ทัณฑ์พิศวาส

5.0

เขียนโดย spine

วันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554 เวลา 16.23 น.

  5 ตอน
  6 วิจารณ์
  17.85K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) เปิดตัวนางเอก [up 100%]

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

http://www.keedkean.com

 

            “พี่นัท รอแก้วด้วย” เสียงเรียกจากร่างอรชรในชุดกระโปรงยาวสีขาวคลุมหัวเข่าทำให้นัทชะงักเท้า หันกลับไปมองเธอด้วยรอยยิ้ม

            ร่างสูงสง่างามในชุดสูทเข้มอ้าแขนรอรับไหมแก้วแล้วสวมกอดเธอด้วยความสุขเต็มเปี่ยม

            “แก้วขอโทษ พี่นัทอย่าไปเลยนะคะ”

            “แก้วรักพี่นัทค่ะ” ไหมแก้วช้อนตาขึ้นมองบุรุษที่ตนรัก เอ่ยเสียงหวานจนซ่านซึมเข้าไปในหัวใจของอีกฝ่าย นัทสบตาหญิงสาวด้วยรอยยิ้มพร้อมก้มหน้าลงประทับจูบบนหน้าผากของเธออย่างแผ่วเบา ทั้งสองสบตากันด้วยความรักใคร่ 

            “คัท!”

            ผู้กำกับมากฝีมือตะโกนลั่น ทำให้ทีมงานและนักแสดงในกองถ่ายพร้อมใจกันโห่ร้องออกมาด้วยความดีใจระคนโล่งอกที่ละครเรื่องนี้ปิดกล้องลงหลังจากที่ถ่ายทำทั้งในและต่างประเทศแรมปี ละครที่มีฉากสุดแสนโรแมนติกและได้นักแสดงมากประสบการณ์ร่วมสมทบมากที่สุดในบรรดาละครเรื่องอื่นๆเลยก็ว่าได้ แค่เห็นชื่อนักแสดงนำหญิงยอดนิยมก็ทำให้ละครเรื่องนี้ฮอตฮิตติดตาผู้ชมทั่วประเทศได้อย่างแน่นอน

            นางเอกสาวหน้าหวานของเรื่องเพียงแค่ส่งยิ้มบางพร้อมตบมือเบาๆพอเป็นพิธี ถ้าจะให้กระโดดโลดเต้นส่งเสียงวี้ดว้ายอย่างคนอื่นก็เกรงจะเสียภาพพจน์คุณหนูไฮโซ เวลานี้แทบอยากจะทรุดตัวลงนอนกับพื้นเสียด้วยซ้ำเพราะความอ่อนล้าจากการที่ต้องถ่ายใหม่หลายรอบด้วยว่าพระเอกหน้าใหม่เล่นไม่ได้เรื่องเอาเสียเลย แต่เพราะความหล่อเหลาหน่วยก้านดีเข้าตาผู้จัดละคร เธอจึงต้องรับบทเป็น ‘แม่ดัน’ ให้เขาได้ก้าวเข้าสู้สายตาประชาชน

            “น้องแพร! ขอสัมภาษณ์หน่อยค่ะ” นักข่าวสาวรายหนึ่งตะโกนเสียงแหลมแทรกเสียงจอแจของเหล่าผู้ชมที่คลั่งไคล้ดารานักแสดงดังมาจากด้านหลังแผงซี่โครงเหล็กที่นำมากั้นบริเวณที่ถ่ายละครไว้ นางเอกสาวฉีกยิ้มให้บรรดานักข่าวสองสามรายที่ยืนถือกล้องตัวเขื่องและไมค์ลอยรอเธออยู่นานแล้ว

            ไม่ทันที่นักข่าวสาวจะอ้าปากสัมภาษณ์ตามสคลิปที่ท่องมา ความวุ่นวายมหาศาลของเหล่าแฟนคลับนับสิบก็ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดดังสนั่นลั่นโสตประสาทหูพร้อมกับยื่นมือยื่นไม้มาให้ หวังจะสัมผัสดาราสาวยอดนิยมในขณะนี้เสียให้ได้ ปากอิ่มสวยโปรยยิ้มหวานให้ทุกคนอย่างเป็นกันเองพร้อมกับโบกมือทักทาย แม้จะเหนื่อยล้าเพียงใด พอได้เห็นกำลังใจเช่นนี้เธอก็พร้อมจะทำงานต่ออย่างมีความสุข เหล่าทีมงานบางคนเหลือบมองนางเอกสาวด้วยรอยยิ้มในท่าทีน่ารักๆของเธอ

            “แพรขอตัวไปสัมภาษณ์นะคะ” นางเอกสาวทิ้งท้ายเสียงใสพร้อมโบกมือให้เหล่าแฟนคลับก่อนเดินกลับเข้าไปด้านในซึ่งนักข่าวนั่งรอสัมภาษณ์อยู่ก่อนแล้ว มือเรียวบางกระพุ่มไหว้พี่สื่อมวลชนอย่างนอบน้อมก่อนหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตรงหน้า สิ่งหนึ่งที่ควรเอาเยี่ยงอย่างจากดาราสาวก็ตรงจุดนี้แหละที่ได้รับคำชื่นชมจากทั้งในและนอกวงการ แม้ใบหน้าหวานๆจะดูหยิ่งยโสในสายตาผู้อื่นแต่แพรวาก็รู้จักกาลเทศะ สิ่งใดที่ควรทำก็ไม่เคยขาดตกบกพร่อง และทุกคนที่รู้จักเธอดีต่างค้านหัวชนฝาถ้ามีคนหาว่าเธอสร้างภาพอ่อนหวานเพราะมันล้วนออกมาจากนิสัยที่แท้จริงของเธอ เพราะภายใต้ภาพลักษณ์สาวสวยโฉบเฉี่ยวนั้นมีความนอบน้อมและความจริงใจต่อผู้หลักผู้ใหญ่อยู่ไม่น้อย

            หลังจากตระเวนรอบกองถ่ายทุกซอกทุกมุมโดยมีนางเอกสาวเป็นพิธีกรจำเป็นให้รายการบันเทิงของสถานีโทรทัศน์ช่องดังได้เสร็จสิ้นแล้ว นางเอกสาวถึงกับพ่นลมหายใจออกทางปาก ทิ้งตัวลงบนเบาะในรถของเธออย่างหมดเรี่ยวแรง

            “ตายจริง! หมดคราบนางเอกเลยหรอคะเนี่ย” เสียงผู้จัดการส่วนตัวของนางเอกสาวนาม ‘เจ๊เกศลิน’ ดังขึ้น

            “เงียบเถอะเจ๊ แพรของีบสักพัก เหนื่อยมากเลยวันนี้” ใบหน้าอิดโรยและเสียงเอื่อยๆบ่งบอกตามที่พูดจริง แต่แพรวาต้องหงุดหงิดอีกจนได้ ไม่ใช่เพราะเสียงกระแนะกระแหนของเกศลิน หากแต่เป็นโทรศัพท์มือถือของเธอที่กำลังสั่นครืดๆในกระเป๋าถือใบหรูบนตักของเธอต่างหาก มือบางคว้าสะเปะสะปะหาต้นเหตุความรำคาญใจจนเกศลินต้องช่วยหยิบออกมาให้โดยไม่ละสายตาจากถนน

            “ฮัลโหล”

            “แพร…แพร ได้ยินพี่มั้ย” ปลายสายพูดชื่อเธอซ้ำหลายรอบจนเจ้าตัวเริ่มรู้สึกตัวว่าเป็นเสียงของแฟนหนุ่ม ร่างบางยันตัวขึ้นจากเบาะ วางข้อศอกบนขอบกระจกรถ มือกุมขมับ

            “พี่ธัสมีอะไรหรอคะ”

            “แพรลืมนัดของพี่แล้วหรอ” ชายหนุ่มตัดพ้อแฟนสาว เสียงเพลงจังหวะคึกคักและเสียงผู้คนพูดคุยกันอย่างสนุกสนานดังลอดเข้ามาในสาย

            “แพรคงไปงานเลี้ยงกับพี่ธัสไม่ไหวหรอกค่ะ วันนี้เพิ่งปิดกองถ่ายด้วย เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว” หญิงสาวพูดเสียงอู้อี้ในลำคอขณะที่ตาก็ยังคงปิดสนิท

            “แต่แพรสัญญาแล้วนะว่าจะมากับพี่ ถ้าไม่มีแฟนตัวเองมาด้วยมันจะสนุกได้ไง”

            แพรวาถอนหายใจออกยืดยาวอย่างนึกรำคาญเขา เมธัสมักจะอ้างสัญญาแบบขอไปทีของเธอมาใช้บังคับให้เธอยอมไปงานเลี้ยงสังสรรค์กับเขาเสมอ เหตุผลเพราะต้องการอวดสายตาผู้คนว่าเขาพิเศษเลิศเลอเพียงใดที่ได้นางเอกสาวมาเป็นคนรัก …นั่นคือสิ่งที่แพรวาสัมผัสได้จากพฤติกรรมและสายตาของเขา

            “แพรอยู่ไหน เดี๋ยวพี่จะไปรับ…”

            นิ้วเรียวบางกดตัดสายก่อนโยนมันไปบนเบาะหลังรถ เกศลินเบิกตากว้างด้วยความกลัวว่าสินค้าราคาแพงชิ้นนั้นจะสึกพัง โชคดีที่ตอนนี้ติดไฟแดง ไม่เช่นนั้นเจ้าหล่อนคงจะเผลอเหยียบคันเบรกจนมิดด้วยความตกใจไปแล้วกระมัง

            “ตายแล้วยัยแพร! เธอน่าจะทะนุถนอมของใช้บ้างนะ ไม่ใช่โยนทิ้งโยนขว้างแบบนี้ ฉันต้องตรากตรำทำงานอย่างหนักหลายเดือนเลยนะ ถึงจะมีปัญญาซื้อของแพงๆแบบหล่อน” เกศลินบ่นแว้ดๆใส่คนไม่รู้จักโต แม้อายุของแพรวาจะย่างเข้าเบญจเพศปีนี้ก็เถอะ แต่ยังต้องมีเธอคอยเป็นพี่เลี้ยงดูแลข้าวของให้เป็นประจำ

            “ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ น่ารำคาญจริงๆ” แพรวาบ่นอุบอิบ

            “คุณธัสหรอ”

            “อื้อ”

            “ว้ายย!! พ่อหนุ่มหน้าเกาหลีตาตี๋คิ้วเข้มยอมโทร.มาง้อแล้วหรอยะ หลังจากที่ภาพนัวเนียกับสาวๆในผับหลุดออกมาพาดหน้าปกนิตยสารทุกฉบับ” เกศลินกลอกตาไปมาตามจังหวะการพูดกระแทกกระทั้นใส่อารมณ์ โดยไม่ลืมให้ความสนใจกับถนนหนทางข้างหน้ายามตะวันโพล้เพล้เช่นนี้

            “เขาไม่เคยคิดง้อหรอก ดูท่าทางจะอารมณ์ดีด้วยซ้ำกับวิธีการเช็คเรตติ้งของตัวเอง”

            “แล้วโทร.มาเพื่อ?” เกศลินเหลือบมองหญิงสาวที่นั่งเงียบไป ...ไม่สินะ ...เธอกำลังหลับต่างหาก …เฮ้อ ตื่นสิยัยแพร แล้วฉันจะนอนหลับมั้ยเนี่ยคืนนี้ คงต้องท้องผูกแน่ๆเพราะคิดมากกับเรื่องที่เธอไม่ยอมเล่าให้ฉันฟังเนี่ยแหละ

            ยามดึกของคนกรุงเต็มไปด้วยแสงสีแห่งความเพลิดเพลินของนักท่องราตรี แต่นั่นไม่ใช่เป้าหมายของหล่อน เกศลินกวาดตามองสองข้างทางด้วยสีหน้าตื่นตาตื่นใจ ร้านอาหารตั้งเรียงรายแข่งกันส่งควันพวยพุ่งในการทำอาหารนานาชนิดเสียจนเกศลินต้องสูดปากอยากลงไปสัมผัศกลิ่นหอมเย้ายวนกิเลสนั่นด้วยตัวเอง คิดได้ดังนั้นจึงจอดรถข้างทางทันทีโดยไม่ปรึกษาเจ้าของรถ

            แพรวาปรือตาคู่สวยขึ้นมองตามผู้จัดการสาวร่างอวบอัดกำลังเดินตรงหรี่เข้าไปแวะซื้อร้านโน้นแวะชิมร้านนี้เสียจนได้อาหารคาวหวานแถมด้วยผลหมากรากไม้นานับชนิดมาเต็มไม้เต็มมือ 

            “ซื้ออะไรมาเยอะแยะเจ๊ เดี๋ยวก็อ้วนลงพุงกันพอดี”

            “ฉันก็อยากรู้ไงว่าถ้าเกิดแม่ดาราสาวแสนสวยอ้วนลงพุงขึ้นมา พระเอกหล่อล่ำที่ไหนจะกล้าอุ้มคุณเธ้อออ” เกศลินลากเสียงยาวพร้อมหัวเราะจริตจก้าน

            รถเบนซ์สีดำเงาวับอย่างที่ได้รับการเช็ดล้างขัดถูทุกวันเลี้ยวผ่านคฤหาสน์สีขาวหลังใหญ่เข้ามาจอดตรงลานประจำตำแหน่งลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของนักธุรกิจผู้ร่ำรวย สองสาวรูปร่างต่างไซส์แอบย่องเข้าไปพร้อมกวาดสายตารอบๆห้องโถงใหญ่ เมื่อไม่เห็นแม่บ้านออกมาต้อนรับทักทายยามค่ำคืน สาวเจ้าจอมแผนการทั้งสองจึงแอบย่องไปยังห้องครัวเพื่อจัดวางอาหารและลงมือรับประทานอย่างเอร็ดอร่อยเพื่อชดเชยพละกำลังที่เสียไปกับการทำงานทั้งวัน ก่อนกระโดดลงอ่างอาบน้ำถัดถูคราบไคลให้สะอาดหมดจดแล้วจึงขึ้นเตียงหนานุ่ม ผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็วด้วยเหนื่อยล้า

 

 

เช้าวันต่อมา…

‘นางเอกสาวหน้าหวานคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยมสองปีซ้อน’

‘ผู้จัดรุมล้อมสาวไฮโซ คิวทองแน่นตลอดปี’

‘‘แพรวา’ติดโผ รายชื่อผู้หญิงที่หนุ่มๆต้องการออกเดทด้วยที่สุด’

‘คะแนนโหวตท่วมท้น แพรวากล่าวขอบคุณจากใจจริง’

‘แพรวา-เมธัส คู่รักไฮโซแห่งปี’

            หนังสือพิมพ์และนิตยสารดาราวางแผ่เกลื่อนเตียงขนาดคิงไซต์ ข้อความพาดบนหน้าปกเกี่ยวกับ แพรวา พัชรกุล นางเอกสาวไฮโซจอมเย่อหยิ่งที่เรียกได้ว่าแทบจะ‘กอบโกย’รางวัลจากรายการบันเทิงต่างๆมาเป็นของเธอเพียงผู้เดียวก็ว่าได้

            “ต๊าย!หล่อน ดูนี่สิ ภาพถ่ายคู่เธอกับพี่ธัสเหมาะสมกันยิ่งกว่าโจงกระเบนกับท่ารำวงมาตรฐานอีกนะยะเธอ” เสียงผู้จัดการส่วนตัวนามเกศลินแผดเสียงวี้ดว้ายดังลั่นห้องนอนขนาดกว้างกว่าคอนโดของแพรวา

ทว่าคนที่เป็นข่าวกลับยักไหล่น้อยๆอย่างไม่ยี่หระ เป็นเพราะความชาชินกับข่าวพวกนี้จึงทำให้ไม่สนใจนัก

            “โจงกระเบนอะไรของเจ๊” นางเอกสาวถามกลับ พลางหมุนตัวไปมาลองชุดตัวสวยหน้าเรือนกระจกบานใหญ่ที่ส่องได้ตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า

            “แหม…ฉันก็อยากจะฉีกแนวชาวบ้านเขาบ้าง เผื่อได้รับรางวัลโนเบลสาขา‘พัฒนาสำนวนไทยประยุกต์ใช้เฉพาะการณ์ยอดเยี่ยม’ขึ้นมา แล้วอย่ามาง้อก็แล้วกันย่ะ” เกศลินจีบปากจีบคอพูดประชดก็ไม่ปาน เรียกคะแนนความหมั่นไส้จากแพรวาไปอย่างท้วมท้น

            “เจ๊ ช่วยหน่อยสิ” นางเอกเอ่ยขอความช่วยเหลือ เกศลินพินิจมองเจ้าของร่างบอบบางยังกับไดอดไดเอ็ดมาตั้งแต่ลืมตาดูโลกอย่างอิจฉาไม่ถึงกับริษยา เห็นมาดผู้ดีรักษาภาพพจน์ทุกตารางนิ้วแบบนี้ก็กินจุไม่ใช่เล่น แต่ไฉนรูปร่างจึงอรชรอ้อนแอ้นดังเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ผิดกับเกศลินที่อวบนิดอั๋นหน่อยขึ้นทุกวี่วัน แถมใบหน้านางเอกสาวยังเรียบเนียนปราศจากสิวฝ้ากระจุดด่างดำอย่างสาวสุขภาพผิวดียิ่งชนะเลิศไปใหญ่ ผิวขาวนวลเปล่งประกายออร่าเสียจนเป็นที่จับตามองของบรรดาชายหนุ่มแม้แต่ผู้หญิงด้วยกันยังเหลียวหลังมองด้วยความอิจฉา

            “เจ้าค่ะคุณหนูแพร! ขาดอิฉันไปสักคน แม่เจ้าประคุณลุนช่องจะรอดพ้นจากข้าศึกได้หรือ” เกศลินเอ่ยประโยคโบร่ำโบราญพลางเดินนวยนาดเข้าไปช่วยรูดซิปเดรชสีครีมด้านหลังให้ พร้อมกับลงมือปฏิบัติการช่างแต่งหน้าทำผมมืออาชีพให้กับนางเอกสาวอย่างชำนาญ

            “วันนี้จะไปเที่ยวที่ไหนอีกล่ะยะหล่อน ไม่รู้จักพักบ้าง พอว่างงานเข้าหน่อยก็วิ่งโร่ไปโฉบเฉี่ยวหัวใจหนุ่มๆข้างนอกเลยนะ” เกศลินทำเสียงกระแนะกระแหนเลยโดนอีกฝ่ายค้อนขวับใส่เต็มๆผ่านเรือนกระจกโต๊ะเครื่องแป้ง

            “เว่อร์น่ะเจ๊ ฉันแค่ไม่อยากอยู่บ้านฟังเสียงบ่นของพ่อเท่านั้นแหละ”

            ศิวัฒน์ พัชรกุล ผู้เป็นพ่อมักจะคอยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบของเธอเป็นประจำเหมือนจะทำหน้าที่จุกจิกนี้แทนแม่ของเธอที่จากไปตั้งแต่แพรวาอายุได้ขวบเศษๆ เรื่องนั้นเธอเข้าใจว่าผู้เป็นพ่อคงห่วงลูกสาวแสนสวยกลัวจะพลาดท่าทำเรื่องอับอายให้เขามากกว่าห่วงใยในตัวลูกสาวคนนี้จริงๆต่างหาก

            ด้วยอาชีพนักแสดงสาวดีกรีปริญญาโทด้านการแสดงจากอังกฤษเมืองผู้ดีพ่วงด้วยตำแหน่งลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนของประธานบริษัทเฟอร์นิเจอร์ชื่อดังทำให้เธอตกเป็นเป้าสายตาของนักข่าวแทบจะทุกฝีก้าว เพียงส่งยิ้มหวานๆทรมานใจหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เป็นไม่ได้ ต้องเจอภาพนางเอกสาวไม่มุมใดก็มุมหนึ่งบนเว็บไซท์หรือนิตยสารดาราทุกที พร้อมพาดหัวข่าวเสียๆหายๆส่วนเนื้อหาก็ดูเหมือนจงใจแต่งเสริมเติมเรื่องเพื่อเป็นจุดขายให้กับพวกเขาเองทั้งสิ้น จนขณะนี้เธอกลายเป็นใครอีกคนในสายตาของประชาชนทั่วประเทศไปเสียแล้ว เพราะฉะนั้นการจะคบหาดูใจกับใครจึงต้องอยู่ในสายตาของผู้เป็นพ่อบังเกิดเกล้าตลอด มีเพียง เมธัส วิมลชัยพัฒน์ ลูกเสี่ยเจ้าของกิจการส่งออกรายใหญ่ของประเทศเท่านั้นที่ศิวัฒน์พอจะยินดีให้คบหาด้วย

            แต่การประกาศตัวเป็นแฟนกันต่อหน้าสื่อมวลชนครั้งนี้แฝงไปด้วยเหตุผลทางธุรกิจของศิวัฒน์ที่แพรวาเคยปฏิเสธหัวฟัดหัวเหวี่ยงว่าจะไม่ยอม‘เอาตัวแลกเงิน’เพื่อช่วยรักษาเสถียรภาพของบริษัทศิวัฒน์ที่เริ่มส่อแววต้องยุบกิจการลงด้วยพิษเศรษฐกิจและการขาดทุนจำนวนมหาศาล 'ตระกูลวิมลชัยพัฒน์'จึงเป็นเป้าหมายเดียวที่จะสามารถช่วย‘ตระกูลพัชรกุล’ให้อยู่รอดต่อไปได้ และดูท่าลูกชายคนเดียวของตระกูลวิมลชัยพัฒน์ก็ไม่คิดปฏิเสธดาราสาวยอดนิยม(ที่พ่อของเธอกำลังจะล้มละลาย)คนนี้เสียด้วย

            “เธอก็พูดไป เขารักเขาห่วงหรอก ถึงพร่ำสอนแบบนั้น” เกศลินเข้าใจเธอดี เพราะผู้จัดการส่วนตัวคนนี้เป็นทั้งพี่ทั้งเพื่อนทั้งที่ระบายทุกอย่าง ปัญหาก้อนเบ้อเริ่มที่แพรวากำลังเผชิญอยู่ตอนนี้คงจะทำให้เธอลำบากใจไม่น้อย

            “พี่ธัสน่ะ เขาก็ดูเทคแคร์เธอดีนี่นา เขาอาจจะรักเธอจริงๆก็ได้” เกศลินพูดต่อ พลางถอนหายใจยืดยาวมองใบหน้าหวานที่แม้แต่งแต้มเครื่องสำอางจนดูสวยสะดุดตาแล้วแต่กลับดูเศร้าซึมจนเกศลินหดหู่

            “แพรเบื่อที่ต้องเล่นละครตบตาคนอื่น ต้องทำเป็นรักเป็นหลงเมธัสทั้งๆที่แพรไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับเขาเลย พ่อเห็นแพรเป็นเครื่องมือกอบโกยเงินทองของเขาหรือไงกัน” แพรวาตัดพ้อตีสีหน้างอง้ำ นึกน้อยใจในตัวศิวัฒน์ จนเกศลินอดสงสารไม่ได้จึงคว้ามือบางมากุมไว้เป็นเชิงให้กำลังใจ

            “พี่เชื่อว่าสักวันคุณพ่อเธอต้องเปลี่ยนความคิดแน่นอน”

            “ไม่มีทางหรอก พ่อไม่เคยยอมใครง่ายๆ”

            “อืม…” เกศลินเหลือกตาขึ้นมองฝ้าเพดานพลางกอดอกอย่างครุ่นคิด ก่อนจะดีดนิ้วดังเป๊า!ให้กับความคิดอันบรรเจิดเลอเลิศของเธอ

            “หาแฟนกำมะลอสิยะ แล้วบอกว่าเธอท้องกับเขาเจียนจะคลอดเดือนสองเดือนหน้าแล้ว คนเป็นพ่อยังไงก็ยอมใจอ่อน” เกศลินกระหยิ่มยิ้มอย่างภูมิใจ

            “บ้าน่ะสิ! มีหวังได้กลายเป็นศพด้วยกันทั้งคู่ แล้วไหนจะข่าวหน้าหนึ่งอีก” นางเอกสาวแหวใส่ ส่งสายตาเขียดปั้ดจนเกศลินหน้านิ่ว เจ้าของแผนการถอนหายเฮือกใหญ่อย่างจนปัญญาที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์

            “เอาน่าแพร อย่าคิดมากเลย พรุ่งนี้มีงานเปิดตัวหนังสือไม่ใช่หรอ อย่าเครียดเป็นอันขาดนะคะ แม้จะดื่มอะไรก็ตามแล้วไปนอนซะก็ช่วยไม่ได้นะยะ ริ้วรอยจะถามหาตีนกาจะมาเยือน” เกศลินเตือน

            “จริงด้วยสิ! ตายแล้ว งั้นต้องรีบออกไปเที่ยวแล้วล่ะ เดี๋ยวกลับดึก” แพรวาลุกพรวดจากโต๊ะเครื่องแป้งไปคว้ากระเป๋าถือใบสีทองหรูเริ่ดที่ไปตระเวนซื้อจากร้านหนีภาษีเมื่อเดือนที่แล้วก่อนวิ่งออกจากห้องอย่างรวดเร็ว

            “รอด้วยสิยะหล่อน” เกศลินตะโกนบอกพลางแต่งเติมเครื่องสำอางบนใบหน้าอย่างรีบเร่งก่อนคว้ากระเป๋าสตางค์กระโดดตามแพรวาไป

            สองสาวชะงักเท้าที่วิ่งแข่งกันลงมาจากบ้านชั้นบนทันทีเมื่อเห็นชายหนุ่มรูปงามภายใต้ชุดลำลองสไตน์หนุ่มเพลย์บอยยืนพิงประตูรถสปอร์ตสีแดงรอตรงลานจอดรถหน้าประตู เมธัสนั่นเอง

            “พี่ธัสไม่ได้เข้าบริษัทหรอคะ” แพรวาถามอย่างสงสัย ไม่คิดว่าเขาจะปรากฏตัวในเวลานี้ ส่วนเกศลินเองถึงกับตกตะลึงจ้องผู้ชายตรงหน้าตาค้าง

            “มาได้ไงวะ ขัดจังหวะจริงๆ” เกศลินบ่นพึมพำ

            เมธัสส่งยิ้มกว้างให้หญิงสาวทั้งสองก่อนผายมือไปยังรถ

            “เชิญครับสาวๆ วันนี้ผมมีเซอร์ไพรส์” เมธัสมองแพรวาด้วยสายตากรุ้มกริ่ม นางเอกสาวที่หวังจะเป็นอิสระจากสายตานักข่าวสักวันถึงกับหงุดหงิดขึ้นมาทันทีแต่ต้องแสร้งยิ้มหวานให้เขา ร่างสูงเพรียวเดินอ้อมไปเปิดประตูรถให้หญิงสาวทั้งสองก่อนหมุนตัวกลับขึ้นประจำที่คนขับ

            เมธัสพาแพรวาและเกศลินมาเดินเลือกซื้อของในห้างสรรพสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่ง และแน่นอนว่าผู้คนพลุกพล่านเดินสวนกันไปมาต้องชำเลืองมองพวกเขาเป็นธรรมดา นางเอกสาวจำต้องวางมาดนิ่งๆส่งยิ้มบ้างพอประมาณให้ชายหนุ่มเหมือนเป็นสัญญาณบอกว่าเบื่อหน่ายเต็มที แต่เมธัสยังกระตือรือร้นชวนคุยตลอดทาง แน่ล่ะ… คำพูดหวานหยดย้อยหว่านล้อมให้เกศลินผู้จัดการสาวถึงกับเคลิบเคลิ้มได้ แต่มันใช้ไม่ได้ผลกับแพรวา เพราะเธอไม่นึกชอบท่าทีกะล่อนดูไม่จริงใจนั่นเท่าไหร่นัก

            ร่างสูงเพรียวระดับนายแบบหยุดยืนตรงหน้าร้านเครื่องประดับระยิบระยับตา ก่อนคว้ามือบอบบางมากุมไว้

            “ปล่อยค่ะพี่ธัส แพรไม่อยากเป็นข่าว” นางเอกสาวกระซิบเสียงตึง แต่เมธัสไม่สนใจ ดึงเธอเดินเข้าไปภายในร้าน ทักทายพนักงานต้อนรับด้วยอยยิ้มเจ้าเสน่ห์พลางก้มหน้าลงกวาดตามองวงแหวนสีเงินประกายแวววาวในตู้กระจก

            พนักงานสาวสองคนกระซิบกระซาบกัน พลางส่งยิ้มมาให้คู่รักไฮโซแห่งปีไม่หยุดหย่อน จนเกศลินต้องไอกระแอมเบาๆเป็นเชิงเตือนให้พวกหล่อนรักษามรรยาท

            “ผมเอาวงนี้ให้คุณผู้หญิงละกันครับ” เมธัสชี้แหวนสีเงินประดับด้วยเพชรเม็ดเล็กๆสะท้อนแสงระยับแฝงไปด้วยความเรียบหรู เกศลินเพ่งมองราคาบนแหวนนั้นถึงกับหูผึ่งเพราะราคาสูงลิบลิ่วไม่สมกับตัวสินค้า ไม่ทันที่เกศลินจะอ้าปากร้องทัก เมธัสก็เอ่ยกับพนักงานก่อน

            “มีแหวนแบบนี้สำหรับผู้ชายมั้ยครับ” ชายหนุ่มถามยิ้มๆ

            แพรวาเบือนหน้าไปทางอื่น รู้สึกไม่พอใจนักที่เขาทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของเธอ ถ้ารักก็จะยอมอยู่หรอก แต่นี่ไม่ได้คิดอะไรด้วยเลย

            เมธัสบรรจงสวมแหวนให้นิ้วเรียวบางอย่างนุ่มนวล แต่เจ้าตัวกลับชักมือออก

            “พี่ธัสใส่นิ้วอื่นเถอะค่ะ แพรขี้เกียจตอบคำถามชาวบ้าน” แพรวาปรามเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำท่าจะสวมเข้าที่นิ้วนางข้างซ้าย เมธัสเหยียดปากตรงด้วยความไม่พอใจแต่ก็ยอมใส่นิ้วอื่นให้ นางเอกสาวพ่นลมหายใจก่อนสะบัดก้นเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว พร้อมกับที่เกศลินก็ทิ้งเขาอีกคน …ผู้หญิงคนนี้เอาใจยากจริงๆ คิดว่าตัวเองเด่นดังนักหรือไง ถึงกล้าเดินหนีเขาไปแบบนี้ เมธัสรู้สึกเสียหน้าไม่น้อยจึงรีบเดินออกมาจากร้านสาวเท้าไปหาแพรวาอย่างเอาเรื่อง คว้าแขนเล็กไว้

            “ทำไมถึงเดินหนีพี่แบบนี้ล่ะแพร พี่ทำอะไรผิด” เมธัสถามเสียงขุ่น

            “นี่หรอเซอร์ไพรส์ แพรทนตอบคำถามไร้สาระที่กำลังจะตามมาไม่ไหวหรอกนะ” แพรวาพยายามข่มอารมณ์โกรธ ไม่เช่นนั้นภาพที่เธอวีนแตกใส่เขากลางห้างชื่อดังอาจจะมียอดจำหน่ายมากกว่าภาพแหวนคล้องใจวงนี้ก็เป็นได้

            “โธ่แพร ก็พี่รักแพรนี่นา อีกไม่นานเราก็จะหมั้นกันแล้วนะ” เขาทำเสียงออดอ้อน ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ราวเด็กๆ เกศลินหันรีหันขวางเห็นสายตาประชาชีกำลังพุ่งความสนใจมาที่พวกเขา จึงกระทุ้งแขนเข้าที่หลังแพรวาเป็นเชิงเตือน พอเริ่มรู้ตัว นางเอกสาวจึงปรับโหมดเป็นยิ้มหวานสีหน้าออดอ้อนอย่างรวดเร็วเสียจนเกศลินเกือบยกมือขึ้นคาราวะ

            “เอ่อ…แพรขอโทษค่ะ วันนี้อารมณ์ไม่ค่อยดี พี่ธัสอย่าโกรธแพรเลยนะ”

            เมื่อเห็นดังนั้นเมธัสจึงยิ้มกว้างพร้อมฉวยมือเรียวบางมากุมไว้ทันที ก่อนเดินนำหน้าออกไปยังใต้อาคารที่จอดรถ

            แหล่งข่าวฝีมือสมัครเล่นทั้งหลายต่างระงมกดถ่ายภาพทั้งคู่ไว้ตลอดทางที่พวกเขาทั้งสามเดินผ่าน เมธัสยิ้มโปรยเสน่ห์ทำสีหน้าหล่อๆให้กล้องอย่างเชี่ยวชาญปานนักแสดงมืออาชีพที่ไม่กลัวแสงแฟลตแม้แต่น้อย แพรวาเองคิดว่าเธอระดับขั้นสูงสุดแล้ว ยังปั้นหน้ารักษาภาพพจน์สู้เขาไม่ได้เลย

 

------------------------------------------------------------------------------
ฝากเนื้อฝากตัวด้วยแล้วกัน ^^

ยังเป็นเด็กใหม่ กำลังเรียนรู้อะไรหลายๆอย่าง ด้วยแนะนำเพิ่มเติมด้วยนะคะ

ขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นค่ะ

เพิ่มขนาดตัวอักษรแล้วนะคะ ขอบคุณที่แนะนำค่ะ ^^

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา