แผนลับ กับ คนอัจฉริยะ ( The secret plan )

รายงานข่าวช่อง 7  ... เจมส์  ฟิสมาร์ก  ผู้ต้องหาคดีมียาเสพติดไว้ในครอบครองกว่า 1 แสนเม็ด  ได้หลบหนี จากการขนย้ายตัวไปรับคำตัดสินศาลเมื่อวานนี้ พร้อมฆ่าตำรวจ 1 นาย เสียชีวิต  และ ได้ก่อเหตุฆ่าตำรวจสืบสวนสอบสวน เสียชีวิตคาที่ ที่บ้านของตำรวจนายนั้นในวันนี้  ทำให้ตอนนี้โทษของเจมส์  ฟิสมาร์ก   มีโทษเดียวคือ ประหารชีวิต…

             เจมส์ได้ยินข่าวถึงกับตกใจ  เขาไม่ได้เป็นคนยิงชัย   ชัยต่างหากที่ยิงตัวเองตาย   สารวัตร ป๊อป ผู้จับกุมเจมส์ตอนขนยาเสพติด  ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบคดีเจมส์ต่อ

            “ ค้นหารูปเขาจากกล้องวงจรปิดทั่ว กรุงเทพ” ป๊อปสั่งให้ลูกน้องเขาทุกคนเร่งค้นหาเจมส์  ไม่นานหลังจากนั้น   ตำรวจนายหนึ่งตะโกนเสียงดังเมื่อพบตัวเขาแล้ว  กล้องวงจรปิดทำให้ตำรวจทราบว่าเจมส์วิ่งเข้าไปในเขตคลองเตย  “ ติดต่อตำรวจท้องที่คลองเตย ตรวจรถเข้าออก เขตนั้นทุกคน  ไม่เว้นแม้แต่จักรยาน  หรือจะให้ดีกว่านั้นก็หนูทุกตัวอย่าให้ได้ออกไปเด็ดขาด  จนท.แมน เตรียมรถให้ผมด้วยผมจะไปที่นั่น...  ไปสลัม คลองเตย” ป๊อปพูดจบ เขาก็หยิบปืนออกมา  เขาตรวจสอบกระสุนและความพร้อมของปืน  เขาคงเตรียมพร้อมที่จะลั่นไกทุกเมื่อ

              15 นาทีหลังจากนั้น  มีคำสั่งปิดล้อม สลัมคลองเตย ตรวจคนเข้าออกทุกคน  รถทุกคัน  ไม่ให้อะไร เข้าและออกจากเขตนี้ได้  ปิดการจราจรบนถนน ที่นี่ทุกเส้น เสียงวิทยุสื่อสารดังขึ้นอยู่ตลอดเวลา  แต่เสียงที่ดังกว่านั้นและดังขึ้นเรื่อยๆคือ เสียงไซเลนของรถตำรวจ  “ พบเขาแล้ว เขาวิ่งหนีไปที่ถนนใหญ่”ตำรวจนายหนึ่งพูดโดยใช้วิทยุสื่อสาร  “ นั้นไง เขาอยู่นั้น   ตามเขาไปเร็ว”  ป๊อปสั่งลูกน้องทุกคน  ทุกคนรีบขึ้นรถและขับตามเจมส์ไป

               เสียงไซเลนส์ยังคงดังทั่วท้องถนน รถตำรวจทุกคันวิ่งตรงไปที่แจมส์  ทันใดนั้นเอง มีรถบรรทุกคันหนึ่งวิ่งออกมาจากซอยด้วยความเร็ว ชนรถที่จอดติดอยู่ และขวางรถตำรวจไว้  เสียงแตรจากรถตำรวจดังขึ้นเกินกว่า 150 เดซิเบลเป็นแน่  ตำรวจส่วนหนึ่งวิ่งไปที่รถบรรทุกคันนั้น  ปืนเป็น 10 กระบอกจ่อตรงไปยังที่นั่งคนขับ  แต่แล้วที่นั่งคนขับและบนรถนั่นกลับไม่มีคนอยู่เลย

               “ เจมส์ไปเร็ว  ขึ้นมอไซต์ฉัน เดี๋ยวนี้เลย”  ชายคนหนึ่งพูดกับเจมส์  ซึ่งเจมส์ไม่เคยรู้จักชายคนนั้นสักนิดเลย  “ นายเป็นใคร  ช่วยฉันทำไม” เจมส์ถามด้วยความสงสัยเขาไม่กล้าที่จะไว้ใจคนแปลกหน้า“ ฉันติดหนี้นายอยู่   รีบขึ้นรถก่อนได้ไหม  ก่อนที่นายจะถูกฝังเข็มด้วยลูกตะกั่วหนะ”   ชายคนนั้นรีบร้อนที่จะไป  เขาสั่งให้เจมส์ขึ้นรถ  เพราะตำรวจใกล้เข้ามาแล้ว

               เจมส์ขึ้นรถไปกับสมิทด้วยสีหน้าที่เหมือนมีคำถามมากมายในใจของเขา   ทันใดนั้นเอง  มีเสียงรถไฟดังขึ้น  มันใกล้เข้ามาทุกที  “ นั่นมันเสียงรถไฟ  มันกำลังวิ่งใกล้เข้ามาแล้ว  อย่าไปทางนั้น”  เจมส์ตะโกนใส่หูชายคนนั้นทันทีที่ได้ยิน  ชายที่นั่งขับรถมอไซต์อยู่ด้านหน้าเขา   “ นายอยากให้ตำรวจอยู่ข้างหลังนายหรืออยู่ข้างหน้านายหละ”   ชายคนนั้นย้อนเจมส์กลับทันที  ทากเลือกของเขาคือไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียวและลุ้นว่า   เขาจะวิ่งผ่านทางรถไฟก่อนรถไฟจะมาหรือรถไฟจะวิ่งผ่านถนนที่เขาขับก่อนกัน

               “ แต่มันใกล้เข้ามาแล้วนะ   รถติดแบบนี้ไม่ทันแน่  ฉันยังไม่อยากนอนหลับบนรางรถไฟนะ” น้ำเสียงเจมส์ดูเหมือนจะกลัวมาก  กลัวรถไฟวิ่งที่กำลังเข้ามาใกล้ทุกที ๆแล้ว    เจมส์และชายคนนั้นจะขับผ่านทางรถไฟทันหรือไม่

               เสียงแตรรถมอไซต์จากรถสมิทดังขึ้นตลอดทาง  “หลบไป  ไม่หลบชนแน่นะ”สมิทตะโกนเพื่อขอทางจากผู้คนที่แออัดยัดเยียดรอที่จะออกไป  ตำรวจตรวจทุกคนที่เข้าออกอย่างเข็มงวด   ทุกคนหลบให้รถของสมิทและเจมส์   ไม่เว้นแม้กระทั่งตำรวจ  ... ปั้ง...  เสียงดังจากการขับรถชนกับที่กั้นทางรถไฟ  เจมส์ และสมิทผ่านหน้ารถไฟไปอย่างชิวเชียด  แต่เขาก็ทรงตัวไม่ไหว  เสียหลัก รถคว่ำ แต่ทันทีที่รถไฟผ่านไป  ทั้งเจมส์และสมิทก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย