บทเพลงรักสะกิดใจ นายสุดฮอต!!

8.8

เขียนโดย Namizz

วันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2553 เวลา 20.37 น.

  27 chapter
  129 วิจารณ์
  42.00K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2558 09.57 น. โดย เจ้าของนิยาย

แชร์นิยาย Share Share Share

 

9) ~ 9 ~

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

     เปิดเทอมวันแรกของที่นี่ก็เหมือนกับโรงเรียนทั่วๆไป แต่โรงเรียนแห่งนี้กลับมีวิธีการเรียนการสอนแบบผิดปกติ ไหนจะเรื่องการจัดตั้งประธานและคณะกรรมการนักเรียน ไหนจะวิธีคัดตารางเวรทำความสะอาด ....คิดแล้วเหนื่อยใจ  จะมีอะไรที่แปลกไปกว่านี้ไหมเนี่ย แต่ก็เอาเถอะ ยังไงฉันก็ต้องทนเพื่อ......  และแล้วก็มาถึงช่วงเย็นเวลาที่ทุกคนรอคอย....

                

 

"นียา แกนั่งรอฉันอยู่ตรงนี้นะ..เดี๋ยวฉันมา" เป้ยเอ่ยขึ้นในขณะที่ฉันนั่งอยู่ในซุ้ม ทานตะวันหลังอาคารหนึ่ง

               

 

"เดี๋ยว!แกจะไปไหน จะทิ้งฉันไว้คนเดียวเหรอ ไม่เอาน๊าาาาา~~~.... พวกนั้นมันก็กลับบ้านกันหมดแล้วอ่ะ แล้วฉันจะอยู่กับครายยยยย" ฉันลากเสียวยาวเพื่อให้คนตรงหน้าเห็นใจ

               

 

"ฉันว่าแกนี่ชักจะปัญญานิ่มขึ้นไปทุกๆวันแล้วนะ ฉันจะไปซื้อน้ำที่โรงอาหารเดี๋ยวมา แกรออยู่ตรงนี้แหละ" พูดจบร่างบางก็วิ่งออกจากซุ้มไปเลย โดยที่ไม่รีรอให้ฉันได้เอ่ยอะไรออกมา

               

 

     และในที่สุดฉันก็ต้องอยู่คนเดียว...เฮ้อออ...สงสัยฉันคงจะปัญญานิ่มอย่างที่เป้ยบอกจริงๆล่ะนะ เรื่องแค่นี้ก็ต้องเก็บไปคิดมาก ไร้สาระจริงๆ....

               

 

     20นาทีผ่านไป

               

 

"เอ๊ะ!ทำไมยังไม่มาอีกนะ ไปซื้อน้ำที่สีลมรึไงกัน เฮ้อออ..."ฉันบ่นได้แค่นั้น ก็ต้องถอนหายใจออกมากับความชักช้าของเป้ย

               

 

"รอไม่ไหวแล้วนะ นี่มันจะ6โมงเย็นแล้วด้วย เป้ยนะแก กลับมาเจอดีแน่ ฮึยยยย..." อารมณ์ชักจะหงุดหงิดเต็มที่ เสียงของโทรศัพท์ก็แทรกขึ้น

               

 

~~เมื่อชีวิตของคนเรามันสั้นนัก...สิ่งที่ฉันพอจะทำในช่วงเวลา...~~

               

 

"ฮัลโหล!!แกอยู่ที่ไหนเนี่ย รู้ไหมแกปล่อยให้ฉันนั่งรอตั้งครึ่งชั่วโมง แกทำแบบนี้กับฉันได้ไง ห๊ะ!"

               

 

'เอ่ออ...ใจเย็นก่อนนียา...ฟังฉันอธิบายก่อนนะ คือเมื่อกี้ฉันเจอรุ่นน้องที่รู้จักอ่ะ แล้วน้องเขาให้ช่วยติวเลขให้...ฉันก็เลยติวเพลินนน...แหะๆๆ เอาเป็นว่าแกกลับไปก่อนเลยนะ เพื่อเป็นการไถ่โทษพรุ่งนี้ฉันจ่ายค่ารถให้เอง แค่นี้ก่อนนะ บาย...ติ๊ด!'

               

 

"อ่าว เฮ้ย..เดี๋ยว!"

 

 

                ตู๊ดดด ตู๊ดดดๆๆๆ

               

 

     พูดยังไม่ทันได้รู้เรื่องรู้ราวอะไร เป้ยก็กดวางสายไป....ในขณะที่ฉันกำลังจะเดินออกจากโรงเรียน ขาทั้งสองข้างก็ต้องหยุดชะงักเมื่อมีเสียงของเครื่องดนตรีที่(เคย)คุ้นเคย แว่วเข้ามาในโสตประสาท เสียงนั้นสามารถดึงดูดขาของฉันให้เดินไปยังจุดต้นกำเนิดของเสียง และแล้วขาทั้งสองก็ต้องหยุดทำงานลงอย่างอัตโนมัติ เมื่อตอนนี้...เบื้องหน้าของฉันคือ ห้องดนตรีสากล....

               

 

'จริงสิ...ตอนเย็นๆขนาดนี้ ยังมีคนมาเล่นดนตรีอีกเหรอ หรือว่าข้างในจะไม่มีใครอยู่...แล้วเสียงนั้นมัน!'

               

 

     ความคิดที่น่าสะพรึงกลัวได้พลุดขึ้นมาในสมอง ฉันตัดสินใจจะเดินออกจากที่ตรงนั้น...แต่ทว่า...ก็ได้มีเสียงของสิ่งมีชีวิต(ไม่ใช่ผี)ได้ขับร้องเพลงประสานเสียงกับเครื่องดนตรีที่ฉันได้ยินในตอนแรก...น้ำเสียงทุ้มนุ่มนวล บ่งบอกถึงอารมณ์ของผู้ร้องได้เป็นอย่างดี เสียงที่มีทั้งสูง กลาง และต่ำนั้น เข้ากับจังหวะของเนื้อเพลงได้ดี บ่งบอกถึงความถนัดในการเป็นมืออาชีพได้ดีเยี่ยม....ช่างไพเราะเหลือเกิน...ใครกันที่เป็นเจ้าของน้ำเสียงแสนนุ่มนวลนี้...

               

 

     ทันใดนั้น ร่างบางก็ตัดสินใจเดินไปยังห้องดนตรี เพื่ออยากรู้ในสิ่งที่ค้างคาใจ แล้วก็ต้องตกตะลึง...เมื่อปริศนาได้กระจ่างตาของฉันแล้ว...รุ่นพี่เต็งหนึ่ง...  ฉันแอบอยู่หลังประตูหน้าห้องดนตรี ตอนนี้ก็เย็นมากแล้วคงไม่มีใครเดินผ่านมาเห็นเข้าหรอกนะ^_^...ตอนนี้ฉันกำลังสนใจกับสิ่งที่อยู่เบื้องหน้ามากกว่า...นิ้วเรียวจรดไล่คีย์เสียง มือทั้งสองข้างวางลงบนแกรน"เปียโน"อย่างสง่า นิ้วเรียวนั้นเริ่มกดลงไปเพื่อบรรเลงต้นเพลงอย่างแผ่วเบา เสียงที่ดังออกมาเป็นเสียงที่เบาราวกับจะจางหายไป..เมื่อใครมาสัมผัส  ก่อนที่มืออีกข้างจะกดคีย์โน๊ตที่ตรงกันข้าม สลับควบคู่กันไปราวกับความรู้สึกต่างๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ทั้งสุข เศร้า และอะไรอีกหลายๆอย่างที่ไหลผ่านเข้ามาในชีวิต...เมื่อบรรเลงถึงคีย์วรรคจังหวะ เสียงของเขาก็เริ่มขับร้องขึ้น....

                

 

 ~~เรายังอยู่ด้วยกันอีกนานแสนนาน   ฉันเชื่อตัวเองเช่นนั้น   ถึงได้ปล่อยวันเวลาไปไกล ควรจะบอกบางคำก็ทำลืมไป    คิดว่าเหลือเวลาเท่าไรก็พอพูดมัน........ 

 

 

 
     กว่าจะบอกตัวเองว่าอย่ามั่นใจ   ก็เมื่อในวันที่สาย   ที่ไม่มีเธอข้างๆกายกัน    อยากจะบอกคำเดิมที่เธอรอนาน  ฉันก็เหลือแค่เพียงสิทธิ์บอกเธอผ่านสายตา

 

 


     *และทีนี้เวลาที่มีไม่พอสักอย่าง    อยากมีหนทางดึงสิ่งต่างๆย้อนมา     จะกอดเธอไว้จะทำทุกวันให้มีความหมายให้มีค่า จะไม่ทำให้เธอปวดใจ......

 


     *...ฉัน.. ไม่มีวันได้เธอคืนมา ฉันขอเวลาแค่บอกคำนั้น   ที่เธอเคยต้องการมันยังทันใช่ไหม ฉันเสียใจตลอดเวลาที่รักษาเธอไม่ได้     สุดท้าย     อยากให้รู้ว่ารัก......

 

 

 

     ได้แต่เกลียดตัวเองที่ลืมนึกไป    ว่าโลกมีคำว่าสาย ไว้สะกิดใจให้ฉันรีบทำ     ได้แต่กอดตัวเองกับความทรงจำ ที่ยิ่งย้ำว่าฉันมันผิดที่ชะล่าใจ.....

 

 


......ฉันขอได้ไหม แค่บอกคำนั้น (แค่บอกคำนั้นจากใจ)      ที่เธอเคยต้องการมันยังทันใช่ไหม ฉันรักเธอตลอดเวลา แต่รักษาเธอไม่ได้   เชื่อไหม (สุดท้าย) เวลาไม่เคยพอ.....~~~

 

               

 

     เมื่อเสียงร้องของรุ่นพี่เงียบหายไป ซึ่งก็หมายถึงการแสดงนอกรอบได้จบลงแล้ว ฉันยังคงยืนนิ่งเพราะจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว และสิ่งที่ทำให้ฉันไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น...

               

 

"มาแอบฟังฉันร้องเพลงแล้วยังไม่ยอมปรบมือให้อีก  เธอนี่มันเบ๊อะจริงๆ" วะ..ว่าไงนะ! เบ๊อะงั้นเหรอ นี่มันครั้งที่สองแล้วนะ แต่..เขารู้ว่าฉันอยู่ตรงนี้ได้ไง...เมื่อสมองอันกลวงโบ๋ของฉันได้ปะติดปะต่อเหตุการณ์เมื่อสักครู่ จึงทำให้ฉันนึกขึ้นมาได้ว่า ควรจะออกจากห้องนี้ให้เร็วที่สุด...ฉันค่อยๆขยับก้นออกจากซอกประตูนั้นและมองหน้าคนตรงหน้าแบบ...เหอะๆๆๆ TT0TT

               

 

"คะ..คือ ขอโทษนะคะ  ฉะ..ฉันแค่เดินผ่านมาเท่านั้น เผอิญได้ยินเสียงเปียโนเลยเข้ามาดู" ฉันตอบอย่างกล้าๆกลัวๆ และไม่ยอบสบตากับคนข้างหน้า(เพราะเขาหล่อ^_^)

               

 

"หึ! ขอโทษ..เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครกันถึงมาเดินป้วนเปี้ยนแถวนี้ได้ตามใจชอบ ไม่รู้หรือไงว่าเวลานี้มันเย็นมากแล้ว...และเธอ..ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมายืนอยู่ในโรงเรียนนี้คนเดียว...เอ๊าะ!แล้วถึงแม้ว่าเธอจะใหญ่คับฟ้าหรือโด่งดังทั่วโลก เธอก็ไม่สมควรที่จะเสียมารยาทมาแอบฟังคนอื่นแบบนี้ ตัวเธอก็เป็นศิลปิน..แต่ทำตัวแย่ที่สุด คนที่สอนเธอร้องเพลง เขาคงจะไม่ได้สอนเรื่องนี้กับเธอใช่ไหมเขาคงจะ..." ก่อนที่เสียงของคนตรงหน้าจะทำให้ฉันแทบคลั่ง เสียงของฉันก็ดังขึ้น

               

 

"มันจะมากไปแล้วนะ!!   นายจะด่าฉันยังไงจะว่าฉันยังไงก็ได้..แต่นายไม่มีสิทธิ์อะไรมาว่าคนที่สอนฉันร้องเพลง...เพราะเขาคนนั้นสำคัญกับฉันมาก....." ชั่วพริบตาเดียวนั้นแววตาของชายหนุ่มเป็นประกายขึ้นมาทันที...แต่แล้วมันก็อยู่ได้ไม่นาน

               

 

" พี่กีตาร์..เขาเป็นเสมือนทุกสิ่งทุกอย่างของฉัน...ถึงแม้เขาจะเป็นคนไม่ดียังไงแต่เขาก็เป็นคนแรกที่สอนฉันร้องเพลง...เพราะฉะนั้น นายไม่มีสิทธิ์...ฮึกๆๆ....ฮือออๆๆ นายไม่มีสิทธิ์!!!" ฉันปล่อยโฮออกมาอย่างไม่อายใคร ก็มันสุดจะทนแล้ว คนตรงหน้าเริ่มหน้าซีด ทำอะไรไม่ถูกเพราะนึกไม่ถึงว่าคำพูดของเขาจะมีอิทธิพลต่อคนตรงหน้ามากขนาดนี้ เขาแค่ต้องการทำในสิ่งที่เขาอยากจะรู้.....ชายหนุ่มเดินเข้าไปหาร่างบางที่กำลังร้องไห้อย่างช้าๆ

               

 

"อะ...เอ่ออ..พี่ขอ...." เต็งหนึ่งเอื้อมมือที่จะไปลูบหัวของนียาแต่แล้ว...

 

 

                เพี๊ยะ!!!

               

 

     แรงจากฝ่ามือกระทบเข้ากับหน้าใสๆของเต็งหนึ่งเข้าอย่างจัง ส่งผลให้คนถูกตบหน้าหันไปตามแรงของฝ่ามือนั้นทันที...ชายหนุ่มหันหน้ากลับมาอย่างช้าๆ เขาไม่พูดอะไรออกมาสักคำ สีหน้าเรียบเฉย คงมีแต่สายตาเท่านั้นที่สื่อถึงความเจ็บปวดและไม่เข้าใจ...

               

 

"นี่คือบทลงโทษของนาย จำเอาไว้ว่าต่อไปอย่ามาดูถูกคนอย่างฉัน...และคนนั้นๆ... เพราะนาย มันก็ดีแต่เปลือกนอกเท่านั้นเอง นายมันไม่มีค่าอะไรเลยในสายตาฉัน...สักนิด!" สิ้นสุดประโยคท้าย ฉันก็รีบวิ่งออกจากที่นั่นทันที โดยไม่คิดที่จะหันกลับมามองเขาอีก แต่เป็นเพราะอะไรก็ไม่รู้ ทำไมน้ำตาถึงได้พรั่งพรูออกมามากมายขนาดนี้ ทั้งๆที่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป...แต่ความรู้สึกที่ออกมาจาก หัวใจ มันกลับทรมานอย่างไม่รู้สาเหตุ....

 

 

===============

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.5 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.6 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา