BAD NAKED ไม่ได้อยากร้าย แค่อยากรัก
บทนำ
เมื่อความสวยของเธอเเฝ่งไปด้วยความร้ายกาจ เปรียบเสมือนกุหลาบป่าที่สวยงามหากเเต่มีพิษที่ร้ายเเรง เเต่ความร้ายกาจของเธอมีไว้เพื่อป้องกันหัวใจที่อ่่อนเเอเท่านั้น เเละเธอก็ไม่ได้ร้ายมาตั้งเเต่เกิด !!
ปฐมของความร้ายกาจ
“ไม่เอา ได้ยินไหมว่าไม่เอา ชุดเชยๆแบบนี้นะ ฉันไม่ใส่ออกไปข้างนอกแน่ ไปหามาใหม่ไป๊”
ฉันตวาดลั่นก่อนจะปาชุดราตรีสีครีมลูกไม้ลงกับพื้น
ชุดเชยๆแบบนี้ใครจะใส่ลงกัน คนอย่างฉันมันต้องดูดีที่สุด และดูดีกว่าใครๆ
“แต่ว่า คุณท่านบอกให้คุณหนูใส่ชุดนี้นะค่ะ “
เสียงของพริ้มคนรับใช้ของบ้านฉันดังขึ้น มันน่ารำคาญนะไอ้คนที่ไม่ทำตามคำสั่งน่ะ
“ก็ฉันบอกแล้วไง ว่า ไม่-ใส่ ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรือไง? “
ฉันบอกก่อนจะ นั่งลงกับเตียง
“ไปเอาชุดกี่เพ้าสีแดงที่ตอนที่ฉันไปเที่ยวกับคุณป้าที่จีนมาให้ฉันใส่”
“แต่ว่า …. “
ชิ ดื้อด้านชะมัด ยัยนี่ “ก็บอกว่าให้ไปเอาชุดนั่นมาให้ฉันใส่ ส่วนชุดนี้นะเอาไปเก็บฟังไม่รู้เรื่องหรือไง น่ารำคาญจริง ๆ “
ฉันบอกก่อนจะนอนราบลงไปกับเตียง ทั้งวันมาเนี่ยมีแต่เรียนกับเรียน พอเลิกเรียนมานึกว่าจะได้พักเถอะที่ไหนได้ กลับต้องมาโดนบังคับให้ไปงานแต่งงาน น่ารำคาญ อะไรก็ไม่รู้
ญาติโกโหติกาก็ไม่ใช่ ชุดที่จะให้ใส่ไปงานก็แสนจะเช๊ยเชย.. จะไปใส่ลงได้อย่างไง คนรับใช้ก็แสนจะดื้อด้านมันน่าไล่ออกซ่ะจริงๆ เลยเชียว
“แต่ว่า คุณหนูค่ะ คุณท่านอุตส่าห์เลือกมาชุดนี้มาเองกับมือเลยนะค่ะ จะไม่ใส่มันก็จะยังไงอยู่นะคะ”
“ โอ๊ย ยัยนี้พูดไม่รู้เรื่องหรือไงบอกให้ไปเปลี่ยนมา ถ้าแกยังพูดอะไรมากกว่านี้นะ ฉันจะไล่แกออก”
“ ค่ะ ๆ ทราบแล้วค่ะ คุณหนู” ยัยนั่นบอกก่อนจะรีบออกไปจากห้อง หึ น่ารำคาญชะมัด
แอ๊ด ….
ฉันหันไปมองที่ประตูก่อนจะพบว่าคุณแม่ยืนอยู่ ฉันลุกขึ้นนั่งก่อนจะกล่าวกับท่าน
“คุณแม่มีอะไรหรือเปล่าคะ ถึงเข้ามาในห้องหนู “
“ทำไม แกไม่ใส่ชุดที่ฉันเลือกมาให้ หืม ไวโอเล็ท”
“โธ่ แม่คะ ก็ชุดที่แม่เลือกมาให้นะ เชยจะตาย แล้วจะให้หนูใส่ชุดเชยๆ แบบนั่นไปงานเนี่ยนะคะ หนูไม่เอาด้วยหรอกค่ะ อายคนอื่นเขาแย่ “ฉันบอกเหตุผลของฉันกับคุณแม่ทีจริงเธอไม่ใช่แม่แท้ๆ ของฉัน แม่ของฉันท่านประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิตไปเมื่อ 2-3 ปีก่อน ฉันมองแม่เลี้ยงที่อยู่ตรงหน้าฉัน
ผิดเหรอ? ที่ฉันไม่อยากจะน้อยหน้าคนอื่น ผิดเหรอ ? ที่ฉันไม่อยากใส่ชุดเชยๆนั้น
“แต่ฉันอุตสาห์เลือกมาเพื่อแก!! “คุณแม่ตวาดเสียงดังก่อนจะปัดแจกันที่อยู่ตรงนั้นแตก
ฉันมองแจกันที่แตกลงอย่างเสียดายฉันอุตสาห์เลือกตั้งนานเลยนะนั้น
“ฉันไม่สนหรอกนะคะ ว่าคุณจะโมโหเรื่องอะไรมา แต่กรุณาอย่ามาลงที่ฉัน เพราะไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน ส่วนชุดราตรีนั้นนะ มันเชยไม่สวย คนเลือกห่วยแตกเองช่วยไม่ได้ เพราะฉะนั้นกรุณาอย่ามาโวยวาย “ฉันบอกเธอก่อนจะเปลี่ยนสรรพนามที่ใช้เรียกก่อนจะ ลุกขึ้นแล้วเดินตรงมาก่อนจะหยุดอยู่ข้างๆแล้วกระซิบบางอย่างข้างๆ หูของเธอ
“ถ้าคุณหงุดหงิดเรื่องไปหาชู้ไม่ได้ ก็อย่ามาลงที่ฉันซิคะ “ฉันยิ้มเหยียดก่อนจะเดินออกมาจากห้อง ทิ้งให้ห้องเหลือเพียงคนบ้าที่กรี๊ดกร๊าดลั่นห้องอย่างกับปีศาจอยู่เพียงคนเดียว
เฮ้อ มีหวังแต่จัดห้องใหม่อีกแล้วซิเนี่ย เหนื่อยใจจริงๆ
ฉันเดินลงบันไดมาก่อนจะมาหยุดอยู่ที่ห้องลองเสื้อผ้า แค่สั่งให้ไปเอาชุดกี่เพ้าชุดเดียวแค่เนี่ยหายไปนาน อย่างกับไปตาย
ฉันเปิดประตูเข้าไป ก่อนจะเจอกองเสื้อผ้าที่ล้มอยู่ระเนระนาด ไม่เป็นระเบียบ
ก่อนจะมองหาตัวการ
ก่อนจะเจอพริ้มนอนอยู่ใต้กองเสื้อผ้า จะช่วยดีไหมนะ ?
ฉันเดินเข้าไปใกล้ ก่อนจะพูดออกมา
“ไปทำอีท่าไหนถึงมีสภาพออกมาเป็นอย่างนี้ละ แค่ให้มาเอาชุดๆเดียวหายไปซะอย่างกับไปตาย”
“แหะๆ คือว่า ดิฉันเผลอทำกองชุดที่จัดเรียงไว้ล้มลงมานะคะ แล้วก็เลยเป็นสภาพอย่างที่เห็น”
ฉันมองอย่างสมเพศก่อนจะเดินวนรอบๆ กองเสื้อผ้า เสื้อผ้าราคาแพงของฉันต้องมาเปื้อนเพราะคนอย่างนี้ ช่างน่าสงสารจริงๆ (หมายถึงเสื้อผ้าอ๊ะนะ)
“แล้วชุดที่ฉันให้เอามาละ อยู่ไหน “
ฉันถามก่อนจะมองหาชุดที่ว่านั้น ก่อนจะเจอมันวางอยู่ที่บนชนตู้เสื้อผ้า ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหยิบมา แล้วเดินออกไปจากห้อง
ฉันยังไม่อยากเป็นแขกที่ไปงานแต่งสายนะ
ระหว่างที่กำลังจะก้าวพ้นออกจากประตู ก็มีเสียงๆ หนึ่งหยุดฉันเอาไว้
“คุณหนูคะ ช่วยดิฉันหน่อยซิคะ ได้โปรดเถอะคะ มันอึดอัด”
“หึ อยากก่อเรื่องเองก็จัดการเองซิ แล้วก็นะ เก็บทุกอย่างให้เรียบร้อยด้วยละ พริ้ม”
ฉันบอกก่อนจะปิดประตูเรื่องอะไรที่คนอย่างฉันจะต้องลดมือไปช่วยคนรับใช้ดื้อด้านนั้นด้วยละ
ฉันเดินขึ้นมาข้างบนห้อง ก่อนจะมองสภาพห้องก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ ยัยนั้นเล่นอาละวาดห้องฉันซะแทบไม่เหลือเค้าสภาพเดิมเลย แหะ
ฉันสำรวจสภาพห้องซักพักก่อนจะ เดินเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้องน้ำอย่างไม่สนใจ
เอาเป็นว่าเดี่ยวให้ช่างมาซ่อมให้ใหม่แล้วกัน
ฉันเดินเข้ามาในห้องน้ำก่อนจะเปลี่ยนจากชุดที่ใส่อยู่มาเป็นชุดกี่เพ้าสีแดง
แล้วเดินมานั่งที่โต๊ะกระจกที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางและเครื่องประดับราคาแพง
ก่อนจะเริ่มลงมือแต่งหน้าตามแบบของฉัน
ฉันเกิดในตระกูลที่มีชื่อเสียงในสังคมคุณพ่อเองก็มีหน้ามีตาทางสังคมมากมาย
ทั้งโลกเบื้อหน้าและโลกเบื้องหลัง
เบื้องหน้าก็เป็นเจ้าของกิจการเพชรพันล้าน และไร่สวนต่างๆ แต่เบื้องหลังกลับน่ากลัวและไม่น่าเข้าใกล้ แต่ถึงอย่างนั้นท่านก็รักคุณแม่ของฉันมาก ถึงแม้คุณแม่ของฉันจะเสียไปนานแล้ว
คุณพ่อก็ยังคงเก็บใจทีมีนั้นไว้ให้คุณแม่เพียงคนเดียว
ส่วนผู้หญิงที่เข้ามาใกล้ๆ ท่านทำเป็นแม่เลี้ยงที่แสนดีหวังจะหุบสมบัตินั้นก็แค่ของเล่น ยามว่างไม่มีอะไรทำของคุณพ่อเท่านั้น
ฉันกร้าวผมก่อนจะปิดท้ายด้วยการทาลิปสติกสีชมพูอ่อนๆ ก่อนจะมองสภาพตัวเองในกระจกอย่างพอใจ ก่อนจะหยิบกระเป๋าหนังที่อยู่ๆ ข้างมาถือ แล้วเดินลงมาข้างล่าง
ซึ่งนั้น มีแม่เลี้ยงของฉันรออยู่แล้วก็ผู้ชายที่ใส่สูทสีขาวหน้าอกข้างขวาปักดอกกุหลาบสีแดงเอาไว้ดูเด่นเป็นสง่า และนี้ก็คือคุณพ่อของฉัน ฉันวิ่งลงมาจากบันไดโดยไม่กลัวว่าจะสะดุดส้นสูงที่ตัวเองใส่อยู่ก่อนจะกระโดดก่อนคุณพ่อของฉัน
“คุณพ่อจะไปงานนี้ด้วยเหรอคะ “ฉันถามท่านก่อนจะรอฟังคำตอบนั้นอย่างระทึกใจ นานแล้วที่ท่านไม่ได้ไปไหนมาไหนกับฉัน
“เปล่าหรอกลูก พ่อแค่จะไปส่งที่งานเฉยๆ แล้วเดี่ยวพ่อจะต้องไปงานอื่นต่อนะ งานนี้เลยไปด้วยไม่ได้ “
“โธ่ คุณพ่อคะ แล้วจะให้หนูไปงานนี้คนเดียวเนี่ยนะคะ ญาติหนูก็ไม่ใช่ ไม่ไปไม่ได้หรอคะ “
ฉันถามคุณพ่ออย่างรู้คำตอบอยู่แล้วไม่มีทางที่คุณพ่อจะให้ฉันเบี้ยวงานแบบนี้แน่ ส่วนคนที่จะไปงานนี้กลับฉันด้วยมันก็แน่อยู่แล้วว่าจะต้องเป็นคนที่ยืนอยู่ข้างๆ คุณแม่ที่แสนจะใจดี
เชอะ น่าเบื่อเป็นบ้า
“เอาน่าๆ เราก็รู้อยู่แล้วไม่ใช่เหรอว่าใครจะไปกับเราด้วยนะ ส่วยเรื่องไม่ไปเนี่ย ไม่ได้หรอกนะถ้าลูกไม่ไปแล้วใครจะไปแทนเป็นตัวแทนพ่อละ “
“ โหย คุณพ่อคะ ก็คนที่อยู่ข้างๆ คุณพ่อเหมือนเห็บหมา อุ้ย ตายต้าย พูดผิดคะ ก็คนที่อยู่ข้างๆ
คุณพ่ออย่างคุณแม่ ‘เลี้ยง ‘ไงละคะคุณพ่อค๊า “ฉันบอกกับคุณพ่อก็จะเหลสายตาไปที่คนข้างๆ
ก่อนจะจงใจเน้นคำว่า เลี้ยง ให้มันรู้ซะบ้างว่าบ้านนี้มีนายหญิงได้แค่คนเดียวก็คือ คุณแม่ของฉัน
“แม้ๆ หนูไวโอเล็ตให้เกียรติคุณแม่ถึงขนาดนี้คุณแม่ไปคนเดียวก็ได้นะคะ “
ยัยนั้นบอกอย่างเสแสร้งก่อนจะยิ้มออกมาอย่างเจ้าเล่ห์
“ก็ดีเหมือนกันนะคะ คุณ ดิฉันจะได้ไปเป็นหน้าเป็นตาแทนตระกูล Adder ของเราแทนคุณอย่างไงละคะ “
ชิ นึกว่าฉันจะยอมคนอย่างเธอหรือไง เล่นมาแบบนี้เดี่ยวฉันจัดให้
“ไม่ต้องหรอกคะ คุณแม่ร่างกายคุณแม่ไม่ค่อยดีไม่ใช่เหรอคะ ถ้ารู้ตัวว่าสังขารเริ่มไม่ไหวแล้วก็อยู่บ้านนอนแต่หัวค่ำเถอะคะ ร่างกายจะได้แข็งแรง “
ฉันตอกกลับก่อนจะยิ้มให้แล้วเดินไปควงแขนคุณพ่อก่อนจะยิ้มให้ท่านอย่างที่คิดว่าใสซื่อที่สุด
“จริงไหมคะ คุณพ่อ คุณแม่เลี้ยงจำเป็นต้องพักผ่อนเยอะๆ “
“อืม พ่อก็ว่างั้นนะ งั้นเอาเป็นว่าคุณอยู่บ้านแล้วกัน เดี่ยวผมให้ลูกไปงานคนเดียวเอง ส่วนคุณก็พักผ่อนไปแล้วกัน “
คุณพ่อบอกอย่างเห็นด้วย ฉันมองอย่างสะใจก่อนจะยิ้มให้กับยัยนั้นอย่างเย้ยยัน
เกมนี้ ฉันชนะ “งั้นเดี่ยวคุณพ่อไปรอที่รถได้เลยนะคะ พอดีว่าหนูมีอะไรจะคุยกับคุณแม่เลี้ยงเป็นการส่วนตัวหน่อยนะคะ “ฉันบอกกับคุณพ่อ ก่อนจะหันกลับมา เผชิญหน้ากับผู้หญิงตรงหน้าฉัน
“ว่าไงคะ คุณแม่ผู้แสนหวังดีคะ อยากทำหน้าที่เป็นหน้าเป็นตาให้คุณพ่อของหนูเหรอคะ”
ฉันพูดก่อนจะยิ้มให้
“อยากจะทำมากเหรอคะ แต่ว่าคงไม่ได้หรอกนะคะ เพราะว่าหน้าที่นั้นเป็นของฉันกับคุณพ่อเท่านั้น!! ส่วนคนนอกอย่างคุณนะไม่มีสิทธิแม้แต่จะคิดด้วยซ้ำ “
“อะไรกัน ไวโอเร็ต ฉันเป็นภรรยาของพ่อแกนะ เพราะฉะนั้นฉันก็เป็นนายหญิงของบ้านนี้เช่นกัน แล้วก็เป็นแม่ของแกด้วย จำไม่ได้หรือไง? “ แม่เลี้ยงบอกกับฉันก่อนจะยิ้มเยาะเย้ย
“หึ งั้นเหรอ แต่ก็นะ ถึงมันจะเป็นอย่างนั้นตามที่คุณบอกจริงๆ แต่ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะมีอำนาจขนาดนั้น เพราะว่ายังไงๆ คุณพ่อของฉันก็ไม่ได้จดทะเบียนสมรสตามกฎหมายคุณก็เป็นเพียงแค่ของเล่นยามเหงาของคุณพ่อเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์อะไรในบ้านหลังนี้ และไม่มีวันจะมีสิทธ์ “
ฉันบอกยัยนั้นก่อนจะเดินตามคุณพ่อไป ใครที่คิดจะมีอำนาจในบ้านของฉันนอกจากฉันกับคุณพ่อ
ได้เจอดีแน่ !!
ฉันเดินมาขึ้นรถที่คุณพ่อรออยู่ก่อนจะ เดินเข้าไปด้านคนขับรถแล้วเปิดประตูเข้าไป
สร้างความงงงวยให้กับคุณพ่อ
“ทำไม ไม่มานั่งด้านหลังละลูก แล้วให้ตาชายเป็นคนขับรถ” คุณพ่อถามฉันก่อนจะอมยิ้ม
“แม้ๆ คุณพ่อคะ ไวโอเล็ตก็อยากจะขับรถไปเองบ้างซิคะ “ฉันบอกคุณพ่อ
“แน่ใจเหรอ ว่าแค่อยากจะขับรถไปเองไม่ใช่ว่า อยากจะเอารถไปด้วย เวลาเบื่อจะได้ไปเที่ยวที่อื่นต่อเหรอ? “ คุณพ่อของฉันพูดอย่างยิ้มๆ และสิ่งที่คุณพ่อพูดมามันถูกต้องหมดถูกอย่างที่คุณพ่อว่าจริงๆ
“หว่า โดนจับได้ซ่ะแล้ว ไม่ว่าหนูจะทำอะไร คุณพ่อเป็นต้องจับได้ทุกอย่างเลยซิ “ ฉันบอกกับคุณพ่อก่อนจะสตาร์ทรถ คุณพ่อรีบร้องก่อนจะเปิดประตูลงทันทีที่ฉันสตาร์ทรถก่อนจะ หันมาบอกกับฉัน
“เอาเป็นว่า เดี่ยวลูกเอารถคันนี้ไปแล้วกันแล้วเดี่ยวพ่อเอารถอีกคันไปเอง ดีไหม? “
“เอาอย่างนั้นก็ได้คะ “
ฉันบอกกับคุณพ่อ คุณพ่อเพียงแค่ยิ้มให้ฉันก่อนจะเปิดประตูลงไป ที่จริงท่านรู้ว่าฉันไม่ชอบงานแบบนี้ซักเท่าไหร่ แต่ที่ให้ฉันไปคราวนี้เป็นเพราะว่า ท่านไม่ว่างไปเองและไม่อยากให้ใครทำหน้าที่นี้ หน้าที่ทีเป็นของคุณหญิงของบ้านนี้
และนั้นมันก็เป็นเครื่องพิสูจน์ ว่าพ่อของฉันยังไม่ลืมคุณพ่อส่วนผู้หญิงเพศยาคนนั้นก็แค่ ‘ของเล่น’ เท่านั้น
ฉันยิ้มออกมาอย่างอารมณ์ดีก่อนจะขับรถพุ่งออกไปด้วยความเร็ว
และเพียงไม่นานฉันก็มาหยุดอยู่ที่โรงแรม ‘ IN LOVE ’
ฉันลงมาจากรถก่อนจะส่งกุนแจให้กับพนักงานต้อนรับ
“ เอาไปเก็บให้หน่อยนะคะ “
ฉันพูดก่อนจะส่งกุนแจรถให้ ก่อนจะเดินเข้ามาในโรงแรม บรรยากาศเน้นไปทางด้านหวานแววมากกว่า สบาย
พนังกับเฟอร์นิเจอร์ ส่วนใหญ่เป็นสีชมพู กับสีขาว และสีแดง
ฉันเดินมาหยุดที่หน้าเคาร์เตอร์ก่อนจะสอบถามเกี่ยวกับ
--------------------
ยังไม่จบนะคะ เดี่ยวมาต่อ
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ