เพราะร้ายถึงรัก

9.7

เขียนโดย ying

วันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2553 เวลา 21.55 น.

  2 ตอน
  4 วิจารณ์
  8,855 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ตอนที่ 1

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

บรรยากาศงานเลี้ยง ที่เต็มไปด้วยเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะ รวมถึงเสียงเพลงจากนักร้องชื่อดังไม่ได้ทำให้สาวน้อยเจ้าของงานวันเกิดในค่ำคืนนี้สนใจได้เลย เมื่อเวลาล่วงเลย จากเย็นเป็นค่ำ จนกระทั่งตอนนี้ จวนจะได้เวลาเลิกงานอยู่แล้ว “ทำไมป่านนี้แล้ว พี่ดิศยังไม่มาอีกนะ งานจะเลิกอยู่แล้วนะ พี่ดิศใจร้าย คนบ้า” ทำได้แค่บ่นในใจเท่านั้น

 

“คุณนัญค่ะ ไปเถอะค่ะ คุณพ่อคุณแม่เรียกหาแล้วนะค่ะ”

 

ชนัญธิดา กิติสกุล ได้แต่เดินหน้างอง้ำกลับไปหาบุพการีทั้งสอง ด้วยความไม่เต็มใจ แต่ถึงอย่างไร นี่ก็ดึกมากเกินกว่าจะอยู่รอเขา

 

รดิศ อมรพิริยะสกุล นักธุรกิจหนุ่มไฟแรงของวงการธุรกิจก่อสร้าง ด้วยวัยเพียง 27 ปีของเขา กับตำแหน่งหน้าที่การงานที่มีความรับผิดชอบมากมาย และจากการเริ่มงานเพียงไม่นานนัก เขาสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับบริษัทเป็นอย่างมาก โดยการสามารถประมูลโครงการใหญ่ๆได้หลายแห่ง ทำให้ตอนนี้ ชื่อเสียงของชายหนุ่มเป็นที่กล่าวขานกันในหมู่นักธุรกิจด้วยกันเอง หรือแม้กระทั่งในกลุ่มสาวๆไฮโซทั้งหลายก็ไม่เว้น

 

“ตายแล้ว วันนี้วันเกิดยัยตัวยุ่งนี่นา ไม่น่าทำงานเพลินเลย กี่โมงแล้วเนี๊ย จะตีหนึ่งแล้วหรอ เฮ้อ คงต้องหาอะไรไปง้ออีกแล้วสิเนี๊ย” หลังจากนั่งทำงานเพลินจนลืมเวลา เพิ่งจะรู้ตัว ก็เมื่อกระเพาะอาหารส่งเสียงอุธรณ์เสียงดัง

 

ทางด้านสาวน้อยหน้าหวาน หลังจากผ่านพ้นคืนวันคล้ายวันเกิดที่จัดขึ้นอย่างอบอุ่น แต่ขาดคนคุ้นเคยคนสำคัญ ที่คิดว่าเขาลืมไปนั่น ก็เฝ้าแต่รอคอยวันเวลา ว่าเมื่อไหร่กันนะ ที่พี่ดิศของเธอจะมางอนง้อ ถึงแม้จะรู้อยู่เสมอว่า เขางานยุ่งแสนยุ่งแค่ไหนก็ตาม แต่ในใจก็อดไม่ได้ที่จะน้อยใจ นี่ก็ผ่านมาจะอาทิตย์หนึ่งแล้วนะ ยังไม่มีวี่แววเลย อีกไม่นานก็จะเปิดเทอมแล้วด้วย ได้แต่นั่งถอยหายใจไปเรื่อยๆ

 

“ต๊ะเอ๋ พี่นัญคนสวยงับ ยิ้มหน่อยสิงับ ทำไมนั่งหน้าเศร้าอยู่ตรงนี้คนเดียวงับ” ชายหนุ่มพยายามดัดเสียงทุ่มให้กลายเป็นเสียงของพี่หมีน้อยที่อุ้มอยู่

 

 “ว๊าว น่ารักจังเลย น่ารักที่สุดเลยค่ะพี่ดิศ” เพียงแค่เห็นตุ๊กตาหมีตัวโตที่อยู่ในอ้อมแขนของชายหนุ่ม ก็ทำให้แทบจะหายงอนคนตัวโตตรงหน้าเป็นปลิดทิ้ง

 

“ชอบก็รับไปสิคะหนูนัญ”

 

“ว่าแต่ว่า พี่ดิศเอามาให้หนูนัญทำไมล่ะคะ” ถึงแม้จะอยากเข้าไปอุ้มเจ้าหมีตัวโตแค่ไหน แต่ด้วยยังจำได้ดีว่า ยังงอนคนตัวโตอยู่ ทำให้ได้แต่หันหลัง เพราะไม่อย่างนั้น คงอดใจเข้าไปอุ้มเจ้าหมีตัวนี้ไม่ได้

 

“ยังไม่หายงอนอีกหรอคะหนูนัญคนดี พี่งานยุ่งมากจริงๆ ทำงานเพลินไปหน่อย มารู้ตัวอีกทีก็จะตี 1 อยู่แล้ว พี่ไม่ได้ลืมจริงๆนะคะ ดีกันนะ นะนะ” ไม่ว่าเปล่า ชายหนุ่มที่ดูเคร่งขรึมในสายตาคนทั่วไป กลับยกนิ้วก้อยเรียวของตนมาขอเกี่ยวกับสาวน้อยแสนงอน

 

เพียงแค่นี้ อาการแสนงอนก็หายไป ราวกับฝุ่นผงที่เข้าตาที่โดนลมพัดพาหายไป รอยยิ้มสดใสประดับบนดวงหน้าหวาน ยามที่เจ้าตัววิ่งเข้าไปอุ้มกอดเจ้าหมีตัวโตจากชายหนุ่ม

 

“นี่หายไปไหนกันหมดล่ะคะหนูนัญ ทำไมบ้านมันเงียบๆแบบนี้” เพราะสังเกตว่า ตั้งแต่เขาขับรถเข้ามา ยังไม่เห็นใครเลย นอกจากสาวน้อยที่กลายร่างเป็นเด็กน้อยเล่นกับตุ๊กตาหมีตัวใหม่ไปเสียแล้ว

 

“คุณพ่อคุณแม่ไปงานเลี้ยงหน่ะค่ะ ส่วนพี่ๆ ก็คงไปเที่ยวตามประสา” แม้จะตอบคำถามเหล่านั้น แต่สายตาไม่ได้ละไปจากของเล่นชิ้นใหม่ที่ถูกใจทั้งคนให้ทั้งของเลยแม้แต่น้อย

 

“แล้วนี่เราทานข้าวเย็นหรือยังล่ะหือ” เพราะเวลานี้ ก็ค่ำมากแล้ว ยิ่งคนในบ้านไม่อยู่แบบนี้ สาวน้อยของเขาคงไม่ยอมทานอะไรแน่นอน เขาไม่เข้าใจวัยรุ่นสมัยนี้เลยจริงๆว่า จะลดน้ำหนักไปถึงไหนกัน ทำไมต้องกลัวอ้วนกันด้วย แล้วยิ่งยัยตัวยุ่งของเขาแล้วด้วย มองมุมไหนก็ยังไม่เห็นว่าจะอ้วนสักนิด แต่กลับบ่นให้ได้ยินอยู่เสมอๆว่า “หนูนัญอ้วนขึ้นอีกแล้ว” “ทานไม่ได้หรอกค่ะพี่ดิศ มันอ้วน” คนในบ้านจึงต้องออกกฎว่า ทุกคนที่อยู่บ้านต้องทานข้าวเย็น แต่ยกเว้นคนนี้ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่ไม่มีคนอยู่ในบ้านด้วยเช่นวันนี้ ก็จะหาเรื่องไม่ทานซะอย่างนั้น

 

“ยังค่ะ” เป็นเพราะว่ารู้สึกตัวว่าทำผิด หรือเพราะเอาหน้าซุกลงไปกับท้องตุ๊กตาหมีตัวโตกันแน่ ทำให้เสียงที่เปล่งออกมา เบาแสนเบาจนแทบจะไม่ได้ยิน

 

“แล้วมีใครสนใจออกไปทานข้าวเป็นเพื่อนพี่บ้างมั๊ยก็ไม่รู้เนอะ” ชายหนุ่มยังพูดไม่ทันจบประโยค เด็กน้อยในร่างสาวงามก็กระโดดจากที่นั่งกับตุ๊กตาหมีตัวโต มายืนกอดแขนเขา พร้อมกับทำท่าทางออดอ้อน

 

“ไปสิคะๆ เราไปกันเลยนะคะพี่ดิศ เดี๋ยวมันจะดึกกว่านี้ ทานข้าวดึกๆ ไม่ดีนะคะ มันจะอ้วนเอา” ไม่ว่าเปล่า สาวน้อยทั้งดึงทั้งลากชายหนุ่มไปที่รถและพากันออกไปทานอาหารค่ำ

 

“พี่ล่ะไม่เข้าใจเลย ทำไมวัยรุ่นต้องมาห่วงกลัวอ้วนกันด้วย ทั้งๆที่วัยนี้กำลังต้องใช้สมองเยอะ กินไปนิดเดียว เดี๋ยวก็โง่กันพอดี” รดิศเอ่ยด้วยความไม่เข้าใจความคิด ที่พากันกลัวอ้วน ยอมอดข้าวอดน้ำ เพื่อลดน้ำหนักให้ผอมเหมือนดารานางแบบในโทรทัศน์

 

“ก็ถ้าอ้วน ก็ไม่สวยสิคะ แต่ว่าหนูนัญไม่ถึงกับอดข้าวนะคะ แค่ทานเป็นเวลาเท่านั้นเอง” หญิงสาวแก้ตัวเสียงอ่อน เพราะเกรงว่าชายหนุ่มจะโกรธเธอเอา เพราะแต่ไหนแต่ไรมาแล้ว รดิศมักจะบังคับเธอเรื่องทานอาหารอยู่เสมอๆ และที่สำคัญ ทั้งบิดามารดาของเธอเองก็ดูจะยินดีให้เขาบังคัญเช่นกัน

 

“เอาเถอะๆ หนูนัญก็ไม่ได้อ้วนอะไรสักหน่อย แค่รู้จักเลือกทานอาหารที่มีประโยชน์ ไหนจะต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบอีก แล้วแบ่งเวลาออกกำลังกายบ้าง แค่นี้พี่ว่าก็ไม่น่าจะทำให้อ้วนแล้วนะ” รดิศเอ่ยขณะเปิดประตูรอสาวน้อย ก่อนจะเดินอ้อมไปขึ้นรถขับออกไป 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา