เจ้าชายขบถ...รักษ์

9.5

เขียนโดย RATH

วันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553 เวลา 12.49 น.

  9 chapter
  35 วิจารณ์
  24.62K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) บทที่ 9 แฝงกายลอบสังหาร (บทจบ)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

http://www.keedkean.com

 

 

 

บทที่ 9

 

 

แฝงกายลอบสังหาร (บทจบ)

 

 

รถยนต์คันหรูราคาแพงของเจ้าชายสิงหราชได้ถูกภาวิตขับขี่มาจนถึงจุดหมายปลายทาง สถานที่จอดพักรถยนต์คันหรูก็คือใกล้ๆกับประตูทางเข้าสู่กำแพงด้านนอกของตัวตึกรัฐสภา แต่ขณะนี้ภาวิตยังไม่สามารถจะขับขี่รถยนต์คันหรูของเจ้าชายสิงหราชเข้าไปสู่ยังด้านในของกำแพงได้หรือจนถึงหน้าลานกว้างของบันไดทางขึ้นสู่ตัวตึกรัฐสภาได้ จนกว่าภาวิตจะมีอาวุธปืน และอุปกรณ์จำเป็นที่จะต้องใช้ในการทำภารกิจของเธอในครั้งนี้เสียก่อน ภาวิตจ้องมองตรงไปยังรถยนต์กระป๋องคันเก่าที่จอดทิ้งไว้ในเต็นท์รถมือสองฝั่งตรงข้ามของถนนตรงข้ามฝากฝั่งกับรถยนต์คันหรูของเจ้าชายสิงหราชที่เธอกำลังขับขี่อยู่ในขณะนี้..

 

ภาวิตเปิดประตูรถยนต์คันหรูของเจ้าชายสิงหราชแล้วก้าวเดินตรงไปยังเต็นท์รถมือสองฝากฝั่งตรงข้ามในทันที ภาวิตแฝงกายอย่างลับๆโดยไม่ให้ใครหรือผู้ใดรับรู้หรือสังเกตเห็นลักษณะ รูปร่าง ตัวตน หรือร่างเงาของเธอได้แม้แต่คนเดียว เธอก้าวเดินตรงเข้าไปจนถึงรถกระป๋องและเข้าประชิดรถกระป๋องคันเก่าที่มีป้ายเล็กๆเขียนติดไว้ว่า..ขายแล้ว...แน่นอนว่าคนที่เป็นผู้ซื้อรถยนต์คันเก่าหรือรถยนต์กระป๋องคันนี้และจัดเตรียมอุปกรณ์ทุกอย่างไว้ให้แก่เธอก็คือเสือขาว ชายหนุ่มผู้คิดคดทรยศขบถต่อพรรคพวกเพื่อนพ้องเฉกเช่นเดียวกันกับเธอ เธอเปิดประตูรถยนต์กระป๋องคันเก่าแล้วหยิบกระเป๋าเอกสารใบใหญ่สีขาวที่มีน้ำหนักประมาณสองกิโลกรัมออกมาจากรถยนต์กระป๋องคันเก่านั้นในทันที...

 

เธอจ้องมองแผงตัวเลขสำหรับใส่รหัสเปิดและปิดกระเป๋าเอกสาร  ณ ขณะนี้กระเป๋าถูกใส่รหัสเปิดและปิดไว้อย่างดีและแน่นหนา ไม่มีใครสามารถทำการเปิดกระเป๋าได้หากไม่ทราบหรือล่วงรู้รหัสเปิดและปิดกระเป๋าเอกสารใบใหญ่นี้เสียก่อน และก็ไม่สามารถจะทำลายกระเป๋าเอกสารใบใหญ่ได้ด้วยอาวุธปืนหรือวัตถุระเบิด ดังนั้นกระเป๋าเอกสารใบใหญ่ที่มีอุปกรณ์อยู่ภายใน จึงมีคุณสมบัติที่คงทนต่อสภาพแรงกระแทกแรงกดดันทุกรูปแบบได้เป็นอย่างดีหรือคงทนต่อลูกกระสุนปืนและระเบิดได้ด้วยเช่นกัน หลังจากตรวจสอบสภาพของกระเป๋าเอกสารใบใหญ่ ว่ายังอยู่ในสภาพยสมบูรณ์เรียบร้อยดีไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงอีกต่อไปแล้ว ภาวิตทำการปิดประตูรถยนต์กระป๋องคันเก่ากลับคืนสู่สภาพดังเดิม แล้วทำการก้าวเดินแฝงกายออกมาอย่างไร้ร่องรอย และร่างเงาของตัวเธออย่างไม่เคยมายังสถาที่แห่งนี้มาก่อนเลย ภาวิตก้าวเดินออกมาจากเต็นท์รถมือสองเฉกเช่นเดียวกันกับที่ได้แฝงกายก้าวเดินเข้าไปในตอนแรก โดยไม่ให้ใครสามารถจดจำลักษณะ รูปร่างหน้าตา ของเธอได้แม้แต่คนเดียว...

 

ภาวิตก้าวเดินตรงกลับมายังรถยนต์คันหรูของเจ้าชายสิงหราชที่เธอเพิ่งจอดทิ้งไว้เมื่อสักครู่อีกครั้ง ภาวิตทำการเปิดประตูรถยนต์คันหรูแล้วขึ้นไปนั่งลงบนเบาะรถ ตรงคนใช่ขับขี่หรือหน้าพวงมาลัยของรถยนต์ดังเดิม  ภาวิตทำการปิดประตูรถยนต์คันหรูของเจ้าชายสิงหราชอย่างเบามือ อย่างเงียบเชียบ อย่างทะนุถนอม กลับคืนสู่สภาพเดิมอีกครั้งแล้วทำการจ้องมองตรงไปยังกระเป๋าเอกสารที่เธอเพิ่งหยิบและถือออกมา เธอทำการใส่รหัสเปิดกระเป๋าเอกสารนั่นแล้วทำการสำรวจสภาพภายในของกระเป๋าเอกสารอย่างรวดเร็วและในทันที...

 

สภาพภายในของกระเป๋าเอกสารประกอบด้วย อาวุธปืนคู่กายของเธอมันคือปืนสั้นบาเร็ตต้า (Beretta 92 FS) พร้อมแม็กกาซีนปืนสำรองอีกสองชุด ...แต่วันนี้เธอตัดสินใจที่จะไม่ใช้แม็กกาซีนปืนหรือกระสุนสำรองที่เสือขาวได้จัดเตรียมไว้ให้แก่เธอก่อนล่วงหน้าเพราะมันค่อนข้างจะยุ่งยากในการเก็บซ้อนไว้ภายในชุดเสื้อผ้าราชองครักษ์ของเธอเอง ภาวิตหยิบอาวุธปืนสั้นขึ้นมาสำรวจความพร้อมในการใช้งานอย่างรวดเร็วอีกครั้ง เธอปลดแม็กกาซีนปืนออกมาสำรวจความเรียบร้อยอย่างรวดเร็ว แม็กกาซืนปืนยังคงมีกระสุนปืนอยู่เต็ม 15 นัดและในรังเพลิงอีก 1 นัด รวมเป็น 16 นัด ภาวิตแย้มยิ้มอย่างพึงพอใจก่อนที่จะแอบซ้อนอาวุธปืนสั้นไว้ภายในชุดเสื้อผ้าราชองครักษ์ของเธอเอง...



ภายในกระเป๋าเอกสารใบใหญ่ยังมีสิ่งของอีกสองสิ่งแอบซ้อนเก็บเอาไว้ด้วย นอกจากอาวุธปืนสั้นแล้ว สิ่งของพวกนั่นมีด้วยกันสองสิ่งที่เหลืออยู่อันได้แก่เครื่องแล็ปท็อปคอมพิวเตอร์
(laptop computer) และอย่างที่สองก็คือตลับสำหรับบรรจุอะไรไว้สักอย่างหนึ่ง อันมีลักษณะกว้างคูณยาวเท่ากับฝามือเล็กๆของภาวิตเอง สภาพภายในตลับจะมีเข็มฉีดยาพร้อมน้ำยาเต็มหลอด สำหรับใช้ฉีดเข้าสู่กระแสเลือดได้ในทันที เข็มฉีดยาในตลับจะมีด้วยกันสามหลอด และขนาดของเข็มแต่ละหลอดจะแบ่งออกได้เป็น ขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ ดังนั้นเข็มแต่ละเข็มจึงมีความยาวของเข็มที่ไม่เท่ากัน น้ำยาที่บรรจุไว้ในเข็มแต่ละเข็มก็ไม่เท่ากันตามไปด้วย ข้างๆเข็มแต่ละเข็มจะมีตัวหนังสือเล็กๆ เขียนด้วยแสงเลเซอร์สามารถอ่านได้ตาเปล่าได้ว่า...VIRUS DREAM REMEMBER 001…บิดาของภาวิตเคยแปลความหมายให้แก่เธอได้รับฟังเมื่อบิดาของเธอยังคงมีชีวิตอยู่ไว้ว่า ...ภาวิตยังคงจดจำจนขึ้นใจไม่เคยลืมเลือนได้จนถึง ณ วันนี้

 

“ VIRUS DREAM REMEMBER 001 มันแปลว่าอะไรหรือค่ะคุณพ่อ”

 

“หึ หึ ...มันแปลว่า...ความทรงจำและความฝันที่จะกลับคืนมา..อย่างไรกันล่ะลูกพ่อ”

 

“มันจะช่วยรักษาคุณแม่ให้หายได้ใช่มั้ยค่ะ คุณพ่อ”

 

“แน่นอนสิจ๊ะ ลูกพ่อ มันจะช่วยรักษาคุณแม่ของหนูให้หายได้ พ่อขอรับรองนะจ๊ะลูก”

 

“ดีจังค่ะคุณพ่อ”

 

เวลาผ่านมาหลายสิบปีหลังจากบิดาเธอจากไป VIRUS DREAM REMEMBER 001 ถูกขโมยความคิดแล้วมันยังถูกนำเอาไปพัฒนาต่อ มันได้รับการดัดแปลงสายพันธุ์ขึ้นใหม่ อีกมากมายหลากหลายสายพันธุ์และที่สำคัญมันได้ถูกแปลความหมายให้ใหม่ด้วยอย่างเช่น... ชื่อที่เขียนด้วยตัวภาษาอังกฤษข้างหลอดยายังคงเหมือนเดิม เหมือนอย่างเช่นที่บิดาเธอเคยอ่านให้เธอฟัง แต่ที่ไม่เหมือนเดิมก็คือสิ่งที่บิดาเธอเคยแปลความหมายไว้ แม้มันจะนานหลายปีมาแล้วเธอยังคงจดจำได้ ในวันนี้ VIRUS DREAM REMEMBER 001 มันถูกแปลความหมายใหม่ไว้ว่า... ความทรงจำและความฝันที่สาบสูญ...หรือเรียกสั้นๆว่า.. VDR001  ไวรัสขโมยความทรงจำ เธอปิดตลับใส่หลอดเข็มฉีดยาทั้งสามเล่มกลับคืนไว้ดังเดิมเหมือนอย่างครั้งแรกที่เจอะเจอมันแล้วทำการแอบเก็บซ้อนตลับใส่เข็มฉีดยาเก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อผ้าราชองครักษ์ของเธอเอง เฉกเช่นเดียวกันกับปืนสั้นที่เธอได้แอบเก็บซ้อนเอาไว้แล้วก่อนล่วงหน้าด้วยแล้วเช่นกัน

 

ณ ขณะนี้สิ่งที่เธอยังไม่ได้เปิดและสำรวจดูก็คือข้อมูลในเครื่องแล็ปท็อปคอมพิวเตอร์ เธอคิดว่ามันยังไม่จำเป็นที่จะต้องเปิดดูข้อมูลภายในเครื่องแล็ปท็อปคอมพิวเตอร์ในขณะนี้ เพราะข้อมูลส่วนใหญ่ ตัวเธอเองต่างก็ได้ศึกษารับรู้และจดจำไปหมดสิ้นแล้ว เธอเก็บเครื่องแล็ปท็อปคอมพิวเตอร์กลับเข้าไปไว้ในกระเป๋าเอกสารใบใหญ่ตามเดิมพร้อมใส่รหัสปิดล็อคกระเป๋ากลับคืนเช่นเดิมด้วย ..พร้อมแอบซ้อนกระเป๋าเอกสารใบใหญ่เก็บไว้ยังหลังเบาะหลังรถตรงข้ามเบาะของคนขับขี่ หลังจากนั้นเธอจึงขับขี่รถยนต์คันหรูของเจ้าชายสิงหราชตรงไปยังหน้าประตูทางเข้าสู่ถนนด้านในกำแพงสีขาวขนาดใหญ่เบื้องหน้าในทันที...

 

“แสดงบัตรผ่านด้วยครับ”

 

เสียงนายทหารประจำประตูทางเข้าออกคำสั่งแก่ภาวิต ...ภาวิตแย้มยิ้มและส่ายหน้าพร้อมชี้นิ้วไปยังกระจกหน้ารถยนต์ มันมีป้ายวงกลมขนาดเล็กเป็นสัญลักษณ์ประจำพระองค์ของเจ้าชายสิงหราช อันเป็นที่รู้จักกันว่านี้คือรถพระที่นั่งส่วนพระองค์ของเจ้าชายสิงหราช ผู้ขับขี่รถยนต์คันนี้จึงมีอภิสิทธิ์ไม่จำเป็นต้องแสดงบัตรผ่านแต่อย่างใดทั้งสิ้น นายทหารประจำประตูทางเข้าจ้องมองหน้าภาวิต ผ่านกระจกข้างคนขับอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา... ว่าไอ้คนขับขี่รถพระที่นั่งประจำพระองค์หรือของเจ้าชายสิงหราชคนนี้มันเป็นใครมาจากไหนกัน  ไม่เคยเห็นหน้าเห็นตามาก่อนเลย... เพื่อตัดความกังวลของนายทหารประจำประตูทางเข้าออกไป ภาวิตจึงตัดสินใจที่จะให้ท่านไผท...เจ้าหน้าที่ระดับสูงประจำพระองค์ของเจ้าชายสิงหราชช่วยเหลือเธออีกแรงหนึ่ง เธอกดปุ่มโทรศัพท์โทรออกในทันที และเสียงคนรับปลายสายก็ดังขึ้น

 

“ภาวิตเจ้ามีธุระอะไรถึงได้โทรมาหาข้าหรือว่าเจ้าคิดถึงข้าอย่างนั้นรึ”

 

“ท่านไผท ข้าไม่ใช้อิสตรีหญิงงามที่ที่ไหน ที่คอยตามจีบตามตื้อท่านอยู่นะ ถึงได้โทรมาหาท่านในยามที่ข้าคิดถึงท่าน ...ข้าโทรมาหาท่านเพราะข้ามีธุระต่างหากล่ะท่านไผท”

 

“หึ หึๆๆ ข้าล่ะหลงดีใจ คิดว่าเจ้าคิดถึงข้าถึงได้โทรมาหาเสียอีก ที่แท้เจ้าก็มีธุระนี้เอง ข้าล่ะเสียใจจริงๆเลยภาวิต เอาล่ะเจ้าพูดธุระของเจ้ามาได้แล้วข้าพร้อมรับใช้เจ้าแล้วล่ะภาวิต... สวีท ฮาร์ท (Sweet Heart)ของข้า”

 

ท่านไผทเจ้าหน้าที่ระดับสูงหรือสายลับประจำตัวเจ้าชายสิงหราชพูดจาโต้ตอบหยอกล้อกับภาวิต ลงท้ายด้วยคำพูดเป็นภาษาอังกฤษที่ชายหนุ่มส่วนใหญ่มักพูดกับหญิงสาวอันเป็นที่รักหรือสุดยอดหัวใจ ...ขณะเมื่อชายหนุ่มและหญิงสาวอยู่ในระหว่างคบหาหรือดูใจซึ่งกันและกัน แต่ในครั้งนี้ไผทรู้สึกว่าหัวใจรู้สึกแปลกๆอย่างไรบอกไม่ถูกอยู่เหมือนกัน  ไผทพูดคำว่าสวีท ฮาร์ท (Sweet Heart) ได้อย่างมีความสุขในส่วนลึกของหัวใจจริงๆ หรือว่าไผทเองก็ใกล้จะเริ่มผิดปกติเฉกเช่นเดียวกันกับเจ้าชายสิงหราชด้วยอีกคนเสียแล้ว ไผทรู้สึกจะหนาวๆ ร้อนตามรูขุมขนบนร่างกายอย่งไม่สามารถบอกแก่ใครให้รับรู้ได้ถูก เสียงต้นสายปลุกหัวใจที่มีความสุขในส่วนลึกให้ตื่นขึ้นมาอีกครั้ง

 

“ท่านไผทข้าบอกแก่ท่านแล้วว่าอย่าได้พูดจาหยอกล้อกับข้าเช่นนี้ ข้าล่ะกลุ้มใจกับพวกท่านจริงๆเลย ชอบพูดหยอกล้อข้าเล่นอยู่เรื่อยๆ พวกท่านรับรู้กันบ้างหรือไม่ ตอนนี้ ณ ขณะนี้ ข้าต้องเผชิญหน้ากับสิ่งใดอยู่ ..พวกนางใน นางข้าหลวง นางในเวียงวัง พวกนางต่างพากันเผาพริก เผาเกลือสาปแช่งข้าอยู่ทุกวัน และพวกนางต่างพากันกล่าวหาว่าข้า เป็นพ่อมดหรือหมอผี ที่วิตถารผิดปกติในเพศ พวกนางกล่าวหาว่าข้าเป็นผู้ชื่นชอบทั้งเพศหญิงและเพศชาย พวกนางกล่าวหาว่าข้า ...ใช้พระเวทย์มนต์ดำ เสกร่ายมนต์ถาคาทำให้องค์สิงหราชหลงรัก แล้วดูดกลืนความหนุ่มแน่นดังชายชาตรีขององค์สิงหราชออกไปกินเล่น และในตอนนี้ข้าก็กำลังจะทำให้เจ้าชายสิงหราชตกอยู่ในอันตรายอย่างยิ่งยวดด้วย และหากวันนี้พวกนางได้รับรู้ว่าท่านเองก็มีจิตใจหลงใหลหลงรักเสน่หาในตัวข้าอีกคน พวกนางคงรวมตัวกันพากันมาจับกุมตัวข้าไปก่อกองไฟจุดไฟเผาย่างข้าทั้งเป็นอย่างแน่นอนเลยท่านไผท...”

 

“ฮ่าๆๆ มีเรื่องอย่างนั้นด้วยรึภาวิต”

 

“ก็ใช่นะสิ ท่านไผท เมื่อท่านรับรู้แล้วก็เลิกพูดจาหยอกล้อข้าได้แล้ว ก่อนที่อะไรๆ มันจะสายเกินไป”

 

“ฮ่าๆๆ อะไรๆ ของเจ้านี้มันคืออะไรๆ หรือภาวิต”

 

“ก็อะไรๆนั้นแหละท่านไผท”

 

“แล้วมันอะไรๆเล่า”

 

“ท่านอย่าได้รับรู้เลยท่านไผท ข้าไม่ต้องการจะสนทนากับท่านอีกต่อแล้วล่ะ”

 

“ฮ่าๆๆ ตกลงข้าไม่อยากจะรับรู้แล้วแช่นกัน เอ๊า..พูดธุระของเจ้ามาได้แล้วภาวิตข้าพร้อมจะรอรับคำสั่งหรือคำขอร้องของเจ้าแล้ว”

 

“ท่านไผทช่วยเหลือข้าหน่อยได้มั้ย ตอนนี้ข้าอยู่ที่ประตูทางเข้าด้านหลังตึกรัฐสภา นายทหารผู้ดูแลประตูไม่ให้ข้าขับรถยนต์เข้าไปเหมือนจะกำลังกังวลอะไรอยู่สักอย่าง”

 

“ว่าไงน่ะ ภาวิต เจ้าบอกว่าเจ้าอยู่ที่ประตูทางเข้าด้านหลังอย่างนั้นรึ”

 

“ครับท่านไผท”

 

“และเจ้าบอกว่าเจ้าขับรถยนต์มาเองด้วยอย่างนั่นหรือภาวิต”

 

“ครับท่านไผท”

 

“และเจ้าคงไม่ได้ขับรถยนต์พระที่นั่งประจำพระองค์ขององค์สิงหราชมาด้วยหรอกนะภาวิต”

 

“ครับท่านไผท”

 

“ไอ้ภาวิต สวีท ฮาร์ท (Sweet Heart)ของข้า เจ้าอยากตายก่อนวัยอันควรหรืออย่างไร รถยนต์มีให้ขับขี่กันตั้งมากมายแยะเยอะ แต่เจ้ากับเลือกขับรถยนต์พระที่นั่งคันโปรดขององค์สิงหราช มา ข้าล่ะกลุ้มใจแทนเจ้าซะจริงๆเลยภาวิต เจ้ากับองค์สิงหราชคงต้องจับดาบขึ้นต่อสู่ฆ่าฟันกันสักวันแน่ๆ เจ้ามันชอบท่าทายพระอารมณ์ร้ายขององค์สิงหราชซะจริงๆเลย สักวันองค์สิงหราชคงต้องออกคำสั่งให้เจ้าไปทำหน้าที่ล้างส้วมแทนที่จะทำหน้าที่เป็นราชองครักษ์อย่างแน่นอน...ภาวิต”

 

“ข้าไม่เห็นจะกลัวเลยท่านไผท...หากวันใดองค์สิงหราชออกคำสั่งให้ข้าไปล้างส้วมจริงๆ เมื่อถึงวันนั้นข้าเองก็จะขอลาออกไปหางานอย่างอื่นทำเช่นกันและ ข้าว่ามันจะสบายตา สบายใจมากกว่าที่จะทำงานรับใช้ให้แก่เจ้าชายสิงหราชเป็นไหนๆ”

 

“จริงรึไอ้ภาวิต สวีท ฮาร์ท (Sweet Heart)ของข้า”

 

“จริงซิท่านไผท... แล้วท่านก็เลิกเรียกข้าว่า สวีท ฮาร์ท (Sweet Heart) ได้แล้ว ข้าไม่ใช่คนรักของท่าน ข้าเองก็เป็นชายชาตรีเช่นท่าน”

 

“ฮ่าๆๆ..ตกลงข้าจะเลิกหยอกล้อเจ้าเล่นแล้วภาวิต แต่ข้าอยากจะถามเจ้าว่าหากเจ้าไม่ต้องการจะทำงานให้แก่องค์สิงหราชแล้ว เจ้าจะไปทำงานอะไรล่ะภาวิต”

 

“ก็ออกจะมากมายแยะเยอะหลากหลายนะท่านไผท อย่างเช่นข้าอาจจะเป็นดารา นักร้อง นักแสดง หรืออาจจะเป็นนักข่าว”

 

“ฮ่าๆๆ เจ้ามันฝันไปหรือเปล่าภาวิต ฮ่าๆๆ...จะพูดไปแล้วที่เจ้าพูดมาก็อาจจะเป็นความจริงได้เหมือนกันนะภาวิต หน้าตาของเจ้ามันน่ารักอย่างกับดารานักแสดงหรือ หล่อเหลาอย่างดาราเกาหลีและนักร้องญี่ปุ่น แต่อย่างสุดท้ายที่เจ้าฝันว่าอยากจะเป็นนักข่าวนี้สิข้าว่ามันไม่น่าจะเป็นไปได้เลยน่ะภาวิต”

 

“แต่ข้าว่าอาชีพนักข่าวนี้แหละที่ข้าว่าจะเป็นไปได้มากที่สุด และเหมาะสมสำหรับอาชีพของข้ามากที่สุดเลยล่ะ ท่านไผท”

 

“อย่างไรกันภาวิต”

 

“ก็ข่าวแรกที่ข้าจะเขียนก็คือข่าวขององค์สิงหราชกับท่านไผทอย่างไรกันล่ะ ท่านไผท..”

 

“ฮ่าๆๆเจ้าจะเขียนอะไรเกี่ยวกับข้าและองค์สิงหราชหรือภาวิต”

 

“ข้าก็จะเขียนว่าพวกท่านต่างหลงรักและหลงเสน่หาข้าหนุ่มน้อยผู้งดงามเยี่ยงอิสตรีคนนี้อย่างไรกันล่ะท่านไผท ข้าคิดว่ามันคงต้องเป็นข่าวที่ขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าอย่างแน่ๆเลย”

 

“ไอ้ภาวิต สวีท ฮาร์ท (Sweet Heart)ของข้า เจ้านี้มันมีความคิดวิตถารผิดปกติซะจริงๆเลย มิน่าล่ะองค์สิงหราชถึงได้ชอบนิสัยวิตถารของเจ้า เพราะเจ้ามันตลกร้ายมากๆอย่างนี่นี้เอง”

 

“ท่านเลิกพูดจาหยอกล้อเล่นกับข้าได้แล้วท่านไผท ท่านรบกวนให้ท่านช่วยโทรบอกเจ้าหน้าที่ให้ข้าด้วยเถอะครับ ตอนนี้รถยนต์ต่อคิวรอกันจะขับเข้าประตูกันยาวเยียดมากมายหลายคันแล้วน่ะ ท่านไผท”

 

“เรียบร้อยแล้ว สวีท ฮาร์ท (Sweet Heart)ของข้า เจ้าขับรถเข้ามาได้เลย”

 

“ขอบคุณครับ ท่านไผท”

 

ภาวิตกดปิดปุ่มสัญญาณโทรออกแล้วทำการเก็บโทรศัพท์ไว้ในกระเป๋า แล้วจึงเริ่มขับขี่รถยนต์พระที่นั่งส่วนพระองค์ขององค์สิงหาราชเข้ามายังตัวตึกด้านหลังของตัวตึกรัฐสภาอย่างไม่มีความกังวลในสิ่งใดเลย แต่สิ่งที่ภาวิตได้ทิ้งเอาไว้เบื้องหลังก็คือความสงสัยใคร่รู้ของนายทหารประจำประตูทางเข้าจำนวนมาก พวกเขาต่างทำงานตามหน้าที่มาหลายปีก็เพิ่งจะเคยเห็นราชองครักษ์ที่มีอภิสิทธิ์มากมายขนาดนี้เป็นครั้งแรก... หรือว่าเรื่องซุบซิบนินทากาเลที่หลุดรอดออกมาจากในเวียงวังจะเป็นเรื่องจริง องค์สิงหราชเจ้าชายแห่งประเทศมหภาคเดือนตะวัน มีความรักชอบกับราชองครักษ์หนุ่มน้อย มันคือเรื่องจริงไม่ใช่เรื่องซุบซิบนินทากาเลหรือนี้

 

http://www.keedkean.com

................................................................

 

 

“เฮ๊ย...เมื่อกี่ใครโทรเข้ามาหาแก่หว่ะ เพื่อน”

 

“ท่านไผท...หวะเพื่อน”

 

“เอ๊อ... เข้าใจแล้ว แต่ที่ข้าไม่เข้าใจก็คือไอ้ราชองครักษ์หน้าสวยนั่นมันเป็นใครกันหวะ แหม๊...มันสวยหยาดฟ้ามาดินจริงๆ เลยหวะ ถ้าข้าไม่เห็นว่ามันใส่ชุดราชองครักษ์อยู่ข้าคงต้องเข้าใจว่ามันเป็นผู้หญิงร้อยเปอร์เซ็นต์เลยล่ะหวะ”

 

“พี่เห็นหน้าตามันชัดเจนเลยรึ”

 

“ก็เอ๊อ...สิหวะถ้าข้าไม่เห็นมันชัดเจนข้าจะปล่อยให้มันขับรถเข้าไปข้างในได้อย่างไรกัน แหม๊...สวยน่ารักอย่างกับดารา นักแสดง ผู้ชายอะไรกันหวะ”

 

“โธ่...พี่ไปอยู่ดาวพระเคราะห์ดวงไหนมา สมัยนี้ดาวโลกของเรามันเปลี่ยนแปลงไปแล้วครับพี่ ผู้ชายหน้าตาสวยๆก็มีกันเต็ม ถมเทกันไปหมดแล้ว ถ้าพี่ไม่เชื่อผมจะพาพี่ไปดูด้วยตาตัวเองก็ยังได้เลย”

 

“เอ๊อ...แกไม่ต้องมาพูดจาแดกดันข้าเลย ข้าไม่ได้ไปอาศัยอยู่ดาวพระเคราะห์ดวงไหนมาหรอกเพื่อน ข้าก็อาศัยอยู่บนดาวดวงเดียวกันแกนี้แหล่ะ ข้าเองก็เคยเห็นผู้ชายหน้าตาสะสวยมาก็มากมายเหมือนกัน แต่ไอ้พวกนั้นมันเป็นพวกกะเทยแปลงเพศ ตัดนั่นเสริมนี้ให้กลายเป็นผู้หญิง แต่ไอ้ราชองครักษ์คนนั้นมันเป็นผู้ชายไม่ใช่เป็นผู้หญิงและมันก็สวยกว่าไอ้พวกกะเทยแปลงเพศพวกนั้นเป็นร้อยเท่าพันเท่าหว่ะ เพื่อนเอย”

 

“จริงหรือพี่”

 

“ก็เอ๊อสิหวะ ข้าจะหลอกเอ๊ง..ไปทำไม ...ที่ข้ากำลังสงสัยอยู่ก็คือเรื่องซุบซิบในเวียงวังมันน่าจะเป็นเรื่องจริงก็ได้”

 

“เรื่องอะไรหรือพี่”

 

“เงียบไว้ อย่าเอ็ดไป ถ้าพูดไปหัวเอ๊งกับข้าอาจจะขาดก็ได้นะมึง”

 

“ขนาดนั่นเลยหรือพี่”

 

“ก็เอ๊อสิหวะ”

 

“กระซิบเบาๆก็ได้พี่ ผมอยากรู้”

 

“เอาหูมาข้างๆข้านี้”

 

“เหลวใหลชัดๆเลยพี่มันเป็นไปไม่ได้หรอก เจ้าชายออกจะเป็นชายชาตรีใครๆก็ต่างก็รับรู้กันทั้งนั้น เรื่องอะไรจะไปรักชอบอะไรแบบนั่น ผมไม่เชื่อพี่หรอก อย่ามาโกหกผมให้อยากเลย”

 

“ตามใจแก ข้าไม่ได้บังคับให้แกเชื่อข้าเสียหน่อย แต่ข้าว่า...ไม่มีมูล หมาไม่ขี้..หวะเพื่อนโดยเฉพาะวันนี้ข้าได้เห็นหลักฐานกับดวงตาข้าเองแบบนี้ด้วย ข้าเริ่มจะเชื่อเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์แล้วล่ะเพื่อนเอย...”

 

“ตามใจพี่แต่ผมคนหนึ่งล่ะไม่เชื่อพี่เด็ดขาด...”

 

“แกไม่เชื่อ แต่ข้าเชื่อ เลิกพูดเถอะหวะ สักวันความจริงต้องถูกเปิดเผยแน่ๆ แกคอยดูแล้วกัน”

 

การสนทนาอันเป็นความลับที่ไม่ลับเลยสักนิดของของทหารยามเฝ้าประตูทางเข้าด้านหลังตัวตึกจบลง แต่ข้อมูลอันเป็นความลับกับไม่ได้ถูกโยนทิ้งหรือละเลยไป มันพร้อมกลับนำมาใช้ประโยชน์บางอย่างได้อีก เสียงกดปุ่มโทรศัพท์ของทหารยามเฝ้าประตู สายลับแอบแฝงบางคนดังขึ้น น้ำเสียงการสนทนาเป็นความลับไม่สามารถบอกให้ใครรับรู้ได้

 

“รถพระที่นั่งประจำตัวองค์สิงหราช เพิ่งขับผ่านเข้าไปครับ จับตาและตามประกบเอาไว้ คาดว่าราชองครักษ์คนนี้น่าจะพอมีประโยชน์สำหรับพวกเราก็ได้ครับ”

 

“รับทราบ”

 

http://www.keedkean.com

 

.................................................................

 


ณ ห้องรับรองส่วนพระองค์ขององค์สิงหราช มันเป็นห้องสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง ทีวีขนาดใหญ่ พร้อมเครื่องเสียงอันดังอย่างในโรงหนัง สภาพโดยรอบห้องจะถูกปิดบังด้วยผ้าม่านสีเข้มบดปังแสงเงาจากโลกภายนอก เจ้าชายสิงหราชทรงประทับนั่งอยู่บนโซฟาเนื้อนุ่มขนสัตว์อย่างดีที่ถูกสั่งตรงมาจากต่างประเทศ ด้านหน้าโซฟาที่ทรงประทับจะมีเครื่องแล็ปท็อปคอมพิวเตอร์ที่วางไว้บนโต๊ะเล็กๆที่เข้าชุดกับโซฟาที่องค์สิงหราชทรงประทับนั่งจ้องมองเครื่องแล็ปท็อปคอมพิวเตอร์อยู่ด้วยวงพระพักตร์เครียดอย่างพระอารมณ์ไม่ดีอย่างสุดๆ

 

ไผทเจ้าหน้าที่คนสนิทและยังเป็นสหายเพื่อนรักในเวลาเดียวกันด้วย ต่างรับรู้ดีว่าเรื่องในการประชุมคงไม่ทำให้องค์สิงหราชพอพระหทัยมากนัก จึงทรงนั่งพระพักตร์เครียดและดื่มกาแฟเงียบๆอยู่เพียงพระองค์เดียว แม้จะทรงให้ความสนใจอยู่กับหน้าจอมอนิเตอร์ แต่ไผทรับรู้ถึงความรู้สึกขององค์สิงหราชได้ดีว่า ทรงไม่ได้สนใจหรือสนพระหทัยในข้อมูลหน้าจอมอนิเตอร์เลยแม้แต่เพียงนิดเดียว ไผทจึงก้าวเดินเข้าไปหาสหายหรือเพื่อนรัก ไม่ใช่ในฐานะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของประเทศมหภาคเดือนตะวัน

 

“สิงหราชนายกำลังกลุ้มใจอะไรหรือเพื่อน”

 

“ฉันคิดว่าวันนี้ นายจะเรียกฉันว่า เจ้าชายหรือองค์สิงหราชทั้งวันเสียอีก ไผท”

 

“ความจริงฉันก็ตั้งใจจะเรียกนายแบบที่นายพูดมาทั้งวันเหมือนกันล่ะเพื่อน แต่พอเห็นสีหน้าอมทุกข์ ของนายแล้วเกิดใจอ่อนขึ้นมา วันนี้ฉันจึงขอใช้ฐานะที่เราเคยเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่กันมาก่อนขอพูดจากับนายแบบแมนทูแมน...แบบผู้ชายๆ แบบเพื่อนๆ แล้วกัน”

 

“นายนี้มันยังกวนๆเหมือนเดิมเลยนะไผท”

 

“ก็น่ะ นิสัยฉันมันก็เป็นแบบนี้มานานแสนนานแล้ว มันจะเปลี่ยนไปได้อย่างไรกัน สิงหราช”

 

“ฉันก็ว่างั้นแหละ แต่วันนี้ฉันว่านายไม่ต้องมาทำหน้าตากวนๆใส่ฉันเลยก็ได้ ฉันไม่มีอารมณ์สนุกสนานกับนายอย่างแน่นอน”

 

“เรื่องมันเครียดและหาทางแก้ไขไม่ได้จริงๆ หรือสิงหราช”

 

“ใช่แล้วไผท เรื่องมติเกี่ยวกับอาวุธสงคราม มันตกไปแล้วและไม่มีใครต้องการจะให้มันได้รับการสืบสวนต่อไป ทั้งหมดนี้เป็นเพราะท่านนายกกษิณผู้ชั่วร้ายคนนั้นแท้ๆเลย”

 

“ท่านนายกรัฐมนตรีกษิณนั่นหรือสิงหราช”

 

“ใช่แล้วไผท ฉันคาดว่าท่านนายกกษิณกับองค์อนุราช ท่านพี่ของฉันต้องอยู่เบื้องลึกเบื้องหลังในเหตุการณ์ทุกๆเหตุการณ์รวมถึง การระงับมติเกี่ยวกับเหตุการณ์ซื้อขายอาวุธสงครามในครั้งนี้แน่ๆ...มันน่าฆ่าทิ้งทั้งสองคนเลยจริงๆ พวกเขาทั้งช่วยกันคอรัปชั่นฉ้อโกงต่างๆนานาจนถึงวันนี้เงินทองจะท่วมตัวตายกันอยู่แล้วกับยังไม่รู้จักเพียงพอกันอีก ตอนนี้แม้แต่อาวุธสงครามก็ต่างพากันลักลอบซื้อขายกันมันน่าแค้นใจยิ่งนัก ที่เจ็บใจจริงๆคือเราไม่มีหลักฐานสามารถมัดตัวเอาผิดแบบคาหนังคาเขาได้เลย ...หลักฐานที่ได้รับมาเมื่อสองเดือนที่แล้วก็แค่สามารถทำการยึดเอาอาวุธสงครามมาเป็นของหลวงได้ก็แค่นั่น แต่ไม่สามารถเอาผิดมัดตัวคนลักลอบซื้อขายได้”

 

“สิงหราช เวลานี้เราก็ทำงานกันเต็มที่แล้ว ปล่อยมันไปสักระยะเถอะ ฉันคิดว่าไม่นานเราต้องหาหลักฐานมาเอาผิดกับพวกเขาได้แน่ๆเพื่อน”

 

“ขอบใจมากไผทที่คอยเป็นเพื่อนและให้กำลังใจฉันมาตลอด อย่างที่นายบอกปล่อยพวกมันไปสักพัก ไม่นานหางจิ้งจอกของพวกมันคงต้องโผออกมาให้เห็นแน่ๆ เพื่อน”

 

“ดีมากสิงหราช ที่นายคิดได้แบบนี้ อย่างนั่นนายก็เลิกทำหน้าอมทุกข์ได้แล้ว ฉันคิดว่าเราน่าจะออกไปข้างนอกได้แล้วล่ะ ท่านนายกษิณน่าจะรอส่งนายอยู่หน้าตึกรัฐสภาแล้วล่ะเพื่อน”

 

“ถ้าไอ้แก่นั่นมันอยากรอก็ให้มันรอต่อไป ให้เหน็บกินตายไปเลยยิ่งดี”

 

“นายนี้ไร้เหตุผลสิ้นดีเพื่อนรัก ไอ้แก่ที่นายพูดถึงมันไม่ได้ยืนรอนายหรอกนะ มันนั่งรอนายอยู่ต่างหากล่ะเพื่อน พร้อมมีคนบีบนวดให้อยู่ตลอดเวลา และมันก็คงไม่ตายง่ายๆด้วยเพื่อนเอย..”

 

“จริงของนายไผท ไอ้ชั่วร้ายนั่นมันไม่ตายง่ายๆอยู่แล้ว ฉันอยากให้มีคนลอบดังยิงมันให้ตายซะจริงๆเลยหวะไผท”

 

“ถ้านายต้องการฉันจะสั่งให้ลูกน้องเป็นคนไปดักยิงมันเองดีมั้ย สิงหราช”

 

“นายนี้มันรับมุกฉันดีจริงๆเลยนะไผท แต่ถ้าได้อย่างที่นายพูดมามันก็ถ้าจะดีเหมือนกันหวะเพื่อนรัก หึ หึๆๆ”

 

“ไม่ล่ะฉันเองก็ยังไม่ต้องการจะเป็นฆาตกรเหมือนกันเพื่อนรัก...เจ้าชายสิงหราช...หึ หึๆๆ”

 

“กวนไม่เลิกเลยนะไผท...ตกลงเราออกไปข้างนอกกันได้แล้วฉันเองก็อยากจะกลับไปพักผ่อนแล้วเหมือนกัน นายช่วยหยิบกระเป๋าเอกสารให้ฉันหน่อยนะเพื่อน...ออ..ระวังด้วยล่ะข้างในมันมีปืน”

 

“มีปืนหรือ สิงหราช”

 

“ก็ใช่น่ะสิ ไอ้ภาวิตจอมขี้เกียจนั่นมันแอบซ้อนมากับกระเป๋าเอกสารของฉัน เมื่อเช้าฉันออกคำสั่งให้มันเอากลับไปเก็บไว้ที่เดิม แต่พอลับหลังฉันมันแอบซ้อนเก็บไว้ในกระเป๋าเอกสารของฉันอีก มันน่าจับขังคุกซะจริงๆ ไม่รู้ว่าฉันหรือมัน ใครเป็นเจ้าชาย ใครเป็นนายกันแน่ บางครั้งฉันคิดว่ามันกำลังออกคำสั่งฉันไม่ใช่ฉัีนกำลังออกคำสั่งมันอยู่ ฉันมีความรู้สึกแบบนั้นอยู่จริงหวะเพื่อน”

 

“ฮ่าๆๆ...ไอ้ภาวิตนี้มันสำคัญจริงๆหวะ มันกล้าหาญผิดผู้ผิดคนซะจริงๆ”

 

“ก็ใช่นะสิ ไอ้ภาวิตมันไม่เคยกลัวเกรงฉันเลย ขู่ก็แล้ว ห้ามก็แล้ว สารพัดจะพูดจากับมันดีๆ แต่มันไม่เคยฟังฉันเลย ตอนนี้ฉันไม่รู้จะทำอย่างไรกับมันดีแล้ว จะไล่มันไปก็ไม่ได้ฉันรับปากผู้มีพระคุณจะดูแล เลี้ยงดูมันเป็นอย่างดี  ...แกดูสิวันนี้ไอ้ภาวิตมันใกล้จะปีนขึ้นไปอาศัยอยู่บนศีรษะฉันแล้ว คิดถึงมันเมื่อไหร่ก็ทำให้กลุ้มใจสารพัด ไหนจะเรื่องข่าวซุบซิบนินทากาเลนั้นอีกล่ะ ทำไมมันไม่เกิดมาหน้าตาขี้ริ้วขี้เหร่ไปเลยนะ ไผท เจ้าว่ามั้ย”

 

“หึ หึ ฮ่าๆ...สิงหราชนายนี้มันสุดยอดจริงๆหวะเพื่อน เวลานายพูดถึงไอ้ภาวิตฉันรู้สึกว่านายจะมีความสุขอย่างไรชอบกลอยู่นะเพื่อน”

 

“ไอ้ไผท แกกำลังคิดอะไรบ้าๆอยู่ใช่มั้ย”

 

“ก็นิดหน่อยนะเพื่อน แต่ฉันมีข่าวดีบางอย่างจะบอกนาย”

 

“ข่าวดีอะไรหรือไผท”

 

“ตอนนี้ฉันเองก็ยังไม่แน่ใจว่ามันเป็นข่าวดีหรือข่าวร้ายเหมือนกันหวะเพื่อน...แต่เอาเป็นว่าเป็นข่าวดีผสมข่าวร้ายแล้วกัน หึ หึ”

 

“ข่าวดีผสมข่าวร้ายหรือไผท”

 

“ใช่ สิงหราช ข่าวดีผสมข่าวร้ายสำหรับนาย เมื่อสักครู่ฉันเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากไอ้ภาวิต สวีท ฮาร์ท (Sweet Heart)ของฉัน ในตอนนี้ไอ้ภาวิตกำลังรอพวกเราอยู่ข้างนอกพร้อมรถยนต์พระที่นั่งคันโปรดของนายหวะเพื่อน”

 

“ว..ว่ะ..ว่าอะไรนะไอ้ภาวิตมันอยู่ข้างล่างพร้อมรถพระที่นั่งคันโปรดที่พระบิดาของฉันซื้อให้เป็นของขวัญในวันพระประสูติของฉันอย่างนั้นหรือไผท”

 

“ฮ่าๆๆ..ใช่แล้วเพื่อน ไอ้ภาวิตมันขับไอ้รถยนต์คันหรูของนายมาจริงๆหวะ รู้สึกว่า ณ เวลานี้ทุกคนในเวียงวังหรือนอกวังต่างรับรู้กันอย่างถ้วนหน้าแล้วล่ะเพื่อน”

 

“ไอ้ภาวิตมันต้องตาย ฉันจะฆ่ามัน ...แกเห็นมั้ย ไผทฉันบอกนายแล้วไอ้ภาวิตมันไม่เคยกลัวเกรงฉันเลย สักวันเมื่อฉันกำลังนอนหลับฝันดีมันต้องลักลอบจับศีรษะฉันกดลงถังน้ำจนจมน้ำตายอย่างแน่ๆเลย”

 

“ฉันว่าวันนี้นายก็ใกล้จะจมน้ำตายอยู่แล้วล่ะเพื่อน...นายกำลังจมน้ำใจในดวงหทัยแห่งรักอย่างไรกันล่ะ สิงหราช”

 

“ไอ้ไผท แกอย่าพูดตลกอะไรแบบนี้อีก ฉันไม่ชอบ”

 

“ฮ่าๆๆ สิงหราชหนอ สิงหราช นายนี้มันไม่รู้จักตัวเองเลยจริงๆ นะเพื่อน ฮ่าๆ...ฉันขอเดินไปรอนายข้างนอกนะเพื่อน...ฮ่าๆๆ”

 

“ไอ้ไผทแกหมายความว่าอย่างไรหยุดเดี๋ยวนี้นะ ไอ้ไผท”

 

“ฉันไม่หยุดสิงหราช ถ้านายอยากรู้คำตอบก็ติดตามฉันให้ทันสิเพื่อนรัก ฮ่าๆ”

 

“แกคิดว่าฉันหลงรักไอ้ภาวิตมันจริงๆ หรือไผท แกคิดผิดแล้ว แกคิดผิดจริงๆเพื่อน แกคิดผิด”

 

“ฮ่าๆๆๆ....”

 

 

.........................................................................

 

บทที่ 9  ต่อบทที่ 10 กระสุนนัดแรกใครยิง...

 

............................................................................


๏ พฤษภกาสร อีกกุญชรอันปลดปลง
โททนต์เสน่งคง สำคัญหมายในกายมี

๏ นรชาติวางวาย มลายสิ้นทั้งอินทรีย์
สถิตทั่วแต่ชั่วดีประดับไว้ในโลกา

๏ความดีก็ปรากฏกิติยศฤาชา
ความชั่วก็นินทาทุรยศยินขจร


..............................


ส่งท้ายบทกลอนเพราะๆ

...............................................

 




 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา