Love ♥ Shop ร้านขายความรัก
2) Love ♥ Shop น้ำหอมเพิ่มเสน่ห์ (1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Love ♥ Shop
น้ำหอมเพิ่มเสน่ห์ (1)
' 06:30 '
ฉันเอื้อมมือไปปิดนาฬิกาปลุก ก่อนจะลุกออกจากเตียงเดินตรงไปยังห้องน้ำ และเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ฉันจึงรีบไปอาบน้ำอาบท่า และแต่งตัวเสียใหม่ เนื่องจากวันนี้ฉันต้องไปโรงเรียน แต่ก่อนที่จะลงไปทานข้าวเช้า ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ฉันต้องทำ นั่นคือ...
' การส่องกระจก '
ถึงมันอาจฟังดูไร้สาระ แต่ฉันเชื่อว่าผู้หญิงทุกคนก็ทำเหมือนกับฉันนี่แหละ เพราะอยากให้ตัวเองดูดีในสายตาผู้อื่น จึงจำเป็นต้องคอยสำรวจตนเองอยู่ตลอดเวลา ฉันยิ้มน้อย ๆ ด้วยความพึงพอใจ แม้ว่าฉันจะไม่ได้สวยเพอร์เฟ็คอย่างที่ใคร ๆ คิดก็ตาม
ระหว่างที่ฉันกำลังสำรวจตัวเองอยู่ จู่ ๆ สายตาอันเฉียบคมก็เหลือบไปเห็นบางอย่างวางอยู่ข้างอ่างล้างมือ
"ขอให้สนุกกับมันนะครับ หึหึ"
เสียงของชายคนนั้นดังขึ้นในหัว ประโยคที่ฉันจำมันได้อย่างแม่นยำ ไม่ใช่เพราะพิศวาส แต่เป็นเพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการบอกฉัน ให้สนุกกับมันงั้นเหรอ? พูดเหมือนกับว่าสิ่งนี้เป็นของเล่นไปได้ แล้วไหนจะร้านประหลาด ๆ แห่งนั้นอีก ทั้งบรรยากาศในร้าน ทั้งคนขาย พิลึกพอ ๆ กัน
ฉันมองดูน้ำหอมขวดจิ๋วอย่างสนใจ ตัวฝาเป็นสีเงินรูปหัวใจน่ารัก ส่วนตัวขวดเป็นสีชมพูหวานแหวว ตรงกลางสลักไว้ว่า "Love ♥ Perfume" ที่ฉันคิดว่าน่าจะเป็นชื่อยี่ห้อ ใต้ตัวหนังสือนั้นมีสโลแกนเขียนเอาไว้ด้วย
' น้ำหอมที่สามารถเพิ่มเสน่ห์ของคุณให้เป็นเท่าตัว '
หลังจากมองดูอยู่ครู่หนึ่ง ฉันจึงเปิดฝานั่นออกและฉีดพรมน้ำหอมบนชุดนักเรียนอย่างพอประมาณ ก่อนจะเก็บมันใส่ไว้ในกระเป๋ากระโปรง และเดินลงไปทานข้าว
' 07:45 '
ฉันก้มมองเวลาในนาฬิกาข้อมือเรือนสวย โรงเรียนฉันเข้าแปดโมง เพราะฉะนั้นจึงเหลือเวลาอีกสิบห้านาที เท่านี้ก็มากพอสำหรับเดินทางไปโรงเรียน หลังจากออกจากบ้านมาได้สักพัก ฉันก็เดินเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็ก ๆ ทางลัดที่ใช้อยู่เป็นประจำ ฉันสาวเท้าเดินตรงไปเรื่อย ๆ แต่แล้วก็หยุดอยู่ที่หน้าร้านร้านนึง
...ร้านที่มีชื่อว่า "Love ♥ Shop"
สภาพร้านยังคงสภาพเดิมตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ฉันได้เห็นมัน ทุกอย่างดูเก่าและสกปรก แผ่นป้ายไม้ที่สลักชื่อร้านหักอย่างไม่เป็นท่า ประตูไม้และตัวร้านมีแต่หยักใย่สักส่วนใหญ่ แถมบริเวณหน้าร้านยังเต็มไปด้วยขยะเกลื่อนกลาดไปหมด ราวกับว่าเป็นร้านที่ถูกปิดมาเนิ่นนาน
ฉันล่ะไม่เข้าใจเลย... ทั้ง ๆ ที่เมื่อวานยังเปิดอยู่แท้ ๆ ฉันเชื่อนะ ว่านั่นต้องไม่ใช่ความฝัน ถึงจะไม่มั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ แต่เพราะมีสิ่งยืนยัน ก็น้ำหอมที่ฉันได้มายังไงล่ะ !
ฉันก้าวออกมาจากซอยนั้นเมื่อเห็นว่ามามัวเสียเวลากับเรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่ เสียงสนทนาระหว่างพ่อค้า แม่ค้า และลูกค้าดังมาแต่ไกล วันนี้ที่ตลาดยังคงคึกคักเหมือนเคย ฉันเดินอยู่ที่ใจกลางย่านการค้าแห่งนี้พร้อมมองบรรยากาศสดใสในยามเช้าไปพลางแก้เบื่อ ไม่นานนัก ก็รู้สึกได้ถึงบางอย่างที่แปรเปลี่ยนไปจากเดิม
บทสนทนาต่าง ๆ นานาเริ่มเบาลงอย่างน่าแปลก ราวกับมีบางสิ่งที่ตัดบทสนทนานี้ไป และนั่นก็คือ...
ฉัน !!!
บัดนี้ทุกสายตากำลังจ้องมองมาที่ฉันยังกับเป็นตัวประหลาดอย่างไรอย่างงั้น แถมพวกเขายังแสดงสีหน้าพิลึก ๆ ออกมาจนน่าขนลุก บ้างแสดงอาการยิ้มระรื่นเหมือนคนบ้าที่กำลังเคลือบเคลื้มอยู่กับบางอย่าง บ้างก็แสดงทีท่าราวกับพบเจอสิ่งแปลกปลอมซึ่งย่างกรายเข้ามาในถิ่นของตน ฉันได้แต่ภาวนาว่าพวกเขาจะหันไปสนใจอย่างอื่นแทน แต่ไม่เลย มันไม่ได้เป็นเช่นนั้น...
ฝีเท้าที่ก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่องเริ่มเพิ่มความเร็วขึ้นเป็นเท่าตัว ไม่สิ ! หลายเท่าตัวเลยต่างหาก ทำให้ฉันที่กำลังเดินเอื่อยเฉื่อยอยู่กลางตลาด ต้องเร่งฝีเท้าขึ้นอย่างกับกำลังวิ่งมาราทอน ซึ่งรู้ตัวอีกที ฉันก็มายืนอยู่ที่หน้าโรงเรียนเสียแล้ว แต่ไม่วายเหตุการณ์เมื่อครู่กลับเกิดขึ้นซ้ำสอง และฉันหวังว่ามันจะไม่มีรอบที่สาม
ทำไมทุกคนต้องจ้องมาที่ฉันเป็นตาเดียวด้วยนะ !
แม้ฉันจะไม่รู้ถึงสาเหตุที่กลายเป็นจุดสายตาของหลาย ๆ คน แต่เวลาคนอื่น ๆ มองฉันแบบนี้แล้วรู้สึกว่าเหมือนตัวเองจะทำอะไรผิดไป ซึ่งมันต้องเป็นเรื่องที่น่าอายไม่ใช่น้อยที่สามารถทำให้ผู้คนมากมายหันมาสนใจฉัน เหมือนเป็นตัวตลก
แต่... ถ้าฉันทำเรื่องน่าขายหน้าอย่างที่ว่าจริง ๆ แล้วทำไมถึงไม่มีใครหัวเราะเยาะล่ะ? หรือว่ามันจะเกิดขึ้นจากสาเหตุอื่น
ยิ่งคิดก็ยิ่งปวดหัว วันดี ๆ ของฉันจะต้องมาพังทลายเพราะเรื่องบ้า ๆ นี่น่ะเหรอ? ฉันไม่ยอมด้วยหรอกนะ !
จากนั้นเลยส่ายหน้าไปมาไว ๆ สองสามทีเพื่อลบล้างความคิดไร้สาระนั้นออกไปให้หมด ก่อนจะเดินเข้าไปในตึก และตรงไปยังห้องเรียนซึ่งอยู่ที่ชั้นสองทันที
ฉันก้าวเข้ามาในห้องเรียนพร้อมกับต้องมาเจอเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำ ๆ ซาก ๆ มันจะเป็นแบบนี้ตลอดทั้งวันเลยใช่มั้ย? เห็นทีว่าที่ทำได้ในตอนนี้ก็คงจะมีแต่ต้องทำใจ และทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นกับสายตาของคนรอบข้าง ฉันเดินไปที่โต๊ะของฉันอย่างดื้อ ๆ หย่อนก้นลงนั่งบนเก้าอี้ก่อนจะเหลือบไปเห็นสายตาแปลก ๆ ของคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
และที่ฉันเกิดสนใจขึ้นมาก็ไม่ใช่อะไร ถ้าเขาคนนั้นไม่ใช่ "ซี" เพื่อนสนิทจอมปากเสียที่คอยบ่นว่าฉันอยู่ทุก ๆ วันล่ะก็นะ
"นายก็อีกคน มองอยู่ได้ ที่หน้าฉันมันมีอะไรติดอยู่รึไงฮะ!"
หากแต่เขากลับเงียบอยู่อย่างเก่า ไม่ยอมตอบอะไร ทั้งสายตายังคงเลื่อนลอยอยู่เช่นเดิม
"ซี !!" เพราะเหตุนั้นฉันจึงต้องตะโกนเพื่อเรียกสติเจ้าตัวกลับคืนมา
ร่างสูงสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะพูดตอบ "ก็ใช่น่ะสิ! ไม่เห็นรึไงมันติดอยู่ที่หน้าผากอ่ะ" พลางนิ้วเรียวชี้ไปที่จุดดังกล่าว ด้วยสีหน้าขยะแขยงเหมือนกับกำลังล้อเลียนฉัน "อี๋~"
ฉันไม่รอช้าให้เขาได้ล้อเลียนต่อ ตัดสินใจรีบวิ่งไปที่ห้องน้ำซึ่งอยู่ไม่ไกลจากห้องเรียนนัก มองดูใบหน้าตัวเองชัด ๆ ที่กระจกบานใหญ่ แต่สิ่งที่ติดอยู่นั้นกลับเป็น... ' ความว่างเปล่า ' นี่เขาตั้งใจแกล้งฉันอีกแล้วสินะ! มันน่าเจ็บใจเสียจริง ฉันเองก็น่าจะรู้จักนิสัยของซีเป็นอย่างดีแท้ ๆ แต่ก็กลับถูกหลอกได้เกือบทุกครั้งไป
ฉันเดินออกมาจากห้องน้ำด้วยความไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ ใจจริงเมื่อกลับไปถึงห้องก็อยากจะบ่นว่ากลับอยู่หรอก แต่ถ้าทำอย่างนั้น เขาก็จะตอบกลับมาว่า
"อยากโง่ให้หลอกเองทำไมล่ะ" พร้อมกับส่งยิ้มกวน ๆ มาให้
หรือไม่ก็...
"เชื่อด้วยเหรอ... ฮ่า ๆๆ" แล้วก็นั่งหัวเราะฉันอย่างเอาเป็นเอาตาย
เพราะงั้นตอนที่กลับไปที่ห้อง ฉันควรทำเหมือนเรื่องทุกอย่างไม่เคยเกิดขึ้น
...วิธีนี้น่าจะดีที่สุด
ระหว่างที่ฉันเดินกลับไปยังห้องเรียน ก็มีมือของใครบางคนมารั้งแขนของฉันไว้ ทำให้ต้องหันกลับไปมองอย่างช่วยไม่ได้ และนั่นก็ทำให้ฉันแปลกใจไม่น้อยเลยทีเดียว ที่อยู่ดี ๆ คนที่ฉันไม่เคยรู้จักมาก่อนกำลังเอ่ยประโยคแปลก ๆ ให้ได้ยิน
แถมเขาคนนี้ยังน่ารักมากซะด้วยสิ! ดูจากรูปร่างภายนอกถ้าเดาไม่ผิดคงอายุเรี่ยไร่กัน แต่ใบหน้านั้นกลับดูอ่อนกว่าวัยสักเล็กน้อย ใบหน้าทั้งขาวและเนียน บวกกับผมสีควันบุหรี่ดัดอ่อน ๆ ยาวสลวยปกบริเวณคอยิ่งดูดีเข้าไปใหญ่
"น่ารักจัง"
เสียงนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกับลักยิ้มที่ปรากฎให้เห็นบนแก้มขาว มันเป็นเวลาเดียวกับที่ฉันได้ยินเสียงเต้นรัวอยู่ในอกด้านซ้ายซึ่งเหมือนจะเต้นเร็วขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่มีเหตุผล
"มะ..หมายถึงอะไรเหรอ?"
"ก็เธอไง น่ารักจัง"
ถึงตอนนี้ฉันรู้แล้วล่ะว่าเขากำลังหมายถึงอะไร และนั่นก็คือเหตุผลที่เสียงเต้นรัวนั้นดังขึ้นกว่าเก่า ทำไมผู้ชายหน้าตาน่ารัก ๆ แบบนี้ถึงมาพูดชมฉันได้นะ!
ฉันได้แต่สงสัยอยู่ในใจและพร้อม ๆ กับที่หลายคำถามผลุดเข้ามาในสมอง ซึ่งกำลังต้องการคำตอบโดยไวที่สุด
"ไปเดทกันนะ แล้วเจอกันหลังเลิกเรียนที่หน้าตึก"
ไม่ทันที่ฉันจะได้ถามอะไรออกไป เขาก็พูดแทรกขึ้นและเมื่อจบประโยคก็ทำท่าเหมือนจะเดินจากไป
"ต..แ..ต่.."
เหมือนว่าเขารู้สิ่งที่ฉันจะพูดต่อจากนี้ ทำให้ชายคนนั้นหันกลับมาก่อนจะเอานิ้วเรียวแตะริมฝีปากฉันเพื่อให้หยุดพูด และจึงเอ่ยประโยคที่ทำให้ใจฉันสั่นไหวอีกครั้ง
"ห้ามปฎิเสธเด็ดขาด คงจะเข้าใจใช่มั้ย?"
นัยน์ตาสีดำสนิทจ้องมองมาที่ฉันอย่างอ่อนโยน มันเป็นนัยน์ตาที่มีเสน่ห์สวยงามน่าหลงใหลซะจนฉันไม่อยากเชื่อเลยว่านี่เป็นความจริง ความจริงที่ว่า...
' ฉันจะไม่มีวันลืมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้อย่างแน่นอน '
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
ขอบอกว่าดีใจมากเลยค่ะ ที่มีคนมาอ่านนิยายที่เราแต่งด้วย
และก็ขอบคุณทุก ๆ คอมเม้นท์เลยนะคะ ^ ^
ข้างล่างนี้เป็นตัวอย่างตอนต่อไปนะคะ
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
Next Scene : น้ำหอมเพิ่มเสน่ห์ (2)
เดทแรกของฉันกำลังจะเริ่มต้น หากว่ามันกลับพังพินาศจนไม่เหลือชิ้นดี
"เราไม่เคยรู้จักกัน" ประโยคที่เขาเอ่ยออกมาได้สร้างความปวดร้าวให้กับฉัน
ไม่เคยรู้จักกัน? เป็นไปไม่ได้!! ฉันไม่เชื่อเด็ดขาด !!
ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นจะเป็นแค่ภาพลวง ที่ฉันสร้างขึ้นเอง...
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ