สัญญามันใจ..ยายตัวแสบ

6.2

เขียนโดย แสงจันทรา

วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2554 เวลา 13.50 น.

  24 ตอน
  1 วิจารณ์
  36.48K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) มหาลัย...

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

รถตู้ขับตรงมายังมหาวิทยลัยชื่อดังในตัวเมืองเชียงใหม่ และตรงไปยังลานจอดรถ เด็กสาวอายุราว 17-18 ปี เดินลงจากรถสวมชุดนักศึกษา กระโปรงสั่นเลยเข่า จนเห็นขาที่เรียวยาว เธอมองสำรวจบริเวณรอบๆ ด้วยความแปลกตา ใบหน้าของเธอดูเศร้านิดๆ ไม่มีแม้แต่รอยยิ้ม

     “อ้าว.. ทำไมไม่เดินต่อหละลูก” เสียงแม่ของเธอพูด ก่อนจะก้าวขาลงจากรถ เธอหันกลับไปมองด้วยสายตาเศร้าๆ หมายจะเรียกร้องความเห็นใจ

     “แม่ค่ะ มีนาไม่เรียนที่นี่ไม่ได้หรือค่ะ ที่กรุงเทพ มีที่เรียนดีๆ ตั้งเยอะตั้งแยะ เรากลับกันเถอะนะ”มีนา กำลังจะก้าวขาขึ้นรถ หมายจะกลับ

     “อะไรกันลูกสาวของแม่เป็นคนอ่อนแอตั้งแต่เมื่อไหร่ เราสอบติดที่นี่ต้องเรียนสิลูก นึกถึงคนที่เขาอยากมาเรียนแล้วไม่มีโอกาสบ้างสิ เขาต้องเสียโอกาสเพราะลูกนะ มีนาอยากให้มันเป็นอย่างนั้นหรือ”ผู้เป็นแม่อธิบาย

     “แต่ว่า..ที่นี่ มีนาไม่มีใครเลยนะค่ะ” มีนายังคงมีท่าทีงอแง เธอไม่เคยห่างบ้านมาไกลแบบนี้

     “แม่จะให้พี่ติ๋มอยู่เป็นเพื่อน ไปเถอะเราสายกว่าคนอื่นมาตั้ง 2 อาทิตย์ แล้วนะ”มีนาถูกจูงมือให้เดินตาม เธอนั่งรออยู่ข้างนอกเมื่อแม่ของเธอเข้าไปในห้องทะเบียนได้พักใหญ่

                “ไม่ต้องห่วงนะค่ะ ดิฉันเป็นครูที่ปรึกษาของแกจะดูแลแกเป็นอย่างดี ขอให้ไว้วางใจเราได้ค่ะ”ครูผู้หญิงแต่ชุดเรียบๆ เดินออกมาส่งแม่ของมีนา และหันไปดูเด็กสาวที่ดูจะไม่ยินดียินร้ายอะไรนัยตากับดูเศร้า ๆ

     “สวัสดีค่ะ” มีนา ยกมีขึ้นไหว้ ก่อนที่จะโผเข้ากอดอำลามารดา

     “มีนา แม่ต้องไปแล้วนะจำทางกลับ คอนโดฯ ใช่ไหม แม่ให้พี่ติ๋มอยู่เป็นเพื่อนจนกว่าหนูจะอยู่คนเดียวได้”แม่กาญดาสั่งลาเรียบร้อยก่อนจะเดินออกไป ครูที่ปรึกษาพามีนาไปส่งห้องเรียนเดินจนมาถึงหน้าห้องหนึ่งกำลังเรียนวิชาภาษาอังกฤษกันอยู่

     “ถึงแล้วนะมีนา ครูชื่อเดือนเพ็ญเป็นครูที่ปรึกษาของเธอ เข้าไปกันเถอะ”มีนาพยักหน้ารับคำและยิ้มเล็กๆ

     “ขอโทษค่ะ อาจารย์ดิฉันพานักศึกษาใหม่มาส่งค่ะ”ทุกคนหยุดและเงียบ ทุกสายตาหันไปมองที่มีนา เธอยังคงว่างใบหน้านิ่งเฉย และไร้ซึ่งรอยยิ้ม ก่อนจะยกมือขึ้นไหว้อาจารย์ ที่กำลังสอนอยู่ ครูที่ปรึกษาออกไปคุยกับอาจารย์ผู้สอนนอกห้องเรียน มีนามองหาที่ว่างและเดินไปนั่ง ขณะที่ทุกสายตายังคงจ้องมองเธอ

     “ดูนางคนนี้สิทางหยิ่งยโสไม่เบานะ” เสียงดาวล้อมพูดสีหน้าไม่เป็นมิตรพอๆ กับเจนจิตรที่กำลังจ้องมองด้วยความรู้สึกหมั่นไส้ลึกๆ เช่นเดียวกันกับคนอื่นให้ห้องเรียนต่างพากันซุบซิบเรื่องของเธอทั้งนั้น

     “สวัสดีจ๊ะ ฉันชื่อสายธาร และนี่มินทร์ตา เธอชื่ออะไรหรือ” เสียงหญิงสาวใส่ๆ ดังมาจากด้านข้าง

     “มีนา..” เสียงตอบที่สั้นและไร้ซึ่งหางเสียง มีนารู้สึกถึงสายตาและคำซุบซิบของทุกคนในห้องเรียน

     “เอาหละค่ะ มาเรียนต่อกันดีกว่านะค่ะ”ทุกคนเงียบทันทีเมื่ออาจารย์เดินเข้ามาในชั้นเรียน

 

                หลังจากหมดวิชาเรียนแล้วทุกคนทะยอยออกจากห้องเรียนเหลือเพียงกลุ่มของเจนจิตรที่ยังคงมองดูมีนา           

     “ฉันว่าเราน่าจะมีการรับน้องใหม่ ดีไหมพวกเรา”เจนจิตรกับเพื่อนสาวอีก 3 คนหันมาทางมีนา และกำลังเดินตรงเข้ามา สายธารและมินทร์ตา เดินมาขวางทางไว้ เจนจิตรมองทั้งสองด้วยหางตาก่อนจะยิ้มเยาะทั้งคู่

     “เธอสองคนคิดจะขวางทางฉันเหรอ” เจนจิตรผลักสายธารแทบล้ม แต่มินทร์ตาพยุงไว้ทัน

     “เจนจิตรเธอจะทำอะไร ฉันขอร้องหละนะ เขาพึ่งเข้ามาใหม่ ยังไม่รู้อะไร เธอก็ปล่อยเขาไปเถอะ”สายธารพูด

     “โธ่.. ฉันจะทำอะไรเขา เธอคิดว่าฉันจะฆ่าเขาหรือไง”เจนจิตรเดินมาเกาะไหล่มีนาท่าทางยัวยวนโทสะก่อนจะเชิดหน้าของมีนาขึ้นมาดูให้ชัดๆ ทั้งสองสายตาประสานไม่มีใครลดละ

     “เธอดูสิสายธาร เขาไม่เห็นมีท่าทีกลัวฉันเลยสักนิด” เจนจิตรสะบัดหน้าของมีนาและหันมาเล่นผมของเธอแทน

     “ดาวล้อม.. เราจะรับน้องใหม่อย่างไงกันดี” เจนจิตรหันไปพูดกับเพื่อนสาวอีกกลุ่มที่จับมินทร์ตาและสายธารไว้ มีนา ทนดูต่อไปไม่ไหว เธอลุกขึ้นยืนก่อนจะมองไปที่เจนจิตร ที่มีท่าทีตกใจไม่น้อย

     “ตาหละ คิดสู้หรือจ๊ะ ฉันขอแนะนำว่าอย่าคิดต่อกรอนกับฉัน ถ้าอยากอยุ่ที่นี้อย่างเป็นสุข”เจนจิตรขู่ แต่ไม่ทันเสียแล้ว มีนาดัดมือของเจนจิตรและเตะขา จนเจ้าหล่อนกุกเข่าลงกับพื้นเสียงร้องโอดโอย... ด้วยความเจ็บปวด

     “ปล่อยฉันนะ ฉันเจ็บ” เจนจิตรร้องเพื่อนคนอื่นๆ จะเข้ามาช่วยมีนายิ่งเพิ่มความเจ็บให้หล่อน

     “ก็ลองเข้ามาสิ เพื่อนของพวกเธอแขนหักแน่” มีนายิ้มเยาะอย่างผู้ชนะ เมื่อสายธารและมินทร์ตาวิ่งมาหา เธอจึงผลักเจนจิตร ให้กับเพื่อนๆ ทั้งสามเดินออกจากห้องเรียนปล่อยให้ยายตัวแสบทั้งสี่เจ็บใจอยู่ในห้อง

                ที่โรงอาหาร มินทร์ตาและสายธารถืออาหารเที่ยงมาวางตรงหน้ามีนา ทั้งคู่ยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร

     “เธอนี่เก่งจริงๆ นะเอาพวกยายตัวปั่นประจำห้องซะอยู่หมัด”มินทร์ตาชมมีนา จนเธอยิ้มออกมา

     “เธอไม่ใช่คนที่นี่ใช่ไหม”สายธารถามขึ้นทำให้มีนา มีท่าทางเศร้านิดๆ

     “อื่อ ฉันอยู่กรุงเทพ…”นัยตาของมีนาดูเศร้าลึกๆ สายธารจึงเปลี่ยนคำถามเพื่อไม่ให้บรรยกาศเศร้าไปกว่านี้ ทั้งสามดูจะเข้ากันได้เป็นอย่างดี เมื่อรู้สึกสนิทสนมสายธารและมินทร์ตา จึงได้รู้ว่ามีนาเป็นคนที่ร่าเริงและสนุกมาก

                เวลาผ่านไปกว่าอาทิตย์มีนาเริ่มคุ้นเคยกันที่นี่ แล้วเธอจึงตัดสินใจที่จะส่งพี่เลี้ยงของเธอกับกรุงเทพ

     “พี่ติ๋มค่ะ ฝากบอกแม่ด้วยนะมีนาโอเค… และมีเพื่อนแล้วไม่ต้องเป็นห่วง”มีนาพูด เมื่อมาส่งพี่เลี้ยงที่สนามบินและสั่งลากันเรียบร้อย เธอรู้สึกโล่งอก ด้วยท่าที ที่มีความสุขมีนามัวแต่หันกับไปโบกมือลาพี่เลี้ยง โดยไม่ได้มองด้านหลังและเมื่อหันกลับมาอีกที เธอก็...โคล้ม!!!...

     “โอ้ย!!...” เสียงมีนาร้องขึ้นเมื่อเธอล้มลงกับพื้น เช่นดียวกับคู่กรณีที่ข้าวของกระจายทั่วพื้น

     “เดินปะสาอะไรไม่มีตาหรือไง”เสียงร้องตะคอกขึ้น ทำให้อีกฝ่ายที่ตั้งใจจะพยุงกลับหันไปเก็บของแทน

     “ผู้หญิงอะไรซุ่มซ่ามแล้วยังปากร้ายอีก”อีกฝ่ายบ่นเบาๆ และรีบเก็บข้าวของไม่สนใจมอง ยิ่งเพิ่มความโมโหให้กับมีนา ยิ่งนัก เธอตาโตและรีบลุกขึ้นยืน

     “นี่นาย!!... ชนคนอื่นแล้ว นายไม่คิดจะพูดอะไรบ้างหรือ อีตาบ้า”มีนา ขึ้นเสียงใส่เขา แต่เขากับรีบเก็บของอย่างไม่สนใจ เพราะรู้สึกว่าคนในบริเวณนั้นเริ่มหันมองมาที่เขาเสียแล้ว เมื่อเก็บของเสร็จ ชายหนุ่มหันไปมองพบว่าหญิงสวยที่หน้าตาหมดจด หุ่นเพียว ยืนเท้าสะเอวนัยตาโตเป็นประกาย แต่ใบหน้าตอนนี่บอกว่าเธอโกรธยังกับนางยักษ์ในวรรณคดีอะไรอย่างนั้น ทำให้อีกฝ่ายนึกขำ มีนา ยิ่งยัวเข้าไปใหญ่เธอโมโห แต่ไม่รู้จะทำอย่างไง

     “โอ้ย..อีตาบ้า”เธอเดินเชิดหน้าหนี และเดินไปบ่นไปและหันกับมามองชายคนนั้นยังคงยืนยิ้มให้เธอ

     “ผู้หญิงอะไร ตลกเป็นบ้า”ชายหนุ่มยังคงยืนมองและนึกขำท่าทางของเธออยู่ และเมื่อมองดูว่าเจ้าหล่อนเดินไปลับตาแล้วเขาจึงเดินต่อ แต่แล้วเท้าเขาก็ไปสะดุดกับกิ๊บรูปผีเสื้อ น่ารัก เขามองอยู่ครู่หนึ่งจึงนึกได้ แต่จะให้วิ่งตามคงไม่ทันเป็นแน่ ขณะที่เข้าตัดสินใจอยู่นั้นก็มีมือของใครอีกคนมาแตะที่ไหล่ของเขา เมื่อหันกลับมาก็พบว่า...

     “พี่ธนา อยู่นี่เองไปเถอะค่ะ พ่อกับแม่รออยู่ร้านอาหาร” เสียงใส่ๆ นั้นคุ้นหูและชัดเจนเมื่อเขาหันมาพบรอยยิ้ม

     “ว่าไง ไม่เจอสะนานโตเป็นสาวแล้วนะเรา” ธนาขยี่หัวของเด็กสาวเบาๆ อย่างอ่อนโยน

     “แน่หละน้องเข้ามหาลัยแล้วนี่ค่ะ” เด็กสาวตอบแล้ว ควงแขนของพี่ชาย ด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใส

                “โธ่เอ้ย!! ไอ้บ้าๆ ไอ้บ้า!!” มีนามาถึงห้องและโยนกระเป๋าด้วยความหงุดหงิด

     “ขออย่าเจอได้เจอกันอีกเลย สาธุ สาธุ สาธุ แต่ถ้าเจออีกหละก็ฉันจะเอาคืนให้สาสม” มีนา ยกมือท่วมหัวหน้างิ้วคิ้วขมวดปากก็บ่นขมุบขมิบ ด้วยความโมโห

                ตึก ..ตึก .. ตึก... เสียงสายธารวิ่งลงบรรได ด้วยความรีบร้อน

     “ไปแล้วนะค่ะ สายแล้วค่ะ” สายธารพูดขึ้นและรีบวิ่งไปสวมรองเท้า

     “นี่ๆ สาวน้อย จะไปอย่างไงอื้อ” พี่ชายเดินตามมาติดๆ สายธารหันกับไปมองทำหน้าสงสัย

     “อ้าว แล้วลุงชัยไปไหนเสียหละค่ะ” สายธารถาม เมื่อกวาดสายตาดูรอบๆ

     “ไปส่งพ่อกับแม่... เอางี้ เดี๋ยวพี่ไปส่งแล้วกันนะ”ธนา อาสา

     “จะไปส่งน้อง หรือไปมองสาวๆ กันแน่”สายธารทำรู้ทัน

     “แก่แดดมากไปแล้วนะเรา” ธนา ผลัดหน้าผากน้องสาวเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้

                ธนาขับรถมาจอดที่ลานจอดรถ สายธารยกมือไหว้ก่อนจะเปิดประตูรถออกไป

     “เย็นๆ ให้พี่มารับไหม” ธนาโผหัวออกมาจากนอกกระจกถาม

     “ไม่เป็นไรค่ะ..เดี๋ยวน้องให้เพื่อนไปส่ง ไปก่อนนะค่ะพี่ชายสายแล้ว” สายธารหันหลังกลับวิ่งต่อ ธนามองตามด้วยความเป็นห่วง เขามองจนเห็นว่าสายธารวิ่งจนพ้นถนนแล้ว จึงถอยรถออก

     แต่แล้ว...โคล้ม!! หัวของธนากระแทกกันพวงมาลัยเข้าอย่างจัง คู่กรณีเปิดและปิดประตูรถดังปั้งเดินออกมาเคาะกระจกรถของธนาด้วยความโมโห

     “ออกมาเดี๋ยวนี้นะ!!..ออกมา” เสียงหญิงดังแว๊ดๆ อย่างฉุนเฉียวเธอยืนเท้าสะเอวใบหน้าเคร่งครึมจ้องหน้าประตู

     “นายขับรถอย่างไงของนายเนี่ย มีใบขับขี่หรือเปล่าฮะ” หญิงสาวตะคอกด่าทันทีที่ธนาเปิดประตูรถ เขายังรู้สึกมึนๆ กับการกระแทกเมื่อสักครู่ ธนาหันไปมองก็พบกับความตกตะลึงอีกครั้ง...มีนาชี้หน้าธนาปากค้างพูดอะไรไม่ออกในทันที เมื่อทั้งสองเผชิญหน้ากันเท่านั้นเองทุกอย่างก็เงียบราวกับถูกหยุดเอาไว้ อยู่ครู่ใหญ่

     “นี่นายอีกแล้วหรือ!!” ไม่ถึงนาที มีนาก็ตะคอกเสียงใส่เขาอีกครั้ง เสียงนั้นชัดเจน และคุ้นหูเป็นที่สุด และยิ่งเมื่อมองดูหน้าก็รู้ได้ทันทีว่านี่มันคนๆ เดียวกัน เป็นแน่ใบหน้าของเจ้าหล่อนไม่เปลี่ยนไปเลยกับตอนที่เจอครั้งแรก

     “นี่..คุณ!!”ธนาแค่เพียงจะอ้าปากพูดเท่านั้นเอง

     “นี่โลกมันกลม หรือมันแคบกับแน่ ถึงได้มาเจอนายอีก” มีนา ยัวโมโหทวีคูณเป็นสิบเท่ากับความแค้นครั้งเก่า
     “คราวนี้นายต้องรับผิดชอบ ว่าไงหละทำไมไม่พูด”มีนาพูดเป็นชุดใหญ่จนธนาอ้าปากค้าง และเธอก็หยุดหายใจ

     “นี่คุณพูดจบแล้วเหรอ...ผมว่างานนี้คุณผิดเต็มๆ แล้วหละ ผมกำลังจะขับรถออกไปอยู่แล้ว คุณไม่ได้มอง หรือว่าตา..” ธนา ทิ้งคำเอาไว้ ทำให้มีนาคิดเองและยิ่งโมโหสีหน้าของเธอดูจะโกรธสุดๆ

     “ตา.. ตาอะไร นายพูดให้มันดีๆ นะ นายเนี่ย นอกจากจะไม่มีมารยาทแล้วยังปากดีกันนะ เอางี้ๆ ถ้าพูดกันเองเราคงพูดกันไม่รู้เรื่องแน่ ฉันเรียกค่าเสียหายเลยแล้วกัน อื่อ..”มีนารีบตัดบทเดินสำรวจรถ

     “จะเอาคืนให้แสบเลย”มีนายิ้ม ด้วยความเจ้าเล่ห์ เมื่อคิดได้อย่างนั้น

     “เอาเป็นว่า ค่าทำสี ค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียเวลา อื่อ สักหนึ่งหมื่นแล้วกันนะ” ธนาถึงกับตกใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น         

     “อะไรกันคุณจะปล้นกันหรือไง” ธนาโวยวายด้วยความตกใจ

     “ถ้าให้ประเมินหละก็..เท่าที่ผมดูๆ มันน่าจะไม่เกิน 2000 บาท ส่วนตัวคุณอื่อ... ก็ไม่เห็นจะเป็นมากมาย” ธนาเดินกับเข้าไปหยิบกระเป๋าตังค์ก่อนจะหยิบเงินยื่นใส่มือที่มีนาแบบรออยู่แล้ว และเดินขึ้นรถไป มีนาตาโตขึ้นมาทันที

     “อะไรกันเนี่ย.. นายคิดจะเบี๋ยวหรือไง ถ้าอย่างนั้นเรื่องไม่จบลงง่ายๆ แน่” มีนาขู่แต่ธนากับอมยิ้มไม่รู้สึกอะไร

     “อื่อ...วันนี้ผมว่างทั้งวันเลย งั้นไปนั่งเล่นที่โรงพักก็ดีเหมือนกัน ไปกันเลยดีกว่าไหม” ธนายิ้มอย่างผู้ชนะเมื่อเห็นท่าทีของมีนาดูจะหวั่นๆ ไม่น้อย ในขณะที่มีนา กำลังคิดอยู่นั้นธนาก็ขับรถออกไป

     “เฮ้ย..หยุดเดี๋ยวนี้นะ นายคิดจะหนีอีกแล้วใช่ไหม บอกให้หยุด...” มีนาวิ่งตามรถธนา แต่แล้วก็ไม่ทัน ธนาขับรถไปได้ระยะหนึ่ง เขาโผล่หัวออกมาโบกมือลา ยิ่งเพิ่มความแค้น ความโมโหกับมีนา แต่ธนากับเห็นเป็นเรื่องสนุก

     “ไอ้คนบ้า!..ฝากไว้ก่อนเถอะ อย่าให้เจออีกรอบนะไม่งั้นฉันฆ่านายแน่ ไอ้บ้าเอ้ย...” ธนามองผ่านกระจกหลังเห็นท่าทีอันน่าตลกของมีนา ถึงกับยิ้มหัวเราะท่าเบิ่นๆ ของเจ้าหล่อนนัก

     “ผู้หญิงอะไร จะฤทธิ์เยอะขนาดนี้ ใครได้เป็นแฟนคงถูกฆ่าตายสักวัน” ธนาพูดยิ้ม ส่ายหน้า เมื่อเห็นมีนากำลังเท้าสะเอว และชี้มาที่รถของเขาใบหน้าไม่ต้องพูดถึง นางยักษ์ในวรรณคดีที่ว่าน่ากลัวแล้วหล่อนน่ากลัวมากกว่าเป็นร้อยเท่าพันเท่า แต่ก็ตลกมากเช่นกันสำหรับธนา

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
4.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
4.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา