คุณหมอหัวใจแหวว

คุณหมอตรัยทำงานที่โรงพยาบาลพญาเย็นได้สองปี

หมอแอ๊ดก็ออกไอเดียชวนเพื่อนฝูงไปทำงานนครปฐมแถวบ้าน

ตัวเอง โดยให้เหตุผลว่าไม่ไกลกรุงเทพและจากการสำรวจลูกค้า

ก็น่าจะเยอะ เพราะใกล้ตลาดและใกล้สถาบันการศึกษาหลายแห่ง

คนแรกที่รีบตอบตกลงคือหมอดิว เพราะตอนนี้วิชาแก่กล้ามาก

แล้ว อยากออกไปเปิดคลินิกเองเสียที

คนอื่นๆอย่างหมอเจนั้นกลับไปอยู่จังหวัดราชบุรี โดยมีหมอปิง

ติดต่องแต่งเป็นไส้ติ่ง ทำงานอยู่ที่โรงพยาบาลเดียวกัน 

ท่าทางทั้งคู่จะได้เป็นเขยราชบุรีอย่างแน่นอนแล้ว หมอปิงมีคู่หมั้น

ทำงานเป็นสาวแบงค์ธนาคารดัง ส่วนหมอเจก็มีแฟนสาวที่คบหา

ดูใจมานานเปิดร้านกาแฟกิ๊บเก๋อยู่ใกล้ๆที่ทำงาน 

หมอเบียร์นั้นรีบชิงตัดหน้าแต่งงานกับพี่กุ้ง ทันตแพทย์สาวที่

คบกันมาตั้งแต่สมัยไปใช้ทุน ซึ่งขณะนี้ไปเปิดคลินิกในอำเภอ

กำแพงแสนใกล้กับที่ทำงานของญาติผู้พี่ที่เป็นสัตวแพทย์

หรือก็คือพี่หมีนั่นเอง

เภสัชกรอั๋นนั้นล้ำหน้าเพื่อนๆ เพราะมีลูกไปแล้วถึงสองหน่อ

ตอนนี้ชายหนุ่มเปิดร้านขายยาอยู่กับภริยาที่เป็นอายุรแพทย์

ของโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดเพชรบุรีบ้านเกิดภริยาสาว

ที่หมอตรัยทำตัวเรียบร้อยและออกอาการเกย์จนเป็นข่าวนี้ เกิดขึ้น

หลังจากมาทำงานที่โรงพยาบาลชุมชนมั่นคงนี่แหละ คุณหมอย้าย

มาใหม่ โสด หน้าตาดี แถมมีดีกรีต่างประเทศ (แถมเป็นกุมารแพทย์

รักเด็กอีก เกรดนางงามอย่างงี้ จะไม่เนื้อหอมยังไงไหว)จึงไม่

แปลกที่มีสาวมาทอดสะพานเหล็กเสริมคอนกรีตให้หลายราย

ที่มาแรงที่สุดก็คือพยาบาลพี่ไก่ หรือจุฑาทิพย์ พยาบาลวัยใกล้

ขึ้นคานที่มาถูกสเป็คคุณหมอเข้าอย่างจัง พยาบาลพี่ไก่จีบ

คุณหมอแบบเนียนๆแต่ก็กันท่าคนอื่นอย่างเหนียวแน่น ลูกล่อ

ลูกชนเพียบ เก๋าเกมส์สมกับที่อยู่มานาน

ส่วนอีกรายที่ไม่แพ้กันคือหมอจ๋อม นักศึกษาแพทย์อินเทิร์นที่

ต้องมีเรื่องให้"พี่ตรัย"ช่วยเหลือตลอด สองคนนี้เจอกันทีไรก็

ปะทะคารมกันได้ทุกครั้ง แต่ละครั้งก็แรว้งส์เสียจนคุณหมอตรัย

เริ่มรำคาญ

"วันก่อนพี่ไก่มาเล่าให้ฉันฟังว่าน้องจ๋อมไปด่ากระทบเค้าที่

วอร์ดน่ะ เล่าไปก็จะร้องไห้ไป ฉันทำอะไรไม่ถูกเลยว่ะริน"

หมอตรัยทำหน้ายุ่งบ่นกับเพื่อนในบ่ายวันหนึ่ง ทั้งคู่เข้ามาหามื้อ

กลางวันทานกันที่คาเฟทีเรียของโรงพยาบาล วันนี้คุณหมอ

พยายามหลบเลี่ยงที่จะเจอสองสาวอย่างสุดความสามารถ

"อ๋อ ได้ข่าวแล้วล่ะ ตรงทางเดินเลยนี่ แกจะเนื้อหอมก็ให้มัน

บันยะบันยังมั่งนะยะ หมั่นไส้"

หมอรินสะบัดบ๊อบพรืด ก่อนจะเล่าสิ่งที่ประสบพบเจอให้เพื่อนฟัง

"ยัยจ๋อมก็ไปน้ำหูน้ำตาแตกกับคนคนอื่นเหมือนกั๊น ว่ายัยป้าไก่

แกล้งเค้า จะให้เค้าเสียชื่อน่ะ มาร้องไห้กันข้างหูชั้นเลยละตรัย

คงกะให้ชั้นเอามาเล่าให้แกฟังแหงๆ"

เพื่อนเกย์ตัวจริงโหนเสียงสูงปี๊ดอย่างออกรส

"ฉันเบื่อๆว่ะตอนนี้ ไม่อยากคบใครที่มันไม่ใช่น่ะ ที่ผ่านๆมาฉันก็มี

 บทเรียนพอแล้ว อยากอยู่สงบๆซักพักจัง"

หมอตรัยไม่คิดเหมือนกันว่าหลังจากพูดประโยคนั้นออกไป

เขาจะได้อยู่อย่างสงบ(และมีข่าวลือว่าเป็นเกย์)ไปอีกนานเท่านาน

เพราะพอหมอแอ๊ดได้ยินดังนั้น ก็รวบรวมสมัครพรรคพวกชายใจสาว

ไปกิ๊วก๊าวหาคุณหมอตรัยที่โรงพยาบาลบ่อยๆ แถมยังชวนแกม

บังคับให้เปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวมาเป็นแบบเดียวกับหมอดิวที่

ออกแนวเกย์เกาหลี-ญี่ปุ่น

จากนั้นก็ให้ชวนสองสาวไปคาราโอเกะด้วยกัน ซึ่งพอแม่สองสาว

เห็นลีลาการร้องเพลงระดับเทพเอเอฟยังอายของอีตาหมอตรัยเข้า

วันรุ่งขึ้นข่าวลือเรื่องคุณหมอตรัยเป็นเกย์ก็แพร่สะพัดหึ่งไปทั้ง

โรงพยาบาล

"ขอโทษนะตรัย เค้าไม่คิดว่ามันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้"

หมอแอ๊ดหน้าจ๋อยอย่างสำนึกผิด

 "อื้อหือ อิแอ๊ดไม่ต้องมาตีหน้าเศร้าเลย ดูดิ๊ตอนนี้ไอ่ตรัยม่าง

กลายเป็นเกย์ไปแล้วเนี่ย แล้วสาวที่ไหนจะกล้ามาคบกะมันวะ"

หมอปิงว้ากเพื่อนสาวที่นั่งแอบหลังหมอตรัยอยู่

"ไม่ต้องมาทำแอบเลยอิแอ๊ด มาให้กรูเขกกะโหลกสักที ไอ้ความ

คิดที่จะทำเรื่องงี่เง่าแบบนี้มันจะได้หายไปมั่ง"

หมอปิงลุกขึ้นท่าทางจริงจังจนหมอตรัยต้องห้าม

"ไม่เอาน่าปิง แอ๊ดทำแบบนี้ก็เพราะห่วงเราไม่ได้คิดไม่ดีอะไร

สักหน่อย แกก็รู้นี่ "

หมอตรัยออกโรงปกป้องเพื่อน ขณะที่หมอแอ๊ดซึ่งแอบอยู่ข้าง

หลังแลบลิ้นปลิ้นตาใส่หมอปิงที่ฮึดฮัดทำอะไรไม่ได้ ผิดกับ

ท่าทางสำนึกผิดเมื่อครู่

...จากเรื่องราวและข่าวลือที่โหมกระหน่ำ ประกอบกับภาพลักษณ์

ที่ตอนนี้หมอตรัยแต่งตัวซะเกย์จ๋าแถมรายล้อมด้วยหมู่เพื่อนสาว

แถมเจ้าตัวก็ไม่ได้ออกมาปฏิเสธแต่ประการใด ทำให้สาวน้อยสาว

ใหญ่ที่มาทอดสะพานกันตั้งแต่แรก พากันถอนสมอถอยทัพกลับ

ส่วนรายที่จะมาทอดสะพานใหม่ก็ไม่มีเพราะได้รับข่าวสารจาก

บรรดาแมงเม้าท์ อานุภาพของข่าวลือทำเอาหมอตรัยได้ใช้ชีวิต

เงียบๆสมใจอยากอยู่ถึงสามปี!!!