พันธะหัวใจ...ดวงใจรักซาตาน

10.0

เขียนโดย RATH

วันที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 23.22 น.

  12 chapter
  53 วิจารณ์
  96.17K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) บทที่ 1 แรกพบแรกรัก

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

แนะนำตัวละคร

 

 


http://www.keedkean.com

 

 

 

http://www.keedkean.com

http://www.keedkean.com

http://www.keedkean.com

 

http://www.keedkean.com

 

 

 

 

......................................................


 

 

พันธะหัวใจ...ดวงใจรักซาตาน 


 

http://www.keedkean.com

 


บทที่ 1



แรกพบแรกรัก

 



              ภาคีนัยเป็นชายหนุ่มเงียบขรึม พูดน้อย หากเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ใช่เรื่องงาน แต่เมื่อเป็นเรื่องงานหรือธุรกิจเขาคือนักพูดฝีปากจัดจ้านคมคายเป็นนักเจรจาต่อรองที่เก่งกาจหาตัวจับยากคนหนึ่ง บุคลิกเงียบขรึมทำให้ไม่มีใครชอบหน้าหรือเข้าใกล้ภาคีนัยมากนัก ด้านอารมณ์ความรู้สึกภาคีนัยไม่ชอบเก็บงำอารมณ์จะปลดปล่อยมันทันทีเมื่อรู้สึกโกรธหากไม่พอใจหรือไม่ชอบใจจะใช้อารมณ์ที่รุนแรงทันทีเช่นการตะโกนตะคอกหรือขว้างปาข้าวของส่วนใหญ่จะเป็นที่เขี่ยบุหรี่ แก้วน้ำ แจกัน ที่เป็นของเล็กถนัดมือขว้างปาได้ง่าย...วันนี้ก็เป็นอีกวันที่ชายหนุ่มรูปหล่อ เงียบขรึม อารมณ์ร้ายอย่างภาคีนัย  กำลังอารมณ์เสียอย่างรุนแรงเขากำลังตะโกนเสียงดังใส่ลูกน้องในที่ทำงาน... 

 

“งานชุ่ย..ชุ่ย...แบบนี้ยังกล้าเอามาส่งให้ผมอีก...คุณมีความคิดบ้างมั้ย” 

 

ในห้องทำงานขนาดใหญ่มีชายหนุ่มรูปหล่อและหญิงสาวหน้าตาสะสวยยืนอยู่ในห้องสองคน ชายหนุ่มยืนถือเอกสารเล่มเล็กอยู่ในมือสะบัดไปมาเหมือนของเล่นพร้อมที่ขว้างทิ้งตลอดเวลา ส่วนสาวน้อยเจ้าของผลงานในเอกสารยืนก้มหน้า ตัวสั่น น้ำตาไหล ขาสั่นด้วยความกลัว เหงื่อแตกไหลเลอะเครื่องสำอางราคาแพงที่ตบแต่งใบหน้าอันแสนสวยงามไว้... 

 

“ผมให้คุณไปแก้งานมาส่งผมใหม่สามครั้งแล้ว นี้อะไรมันคืออะไร ก็งานเดิมๆเหมือนกับสองครั้งที่แล้ว มันชุ่ยและห่วยและงานชิ้นนี้ก็ห่วยอีกเหมือนกันคุณจะไปแก้งานมาส่งให้ผมใหม่อีกครั้งหรือจะเดินออกไปรับซองขาวแล้วลาออกไปหางานใหม่คุณเลือกเอาเองออกไปจากห้องผมได้แล้วและทำงานมาส่งให้ผมใหม่ด้วย” 

 

เมื่อภาคีนัยระบายอารมณ์เสียเสร็จเขาขว้างผลงานของลูกน้องสาวพร้อมแฟ้มเอกสารชิ้นงานที่สุดชุ่ยและห่วย ลงถังขยะทันทีสาวน้อยเจ้าของชิ้นงานเดินออกไปยังไม่ถึงประตูห้องภาคีนัยดีนักหันมามองผลงานชิ้นล่าสุดของตัวเองถูกขว้างทิ้งลงในถังขยะด้วยความเสียใจเอามือปิดใบหน้าที่เลอะเครื่องสำอางวิ่งร้องไห้ออกจากห้องไป...ภาคีนัยคือชายหนุ่มที่มีความจริงจังกับผลงานทุกชิ้นที่ทำออกมา เขาต้องการให้ชิ้นงานทุกชิ้นมีแต่คำว่าดีมากหรือดีเยี่ยมเท่านั้นหากต่ำกว่ามาตรฐานเขาจะไม่ปล่อยให้ผ่านทันที ถึงภาคีนัยจะเป็นชายหนุ่มอารมณ์ร้ายนิสัยไม่คอยดีนักแต่เขาก็ไม่เคยเอาเปรียบลูกน้องเขาจ่ายเงินตอบแทนหรือค่าจ้างคุ้มค่าต่อผลงานทุกชิ้นที่ลูกน้องทำมาส่งเช่นเดียวกันหากเงินที่เขาจ่ายไปไม่คุ้มค่าสำหรับผลงานที่เขาควรจะได้รับภาคีนัยจะอารมณ์ร้ายโมโหและปลดปล่อยอารมณ์ที่เป็นนิสัยไม่ดีใส่ลูกน้องทันที...ภาคินัยเดินกลับไปนั่งที่โต๊ะทำงานอีกครั้ง

 

วันนี้ภาคีนัยมีสัมภาษณ์พนักงานเพิ่มในตำแหน่งนักเขียนโปรแกรมกราฟิกดีไซน์ปกติบริษัทของภาคีนัยจะไม่มีพนักงานลาออกมีแต่รับพนักงานเพิ่มถึงแม้ภาคีนัยจะอารมณ์รุนแรงหรืออารมณ์ร้ายใส่ลูกน้องเป็นประจำก็ตาม บริษัทของภาคีนัยมีสวัสดิการที่ดีเงินเดือนที่สูงกว่าบริษัทอื่น จึงมีผู้มีความรู้ในสาขาต่างๆมากมายสนใจจะมาร่วมงานกับเขาและช่วงนี้บริษัทของภาคีนัยก็มีงานเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัวจึงต้องการพนักงานประจำมากตามไปด้วย ภาคีนัยหยิบแฟ้มเอกสารตรงหน้าขึ้นมาอ่าน รูปภาพขาวดำขนาดสองนิ้วในชุดรับปริญญาของหญิงสาวหน้าตาสวยภาคีนัยมองไปในช่องสถานภาพของสาวน้อยสถานภาพโสด แต่เมื่อมองลงไปยังช่อง บุตร หรือ ธิดา สาวน้อยลงไว้ว่ามีบุตรชายหนึ่งคน บุตรสาวสองคน ภาคีนัยเกิดความสงสัยอีกครั้งกลับไปมองช่องอายุสาวน้อยนับได้ยี่สิบแปดปี อะไรกันเขาสงสัยมากขึ้นไปอีกหากสาวน้อยระบุอายุลูกชายไว้ด้วยภาคีนัยก็จะสามารถคาดเดาได้ว่าสาวน้อยตรงหน้ามีลูกชายคนแรกตั้งแต่อายุเท่าไรหรือตั้งแต่ที่เธอกำลังเรียนหนังสืออยู่ ภาคีนัยจะเก็บความสงสัยไว้ถามสาวน้อยตอนสัมภาษณ์ก็แล้วกัน ในประวัติการทำงานสาวน้อยลงไว้ละเอียดดีมากบริษัทของภาีคีนัยหากมีงานเยอะมาก ทำไม่ทันก็จะส่งชิ้นงานให้กับพวกทำงานอิสระหรืองานฟรีแลนซ์กราฟฟิคและสาวน้อยก็รับงานจากบริษัทภาคีนัยไปทำมาแล้วอย่างน้อยสี่ปีตั้งแต่เธอยังเป็นนักศึกษาอยู่เลยและผลงานของเธอทำให้ภาคีนัยพอใจทุกชิ้น แล้วตอนนี้ทำไมสาวน้อยอายุยี่สิบแปดจึงตัดสินใจมาทำงานเต็มเวลากัน ภาคีนัยเก็บความคิดสงสัยข้อที่สองไว้ในใจ ภาคีนัยจะสอบถามสาวน้อยเมื่อมาสัมภาษณ์งาน.... 

 

เสียงเคาะประตูดังมาจากหน้าห้อง เสียงเปิดประตูเข้ามาเป็นหญิงสาวสองคน หนึ่งคนเป็นเลขาหน้าห้องและหญิงสาวที่ตามเข้ามาคือผู้มาสัมภาษณ์งาน ภาคีนัยพยักหน้าให้เลขาอันความหมายต่างรับรู้กันว่าเรียบร้อยแล้วกลับไปทำงานต่อได้เลขาหน้าห้องของภาคีนัยเดินไปที่ประตูแล้วเปิดประตูเดินออกไปอย่างรู้หน้าที่ ภาคีนัยมองตรงไปยังหญิงสาวตรงหน้าลักษณะใบหน้าเป็นรูปไข่ ปาก คิ้ว คาง ได้สัดส่วน ดวงตาคม เข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว อาจจะถึงขนาดไร้ความรู้สึกเหมือนดังเช่นดวงตาของคนที่ผ่านร้อน ผ่านหนาวมาอย่างสู่ชีวิตนานมากแล้วที่ภาคีนัยไม่ได้เคยพบเจอผู้หญิงแข็มแข่งและอันมีลักษณะแปลกประหลาดเช่นนี้ สิ่งที่ภาคีนัยตั้งใจจะสอบถามหญิงสาวตรงหน้าเมื่อได้อ่านประวัติในแฟ้มเมื่อสักครู่ก็เกิดเปลี่ยนใจในทันทีอาจจะเป็นเพราะดวงตาปริศนาอันซับซ้อนของหญิงสาวตรงหน้าก็ได้... 

 

“คุณจะมาเริ่มงานได้เมื่อไรคุณเมทินี...” 

 

“ฉันคิดว่าคุณนัดฉันมาสัมภาษณ์งาน...” 

 

“คุณทำงานฟรีแลนซ์กราฟฟิคให้บริษัทผมมาสี่ปีแล้ว คงไม่จำเป็นต้องสัมภาษณ์อะไรเพิ่มแล้วละครับแต่ผมมีข้อสงสัยแค่ว่าทำไมคุณถึงคิดจะมาทำงานเต็มเวลาเท่านั้นเอง” 

 

“ฉันมีภาระเพิ่มขึ้นและเมื่อก่อนฉันไม่สามารถทำงานเต็มเวลาได้เพราะลูกชายและลูกสาวฉันยังเล็กมากต้องดูแลใกล้ชิด ตอนนี้พวกเขาดูแลตัวเองได้บ้างแล้วแต่พวกเขายิ่งเติบโตเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นก็จะยิ่งมีภาระค่าใช้จ่ายต่างๆเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ค่าเทอม ค่าหนังสือเรียน ค่าเรียนพิเศษ ฉันต้องหาเตรียมไว้เมื่อเขาต้องเรียนระดับปริญญาหรือที่สูงขึ้น คุณเองมีลูกก็น่าจะรู้ดี” 

 

“หึ หึ...”  

 

เสียงหัวเราะไม่ดังมากนักเป็นเสียงหัวเราะในอารมณ์ขบขัน.. 

 

“คุณไปฟังใครมา ว่าผมมีลูกมีครอบครัวแล้ว คุณอาจจะมองผมมีบุคลิกเป็นคนมีแก่มีอายุ แต่ผมอายุแค่35 ยังหนุ่มอยู่และผมยังไม่ได้แต่งงาน...” 

 

“ฉันต้องขอโทษด้วย คุณเป็นคนรูปหล่อหน้าตาดีมีอาชีพการงานมั่นคงฉันจึงคิดว่าคุณน่าจะแต่งงานมีครอบครัวมีลูกแล้วไม่คิดว่าคุณจะยังโสดอยู่” 

 

“ฮ่า ฮ่า....” 

 

ภาคีนัยหัวเราะเสียงดังกว่าครั้งแรกเป็นเสียงหัวเราะในอารมณ์ดีใจ พอใจอะไรสักอย่างหรือบางอย่าง.. 

 

“คุณนี้เป็นคนคุยด้วยแล้วสนุกดีนะ ไม่มีใครกล้าชมผมตรงว่ารูปหล่อ หน้าตาดี ในการพบกันครั้งแรกหรอกนะ แต่คุณชมผมได้เป็นธรรมชาติดีมากและผมชอบที่คุณชมและขอขอบคุณมากในคำชม ผมรับคุณเข้าทำงานไม่ใช่ที่คุณชมผมรูปหล่อแต่ผมชอบความสามารถของคุณ และผมก็ต้องการพนักงานในตำแหน่งของคุณด่วนมาก งานของผมตอนนี้ล้วนแล้วแต่เป็นงานเร่งด่วนคุณสะดวกวันนี้ หรือพรุ่งนี้ก็มาเริ่มงานกับผมได้เลย..” 

 

“ตกลงคะ พรุ่งนี้ฉันจะขอมาเริ่มงานเลยแล้วกันคะ...คุณ...” 

 

“ผมภาคินัยครับ...คุณเมทินี” 

 

“คะคุณภาคินัย วันนี้ฉันขอไปเตรียมตัวก่อนนะคะ แล้วพรุ่งนี้ฉันจะมาเริ่มงานแต่เช้าคะ” 

 

“เชิญครับ” 

 

ผู้ชายที่มีชื่อว่าภาคินัยเดินมาส่งเธอที่ประตูห้องแล้วเดินกลับไปยังโต๊ะทำงานอีกครั้ง เขาเป็นชายหนุ่มหน้าตาดีรูปหล่อไร้พันธะใดๆ มีหน้าที่การงานที่ดี มีฐานะร่ำรวยส่วนเธอยากจนต้องทำงานปากกัดตีนถีบ ต้องทนอดมื้อกินมื้อกว่าที่จะมาถึงวันนี้ได้ เธอต้องค่อยดูแลพันธะที่เธอไม่ใด้เป็นผู้ก่อขึ้นชีวิตเธอหากจะต้องเล่าแล้วเรื่องมันยาวเธอผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากมาได้แล้ว เวลาที่ต้องเสียใจเศร้าใจทุกข์ใจก็ได้ผ่านไปแล้ว ตอนนี้เธอมีลูกชายลูกสาวฝาแฝดน่ารักสามคนเธอจะไม่ขอคิดถึงอดีตอีกจะทำงานเพื่อลูกๆ ของเธอเท่านั้น ตอนนี้สิ่งที่เธอกลัวก็คือการต้องสูญเสียลูกชายและลูกสาวกลับคืนให้แก่พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดแม้เธอจะยังไม่รู้ว่าขณะพวกเขาอยู่ที่ใหนกันบ้างก็ตาม เธอหวังว่าอย่าได้มีวันที่เธอต้องสูญเสียลูกชายลูกสาวไปเลย หากวันนั้นมาถึงจริงๆเธอคงต้องเสียใจและเศร้าใจอย่างมากแน่ๆ .... 

 



..............................................................


 

“โรส...คุณเอาลูกชายผมไปไว้ที่ไหน...” 

 

“วิณคะ ตั้งห้าปีแล้วคุณเพิ่งอยากจะรู้หรือคะ ตอนฉันบอกว่าฉันท้องคุณไม่เห็นจะมาดูดำดูดีอะไรฉัน พอฉันคลอดลูกคุณก็หนีไปอยู่ต่างประเทศห้าปีต่อมาคุณกลับมาแล้วถามฉัน ลูกชายคุณอยู่ไหนฉันบอกคุณไม่ได้หรอกคะ...วิณ” 

 

“ทำไมโรส ทำไมบอกไม่ได้นั้นมันก็ลูกคุณด้วยนะทำไมคุณถึงไม่รู้ว่าลูกชายคุณอยู่ที่ไหน” 

 

“ฉันไม่รู้จริงๆคะวิณ ถ้าคุณยังจดจำเพื่อนสนิทของคุณได้ เพื่อนคุณที่หลงรักฉันจนหัวปลักหัวปลำ ฉันพูดอะไรเล่าอะไรเพื่อนคุณก็เชื่อก็ฟังฉันไปหมดทุกอย่างฉันบอกลูกชายคุณคือลูกของเขา เพื่อนคุณก็เชื่ออย่างสนิทใจ ฉันยกลูกชายคุณให้เพื่อนคุณไปแล้วเมื่อห้าปีที่แล้วและฉันก็บินไปเรียนต่อที่อังกฤษ ไม่ทราบข่าวเพื่อนคุณเหมือนกัน ฉันกลับมาก็มีคนรักใหม่ตามที่คุณอ่านเจอในหนังสือพิมพ์แหละคะ...วิณ...เขาเป็นนักธุรกิจ ฐานะร่ำรวย แถมรูปหล่ออีก..เขาชื่อภาคินัย....” 

 

“คุณมันเลวมากทำอย่างนี้ได้ยังไง คุณไม่มีสายใยความเป็นแม่เลยหรือไง ผมรู้ผมผิดที่อ่อนแอเกินไปแต่วันนี้ผมเข้มแข็งและพร้อมที่จะกลับมาเริ่มต้นชีวิตใหม่กับคุณแต่ผมคิดผิดจริงๆ ผมจะตามหาลูกชายผมถึงจะต้องใช้เงินเพื่อตามหามากมายเท่าไรผมก็จะยอมทำ” 

 

“วิณคะ ฉันขอให้คุณโชคดีแต่สำหรับฉันอดีตของฉันมันจะทำลายอนาคตของฉันด้วยขอให้คุณเก็บเรื่องของเราไว้เป็นความลับด้วยนะคะวิณ ฉันมีผู้ชายที่ฉันรักและต้องการจะแต่งงานกับเขาแล้ว ฉันไม่อยากให้เรื่องในอดีตมาทำลายอนาคตของฉัน” 

 

“ผมก็คิดว่าจะไม่ขอยุ่งเกี่ยวหรือเกี่ยวข้องกับคุณอีกแล้วเหมือนกันลาก่อน...โรส” 

 


มาวิณหรือ หม่อมราชวงค์มาวิณเดินออกจากบ้านดาราสาวและนางแบบชื่อดัง หัวใจเจ็บปวดยิ่งนักความผิดพลาดเมื่อยังเป็นวัยรุ่นมันกัดกินจิตใจของชายหนุ่มมาห้าปี และในวันที่พร้อมจะแก้ไขมันให้ดีขึ้น เรื่องราวกับไม่เป็นอย่างที่หัวใจคิดหวังไว้มันคือเวรกรรมที่เขาก่อไว้ และต้องตามชดใช้ใช่หรือไม่นะ ไม่มีใครให้คำตอบแก่มาวิณได้มันเจ็บปวดหัวใจจริง แล้วเขาควรจะไปเริ่มต้นสืบหาที่ไหน มาวิณเดินตรงไปยังรถราคาแพงแล้วขับไปยังสำนักงานนักสืบทันทีมันคือคำตอบในหัวใจที่จะเป็นการเริ่มต้นสืบหาหรือตามหาลูกชาย เพื่อนรักของเขามีชื่อว่า ชาญชัย  ตรีเมฆ มาวิณต้องสืบหาตัวเพื่อนรักให้เจอไม่อย่างนั้นมาวิณก็ไม่มีทางหาลูกชายเจอ อีกไม่นานมาวิณก็จะได้อยู่กับลูกชายพร้อมมอบความรักที่ไม่เคยมอบให้เมื่อครั้งมาวิณหนีหายไปอย่างคนขาดกลัว แต่ในวันนี้มาวิณพร้อมแล้วที่จะชดใช้ความผิดในอดีตและมอบความรักให้ลูกชายที่ไม่เคยเจอหน้าอย่างไม่มีข้อแม้ใดๆ..

 



จบบทที่ 1 ต่อบทที่ 2  ซาตานพบรัก




 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา