Angel's quest Part I Staff of angel

7.2

เขียนโดย imppreal

วันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 14.48 น.

  20 บท
  67 วิจารณ์
  37.25K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

16) Staff of angel บทที่16 กัดกันอีกครั้ง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Angel Fantasy

บทที่16

       

                  *เสียอารมณ์นิยายหาย พอพิมใหม่ไฟดับ ไม่ทันSave เอาว่า ครูอลิซพาวายุมาที่โรงอาหารในตอนเช้าอีกวันนึงแล้วเข้าไปทานในห้องVIPครูอลิซก็พูดถึงเผ่าต่างๆต่อมา เอลเห็นเขา และเขาก็เห็นเอลละกัน

แล้วเนื่อเรื่องก็ต่อจากตรงนั้น

                  เอลแทบจะไม่ได้ทานอาหาร เธอเอาแต่หันมองวายุ ทำเหมือนกับเขาจะย่องมาโจมตี(ภาษาที่เอลใช้เมื่อไม่ไว้ใจใคร)เธอซะอย่างนั้น เบลล่ากับเจนนี่ได้แต่ถอนหายใจ  เอลมีเรื่องกับนายนั่นก็แย่พอแล้ว แล้วยังจะมัวแต่ระแวงเขาอีกยิ่งแย่เข้าไปใหญ่ อันที่จริงเบลล่าสงสัยว่าใครควรจะระแวงกันแน่ ที่จริงแล้วควรเป็นหมอนั่นมากกว่าอีก แล้วถ้าเกิดเอลทำร้ายเจ้าหมอนั่นอีก เธอจะทำอย่างไรดี คดีนี้ต้องยืดยาวแน่ๆ

                   “ชั้นว่าเธอรีบๆทานเหอะ เดี๋ยวชั้นกับเจนไม่รอนะ เราทานของหวานเสร็จแล้วด้วย”

             เอลชะโงกหน้ามองโต๊ะที่เบลล่านั่งอยู่ อาหารในถ้วยอาหารจานหลักและถ้วยขนมหวานไม่มีเหลือแล้ว แต่เมื่อเอลก้มมองจานของเธอ อาหารยังเหลือมากกว่าครึ่งจาน เอลรู้สึกเกรงใจเพื่อนทั้งสองเหลือเกิน

                   “อิ่มเล่า”

                   “จริงรื่อ เธอยังทานได้แค่นิดเดียวเองนะเอล ทานไปเหอะ ชั้นกับเจนรอได้นะ”

                   “ขอบใจเบล แต่ชั้นอิ่มแล้วจริงๆนะ”

            “งั้นก็ตามใจนะเอล บักกี้เริ่มจะเบื่อแล้ว คงอีกไม่นานหรอกนะ มันจะหนีชั้นไปอีก”

                    เจนนี่พูดพร้อมกับพยายามมัดเจ้านิมสีขาวไม่ให้มันหลุดแล้วหนีไป บักกี้ออกอาการไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ มันครางเบาๆแต่เจนนี่ไม่ได้ยิน มันจึงยอมแพ้แรงบักกี้ในที่สุด

                    เอลกับเพื่อนๆของเธอลุกจากโต๊ะอาหาร ต่างมุ่งหน้าไปยังประตูทางออกเพื่อกลับสถาบันสอนผู้วิเศษณ์ แต่ยังไม่ทันถึงประตูทางออก มีคนตัดหน้าพวกเธอสองคน คนแรกรวบผมยาวได้สูงกว่าคนที่สองที่ดูเว่อร์ๆ เอลรู้ได้ทันทีว่าใคร วายุนั่นเอง

                    “นี่นาย!”

             “ว้าก!! ครูอลิซครับ ช่วยผมด้วย!”

              เมื่อวายุว่าเป็นเอล เขากระโดดโหยงหลบหลังครูอลิซทันที ภาพในอดีตผุดขึ้นมาดื้อๆ ภาพที่เอลพยายามฆ่าเขาเพราะเขาบังเอิญชนเธอที่วิหารโบราณ ภาพที่เธอบาดหมางเขาอย่างรุนแรง

                     “ไม่ต้องหลบเลย! นายรู้ไหมนายทำให้ชั้นต้องโดนทำโทษ”

                เอลพูดอย่างโกรธแค้นแทบจะกินตับไตไส้พุงกัน วายุออกอาการสั่นๆเพราะความกลัว ภาพในหัวมันวนเวียนมาเรื่อยๆไม่ขาดสาย แล้วบางภาพยังจะบ่งบอกอนาคตของเขาเสียอีก ภาพนั้นบอกเขาว่าอีกไม่กี่นาที เขาจะนอนสิ้นชีวิตหน้าโรงอาหาร มีสุนัขหลายตัวรุมดมเขา มีหนอนไช – ‘ตูจะตายอุบาทอย่างนี้แระ ไม่เอานะเว้ย’

                       “นี่เธอ เห็นไหมว่าครูอยู่ด้วย ไม่เกรงใจกันบ้างหรือไง”

                ครูอลิซเอ่ยเสียงดุดัน เอลรู้สึกตัวได้ เธอลืมไปเสียสนิทเพราะความแค้นที่บังตา บัดนี้จากไฟที่ลุกท่วมกลายเป็นแค่ไฟเปลวเทียนไขที่จะอยู่ลางๆ

                        “ขอโทษค่ะ คือหมอนั่นทำให้หนูโดนทำโทษ”

                “เธอชื่ออะไร เอลใช่ไหม”

                “ใช่ค่ะ”

                 เอลเริ่มจะหมดหวังที่จะขอลดโทษ เหมือนเพื่อนๆที่อยู่กับเธอ พวกเธอต้องโดนส่งชื่อไปให้ครูใหญ่แน่นอนเลย แล้วทีนี้ก็โดนเพิ่มเวลาการทำความสะอาด จากเดือนนึงเป็นสองเดือน ‘ไม่สิ อาจจะเพิ่มป็นสามสี่ห้า หรืออาจจะเป็นปี โอ้ยพระเจ้าช่วย ยอมตายดีกว่านะ’

                 “ดูจากรูปร่างลักษณะการพูดจา สิ่งแวดล้อม ครูขอทายว่า โสดสนิท”

                  เอลออกอาการงงอย่างเห็นได้ชัด สิ่งที่เธอสงสัยคือ ทำไมต้องถามเรื่องความรักของเธอด้วย แล้วรู้ได้ไงว่าโสด เอลอุตส่าปิดความลับนี้เพื่อให้หนุ่มไม่เข้ามาจีบแล้วนะ แต่ครูอลิซสามารถดูออกไม่ในเสี้ยววินาที

                           “ถูกค่ะ แล้วถามทำไมคะ”

                   วายุกลั้นหัวเราะ เขาไม่คาดไม่ฝันว่า คนสวยๆอย่างงี้จะโสดสนิทจริงๆ ที่จริงสวยออกอย่างนี้เขาคงจีบไปนานแล้ว แต่ยกเว้นเอล เขาไม่มีทางจะพูดหวานกับเธอหรอก

                            “ว่าแล้วทำไมไม่มีหนุ่มๆมาจีบซักที ก็เธอเป็นซะอย่างงี้ถึงไม่มีใครเอา หักทำใจเย็นบ้างสิค่ะ เชื่อครูสิ วายุเขาเล่าให้ฟังหมดแล้ว เขาแค่ไม่ตั้งเดินชนเธอ เขายังขอโทษเธอแล้วด้วยซ้ำ ทำไมไม่ให้อภัยกันบ้างล่ะ คนเขาไม่ได้ตั้งใจ เห็นไหมเพราะความใจร้อนของเธอทำให้เพื่อนๆของเธอพลอยรับกรรมไปด้วย แล้วงานทำความสะอาดห้องครูใหญ่อย่าลืมนะ เย็นนี้ ครูไปก่อนละ”

                     ว่าแล้วครูอลิซก็สะกิดวายุ เธอเดินนำเขาไป ส่วนวายุเดินเข้ามาหาเอลอย่างสุภาพๆ เขาไม่มีความประสงค์ที่จะก่อสงครามกับเธออีกแล้ว

                    “ชั้นขอโทษนะ กับเรื่องที่ชั้นชนเธอ หวังว่าเธอคงให้อภัยชั้นนะ เดี๋ยวเรื่องทำความสะอาดน่ะ ชั้นจะบอกครูอลิซให้ขอครูใหญ่ลดโทษให้เธอ ชั้นไปก่อนนะ อ้อ เรียกชั้นว่า วายุ ก็ได้ ไปล่ะ”

                      วายุเดินจากไป ปล่อยให้เอลมองตามหลังเขาด้วยสายตาแปลกๆ ไม่ใช่สายตาแห่งความอาฆาตอีกต่อไป มันเป็นสายตาแห่งการให้อภัย เธอไม่มีท่าทางหรืออารมณ์โกรธเขาอีกแล้วหลังจากคำขอโทษของวายุ ที่เธอรู้ดีว่า คำขอโทษนั้นมาจากใจจริงของเขา ตอนนี้เอลรู้สึกผ่อนคลายมาก สบายเหมือนตัวลอยไปในอากาศ เบลล่ากับเจนนี่มองเอลแล้วสบตากัน เพื่อนคนนี้ของพวกเธอโดนพลังบางอย่างกำลังควบคุมจิตใจ พลังที่ทุกคนต้องการ พลังแห่งความใคร่

                                  “ให้มันน้อยๆหน่อยนะเอล วายุไปแล้ว เธอยังจะใจลอยอะไรอยู่ เดี๋ยวก็ไม่ทันเรียนหรอก”

                         เอลสะดุ้ง เธอรู้สึกตัวว่าเธออยู่ที่ไหน เธอกำลังยืนอยู่หลังประตูทางออกโรงอาหารพร้อมเพื่อนๆอีกสองคน เอลหน้าแดงแจ๋เมื่อรู้ว่าเพื่อนๆของเธอร่าเธอคิดอะไรอยู่ เอลจึงรีบเดินนำไปอย่างรวดเร็ว

 

 

                             วายุใช้เวลาทั้งบ่ายวันนั้นเพื่ออ่านหนังสือประวัติศาสตร์ไพริเวนเดอร์เล่มหนา แต่เขายังอ่านมันไม่จบ เขาก็ทิ้งมันไว้บนโต๊ะบรรณารักษ์ ตอนนี้เขามีความรู้เรื่องประวัติความเป็นมาของไพริเวนเดอร์ มันน่าทึ่งในความรู้สึกเขา ราวกับได้อ่านเทพนิยายเล่มหนึ่ง มันบอกถึงทุกเรื่องที่เขาอยากรู้ ทุกเผ่าทั้งในอดีตและปัจจุบัน เหตุการณ์สำคัญที่มลทำให้ยุคต่างๆเริ่มและสิ้นสุดลง เรื่องความเชื่อ อารยธรรม ศาสตร์ ลัทธิต่างๆ ความแบ่งแยกที่อให้เกิดสงครามครั้งสำคัญ สมบัติเทพประทานในตำนานที่เชื่อกันว่ามีอยู่จริง แต่สิ่งที่ทำให้เขาต้องวางหนังสือเล่มนั้นคือ ความเป็นมาของเผ่าดาร์ก ที่กล่าวถึงเรื่องต่างๆที่เกิดในเผ่าดาร์กโบราณ มีการบูชายัญ การหาทางที่จะทำให้ตนเป็นอมตะ การก่อสงครามกลางเมือง และก่อจลาจลในเมืองหลวง ภาพในหนังสือล้วนโหดเหี้ยม เขาไม่อาจอ่านมันต่อได้ ทั้งๆที่รู้ว่าบรรทัดสุดท้ายของบทนี้มีประโยคสั้นๆเขียนว่า ‘ไม่ตองห่วง บัดนี้เดาร์กได้ล่มสลายเหลือเพียงแค่ความทรงจำที่โหดร้ายในอดีตแล้ว’

                มันอาจทำให้เขาสบายใจขึ้นบ้าง แต่เขายังจำคำพูดของครูอลิซได้ เธอบอกว่าให้เขาระวังดาร์กที่ยังมีชีวิตอยู่ มันไม่ได้ล่มสลายเหมือนที่หนังสือบอก เขากุมขมับตัวเอง และความรู้สึกไม่สบายใจตามมา

                        “บางทีสิ่งที่เราควรรู้อาจจะไม่ควรรู้ก็ได้”

                 เสียงของครูอลิซดังขึ้นข้างๆเขาเบาๆ เธออยู่ที่นั่นจริงๆ วายุพบว่าเธอยิ้มให้เขา พลางหยิบหนังสือที่เขาเอามาอ่านไปวางบนชั้นหนังสือ ก่อนกลับมาหาเขาต่อ

                         “มันก็แค่ธรรมเนียมโบราณน่ะ ไม่ต้องคิดมากหรอก ครูรู้ว่าเธอกลัวแค่ไหนวายุ เธอลองคิดดูสิว่า เธอได้รู้เรื่องของมันเพิ่มขึ้น เธอก็จะสามารถรับมือมันได้”

                “แต่มันอาจตองแลกด้วยชีวิตนะครับ ถ้าผมพลาด ทุกอย่างคือจบ ผมคงไม่ได้กลับบ้าน ไปหาทุกคนที่เป็นห่วงผม”

                  ครูอลิซลูบกระหม่อมวายุเบาๆเชิงปลอบใจ เขารับรู้ถึความรักและความเมตตาของเธอ วายุรูสึกผ่อนคลายขึ้นได้ในระดับหนึ่ง

                         “มันไม่เลวร้ายอย่างที่เธอคิดหรอกวายุ ถ้าเธอเป็นอัศวินตามคำทำนายจริง เธอจะได้เป็นวีรบุรุษอย่างแน่นอน เพราะโชคชะตาได้กำหนดไว้แล้ว”

                 “แล้วถ้าโชคชะตากำหนดให้ผมตายล่ะ ผมยังอยากจะทำงานนั้นอีกหรอ”

                 “ทุกสิ่งทุกอย่างไม่สามารถฝืนโชคชะตาได้หรอกวายุ ตอนนี้ครูเชื่อว่าเธอเป็นอัศวินจริง เธอจะสามารถทำมันได้แน่นอนวายุ เธอต้องทำได้”

                      วายุผ่อนคลายมากจนเห็นได้ชัด เขาได้รับความเชื่อถือของครูอลิซ เขาดีใจเหลือเกินว่าเขายังมีคนที่คอยเป็นห่วงเขาอยู่ เขารู้สึกรักครูอลิซมาก เขารักเธอเหมือนแม่คนที่สองของเขาเลย

                            “เอ่อ ครูอลิซครับ ผมอยากขอร้องครูเรื่องนึงหน่อย”

                  “ว่ามาซิ เธอจะชอร้องครูเรื่องอะไร”

                           “ผมอยากเจอครูใหญ่ครับ”

                  “อะไรนะ!”

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
6.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
7.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา