Zombieเกินร้อยกับVampireล้นแก้ว!~

10.0

เขียนโดย YaWaN

วันที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2554 เวลา 17.11 น.

  6 ตอน
  8 วิจารณ์
  12.04K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) เกมส์หนะเล่นเท่าไหร่ๆมันก็เคลียร์ไม่หมดหรอกเฟ้ย!!~

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ผมปั่นๆๆๆเร่งอยู่โทษทีเวลาไม่ค่อยมี- -

-----------------------------------

"ผมจะเริ่มเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับ ซอมบี้เลยนะครับ..."เบรคพูดพลางเอานิ้วมือไปเล่นผมตัวเอง....

"ครับ/คะ"ทุกๆคนพูดพร้อมกัน...

"นั่นคือยุคสงครามกลางเมืองของญี่ปุ่นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1477 -1615 ที่ก่อให้บังเกิด จอมคนผู้เปี่ยมล้นด้วยความทะยานอยากอันแรงกล้า นักรบผู้เก่งกาจไม่กลัวตาย ซามูไรผู้ภักดียิ่งชีพขึ้นมาทั่วแผ่นดิน


สมัยนั้นบ้านเมืองอยู่ในการปกครองของตระกูลอาชิคางะ ตระกูลโชกุนที่สืบทอดอำนาจมานับแต่อาชิคางะ ทาคาอุจิ ซึ่งก่อนหน้านี้อยู่ในยุคคามาคุระภายใต้อำนาจของตระกูลมินาโมโตะซึ่งได้เสื่อมลง ตระกูลอาชิคางะจึงก้าวขึ้นมาแทนที่ แต่กล่าวกันว่าอำนาจและความยิ่งใหญ่ของอาชิคางะยังไม่อาจเทียบกับที่มินาโมโตะเคยครองแผ่นดินไว้ได้ด้วยอำนาจเบ็ดเสร็จ และเมื่อมาถึงสมัยของอาชิคางะ โยชิมาสะ โชกุนรุ่นที่ 8 แห่งอาชิคางะก็อำนาจของรัฐบาลโชกุนแห่งอาชิคางะก็เสื่อมลงจนถึงจุดต่ำสุด เพราะโชกุนผู้นี้หลงไหลในพิธีการชงชาอย่างมาก จนละเลยกิจการบ้านเมือง ทำให้ประชาชนโดยเฉพาะชาวนา ต้องได้รับความยากลำบากไปทั่ว


นอกเหนือจากเหล่าประชาชน ยังมีบรรดาเจ้าผู้ครองแคว้น หรือที่เรียกกันว่าไดเมียว (Daimyo) ต่างก็คิดแข็งข้อขึ้น เพราะพวกไดเมียวคือผู้กุมอำนาจทหารตามส่วนภูมิภาคต่างๆของประเทศตัวจริง นอกจากนี้นโยบายของอาชิคางะที่บังคับให้ไดเมียวต่างๆต้องเข้ามาอยู่ในเมืองหลวง เพื่อง่ายต่อการควบคุม ยิ่งทำให้เหล่าไดเมียวเจ้าตระกูลทั้งหลายไม่พอใจและสะสมมากขึ้น จนกระทั่งเกิดเป็นสงครามโอนิน (Onin War)


ผลจากสงครามโอนิน ทำให้เหล่าไดเมียวแตกแยกป็นหลายฝ่าย ในขณะที่โชกุนอาชิคางะ โยชิมาสะ ยังคงทำตัวไม่รู้ร้อน เอาแต่บ้าจัดทำพิธีชงชา จนกระทั่งเหล่าไดเมียวของแต่ละแคว้นกลายเป็นผู้กุมอำนาจ และเกิดเป็นสงครามต่อไปเรื่อยๆ โยชิมาสะคิดจะมาแก้ไขในตอนหลังก็สายเกินไปแล้ว


โยชิมาสะคิดจะลิดรอนกำลังของเหล่าไดเมียว และสร้างสภาพการเงินและการทหารของตนให้มั่นคงพอจะต่อกรกับไดเมียวเหล่านั้นจึงได้ทำการขูดรีภาษีจากประชาชนสูงลิบลิ่ว และยังมีพ่อค้าที่คอยขูดดอกเหล่าชาวนาอีก ในเมื่อชาวนาซึ่งเป็นประชากรส่วนใหญ่ของแผ่นดินได้รับความทุกข์ขนาดนั้นการต่อตานจึงเกิดตามมา เล่าชาวนาและคนยากจนรวมถึงเหล่าซามูไรชั้นต่ำบางส่วนจึงได้รวมพลังกันก่อตั้งเป็นกองกำลังของตนเองที่เรียกว่า กองกำลังอิกกิ"เบรคเทศน์ยาวเยี่ยดเกี่ยวกับประวัติศาตร์ญี่ปุ่น....

"เราไม่อยากรู้เรื่องนั่นซะหน่อยเบรค!!~อธิบายเรื่องของซอมบี้มาสิ!!~"อเลนทุบโต๊ะลุกขึ้นชี้หน้าเบรค....

"ใจเย็นๆสิครับถ้าไม่เล่ารายละเอียดตรงนี้มีหวังเข้าใจผิดกันพอดี-3-"เบรคพูดแล้วก็ยกชามาดื่มอีก...

"ฮ้า!~ต่อละนะครับ-3-"

"เออ..."

"กองกำลัง อิกกิ จะคอยทำหน้าที่บุกเข้าเมืองหลวงเพื่อปล้นสะดมเป็นหลัก พวกเขาไม่ได้จะเข้าไปทำการรัฐประหารเปลี่ยนการรัฐบาลหรือปกครองประเทศแต่อย่างใด เพียงแค่ปล้นชิงทรัพย์สินของชาวเมืองเท่านั้น


นอกจากนี้ยังมีกลุ่มอีกกลุ่มหนึ่งที่เกิดขึ้นมาในช่วงนี้ คือกลุ่ม อิกโกะ ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของเหล่าพระในศาสนาพุทธนิกายหนึ่งของญี่ปุ่น ที่มีการฝึกฝนวิชาการต่อสู้แบบซามูไร ซึ่งพระเหล่านี้เป็นที่นับถือของชาวบ้านมาก เพราะยามที่ชาวบ้านถูกโจรหรือทหารหนีทัพเข้าปล้น พระเหล่านี้จะคอยออกมาช่วยเหลือชาวบ้านเหล่านั้น นี่จึงเป็นกองกำลังที่มีชาวบ้านให้การสนับสนุนมาก และในภายหลังได้เข้าร่วมกับกองทัพของโทงาชิ มาชิกะ เจ้าเมืองคางะ ซึ่งกองกำลังนี้ได้ถูกเรียกขานเป็นกองกำลังนักรบศักดิ์สิทธิ์


แต่ภายหลังโทงาชิ เจ้าเมืองคางะได้รับเอาความดีความชอบที่กองกำลังอิกโกะต้องแลกชีวิตในสงครามเอาไว้ต่ผู้เดียว เหล่านักรบพระเหล่านี้ไม่อาจทนได้อีก จึงทำการก่อกบฏขึ้นเรียกตัวเองว่า อิกโกะ-อิกกิ และทำการไล่เจ้เมืองโทงาชิออกไป จากนั้นจึงได้ทำการสร้างโบสถ์ขึ้นที่ปากแม่น้ำโยโดะเพื่อใช้เป็นฐานบัญชาการ จากนั้นลายปีต่อมาจึงได้เข้าทำการยึดครองจังหวัดคางะ และเมืองยามาชิโร่ และในที่สุดก็ตั้งเป็นรัฐบาลเอกเทศขึ้นปกครองพื้นที่ดังกล่าว และกลายเป็นกองทัพอิสระที่น่ากลัวที่สุดในเวลานั้น



ด้วยความวุ่นวายที่เกิดขึ้นหลายฝ่ายไม่ว่าจะขุนนาง สามัญชน ชาวนา พระ ความวุ่นวายที่ได้ลามไปทั่วทุกหย่อมหญ้าเช่นนี้ จึงเป็นการเปิดม่านศักราชที่แท้จริงของยุคแห่งสงครามนองเลือดที่ดุเดือดและยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นที่ชื่อว่า ยุคเซ็นโกคุ ยุคที่มีการนองเลือดมากที่สุดในประวัติศาตร์ญี่ปุ่น..."เบรคพูด...

"หรือจะพูดอีกอย่างว่า กองกำลังอิกกิ ถูกล้างพลานโดย โทงาชิ มาชิกะ แห่ง คางะ แต่ยังมีผู้เหลือรอด คิดค้นวิธีชุบชีวิต ออกมา..ต่อกรกับ โทงาชิ มาชิกะ และ กองกำลัง อิกโกะใช่ไหม..."อเลนมองหน้าเบรคด้วยความสงสัย...

"เฉียบแหลมมาก!!~แต่ผิดครับ.."เบรคส่ายหน้าเบาๆ...

"หมายความว่าไง..."

"กองกำลังอิกกินั่น ถูกทำลายแต่มีการก่อตั้งใหม่ จากหมู่บ้านอื่นๆ นั่นแหละครับ ตัวการคือ ตระกูลโอดะ โนบุนางะต่างหาก ที่จริง โอดะ โนบุนางะ ตายไปตั้งแต่เขาอายุ16 เพราะว่า มีโรคประจำตัว...แล้วไข้ขึ้นสูง42องศาแล้วตายทันที..."

"จะบอกว่า โนบุนางะ คืนชีพออกมาจากขุมนรกเพราะความไม่อยากตายงั้นสินะคะ.."มิสึกิเริ่มถาม...

"นั่นสิคะ ท่านพี่ พูดถูก"จุนโกะเห็นด้วย...

"เนโครแมนเซอร์...ญี่ปุ่นสมัยนั่นเรียกพวก เนโครแมนเซอร์ว่า ผู้พิชิตความตาย..."

"...."

"เอาละเรามาฟังประวัติของโอดะ โนบุนางะกันเลย!!~"

"ตระกูลโอดะ กำเนิดจอมมาร เมื่อกล่าวถึงยุคเซ็นโกคุแล้ว ตระกูลหนึ่งที่มีส่วนสำคัญและบทบาทในยุคนี้อย่างรุนแรง ก็คือตระกูลโอดะ (Oda Clan)


เดิมทีตระกูลโอดะเป็นเพียงตระกูลซามูไรเล็กๆ แต่อาศัยความสามารถของผู้นำตระกูลในขณะนั้นคือโอดะ โนบุฮิเดะ (Oda Nobuhide)


เขาเกิดเมื่อปี ค.ศ.1510 เป็นนักรบที่มีความสามารถในการนำทัพและวิสัยทัศน์ยาวไกล สามารถเข้ายึดครอง จ.โอวาริไว้ได้ และทำการปกครองดูแลจนโอวาริกลายเป็นเมืองที่เข้มแข็งและร่ำรวยมากเมืองหนึ่ง



แต่โนบุฮิเดะก็ไม่อาจขยายดินแดนไปได้มากกว่านั้น เพราะที่ใกล้กันนั้นเอง ยังมีซามูไรเฒ่าผู้หนึ่งเป็นคู่ต่อกรที่พร้อมจะเล่นงานเขาทุกเมื่อ ชายผู้นั้นคือไซโต้ โดสะ (Saito Dosan) ผู้ได้รับฉายาว่าเจ้าอสรพิษเฒ่าแห่งมิโนะ เขาเป็นไดเมียวผู้เจ้าเล่ห์ ฉลาดหลักแหลม เขาได้สร้างจนแคว้นมิโนะกลายเป็นเมืองแข็งแกร่งและผงาดขึ้นมาทาบชั้นกับตระกูลไดเมียวอื่นๆในประเทศได้ นอกจากนี้เขายังขึ้นชื่อลือชาในเรื่องความโหดเหี้ยมต่อศัตรู จนไม่มีใครกล้าตอแย


และโอดะ โนบุฮิเดะ กับไซโต้ โดสะ ก็คือศัตรูที่ขับเคี่ยวกันมาเป็นเวลายาวนาน



แต่นอกจากโสะแล้ว ตระกูลโอดะยังมีหอกข้างแคร่สำคัญอีกราย นั่นคือ อิมากาว่า โยชิโมโตะ (Imagawa Yoshimoto)ไดเมียวผู้ทรงอำนาจที่ครอบครองดินแดน 3 จังหวัดทางตะวันออก อันได้แก่มิคาว่า ซุรุกะ และโทโทมิ


โนบุฮิเดะจึงคิดจะสงบศึกและสร้างไมตรีต่อโดสะ เพื่อจะได้หันมารับศึกกับอิมากาว่าเพียงด้านเดียว จึงได้ตัดสินใจครั้งสำคัญ ด้วยการสู่ขอบุตรีของโดสะ นามว่าเจ้าหญิงโน (No) ให้แก่บุตรชายคนที่สามของเขา


และบุตรชายคนรองของเขานี่เอง ผู้ซึ่งภายหลังจะขึ้นมาเขย่าหน้าประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในฐานะของจอมมาร เขาก็คือ โอดะ โนบุนางะ (Oda Nobunaga)


เขาเกิดเมื่อปี ค.ศ. 1534 เป็นบุตรชายคนที่สามของโนบุฮิเดะ แต่เป็นบุตรชายคนแรกที่เกิดกับภรรยาหลวง ดังนั้นเขาจึงเป็นผู้มีสิทธิ์สืบทอดโอวาริอย่างถูกต้องที่สุด เล่ากันว่าในวัยหนุ่มนั้น โนบุนางะเป็นคนที่มีนิสัยแปลกประหลาด มักไม่ทำตัวอยู่ในกรอบประเพณี มีนิสัยห่ามๆจนได้ชื่อว่าเป็นจอมแสบแห่งโอวาริ ได้รับมอบให้ปกครองปราสาทนาโกย่าในเขตแดนโอวาริ ตั้งแต่ยังหนุ่ม



โนบุฮิเดะ ผู้พ่อเป็นห่วงอนาคตของลูกชายที่เอาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆผู้นี้ยิ่งนัก เขามองออกว่าลูกชายของตนผู้นี้มีพรสวรรค์อันหาได้ยากนักแอบซ่อนอยู่ แต่รอบๆโอวารินั้นเต็มไปด้วยไดเมียวเหล่าศัตรูที่ร้ายกาจจ้องตะครุบกันตาเป็นมัน หากเขาไม่ทำอะไรสักอย่างลงไป ยังไม่ทันที่ลูกชายตัวแสบจะได้แสดงความสามารถให้โลกเห็น ตระกูลโอดะอาจจะพินาศซะก่อน จริงๆแล้วเขาคิดจะยกตระกูลโอดะให้โนบุนางะดูแล แต่ก็ต้องการจะควบคุมโนบุนางะและทำให้เขามีความเหมาะสมกว่านี้ ดังนั้นตอนที่เลือกว่าจะส่งใครไปแต่งงานกับเจ้าหญิงโนแห่งมิโนะ เขาจึงเลือกโนบุนางะ
ชื่อเสียงด้านความแสบของโนบุนางะทำให้โดสะเกิดความสนใจ และในที่สุดก็ตัดสินใจยกเจ้าหญิงโนให้แต่งงานกับจอมแสบแห่งโอวาริผู้นี้ เพราะรู้สึกประทับใจในความบ้าบิ่น และความแหกคอกของเขา แต่ในขณะเดียวกันก็ได้สั่งการลับกับลูกสาวของตนว่าหากอนาคตข้างหน้า โนบุนางะมีทีท่าว่าจะกลายเป็นศัตรูของตระกูลไซโต้ล่ะก็ ให้นางฆ่าเขาเสีย (แต่ภายหลังเจ้าหญิงโนหลงรักในตัวของโนบุนางะอย่างหมดใจ และคำสั่งฆ่านั้นก็ไม่เกิดขึ้น)


เกี่ยวกับการแต่งงานครั้งนี้ ผู้ที่เป็นหัวแรงใหญ่ของการผลักดันการแต่งงานทางการเมืองนี้ก็คือ ฮิราเตะ มาซาฮิเดะ ผู้ที่โนบุฮิเดะวางใจให้เป็นผู้ดูแลพฤติกรรมของโนบุนางะ


จนกระทั่งปี ค.ศ. 1551 โนบุฮิเดะได้เสียชีวิตลง ตระกูลโอดะเกิดความแตกแยก เพราะแม้ว่าโนบุนางะจะถูกตั้งตนเป็นผู้สืบทอด แต่คนในตระกูลบางคนก็ไม่ยอมรับ โดยเฉพาะน้องชายของเขา โอดะ โนบุยูกิ ซึ่งได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากบรรดาญาติผู้ใหญ่คนอื่นของตระกูล รวมไปถึงแม่ทัพคนสำคัญด้วย เช่นชิบาตะ คัตสึอิเอะ หรือ ฮายาชิ ฮิเดซาดะ แต่โนบุนางะก็สามารถเอาชนะกองทัพของโนบุยูกิและเหล่าญาติๆที่คิดก่อการได้จนหมด และทุกครั้งที่ก่อการล้มเหลว ญาติมิตรที่สนับสนุนโนบุยูกิก็ไปเข้ากับโนบุนางะมากขึ้นหรือไม่ก็ถูกสั่งประหาร แต่ตัวของโนบุยูกิรอดชีวิตมาได้ทุกครั้งเพราะโนบุนางะเห็นแก่สัมพันธ์พี่น้อง และแม่ของพวกเขาได้ขอร้องเอาไว้
 แต่ในครั้งสุดท้ายนี่เอง เพื่อจะจัดการทุกอย่างให้จบสิ้น โนบุนางะจึงเรียกตัวโนบุยูกิเข้าพบโดยแกล้งป่วย และสังหารโนบุยูกิ น้องชายแท้ๆของตนลงเสีย การกระทำนี้จะบอกว่าเป็นจุดเริ่มตำนานจอมมารก็ว่าได้


เป็นอันว่าโนบุนางะสามารถกุมอำนาจในตระกูลได้อย่างเบ็ดเสร็จ กลายเป็นจ้าวแห่งโอวาริที่แท้จริงได้แล้ว เขาก็เตรียมพุ่งเป้าไปสู่การศึกที่แท้จริงกับอิมากาว่า โยชิโมโตะ อันเป็นศึกสำคัญที่พลิกโฉมหน้าประวัติศาสตร์และทำให้โนบุนางะได้ผงาดขึ้นมา"โว้ยยาวจริงๆครับตอนนี้พี่น้องเอ๊ย*0*

"ไม่เห็นมีประวัติศาตร์เกี่ยวกับ การตาย อย่างลึกลับ ด้วยโรคของ โนบุนางะ เลยนี้เบรค..."

แกร๊กๆๆๆๆๆ

ผิดแล้วคะอเลน...ประวัติศาตร์กำเนิดจอมมารนั่น คือ จะให้พูดง่ายๆ ว่า โอดะ โนบุนางะ คือซอมบี้นี้เอง ผู้กอบกู้ความตายไม่อยากลงบันทึกเกี่วกับ โอดะ โนบุนางะ ที่ประสบความสำเร็จเกี่ยวกับ การคืนชีพ เพราะว่า โอดะ โนบุนางะ ได้หลงระเริงกับความสามารถใหม่และสุดยอดขุมพลังของเขา แต่มันยังไม่สมบูรณ์ ร่างกายของโอดะ โนบุนางะจะแก่ไปตามกาลเวลาและเน่าสลายไปในที่สุด บันทึกการคืนชีพ โอดะ โนบุนางะ คือ คำสาปร้ายเพราะว่า มันทำให้เขามีอำนาจ ถึงกับเกือบที่จะ ยึดครองประเทศได้ ถ้าไม่ถูกคัดควางเพราะ อิเอยาสึ ใช่ไหมคะ...

"ถูก+!!~ยูคุงเนี่ยฉลาดกว่าอเลนจังซะอีก-3-แต่เรามาเข้าเนื้อเรื่องปัจจุบันกันเลยดีกว่านะครับผมนิ้วงอแล้วละฮะๆ"เบรคพูดพลางนวดนิ้ว...

ปิ๊งป๊อง!!~

ต่อไปนี้คือเรื่องที่อาจเป็นไปได้เกี่ยวกับการกำเนิดซอมบี้...10ปีข้างหน้าจะมีหมาซอมบี้ให้ทุกคนเห็นกันแล้วละเด้อ!!~

ต่อไปนี้คือเรื่องจริง ข้อมูลจริง ไม่อิง อะไรเลยครับ

--------------------------

"

5 เหตุผลวิทยาศาสตร์ที่สามารถทำให้ซอมบี้เกิดขึ้นจริง

พูดถึงซอมบี้ คุณคิดถึงอะไร และอะไรที่ทำให้ซอมบี้เป็นสิ่งที่คนอื่นต่างหวาดกลัวๆ ทั้งๆ ที่มันเป็นเพียงแค่จินตนาการ
เรากลัวซอมบี้ก็เพราะสักวันสักวันหนึ่งถ้าเราเป็นซอมบี้สูญเสียอารมณ์ ความคิด และองค์ประกอบต่างๆของมนุษย์ หรือเรากลัวซอมบี้ที่พุ่งเข้ามาขย้ำคอหอยและกัดกินร่างเราอย่างเจ็บปวด หรือคนในครอบครัวเรากลายเป็นซอมบี้และเราจำเป็นต้องฆ่าเพื่ออยู่รอด หรือรัฐบาลใจร้ายใส่บึ้มระเบิดเมืองของเราจนพังทลายเพียงเพราะเราเป็นซอมบี้ ฯลฯ
แน่นอนในโลกแห่งความจริงเราก็นึกแต่ว่าซอมบี้เกิดจากเวทมนต์ของวูดู แต่ ถึงอย่างไรก็มีนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่งๆ มาบอกว่า เอ้ยๆ ซอมบี้ที่อาการเหมือนคนติดยา ไม่มีสติ และทำอันตรายต่อผู้คนนะใช่เปล่า มีสิ มีเหตุผลที่ทำให้เราเป็นซอมบี้ได้นะ มีๆ สามารถอธิบายเป็นวิทยาศาสตร์ด้วยนะจะบอกให้
และนี้คือ 5 เส้นทางของมันที่ซอมบี้สามารถเกิดได้โดยวิทยาศาสตร์

 

อันดับ 5 ปรสิตสมอง

ใครเคยดูการ์ตูนเรื่องปรสิตของอาจารย์นาโอกิ หรือไบโอ 4 อาจโอ้ๆ เยสนั้นแหละ
ความจริงเรื่องราวของปรสิตที่ซอนไซถึงสมองและสามารถควบคุมจิตใจ,บงการให้เรา ทำตามคำสั่งของมันได้นั้นมีอยู่จริง อีกทั้งไม่ใช่เรื่องใหม่ หรือไกลตัวแต่อย่างใด มีให้เห็นใกล้ๆ ตัวมาแล้ว เช่น Sacculina Carcini เป็นหอยเพรียงตระกูลหนึ่งที่ตัวเมียสามารถเจาะกระดองปูแล้วเปลี่ยนให้ปูเป็น ซอมบี้และทำตามคำสั่งมัน โดยปูจะมีชีวิตอยู่เพื่อรับใช้ปรสิตเพียงอย่างเดียวกิจวัตรเหลือแค่กินและ กินเพื่อป้อนอาหารทั้งหมดให้กับปรสิต หรือจะเป็นพยาธิชื่อ Dicrocoelium dendriticum ที่สามารถบงการมดงานได้ เป็นต้น

ส่วนปรสิตที่สามารถควบคุมสมองของคนนั้นก็มีและอยู่ใกล้ๆ ตัวเรานี้เอง เรียกว่า Toxoplasma Gondii มันเป็นปรสิตตัวเล็กๆ นี้สามารถบงการหนูได้ และมันจะบงการบังคับให้หนูให้แมวฆ่าเพื่อให้มันกระโดดข้ามไปอาศัยในลำไส้ของ แมวและแพร่พันธุ์ผ่านอุจจาระ นอกจากนี้มันสามารถบงการสัตว์อื่นๆ ได้ รวมถึงคน!! ใช่ มันบงการคนได้!
คนที่จะโดนปรสิตซอนไซสมองและควบคุมส่วนมากมักเป็นสตรีตั้งครรภ์หรือพวกที่มี ภูมิคุ้นกันโรคต่ำ และเมื่อเจ้าแมลงนี้ซอนไซสมองสุภาพสตรีจะติดเชื้อโดยผลคือทำให้เฉลียวฉลาด ขึ้น แต่อารมณ์จะแปรปรวนชอบแสดงออกทางความรักแนว Sexy naughty y แต่ผู้ชายนั้นตรงกันข้ามกันคือโง่ลง ขี้ระแวง ขี้หึง บ้า แต่ขณะเดียวกันก็ซื่อสัตย์มากขึ้นเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีอาการอื่นๆ ตามมา เช่นซึมลง อ่อนแรงแขนหรือขาข้างใดข้างหนึ่ง ปวดศีรษะ ชัก และหมดสติ คลื่นไส้(อาการเหมือนซอมบี้ไหมล่ะ)
อาจเป็นเรื่องขำๆ แต่จากสถิตพบว่าพลเมืองเกือบครึ่งโลกจากประเทศ 39 ประเทศถูกแมลงชนิดนี้ควบคุมแล้ว(ของไทยประมาณ 12%) ซึ่งผู้ชายติดมากที่สุดและแสดงอาการขี้หึงและอารมณ์ร้อนขึ้น(เช่นขับรถห่วย แตก, การศึกษาต่ำ, ป่าเถื่อน, จลาจล ฯลฯ)แล้วคุณคือหนึ่งในเหยื่อของมันหรือเปล่า?

อันดับ 4 พิษ (Neurotoxins)

(Neurotoxins เป็นพิษที่พบมากที่สุดในงูกลุ่มElapidae เช่น.งูเห่า)
เคยมีการตรวจสอบส่วนผสมยาทำซอมบี้มาแล้ว ซึ่งน่าสนใจคือมันมีส่วนผสมของพิษค่อนข้างเยอะ ซึ่งพิษเหล่านี้ก็มี”Belladonna” (เป็นพืชมีพิษมีดอกสีแดงรูปร่างคล้ายระฆัง ) , “แอปเปิ้ลหนาม” (thorn apple), พิษงู พิษแมงมุมยักษ์ ฟูโกะ (ปลาปักเป้าญี่ปุ่น) และสารพิษที่มีอยู่ในสัตว์เลื้อยคลาน แมลงหลาย ๆ ขา เช่น ตะขาบ กิ้งกือ ซึ่งสารพวกนี้จะทำให้เกิดอาการหลอน ประสาทหยุดทำงาน ส่งผลให้ตายชั่วระยะเวลาหนึ่งถ้าใช้ปริมาณที่ถูกต้อง

แล้วคนตายแล้วฟื้นกลายเป็นทาสของหมอผีได้อย่างไร? ข้อนี้อธิบายได้ว่า เชื่อว่าคนตายยาพิษที่หมอผีให้กินนั้นจริงๆ แล้วไม่ตาย และคนตายจะนำมาฟื้นคืนชีพด้วยการนำรักษาด้วยยาถอนพิษ จากนั้นหมอผีจะให้กินยาอีกชนิดหนึ่ง เรียกกันว่า “แตงกวาซอมบี้” (zombie cucumbers) ซึ่งมีส่วนผสมของสารพวกโปรตีนอัลคาลอยด์ สารพวกนี้คนที่กินเข้าไปจะเกิดความจำเสื่อม และถ้าโดนเข้าไปมาก ๆ จะทำให้กลายเป็นคนไร้ความนึกคิด จดจำอะไรไม่ได้ เพราะเซลล์สมองและประสาทบางส่วนถูกทำลาย ..และนั่นหมายถึง ซอมบี้ ศพคืนชีพ ทาสผู้ซื่อสัตย์
เรื่องราวที่เห็นได้ว่าซอมบี้เกิดจากยาสั่งคือเรื่องของคลาอุส นารุคิส(Clairvius Narcisse) เขาเคย เสียชีวิตมาแล้ว ด้วยโรคความดันโลหิตสูงและโรคไต ในโรงพยาบาลอัลเบอร์โต ชูไบร่า แห่งเฮติ บันทึกบอกไว้ว่าเขาเสียชีวิตลงเมื่อ 2 พฤษภาคม ใน1962 เวลา 1.45 น. และแพทย์สองคนได้ยืนยันแล้วว่าเขาตายจริงๆ……แต่แล้วในปี 18 ปีต่อมา ผู้คนในหมู่บ้านเวสเทเรบ้านเกิดของคลาอุส ต่างแตกตื่น เมื่อพบคลาอุส นารุคิส ออกมาเดินเพ่งพาน เขาเล่าว่าฟื้นขึ้นมาจากความตายและถูกนำตัวไปกระท่อม เพื่อใช้ทำงานร่วมกับซอมบี้ตัวอื่นทำไร่อ้อย และเมื่อความจำของเขากลับคืนมา จนจำได้ว่าเขาคือใคร เขาจึงเดินทางกลับบ้านเกิดและ มีการยืนยันว่าเขาคือคลาอุส นารุคิสจริงๆ

อันดับ 3 เชื้อโรคแห่งความโกรธเกรี้ยว (The Virus)


เรื่องราวของไวรัสกลายประเด็นในหนังที่ชอบมาเล่นมากที่สุด เช่น หนังเรื่อง 28 Days Later ไวรัสที่ระบาดในมนุษย์จนกลายเป็นซอมบี้ที่เหมือนคนบ้าที่ไม่ได้รับการเยียว ยาจิตใจ มันจะที่ฆ่าคนไร้เหตุผลมันจะโจมตีคุณข้างหลัง กัดกินสมอง โอ้ ……….ดูๆ ไปก็เหมือนเชื้อบนโลกเรานี้แหละ
โรคที่ใกล้เคียงไม่สิเหมือนเลยก็ว่าได้กับไวรัสซอมบี้คือ โรควัวบ้า Bovine Spongiform Encephalopathy (BSE) เป็นโรคที่เกิดขึ้นกับวัว เริ่มระบาดในประเทศอังกฤษเมื่อปี 1986 และสามารถเกินขึ้นในคนได้โดยเรียกโรคนี้อีกชื่อหนึ่งว่าสมองฝ่อ คนที่ติดโรคนี้มันคล้ายๆ ซอมบี้มาก คือ อาการจะเริ่มแรกจะเบื่ออาหาร ความจำเสื่อมเช่นจำชื่อญาติสนิทไม่ได้ จำเบอร์โทรไม่ได้ พฤติกรรมเปลี่ยนไปเช่นการเปลี่ยนแปลงท่าเดินเซไปเซมาแยกตัวออกจากสังคม มีอาการประสาทหลอน, เครียดโกรธง่าย, มีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็น(มือสั่น ทรงตัวไม่ได้ หกล้มบ่อย) และเมื่อปล่อยโรคนี้ไว้นานๆ เข้าผู้ป่วยจะ ไม่สามารถควบคุมการเคลื่อนไหว ตาบอด กล้ามเนื้ออ่อนแรง โคม่า และเสียชีวิตในหนึ่งปี

อีกโรคชนิดหนึ่งที่ใกล้เคียงกับไวรัสซอมบี้ก็คือ “โรคพิษสุนัขบ้า”ที่ทำให้สัตว์เลี้ยงของคุณบ้าคลั่งและหันมาทำร้ายคุณได้
แม้โรควัวบ้าจะหายาก(แม้บางทีไม่หายากตามที่เราคิด) ประมาณ 1/1000000 คน แต่มันก็ทำให้ประเทศยุโรปและอเมริกาคลั่งมาแล้ว ถึงขั้นไม่กินเนื้อวัวและฆ่าวัวตายไปหลายพันตัวเพียงเพราะเจอวัวตัวเดียวติด โรคชนิดนี้(เหมือนกรณีไข้หวัดไก่บ้านเรา) อีกทั้งยังเป็นโรคที่ผู้ก่อการร้ายนิยมมาใช้บ่อยๆ(ใส่ในจดหมายไง) ดังนั้นเราจะพูดเต็มปากเต็มคำหรือเปล่าละว่าคนธรรมดานั้นน่ากลัวกว่าซอมบี้ เสียอีก

อันดับ 2 การเกิดใหม่ของเซลล์ประสาท (Neurogenesis)

การเกิดใหม่ของเซลล์ประสาท(Neurogenesis) เป็นกระบวนการที่เซลล์ต้นกำเนิดประสาทแบ่งตัว เจริญพัฒนา เดินทางไปยังบริเวณที่จำเพาะ และเกิดไซแนปส์กับวงจรประสาทเดิม และสามารถทำหน้าที่เซล์ประสาทที่สมบูรณ์ได้ มีปัจจัยหลายอย่างที่ควบคุมกระบวนการดังกล่าวทั้งในระดับยีน เซลล์ พฤติกรรม และสิ่งแวดล้อมที่เราอาศัยอยู่
มันเริ่มมาจากเรื่องของไมค์ ไก่ไร้หัว (Mike the headless Chicken)มีอีกกรณีคือ มี ไก่ในต่างประเทศที่โดนตัดหัวขาดกระเด็น แต่ตัวมันกลับยังไม่ตายเพราะเลือดมันแห้งเร็วแถมอยู่ได้อีกหลายวัน….อัน เนื่องมาจากตอนขวานจามใส่หัวไก่นั้นขวานไม่ได้ตัดเส้นประสาทสำคัญของไก่ไป ด้วย แล้วเส้นประสาทเหล่านั้นก็ประสานขึ้นมาใหม่จนไก่มีชีวิตได้โดยไม่จำเป็นต้อง มีสมอง เพราะตัวของมันคือสมอง ซึ่งได้รับโปรแกรมให้หายใจ เคลื่อนไหวได้ตามปกติ(เพียงแต่มองไม่เห็นเฉยๆ) นอกจากนี้บางทีไร้หัวและมีชีวิตอยู่ได้นั้นเคยเกิดขึ้นมาแล้ว เหมือนในกรณีของ นักโทษโดนประหารโดยตัดคอขาด แต่เขายังมีชีวิตอยู่โดยเอามือมาจับที่หัวที่หายไปและคลำไปทาง ผนังเป็นลอยมือที่เปื้อนเลือด ไปได้อีกหลายเมตรก่อนที่

เรื่องราวการคืนชีพคนที่ตายแล้วให้กับมีชีวิตนั้นยังเป็นเรื่องราวท้าทายของ มนุษย์ทุกยุคทุกสมัย นักวิทยาศาสตร์จากศูนย์การวิจัยกู้ชีพซาฟาร์ แห่งมหาวิทยาลัยพิตต์สเบิร์ก (Pittsburgh’s Safar Centre for Resuscitation Research) ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้นำแนวคิดนี้ไปพัฒนาวิจัยหลายๆ อย่าง เช่นการทดลองกับ “สุนัข” ที่เพิ่งตายไปในเวลาไม่นานมาชุปชีวิตใหม่อีกครั้ง โดยมีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน เพียงแค่ทำให้อุณหภูมิในร่างกายของสุนัขเหลือแค่เพียง 7 องศาเซลเซียส เพื่อรักษาเนื้อเยื่อและอวัยวะต่างๆ ของร่างกายให้อยู่ในสภาพดีที่สุด ก่อนเริ่มแทนที่เลือดด้วยน้ำเกลือ เมื่อเสร็จสิ้นตามขั้นตอนดังกล่าวแล้ว ก็จะมีการกระตุ้นด้วยกระแสไฟฟ้าเพื่อให้หัวใจกลับมาทำงานได้เป็นปกติอีก ครั้ง ผลออกมาคือเราจะได้สุนัขที่ฟื้นคืนชีพจากความตายอีกครั้ง และสภาพมันปกติทุกประการ
โดยสุนัขเหล่านั้นจะถูกเรียกว่า “หมาซอมบี้” โดยเชื่อว่าภายใน 10 ปีข้างหน้าเทคโนโลยีนี้นำมาใช้จริง โดยเฉพาะอย่างในสมรภูมิรบ!!

อันดับ 1 นาโนบอดี้(Nanobots)

นาโนบอดี้ เป็นหุ่นยนต์ขนาดเล็กจิ๋วสุดๆๆ ที่นักวิทยาศาสตร์สร้างขึ้นเพื่อทำหน้าที่หลายอย่างตั้งแต่การช่วย สังเคราะห์โปรตีนด้วยกันเอง ควบคุมให้ปฏิกริยาต่างๆ เกิดขึ้นได้ เช่นการเผาผลาญอาหาร การกำจัดสิ่งแปลกปลอม เป็นต้น ควบคุมการเข้าออกของสารเคมีต่างๆ ผ่านเซลล์ ไปจนถึงการทำหน้าที่เป็นโครงสร้างให้กับอวัยวะ หรือทำให้สัตว์เคลื่อนไหวได้ ฯลฯ
นอกจากนาโนบอดี้ มันมีคุณสมบัติเหลือเชื่ออีก คือมันสามารถวิวัฒนาการไปจนมีความฉลาดพอๆ กับมนุษย์ได้,ความสามารถในการประกอบตัวเอง และมันยังสามารถขยายพันธ์ได้ด้วย (Self Replication)
แม้นาโนบอดี้จะเป็นของใหม่ แต่ตามที่ศึกษา ภายในระยะเวลา 10 ปี เราอาจมีนาโนบอดี้ที่สามารถเลื้อยไปในร่างกายของคุณทันทีโดยไม่ต้องพึ่งหมอ อีกต่อไป


แต่รู้ไหมว่าเราลืมอะไรไปอย่าง?
นาโนบอดี้ อาจจะนำไปสู่หายนะที่คาดไม่ถึง ถ้าสมมุตินาโนบอดีที่ว่าเกิดทำสำเร็จ จนมันสามารถอยู่อาศัยบนร่างเราเรียบร้อย และมันมีความฉลาดพอๆ กับมนุษย์ และถ้าเกิดเราตายลงแต่เจ้าเทคโนโลยีบอดียังโปรแกรมทำงานอยู่โดยไม่ได้ตาย พร้อมกับเราละอะไรจะเกิดขึ้น? แม้สมองของเราจะตายแล้วเจ้านาโนนี้ก็จะทำงานและมันจะทำการสร้างรูปแบบระบบ ประสาท ขึ้นมาใหม่ บังคับกล้ามเนื้อในร่างกายของเรา แม้ร่างกายจะผุเน่าและสมองตายแล้ว แต่ซอมบี้ที่นาโนบอดีบงการอยู่ก็ยังสามารถแคลื่อนไหวได้ตามที่มันนึก
และเมื่อนาโนนี้ถูกโปรกรรมการเพิ่มจำนวนตัวเอง (self-replicate) มันจึงต้องการเพิ่มจำนวนและหาร่างใหม่ดังนั้นมันเลยบงการร่างนั้น กัดเหยื่อที่แข็งแรง เพื่อให้นาโนบอดี้ เข้าไปติดตั้งในสมองเจ้าของบ้านใหม่ของมัน และมันสามารถปิดการทำงานของสมองเหยื่อรายใหม่ได้ และเมื่อสมองหยุดทำงานมันก็เปลี่ยนระบบประสาทใหม่ ที่นี้เราก็จะได้สมาชิกใหม่ในกองทัพไม่ศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีวันตายได้แล้ว"

"เบรคคะ..."เอคโค่พยายามพูดไม่ให้เบรคพู๔ดมากกว่านี้....

"จะว่าง่ายๆนายเป็นแค่นาโนบอดี้ ที่เหลือความทรงจำของร่างที่นายถูกฝังเอาไว้ในอเลน ซิลเลอร์ นายคือ นาโนบอดีเหรือซอมบี้ ที่แข็งแกร่งและสมบูรณืแบบที่สุดในตอนนี้ เราจะใช้นายเป็นอาวุธทำลายล้างซอมบี้ และ ให้นรายใช้ประโยชนร์พวกเราเหมือนดั่ง รูปแบบ พึ่งพาอาศัยกัน เราจะช่วยนายหาฆาตกร ที่ฆ่าพ่อแม่ และพรากทุกสิ่งของนายไป..."เบรคพูดอย่างเย็นๆ...

"เอาอย่างนั่นก็ได้...เราจะร่วมมือกันฆ่าพวกซอมบี้!!~"อเลนลุกขึ้นจับมือเบรค!!~

ติดตามตอนต่อไป.........

นิ้วพังแล้วครับ....

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา