ย"

 

เล่นเอาศิชลตีสีหน้าปุเลี่ยนๆ

 

"อ่ะ ทีนี้ดูนี่ นี่เป็นกันชนกับสปอยเลอร์ที่จะใช้กับมาสด้าXXX

ทีมงานพี่เค้าออกแบบมา ในสายตาของคนนอกศิว่าเป็นไง"

 

ปฐพีส่งเอกสารอีกตัวให้รุ่นน้องดูก่อนจะรับฟังคำติชมจากศิชล

พอชายหนุ่มรุ่นน้องพูดจบ ปฐพีจึงยิ้มมุมปากนิดนึง

 

"คิดเหมือนพี่เลย ศิเอาปากกาเขียนๆไอ้ที่พูดเมื่อกี้ไว้บ้างนะ เขียน

ในนั้นเลยก็ได้"

 

ปฐพีส่งปากกาให้รุ่นน้อง ศิชลจึงเอามาจดยิกๆ ปากก็พูดไปด้วย

 

"เดี๋ยวผมลองเขียนอันที่ผมคิดอยู่ลงไปนะ "

 

พอเสร็จก็ส่งให้ปฐพีที่เหลือบตาดูคร่าวๆ ก่อนจะส่งธนบัตรใบละพัน

ให้ศิชลหลายใบ

 

"ค่าไอเดีย"

 

ปฐพีพูดสั้นๆ แต่ศิชลดื้อดึงไม่ยอมรับ

 

"แค่เขียนก๊อกแก๊กไม่กี่ทีเนี่ยนะ พี่ให้ผมตั้งเกือบหมื่น มันมากเกินไป

พี่ปัฐ ที่สำคัญมันไม่ใช่"

 

ศิชลโพล่งออกมาอย่างอึดอัด ยังไงเขาก็มีศักดิ์ศรีของตัวเอง

ปฐพีจึงนิ่งไปครู่ใหญ่ "อย่างนี้แหละศิ ที่ฉันต้องการให้แกเป็น

มีศักดิ์ศรี แล้วก็ทะนงตัว" ชายหนุ่มคิดในใจ ก่อนจะพูดกับศิชล

 

"ศิ การมีศักดิ์ศรีมันก็ดีนะ แต่พี่ว่าแกคิดเล็กคิดน้อยมากเกินไป

ที่แกเขียนมาพี่ก็เอาไปใช้จริงทุกครั้ง ดังนั้นเงินนี่แกก็มีสิทธิที่จะได้

พี่ว่ามันยังน้อยไปด้วยซ้ำ ถ้าเทียบกับเงินเดือนของวิศวะที่พี่จ้างมา

เขียนแบบ เอาไปเถอะ"

 

ปฐพีส่งเงินให้อีกครั้ง ศิชลรับมาถือไว้ในมือแต่ยังไม่ยอมเก็บเข้า

กระเป๋า ชายหนุ่มจึงกระทุ้งรุ่นน้องไปอีกดอก

 

"พี่คิดว่ายังมีเรื่องให้ศิช่วยอีหลายเรื่องนะ ต่อไปข้างหน้าน่ะ

แต่ถ้าแกไม่สบายใจแบบนี้พี่คงไม่รบกวนศิหรอก"

 

ปฐพีทิ้งไพ่ตาย แล้วศิชลก็ต้องเดินตามเกมส์ที่รุ่นพี่ขีดไว้อีกครั้ง

อย่างไม่รู้ตัว

 

"ไม่ใช่นะครับพี่ปัฐ ผมเกรงใจพี่ปัฐจริงๆนะ ผมรุ้สึกว่าผมเอาเปรียบ

พี่ปัฐเกินไป พี่ปัฐจ่ายให้ผมมากกว่าที่ผมควรจะได้ซะอีก แล้วมันก็

หลายครั้งแล้วด้วย"

 

"ไว้จบ ศิก็มาทำงานให้พี่สิ โอเคมั้ย"

 

ปฐพีพูดด้วยท่าทางเรื่อยๆ สบายๆ แต่ศิชลกลับนิ่งอึ้ง ชายหนุ่ม

ตั้งใจไว้ว่าถ้าเรียนจบเขาจะเข้าทำงานในบริษัทผลิตรถยนต์ชื่อดัง

และไต่เต้าไปให้สูงที่สุดด้วยกำลังของตัวเอง

 

บริษัทผลิตอะไหล่และอุปกรณ์ตกแต่งรถของปฐพีนั้นไม่เล็กทว่าก็

ไม่ใหญ่พอจะทำให้ความฝันของศิชลเป็นจริง อีกทั้งเป็นบริษัทใน

ระบบครอบครัว ซึ่งไม่สามารถตอบสนองความทะเยอทะยานของ

เขาได้อย่างเต็มที่...แต่บุญคุณคงต้องมาก่อน

 

"ได้ครับ พี่ปัฐ"

 

"เอาน่า ศิมาทำงานกับพี่สักพักก่อน แล้วจะไปไหนต่อค่อยคิด

กันอีกที"

 

นั่นแหละศิชลจึงหน้าชื่นขึ้นมาหน่อย แต่ใครจะคิดล่ะว่า...จะมี

โชคร้ายตามมาหลังจากไดรับโชคดีเพียงไม่นาน

 

หลังจากปฐพี ศิชล และบรรดาเพื่อนพ้องเฮฮาปาร์ตี้จนเกือบสี่ทุ่ม

และอิ่มหนำจากหมูกระทะเรียบร้อยแล้วก็เริ่มแยกย้ายกันกลับ

ตอนนั้นเองอาจารย์สิทธิศักดิ์ก็แจ้งข่าวการรื้อถอนเพื่อปรับปรุง

อาคารอันเป็นที่แอบซุกหัวนอนฉุกเฉินของศิชล การก่อสร้างจะมี

ขึ้นในอีกราวสองสามวัน ขอให้ชายหนุ่มขนสมบัติประดามีไปเก็บ

ไว้ที่หอพักก่อน

 

ศิชลรับฟังด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก และเมื่อปฐพีมาส่งที่หอพักก็ปรากฏว่า

ข้าวของทุกชิ้นของชายหนุ่มถูกแพ็คลงลังกระดาษอย่างเรียบร้อยและ

กองสุมอยู่ข้างล่างหอพักเก่าๆอันเป็นที่อยู่อาศัยของศิชล

 

"นี่มันอะไรกันครับเจ๊"

 

ศิชลออกอาการงุนงงสุดขีด ไม่ใช่ชายหนุ่มจะไม่เคยค้างค่าเช่า

แต่เมื่อมีเงิน เขาก็มาชำระให้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยทุกครั้ง

 

"เจ๊ไม่อยู่ ไปต่างจังหวัด"

ลูกจ้างเจ้าของหอพักเดินมาบอกศิชลด้วยสีหน้าไม่แสดงอารมณ์

 

"คุณค้างค่าเช่าหลายเดือนแล้ว แล้วก็หลายครั้งแล้วด้วย แล้วคุณ

ก็เล่นหายไปหลายวัน ตอนนี้มีคนมาอยู่ห้องคุณได้สองวันแล้ว

ของพวกนี้จะให้ฝากไว้ได้ถึงพรุ่งนี้ตอนเย็นๆเท่านั้นนะ รีบมาขนไป

ด้วยล่ะ ไม่งั้นชั้นจะชั่งโลขายให้หมดเลย"

 

ศิชลทั้งโกรธทั้งเสียใจ ชายหนุ่มถึงกับพูดไม่ออก ในใจเหมือนถูก

บีบคั้นรุนแรง

 

"โธ่เว้ย!!"

 

เมื่อเดินออกมาจากหอพัก ศิชลสุดที่จะสะกัดกลั้นอารมณ์ที่เต็มไป

ด้วยโทสะและความเจ็บใจ ชายหนุ่มชกกำแพงปูนระบายอารมณ์

หลายครั้งจนกำปั้นแตกและมีเลือดไหล ปกติศิชลไม่เคยฟิวส์ขาด

แบบนี้ แต่วันนี้เขารู้สึกเหมือนเด็กที่เพิ่งได้ของขวัญแล้วถูกแกล้ง

ผลักจนล้ม

 

ตลอดชีวิตที่ผ่านร้อนผ่านหนาวมายี่สิบห้าปี ศิชลต้องใช้ชีวิตอย่าง

ทรหด ปากกัดตีนถีบมาตลอด เขาเป็นเด็กกำพร้าที่พ่อแม่เสียชีวิต

จากอุบัติเหตุรถยนต์ ต้องระหกระเหินใช้ชีวิตอยู่กับญาติๆที่ฐานะไม่ดี

นักและไม่เต็มใจที่จะมีภาระเพิ่มอีกหนึ่งชีวิต ศิชลจึงเป็นส่วนเกินของ

ครอบครัวญาติพี่น้องมาตลอด

 

โตขึ้นมาหน่อยก็ต้องอาศัยวัด โชคดีที่เขาเป็นนักเรียนดีเด่นที่มีผล

การเรียนอยู่ในอันดับหนึ่งมาโดยตลอด จึงได้ทุนจากการศึกษาจนถึง

ระดับมหาวิทยาลัย

 

ตอนแรกศิชลก็เกือบจะไม่ได้เรียนต่อ แต่หลวงตาที่วัดก็สงสารและ

เมตตาให้ความช่วยเหลือจนเขาได้ศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัย

ซึ่งแม้จะได้ทุนการศึกษาแต่ค่าใช้จ่ายอื่นๆหลวงตาก็เป็นผู้ออกให้

เกือบทั้งสิ้น ศิชลเองก็ดิ้นรนรับงานนอกเวลาเรียนเกือบทุกอย่างเพื่อ

ช่วยเหลือตนเองและไม่ให้เป็นภาระแก่หลวงตาผู้ชราภาพมากนัก

 

เมื่อศิชลเรียนปริญญาโทปีที่สองหลวงตาก็มามรณะภาพจากไป

ทำให้ชายหนุ่มเคว้งคว้างเป็นที่สุด แต่ด้วยความที่เป็นคนไม่ย่อท้อ

และขยัน ชายหนุ่มจึงได้รับความช่วยเหลือจากผู้คนรอบข้าง

ทั้งอาจารย์ทั้งหลายและพี่ปัฐมาโดยตลอด

 

 

"ใจเย็นก่อนศิ"

 

ปฐพีเข้าไปดึงไหล่หนุ่มรุ่นน้องที่ตาแดงก่ำแต่ไม่มีน้ำตา

ศิชลหายใจหอบจนเหมือนสะอื้น

 

"ใช้กำลังไม่ได้ช่วยแก้ปัญหานะ...ต้องใช้นี่"

ปฐพีเอานิ้วเรียวสวยชี้ไปที่หัว

 

"คืนนี้แกไปนอนบ้านพี่ก่อนแล้วกัน มันดึกแล้ว เดี๋ยวค่อยมาว่ากัน

อีกที ยังไงซะพรุ่งนี้ก็วันอาทิตย์"

 

ชายหนุ่มหมดเรี่ยวแรงจะคิดหรือทำอะไร ยอมเดินตามปฐพีไปขึ้นรถ

หรูแต่โดยดี ระหว่างทางไปบ้านของปฐพีศิชลปิดปากเงียบมาตลอด

ทาง ตอนนี้ชายหนุ่มว้าวุ่นและสับสนที่สุด ที่ซุกหัวนอนทั้งสองแห่ง

ไม่มีเหลือแล้ว หอพักราคาถูกกว่าที่เคยอยู่ในย่านนั้นก็ไม่มีอีกเหมือน

กัน จะไปค้างบ้านเพื่อนก็ได้อยู่หรอกแต่จะอยู่ตลอดไปเลยก็คงไม่ได้

เหมือนกัน

 

ชายหนุ่มปล่อยให้ความสับสนครอบงำจนถึงบ้านของปฐพี

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

  


 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา