เดชแม่ยาย
3) ผู้ใหญ่บ้านนางรอง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความผมตื่นขึ้นมาในยามเช้าที่สดใส หลังจากอาบน้ำชำระร่างกาย ผมแต่งตัวง่ายๆมานั่งที่ศาลาหน้าบ้าน สายใจ แม่บ้านทรงโตเดินนำกาแฟพร้อมขนมโปรดมาวางให้ที่โต๊ะหินอ่อน แล้วผมก็เหม่อมองดูหมู่บ้านจากตรงนี้พลางจิบกาแฟไป นี่คือสิ่งที่ผมทำประจำทุกเช้า ทุกบ่าย และทุกวัน กาลเวลาเปลี่ยนไป สรรพสิ่งรอบกายเปลี่ยนตาม สังขารร่วงโรยไปตามวัย แต่หัวใจของผมยังคงเฝ้ารอ...รอให้เธอกลับมา....สร้อย...ผมเหม่อมองไปที่ถนน หมายใจให้เธอเดินกลับมา มาหาผมพร้อมรอยยิ้ม แต่ก็ยังไม่มีวี่แววใดๆ ผมต้องทนฟังคำพูดของเจ้าคมที่พร่ำกรอกหูผมทุกวันให้ลืมเธอ ให้ผมเริ่มต้นชีวิตใหม่ ให้ผมยอมรับการเปลี่ยนแปลง แต่บางสิ่งสำหรับบางคนอาจดูเป็นเรื่องง่ายและทำได้ง่าย ทว่ามันกลับยากเย็นจนยากจะทำได้สำหรับบางคน เช่นเรื่องของผม ที่จะทำใจให้ลืมสร้อย.....19 ปี ดูมันจะเนิ่นนานสำหรับบางคน แต่สำหรับผมมันกลับดูสั้นเหมือนเพิ่งผ่านไปเมื่อวันวาน ภาพต่างๆของสร้อยยังแจ่มชัดอยู่ในความทรงจำของผมเสมอ ผมไม่อาจลืมเธอ หรือไม่อาจจะหยุดที่จะรักเธอได้เลยจริงๆ.....
“พี่ไม่ออกไปไหนรึวันนี้?”สายใจแม่บ้านทรงสะบึ้มถามผม
ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ
“เห็นเมื่อวานพี่กลับมาหน้าตาสดชื่น ไปทำอะไรมารึ?”
“เปล่า?ก็เหมือนทุกวัน”
“ไปเที่ยวกับสาวๆมาใช่ไหม?”สายใจมองยิ้มๆ
ผมนั่งเฉย...ไม่ตอบอะไร สายใจมองอยู่ครู่เมื่อเห็นว่าผมไร้อารมณ์ไม่สนใจอยากจะคุยก็เดินเข้าบ้านไป ผมนั่งมองไปเรื่อยเปื่อย พลันก็นึกถึงสาวน้อยคนเมื่อวาน”โสภาค่ะ....เรียกโสเฉยๆก็ได้ค่ะ...”คำพูดของเธอยังก้องอยู่ในสมองของผม กลิ่นกายที่หอมหื่นคุ้นเคยนั่น หน้าตารอยยิ้มช่างคร้ายๆกับใครบางคน แต่ไม่ใช่สร้อย แววตาขี้เล่น รอยยิ้มที่หวานและชื่นใจที่ได้เห็น อื่ม..ระหว่างที่สร้อยยังไม่กลับมาสักที ผมน่าจะทำอะไรเล่นๆบ้างดีกว่า แม่สาวน้อยคนนี้ก็น่าสนใจ แค่เจอเธอยังพาจิตใจของผมล่องลอยได้ น่าจะมีอะไรให้ค้นหามากกว่านั้น ทำอะไรเล่นแก้เซ็งระหว่างรอสร้อยกลับมาดีกว่า......
....เจ้าคมถูกโทรตามมาหาผมที่ร้านของเจ๊พลอย ร้านอาหารตามสั่งที่หน้าตลาดแต่จัดร้านกึ่งคาราโอเกะแบบบ้านนอก ผมนั่งรอสักครู่เจ้าคมก็มาปรากฏตัว
“เรียกผมมาหานี่มีเรื่องชั่วๆเอ้ย...มีเรื่องอะไรจะปรึกษาครับพี่?”
เจ้าคมถามผมทันทีที่นั่งลงร่วมโต๊ะกับผม
“เอ่อ....ก็เรื่อง....เอ่อ....เมื่อวานนี้แหละ.....เอ่อ....มึงจำได้ไหม?.....เอ่อ....”
“โอ๊ะ...พี่เอ้ย? เป็นอะไรไปนี่ ติดอ่างตั้งแต่เมื่อไหร่. เรื่องเมื่อวาน....เอ...เมื่อวานนี้......อ่อ.....”
เจ้าคมดุผมที่พูดติดอ่าง แต่พอนึกถึงเรื่องเมื่อวานมันก็ยิ้มมองผมแบบเจ้าเล่ย์
“จะถามผมเรื่องอีหนูตัวน้อยๆคนนั้นหรอ...อะ..อะ...อะ.....จะเล่นเด็กเรอะพี่.....คุกน่ะ....อยากเสี่ยงเรอะ....”
เจ้าคมถามล้อๆ
“โธ่....ไอ้วรนุชคม ทีเมื่อก่อนมึงจัดหาผู้หญิงให้กูไม่เห็นมึงพูดคำนี้....กูเรียกมึงมาปรึกษาให้หาทางช่วย กูแค่อยากจะ เอ่อ...กูอยากจะ....เด็กคนนั้น...ว่ะ....”
“อยากจะเอาเด็กคนนั้น?...”เจ้าคมถามตรงๆ
“ไม่ใช่...กูแค่อยากรู้จัก อยาก...เอ่อ....”ผมพูดไม่ออก รู้สึกเขินอายถ้าจะพูดถึงเด็กคนนี้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้อยากจะเอาใครคนไหนก็สั่งเจ้าคมไปติดต่อมาให้ได้ไม่เกินมืด เพียงเงินมาทุกคนที่หมายตาก็ผ้าหลุด แต่กับเด็กคนนี้ เธอทำให้ผมรู้สึกมากกว่าจะร่วมรักกับเธอ.....
“โธ่พี่?...เด็กสาวสมัยนี้นะพี่ ไม่ใช่เด็กสาวสมัย 20 ปีที่แล้วนา พี่นี่ตกยุคไปแล้ว ยุคของพี่ สาวๆรักเดียวใจเดียว ไม่จำเป็นไม่มีผัวซ้ำ และถูกใจรักจริงถึงให้ สมัยนี้แค่มองตาถูกใจก็ชวนกันไปโจ๊ะแล้ว ยิ่งมีเงินถึงไม่ต้องพูด ถ้าจ่ายหนัก แม่ถ่างขาจับใส่ให้เองเลย ผมว่าถ้าพี่อยากจะ....”
“พอ...พอ...พอ...ไอ้คม มึงหยุดพูด เรื่องอย่างนั้นกูไม่อยากฟัง..”ผมยกมือห้ามเจ้าคม”กูเรียกมึงมานี่ กูอยากจะจีบเด็กคนนั้นว่ะ มึงคิดว่าพอมีทางไหม?”
“โคตรจะมีทางเลยพี่...มีอะไรล่ะที่เด็กคนนั้นจะปฏิเสธพี่”
“กูแก่กว่าเขาตั้งรอบกว่านะ?”
“แต่พี่มีเงิน มีชื่อเสียง เรื่องอายุไม่ใช่ปัญหา”เจ้าคมเอาข้อเด่นของผมลบข้อด้อยทันที
“แล้วมึงว่าอย่างกูถ้าไปจีบเขา เขาจะสนใจกูไหม?”
“โฮ้...พี่จะไปเสียเวลาจีบทำไม? เอางี้ ถ้าพี่อยากเอาเขาจริงๆ ผมจะไปติดต่อเอามาให้ ว่าแต่สู้เท่าไหร่?”
“ไอ้วรนุชหน้ามืด? มึงนี่มันคิดแต่จะเอาเงินทุ่ม เคยอยากได้หัวใจเขาบ้างไหม?”
“พี่นี่ตกยุคจริงๆ เด็กคนนั้นพี่ตีค่าสูงเกินไปแล้ว พี่ไม่สงสัยเหรอ ว่าทำไม? เด็กนั่นถึงมาที่นี่ เด็กนั่นอาจจะหากินในกรุงเทพฯจนปรุแล้วก้อได้ เลยเดินสายมาหากินกับพวกเศรษฐีบ้านนอก เป็นหลานเจ้าชมจริงหรอ พี่ก็รู้? ไอ้ชมมันเคยมีญาติที่ไหน และดูหน้าตาผิวพรรณ คนล่ะเหง้ากันเลย ไม่แน่...ไอ้ชมมันอาจพามาหากินเองก็ได้..”
ผมส่ายหัวมองหน้าเจ้าคม”เรื่องวรนุชอย่างนี้มีมึงคนเดียวที่คิดได้ ไปว่าเขาซะเสียหาย มึงสืบข้อมูลของเขามาดีแล้วรึ”
“ผมไม่ต้องสืบก็ดูออก เมื่อวานผมเห็นเด็กคนนั้นเล่นหูเล่นตาแพรวพราวกับพี่ จริตจะก้านยั่วยวนพี่เต็มที่ อย่างพี่ไม่ทันหรอก ระวังเถอะ พี่ไม่เคยเจอเด็กหลอก ถ้าเจอแล้วจะรู้ว่ามันร้ายขนาดไหน? ขอเตือน...”
“ทำอย่างกับมึงเคย.....กูไม่อยากคุยกับมึงแล้ว ชวนมาปรึกษาเสือกพูดให้กูใจฝ่อ กูแค่รู้สึกว่าเด็กนั่น ถูกชะตา และที่สำคัญ เด็กนั่นทำให้กูคิดถึงใครบางคน เหมือน...กูว่าน่าจะคล้ายๆนะ...”ผมบอกเจ้าคมและคิดคำนึงถึง ว่าเด็กคนนี้การพูดจาและท่าทางเหมือนใครอีกคนหนึ่ง แต่นึกไม่ออก
“พี่จะบอกว่าเด็กคนนี้เหมือนสร้อยหรอ? แต่ผมว่ามีแค่บางส่วน แต่ว่าสร้อยไม่ได้ตัวเล็กอย่างนี้นี่ ผมประมาณว่าจบม.6 อายุ 17 – 18น่าจะสูงกว่านี้ นี่คงสูงประมาณ 160ได้ สร้อยตอนอายุเท่านี้ตัวใหญ่กว่าเยอะ”เจ้าคมช่วยออกความเห็น
“เขาอาจเป็นเด็กเรียนก็ได้ เลยทำให้การเติบโตด้านร่างกายด้อยไปแต่ไปเติบโตทางสมองแทน”
“โธ่พี่...มองแต่แง่ดี พี่จำไม่ได้หรอ ว่าผู้หญิงพอโดนเจาะไข่แดงไปแล้วจะหยุดโต เด็กนั่นอาจโดนตั้งแต่อยู่ม.ต้นแล้วก็ได้ ตัวเลยหยุดโต ตัวเลยเตี้ยแค่นั้น....”เจ้าคมขัดขึ้นมาทำเอาผมใจหายเสียวแป๊ปๆ
“มึงนี่...พูดแต่ละอย่าง...ไม่เคยเข้าหูกูเลย จ้องแต่จะให้เขาโดนอย่างเดียว”ผมชักหงุดหงิดกับการให้คำปรึกษาของเจ้าคม
“ทำไมพี่? ถ้าอยากล่อเด็กคนนั้นจริงๆแล้วทำไมพี่ต้องมากเรื่องด้วย อย่างพี่ถ้าอยากจะล่อเขาจริงๆ มันไม่ยากและไม่ต้องมาคิดมากเลยเดินเข้าไปถามตรงๆ ว่าหนูจะเอาเท่าไหร่? รับรองไม่เกินสามหมื่นต่อครั้ง ราคานี้ขนาดนางงามจังหวัดแล้วนะ”
“เฮ้อ...มึงนี่หนอ....เอะอะจะให้เอาเงินชื้ออย่างเดียวเลย เมื่อวานกูลองหยั่งเชิงดูนิดๆแล้วว่าอยากช่วยออกค่าเล่าเรียนให้ กูเห็นไอ้ชมมันว่าถ้าเด็กคนนี้ถ้าคิดหาเงินทางนั้นล่ะก้อ ไม่ต้องมาถึงนี่หรอก อยู่กรุงเทพฯก็มีคนอยากออกให้เยอะแยะ”
“นั่นไง?ชัดเลยพี่ มันหวังโก่งค่าตัว”
ผมถึงเอามือกุมหัว”นี่มึงมองเด็กคนนั้นด้านนี้ด้านเดียวเลยหรือวะ?”
“ แล้วพี่จะให้คิดด้านไหนล่ะ? สมัยนี้แล้วนะพี่ เด็กที่พี่เห็นว่าไร้เดียงสาน่ะ บางทีอาจจะกร้านโลกกว่าที่พี่คิดก้อได้”
“เอางื้ดีกว่าไอ้คม? มึงกับกูมาพิสูทธ์กัน”
“พิสูทธ์อย่างไง?”เจ้าคมขมวดคิ้วถามผม
“กูจะลองจีบเด็กคนนี้ดู ถ้าเป็นอย่างมึงว่าจริงกูก้อไม่ได้เสียหายอะไร เสียแค่ค่าตัว แต่ถ้าไม่ได้เป็นอย่างมึงว่า กูก้อจะเก็บไว้เป็นบ้านเล็กของกู ก็เท่านั้น...”
“ที่แท้พี่นี่มันก็แค่อาการคนแก่เห่อของเล่นใหม่เท่านั้น คุยกันเสียยืดยาว สุดท้ายก็สรุปได้แค่นี้ อยากล่อเด็กๆ”
ผมหลบสายตาเจ้าคมที่จ้องมาที่ผมอย่างเจ้าเล่ย์และรู้ทัน
ตกเย็นของวันนั้นที่หน้าสำนักงานอบต. ผมกับเจ้าคมขับรถไปด้วยกัน แต่แปลกใจที่ไม่เห็นมีร้านขายหมูปิ้ง มองหาจนทั่วก็ไม่มีนอกจากกลุ่มคนที่มาเต้นแอร์โรบิกเพื่อสุขภาพ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการออกกำลังกายของชุมชน แต่วันนี้คนหนาตาผิดปรกติ และมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่มากเป็นพิเศษ เจ้าคมที่เป็นสารถีให้ผมหาที่จอดรถได้แล้ว ก็ชวนผมเดินหาร้านหมูปิ้งของโสภา และได้เจอเจ้าชมกำลังเก็บของอยู่...
“อ้าว?ไอ้ชมขายหมดแล้วหรอ”ผมทักเจ้าชมที่กำลังก้มๆเงยๆเก็บของอยู่
“หมดแล้วพี่...โดนเหมาหมด”เจ้าชมละมือจากการทำงานยืนขึ้นมาตอบผม
“แล้วใครเหมาวะ”
“กำนันเม้งจ๊ะพี่...”คำตอบของมันทำเอาผมชะงัก
“ไอ้เม้งมันเหมาหรอ? มันมาที่นี่ได้ยังไง? และมันรู้จักน้องโสด้วยหรอ?”
“จ๊ะพี่...มาถึงเขาก็สั่งยัยโสว่าไม่ต้องขายให้ใคร มีเท่าไหร่เหมาหมด”
ผมกัดฟันกรอด หนอยไอ้เม้ง นี่มึงข้ามถิ่นมาจากบ้านยางขาว มาจีบสาวๆของหมู่บ้านกูถึงถิ่นเลยหรือ ไอ้เม้ง มึงจะตามจองล้างจองผลาญกูไปถึงไหน ทุกเรื่องที่กูจะทำ จะต้องมีมึงโผล่มากวนประสาททุกที ไอ้เม้งหลังจากบ้านของมันถูกปล้นจนหมดตัวเมื่อ 20 ปีก่อน มันได้ย้ายไปอยู่ที่หมู่บ้านยางขาว มันไปสร้างอิทธิพลที่นั่น ฉ้อโกงผู้คนจนร่ำรวยอีกครั้ง แม้นแป๊ะองจะไปเฝ้าเง็กเซียนนานแล้ว แต่มันก็สืบสันดานต่ออย่างไม่เปลี่ยนเจตนา ตอนนี้มันได้เป็นกำนัน และเป็นโสด เพราะ กิมรั้งเมียของมันได้ตายไปเนื่องจากติดฟังละครวิทยุและเจอละครตื่นเต้นเลยเป็นลมช๊อคตายไป มันเลี้ยงสาวๆไว้หลายคน แต่ก็ไม่มีใครอยู่ได้นาน เพราะสันดานของมันเอาแล้วไม่เลี้ยงดู แล้ววันนี้มันคงจะมาคิดจีบโสภาแข่งกับผมอีก แล้วมันอยู่ไหน?....
“อ้าว....มาได้อย่างไงเล่า?ผู้ใหญ่คนดัง...”เสียงของไอ้เม้งทักมาทันที
ผมหันไปก็เจอไอ้เม้งในชุดวอส์ม มีสมุนเดินตามมาห้า – หกคนกำลังกินหมูปิ้งกันอย่างเอร็ดอร่อย
“แล้วมึงล่ะมาได้อย่างไง? ใครจุดธูปเชิญมึงมา?”ผมทักกลับไปแบบเจ็บๆ
“ปากของมึงนี่ไม่น่าอยู่เป็นผู้ใหญ่บ้านมาได้นานขนาดนี้เลย...”มันตอบเสียงเครียดๆ
“อวดร่ำอวดรวยอะไรหนักหนาวะ มาทำเป็นเหมาหมูปิ้งหมดร้าน จะเอาไปไหว้เตี๋ยไหว้ม่าว์มึงรึไง?”
กำนันเม้งทำหน้าดุ”ไอ้นี่ทะลึ๋ง?ลามปามไปถึงบุพการีที่ล่วงลับ มึงนี่เอาไว้ไม่ได้แล้ว เฮ้ย?เด็กๆ”
ลูกน้องของมันทำท่าขยับตัวตามคำสั่ง แต่ก่อนจะมีเรื่องเจ้าชมรีบมาห้าม
“อย่าเลยครับ?ท่านผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสอง ขอร้องละ อย่ามีเรื่องกันเลย ที่นี่กลางชุมชนนะครับ กำนัน –ผู้ใหญ่ก็โตๆกันแล้ว มามีเรื่องกันไม่อายบ้างรึครับ..เป็นอะไรสองคนนี่เจอกันไม่ได้เลย.”
กำนันเม้งทำท่าฮึดฮัด”ดีนะที่ไอ้ชมเตือนสติ ไม่งั้นมึงแหลก?”มันยังทำท่าขู่ผม
“มึงพูดอย่างกับกูกลัวมึงตายล่ะ กูต่างหากที่ต้องบอกอย่างงั้น แต่วันนี้กูก็ไม่อยากมีเรื่องด้วย เดี๋ยวน้องโสของกูเห็นแล้วจะหาว่ากูป่าเถื่อน”
“อะไรนะ?ไอ้ผู้ใหญ่ น้องโสของมึง ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่ามึงพูดผิดหรือเปล่า”กำนันเม้งหัวเราะร่า”น้องโสไปเป็นของมึงตั้งแต่เมื่อไหร่ แหม...แหม...แหม...แก่จะเป็นลุงของน้องโสแล้ว เรียกเขาน้อง พูดมาได้ไม่อายปาก”
“แล้วมึงล่ะ เรียกน้องโสก็ยังไม่อายปากเลย มึงมันรุ่นปู่เขาแล้ว นี่มึงก็หวังจะมาจีบน้องโส ด้วยล่ะสิ ทำเป็นเอาเงินมาทุ่ม แก่จนเหนียงยานแล้วยังมักมากในกาม น้องโสคงจะเอาอยู่หรอก...”
“แล้วมึงหนุ่มกว่ากูตายล่ะ?”ไอ้เม้งยังไม่ยอมลดลา”น้องโสกับกูรู้จักกันมานานแล้วโว้ย รู้จักจนสนิทกันเลย กูมาหามาคุยด้วยทุกวัน วันนี้เขายังชวนกูมาเต้น อาราบิก ออกกำลังกายเลย”
“เขาเรียกแอโรบิกโว้ย ไอ้วรนุชมีเขา มึงนี่จับสลากได้เป็นกำนันมาหรือเปล่า เรียกแค่นี้ยังผิดเลย”
“เออ...จะอะไรก็แล้วแต่ แต่วันนี้น่ะ กูจะมาเต้นไอ้อาโรบักอะไรนั่นแหละกับน้องโส เสร็จแล้วกูจะพาเขาไปกินดินดานด้วยกันสองต่อสองคน...”
“เขาเรียกดินเนอร์ ถ้าไปกินดินดานละก้อ กูว่าก็น่าจะเหมาะกับมึงน่ะ ไอ้วรนุชดินโป่ง แล้วน้องโสเขาบอกเรอะว่าจะไปกับมึงน่ะ?”ผมด่าแล้วถามย้ำกับมัน
“แน่นอน?”ไอ้เม้งตอบยืดๆ”น้องโสไม่เคยปฏิเสธกู”
“กูไม่เชื่อมึงหรอก”
“ไม่เชื่อมึงก้อไปถามน้องโสเองสิ..”มันกอดอกทำท่ากวนๆ
“แล้วน้องโสอยู่ไหน?”
“โน่นไง?”มันชี้ไปบนเวที”นำเต้นโอราบิกอยู่นั่นไง”
ผมมองตามที่ไอ้เม้งชี้ไปก็ได้เห็นเด็กสาวในชุดรัดรูปกำลังนำเต้นแอร์โรบิกอยู่บนเวทีข้างๆสำนักงานของอบต. ที่จัดไว้ให้เป็นที่ออกกำลังกายของชาวบ้าน ท่วงท่าของเด็กสาวงดงามตามจังหวะเพลงที่เร้าใจ มีสาวๆหนุ่มๆเข้าแถวเต้นตาม และยังมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่อีกบางส่วนอออยู่ข้างนอก แอบมองและชื่นชมในทรวดทรงเล็กๆแต่สมส่วนในชุดรัดรูปที่เร้าใจ เสียงร้องสั่งของโสภากังวานเป็นจังหวะให้คนเต้นตามอย่างสนุกสนาน ร่างน้อยๆชุ่มเหงื่อดูน่ารักไปอีกแบบ ผมตะลึงมองดูไม่วางตา ผมรู้สึกว่า จะหลงเสน่ห์สาวร่างเล็กอายุคราวลูกคนนี้เสียแล้ว...
“กูไม่เถียงกับมึงแล้วเสียเวลา กูไปเต้นดีกว่า แล้วจะได้ดูหุ่นฟิตแอนฟามของน้องโสใกล้ๆด้วย กูไปล่ะ”
แล้วไอ้เม้งก็นำหน้าลูกน้องของมันไปแซงแถวข้างหน้าอย่างไม่เกรงใจใครและเต้นตามแบบของโสภาที่นำเต้นอยู่บนเวที ผมได้แต่ยืนกอดอกมองร่างน้อยๆนั้นอย่างชื่นชมและหลงใหล
“อีหนูคนนี้นี่ร้ายและมาแรงจังนะ”เจ้าคมที่มายืนข้างๆผมพูดอย่างขำๆ”แค่เปิดตัวก็ทำเอาสิงห์เฒ่าผู้ยิ่งใหญ่สองคนจะฆ่ากันตายเพื่อแย่งตัวกันแล้ว”
“เหอะ?เสียให้ใครก็เสียได้ แต่ถ้าเสียทีให้ไอ้เม้งละก้อ กูยอมไม่ได้ ท่าทางกูจะต้องทุ่มสุดตัว กับอีหนูคนนี้เสียแล้ว ไม่งั้นกูจะต้องพลาดท่าให้ไอ้เม้งมันมาเยาะเย้ยกูแน่”ผมบอกเจ้าคม ขณะตายังไม่ล่ะจากร่างสาวน้อยในชุดรัดรูปบนเวทีนำเต้น แหมลวดลายเต้นนี่ ได้ใจจริงๆ ไม่เคยรู้สึกหัวใจคึกคักอย่างนี้มานานแล้ว นานจนจำไม่ได้ว่าครั้งสุดท้ายมันเมื่อไหร่....
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ