นาฬิกาทราย

ในชั่วโมงเรียนคณิตศาสตร์ของวันหนึ่ง ท้ายชั่วโมงมีการทดสอบเก็บคะแนน และมีการเปลี่ยนกันตรวจ หลังจากตรวจเสร็จคนที่ตรวจให้เพื่อนต้องแจ้งคะแนนกับคุณครู

เมื่ออาจารย์อ่านมาถึงชื่อของทราย เพื่อนคนที่ตรวจให้ทราย แจ้งเป็นคะแนนเต็ม ทำให้คนที่ไม่ได้คะแนนเต็มอย่างนายเจตน์ต้องหันมามองทรายอย่างทึ่งๆอีกรอบ

หลายวันผ่านไปข่าวคราวว่านายเจตน์แอบชอบสาวห้องข้างๆก็ดังหนาหูขึ้นทุกทีๆ โดยที่เจ้าตัวก็พลอยดีใจได้ปลื้มไปด้วย ไม่มีการแก้ข่าวเลยสักคำ

ทรายแอบเศร้าในใจเล็กๆ นี่น่ะหรือที่เขาเรียกว่าจุดเริ่มต้นของความรัก มันเริ่มจะเบ่งบานในหัวใจของเด็กสาวตัวผอมๆบางๆอย่างทรายเข้าให้แล้ว

จู่ๆวันหนึ่ง ข่าวใหม่ที่ได้รับทำให้ทรายชักทำใจไม่ถูก เมื่อได้ข่าวว่า สาวคนที่หมอนั่นแอบชอบดันไปชอบรุ่นพี่คนหนึ่งแทน นี่ล่ะน๊าที่เค้าเรียกว่า รักสามเศร้า ล่ะ

นายเจตน์มีท่าทางเศร้าซึมลงไปอย่างเห็นได้ชัด ทำไมทรายถึงรู้น่ะเหรอ ก็เพราะเธอเองก็แอบลอบสังเกตนายเจตน์อยู่ห่างๆน่ะสิ

วันต่อๆมา ทรายเริ่มไม่สนใจนายเจตน์อีกต่อไป ด้วยเธอคิดไปว่า ไม่มีประโยชน์ที่จะแคร์ใครบางคนที่ไม่แคร์เธอเลยสักนิด เพราะฉะนั้นเธอจึงลืมหมอนั่นไปพักใหญ่ๆเห็นจะได้

จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่ทรายกำลังเล่นหยอกล้อกับเพื่อนชายออกแนวตุ้งติ้งนิดๆคนนึงอยู่ เธอก็สังเกตเห็นสายตาของนายเจตน์แอบลอบชำเลืองมองมาที่เธอบ่อยครั้ง

มารู้อีกที หมอนั่นลากเพื่อนชายไม่แมนคนนั้นไปคุยประมาณว่าเกือบจะมีเรื่องอะไรกัน ทรายรู้โดยสัญชาตญาณว่าเรื่องนั้น เธออาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องก็เป็นได้

ไม่นานนัก ทรายก็เริ่มจับสังเกตพฤติกรรมอันไม่ปกติของนายเจตน์ได้ เพราะเขามักลอบชำเลืองมองมาที่ทรายทุกครั้งที่เขาเจอทราย ไม่ว่าจะในหรือนอกห้องเรียน บางครั้งก็แอบยิ้มหรือแอบเศร้าอยู่คนเดียวในแต่ละวัน

ตอนเช้าเวลาเข้าแถวเคารพธงชาติวันหนึ่ง บังเอิญมีเหตุให้ทรายต้องไปต่อแถวถัดจากนายเจตน์นั่น นายเจตน์ลอบมองมาข้างหลังบ่อยๆแล้วแอบยิ้มคนเดียว ทุกอย่างดูเป็นปริศนาสำหรับทรายเสียจริงๆ

ดังนั้นทรายจึงได้นำเรื่องนี้ไปปรึกษากับพี่สาวสุดที่รัก และคำตอบที่ได้รับ คือ นายเจตน์มีแนวโน้มว่าจะคิดชอบทรายเข้าให้แล้ว

แต่ทรายยังไม่ปักใจเชื่อ เธอคิดว่าเขาคงอกหักจากสาวข้างห้อง จึงแกล้งทำเป็นให้ความสนใจเธอเป็นการชั่วคราวเสียมากกว่า

วันหนึ่งในชั่วโมงเรียนวิชาภาษาไทย พอดีคุณครูไม่อยู่ แต่มีไมค์กับลำโพงที่คุณครูต่อเอาไว้เตรียมสอน เปิดค้างเอาไว้ นายเจตน์คว้าไมค์มาและเริ่มต้นร้องเพลง “คนไม่มีแฟน” ของป๋าเบิร์ด ธงไชย พร้อมกับส่งสายตาสื่อความหมายบางอย่างมายังทรายตรงๆ

ทรายจำต้องหลบแววตาคู่นั้นและแกล้งทำเป็นไม่สนใจ เมื่อเขาอาสาจะช่วยทำงานวิชาภาษาไทยที่คุณครูได้สั่งงานเอาไว้ให้เพื่อนที่นั่งอยู่กับทราย

นายเจตน์ถูกเพื่อนของทรายไล่ตะเพิดไปและไม่ขอรับความช่วยเหลือใดๆ ทั้งๆที่อันที่จริงสายตาที่เขามองทรายมันบ่งบอกจุดประสงค์แอบแฝงบางอย่างของเขาเสียมากกว่าการอาสามาช่วยงานเฉยๆ

เป็นครั้งแรกในรอบหลายวันที่ผ่านมา ที่ทรายมองนายเจตน์ในแง่ดีและรู้สึกสงสารนายเจตน์ที่ถูกเพื่อนของเธอไล่ตะเพิดไปแบบนั้น

ความรู้สึกลึกๆที่ถูกเก็บซ่อนเอาไว้ภายใต้ใบหน้าอันเรียบเฉยของทรายกำลังถูกกัดกร่อนด้วยความรู้สึกบางอย่างที่ส่งผ่านมาทางแววตาคู่นั้นของนายเจตน์เข้าให้เสียแล้ว

(โปรดติดตามตอนต่อไป)