เข้าทรงสื่อรัก
1) ฝันแก้ว...ความฝันอันเปราะบาง
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตอนที่๑: ฝันแก้ว...ความฝันอันเปราะบาง
ตึ๊ง! เสียงเตือนข้อความดังขึ้นพร้อมกับข้อความสีชมพูบนหน้าจอคอมพิวเตอร์
"ดีจร้า ตะเอง"
เด็กสาวเจ้าของเครื่องคลี่ยิ้มออกมา ขยับนั่งให้ถนัดแล้วพิมพ์ข้อความตอบกลับไป
"ดีค่า ^o^/"
"กำลังลุ้นอยู่ล่ะซี่ XD" ฝ่ายนั้นถามมา
"ช่ายยยยย...หัวใจจะวายแล้วเนี่ย >O<;" เด็กสาวตอบจากความรู้สึกจริงๆของเธอ
ก็จะไม้ให้ตื่นเต้นได้อย่างไร ในเมื่อวันนี้เป็นวันประกาศผลสอบแอดมิชชั่นที่รอลุ้นมานาน
"555+ สมนำหน้า"
เด็กสาวย่นจมูกนิดหนึ่งก่อนพิมพ์ตอบไป ยิ้มอยู่ในสีหน้า "สมน้ำหน้าไรยะ?"
"ก้ไม่ยอมเอาโควตาเองนิ"
"ก็อยากเรียนที่นี่นี่ >3<#"
"คร่า....แม่คนเก่ง"
"ประชดหรอยะ?"
"555+ เอาใจช่วยน้า…4โมงชิมิ?"
"อื้อ ^^;"
"คึคึ อย่าเพิ่งหัวใจวายก่อนล่ะตะเอง"
"จ้า^^"
เด็กสาวยิ้มแต่ในใจกำลังกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งมองนาฬิกาเห็นเวลากระชั้น
เข้ามาทุกทีก็ยิ่งใจหาย ความรู้สึกมากมายประดังเข้ามาราวกับน้ำหลาก ทั้งตื่นเต้น ดีใจ
กลัว และกังวล ความรู้สึกเหล่านี้มันมากมายจนเธอรู้สึกเครียด
ร่างบางถอดหูฟังวางลงบนโต๊ะ ลุกออกจากที่แล้วทิ้งตัวลงบนฟูกหนา รวบผ้านวมมากอด
ไว้นอนกลิ้งไปมาอย่างพยายามสงบสติอารมณ์
.................
ตึ๊ง! เสียงเตือนข้อความทำให้เด็กสาวสะดุ้ง เธอเคลิ้มๆกำลังจะหลับอยู่แล้ว เมื่อได้อ่านข้อ
ความสีชมพูเด่นนั้นเด็กสาวก็รู้สึกเย็นวาบไปถึงไขสันหลัง
"สี่โมงแร้วน้า.....^0^/"
ร่างบางค่อยๆยันกายลุกขึ้นจากเตียง เดินไปที่โต๊ะทำงานอย่างช้าๆ หัวใจเต้นรัวราวกับจะ
หลุดออกมาจากอก เธอกำลังตื่นเต้น และกลัว กังวลว่าถ้าไม่ติดขึ้นมาเธอจะทำอย่างไรต่อไป
"เดี่ญวซี่ ยังไม่ได้ทำใจเลย ><;;"
เธอพิมพ์ประโยคตอบไปอย่างติดขัด มือสั่นจนพิมพ์ผิดๆถูก
"อย่ามาลีลาน้า...ดูเด๋วเน้เรย= =#"
"ก้ได้ๆ XC "
แล้วมือขาวๆก็เลื่อนเคอร์เซอร์เปิดโปรแกรมเว็บเบราส์เซอร์ขึ้นมา กรอกที่อยู่เว็บลงไปด้วย
มืออันสั่นเทา เธอพิมพ์ผิดอยู่หลายครั้ง จนรู้สึกหงุดหงิดกับตัวเอง แต่ก็พิมพ์เสร็จในที่สุด
วงแหวนสีเทาหมุนวนแสดงสถานะว่ากำลังดึงข้อมูลจากต้นทาง เด็กสาวหลับตาลงสองมือ
ประสานแน่นเท้าศอกไว้กับโต๊ะและก้มศีรษะลงวางหน้าผากลงบนมือคู่นั้น
เนิ่นนานเท่าไรไม่ทรายได้ที่เธอเอาแต่นิ่งอยู่อย่างนั้น จนเมื่อเสียงเตือนข้อความดังขึ้น
เด็กสาวจึงรู้สึกตัว
หน้าเว็บเรียบๆปรากฏอยู่ตรงหน้า ตราของกระทรวงเด่นหราอยู่ที่หน้าจอ มีช่องสองช่องสำหรับ
กรอกข้อมูล เด็กสาวกรอกข้อมูลลงไปด้วยนิ้วที่แข็งเกร็ง หัวใจเต้นแรง หายใจไม่ทั่วท้อง และมี
อาการคล้ายจะเป็นลม
ตึก! เธอกระแทกปุ่ม "Enter" โดยแรง หลับตาปี๋
ตึ้ง! เสียงเตือนข้อความแว่วมาอีกแต่เด็กสาวหาได้ใส่ใจไม่ เพราะข้อความสีเขียวที่เห็นเด่นเหนือ
ข้อความอื่นบนหน้าจอทำให้ร่างกายของเธอชาไปหมดทุกส่วน ยิ่งไล่สายตาอ่านต่อไปร่างกาย
ขอเธอก็เหมือนกับโดนแช่แข็ง ทั้งๆที่ข้างในร้อนผ่าวด้วยเลือดลมที่สูบฉีดไปทั่ว
"ม้าว!" เด็กสาวสะดุ้งเพราะเสียงเล็กๆนั้น เมื่อหันไปทางต้นเสียงก็พบกับนัยน์ตาสีฟ้าที่จ้องมองมา ขนขาวลายส้มของมันเด่นสะดุดตาอยู่ท่ามกลางกองหนังสือเตรียมสอบบนโต๊ะ
"เจ้าเหมียว..." เธอเรียกมันเสียงแผ่ว แมวลายมองสบตาเด็กสาวเหมือนกับจะถามว่า เกิดอะไร
ขึ้นหรอ? เด็กสาวรวบตัวมันมากอดไว้แน่น
"เจ้าเหมียวชั้นสอบได้แล้ว! ชั้นสอบติดแล้ว!"
เธอร้องออกมาแทบไม่เป็นภาษาความดีใจเอ่อล้นราวกับน้ำหลาก ร่างบางหัวเราะลั่นชูเจ้าเหมียว
ขึ้นเหนือศีรษะแล้วหมุนไปรอบๆอย่างร่าเริง ก่อนจะเสียหลักล้มลงไปบนเตียงทั้งคนทั้งแมว
เด็กสาวนอนแผ่นอยู่บนเตียง รอยยิ้มที่ประทับอยู่บนดวงหน้าสวยเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข แก้ม
เป็นสีชมพูระเรื่อ หายใจถี่เพราะสารความสุขที่หลั่งออกมา
ฝ่ายเจ้าแมวลายก็กระโดแผล็วไปหมอบอยู่ยังที่นอนของตน รักษาระยะห่างอย่างกลัวว่าจะโดน
รัดและจับเหวี่ยงไปมาอีก ส่งสายตาขุ่นเคืองมาทางเจ้านาย
ตึ๊ง!
เสียงเตือนข้อความดังขึ้นอีก ร่างบางผุดลุกขึ้นนั่งสงบสติอารมณ์อยู่ครู่หนึ่งก็ไปประจำอยู่ที่
เครื่องคอมพิวเตอร์ตามเดิม จัดการบันทึกหน้าเว็บนั้นเอาไว้แล้วสั่งพิมพ์
"ตะเอ๊งงงง!!!!!!!!!! ผลเปงงายบ้างจร๊า?"
เธออ่านข้อความของเพื่อนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม จากนั้นจึงจัดแจงบันทึกภาพหน้าจอตัดเฉพาะ
ส่วนที่ต้องการบันทึกเก็บไว้ เสร็จแล้วก็ส่งไปให้เพื่อนของเธอผ่านโปรแกรมสนทนา
"กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!! ดีจัยด้วยนร้า^O^"
ฝ่ายนั้นตอบกลับมา
"ขอบคุณจ้า ^^"
"ไปบอกพ่อกับแม่ก่อนนะ เดี๋ยวมาคุยใหม่"
"จร้า!!!!!! จะขอรถรึงัย555+"
เด็กสาวยิ้มกับคำหยอกของเพื่อนแต่ไม่ได้ตอบอะไร เธอหยิบกระดาษแผ่นที่สั่งพิมพ์เมื่อครู่แล้ว
วิ่งออกจากห้องไป
................
ร่างบางที่ถลันวิ่งลงบันไดมาอย่างรีบร้อนเรียกความสนใจจากบุคคลที่กำลังนั่งคุยกันอยู่บริเวณ
ห้องรับแขก คนหนึ่งเป็นชายร่างสูงหน้าตาเกลี้ยงเลาแต่งตัวภูมิฐาน อีกคนเป็นหญิงร่างแบบบาง
รูปหน้าละม้ายคล้ายเด็กสาว ทั้งสองคนมีความหม่นหมองอยู่ในสีหน้าผิดกับเด็กสาว
"พ่อคะแม่คะ!" เธอร้องเรียกบุคคลทั้งสอง
"มีอะไรหรอภา?" กรองแก้วผู้เป็นแม่ถาม ยิ้มให้บุตรสาวอย่างอ่อนโยน แต่แววตานั้นหม่นหมอง
พิมพ์ประภาโผเข้ากอดแม่ทั้งน้ำตาในมือยังคงยึดกระดาษแผ่นนั้นไว้แน่น ปากก็ร้องบอกแม่
อย่างดีใจว่า "หนูสอบติดแล้วค่ะแม่ สอบติดแล้ว" น้ำเสียงของเธอสั่นเครือและขาดห้วง เพราะ
กำลังร้องไห้ด้วยความดีใจ
กรองแก้วกอดตอบลูกสาวเธอเอาไว้สบตากับเจริญภพสามีของเธอ สีหน้าของทั้งคู่เป็นกังวล
และไม่มีความดีใจเลยแม้แต่นิดเดียว
"ภาดีใจที่สุดเลยค่ะ..." พิมพ์ประภาคลายอ้อมกอดของเธอพูดกับแม่ด้วยรอยยิ้มก่อนจะ
ชะงักไปเมื่อเห็นท่าทางของบุพการีทั้งสอง
"พ่อกับแม่เป็นอะไรไปคะ?"
"ภา...ฟังพ่อนะลูก" ผู้เป็นพ่อเริ่มพูดขึ้น สีหน้าเป็นกังวลอย่างที่เด็กสาวไม่เคยเห็นมาก่อน
"คือเรื่องเรียนต่อของภาน่ะ...มัน..."
"มันอะไรคะคุณพ่อ?" เธอถามเมื่อเห็นพ่อเงียบไปนาน
"มัน...มันคงเป็นไปไม่ได้ภา...พ่อ...พ่อส่งหนูเรียนต่อไม่ได้"
คำตอบของพ่อทำให้เธอต้องเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ
"นี่พ่อกับแม่แกล้งหลอกภาเล่นอีกแล้วหรอคะ?"
ผู้เป็นพ่อส่ายศีรษะหมดแรงที่จะพูด เขามีเรื่องเครียดมากมายและหนึ่งในนั้นคือเรื่องอนาคต
ของลูกสาวคนเดียวของเขา...เขาไม่อาจพูดอะไรต่อไปได้อีกแล้ว
"นี่มันอะไรกันคะ? ภางงไปหมดแล้ว" พิมพ์ประภาเริ่มใจไม่ดี ไม่เคยมีครั้งไหนที่เธอเห็นพ่อกับ
แม่มีสีหน้าเครียดและเป็นทุกข์เท่านี้มาก่อน และถ้าพ่อเอ่ยปากเองว่าไม่สามารถส่งเธอได้ ก็
เท่ากับว่าเรื่องการเงินมีปัญหา...ทั้งๆที่รายได้ของครอบครัวเดือนหนึ่งไม่ต่ำหว่าสิบล้าน
"บริษัทกำลังจะปิดจ้ะภา..." แม่เป็นฝ่ายตอบคำถามของเธอ พ่อทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาอย่าง
หมดแรง ยกมือขึ้นกุมขมับไม่กล้าสบตาลูกสาว ด้วยเกรงว่าจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แค่นี้เขาก็ไม่
อยากอยู่สู้หน้าลูกอยู่แล้ว
"แต่เงินเรามีตั้งเยอะแยะนี่คะ ถึงจะปิดบริษัทปิดโรงงานก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเลย เงินเดือนล่วง
หน้าคนงานจะสักเท่าไหร่เชียว" เด็กสาวแย้ง การที่บริษัทจะปิดทำให้เธอตกใจก็จริง แต่เรื่อง
เรียนต้องมาก่อน
"ภา..." แม่เรียกชื่อเธอเสียงแผ่ว มองเธอด้วยสายตาแสนเศร้าอย่างที่เธอไม่เคยคิดว่าจะได้เห็น
"พ่อกับแม่ผิดเองที่ไม่ได้บอกหนู เพราะเราคิดว่าเราจะแก้ได้ แต่ตอนนี้ หนี้สินเรา
มากเต็มที...ลำพังเงินเท่าที่มีอยู่ไม่พอใช้ด้วยซ้ำไป"
"...ม...แม่ว่าอะไรนะคะ?"
"เราเป็นหนี้เขาเยอะจ้ะภา...เยอะมาก"
"แม่คงไม่ได้กำลังจะบอกภาว่าเรากำลังจะล้มละลายใช่ไหมคะ?" เด็กสาวหยั่งเสียงอย่างไม่
อยากจะให้มันเกิดขึ้น หากล้มละลายขึ้นมาเรื่องเรียนของเธอต้องมีปัญหาแน่
ผู้เป็นแม่ส่ายศีรษะ เด็กสาวรู้สึกโล่งใจแต่ก็เพียงเสี้ยวนาทีหนึ่งเท่านั้น
"เรา ไม่ได้กำลังจะล้มละลายจ้ะ แต่พ่อกำลังจะถูกฟ้องล้มละลาย และเงินในบัญชีของแม่กับหนู
ต้องเอาไปใช้จ่ายเรื่องพนักงานกับคนงาน...คงเหลือไม่พอที่จะส่งหนูเรียนหรอกจ้ะ"
"ต...แต่..." พิมพ์ประภารู้สึกสับสน สมองของเธอพยายามคิดหาทางออกเธอจะไม่ยอมให้
การเรียนของเธอจบลงแค่นี้แน่
"แต่เราก็กู้ หรือไม่ก็ขอทุนได้นี่คะแม่" เธอพยายามหาทางออกของเธอเอง แต่บุพการีทั้งสอง
นิ่งเงียบไม่ตอบคำถามของเธอ
"ภา...แต่ยังไงมันก็ไม่ทันจ่ายค่าลงทะเบียนแรกเข้าหรอกจริงไหม?...หนูทำใจดีๆนะภา ปีหน้า
ค่อยสู้ใหม่นะลูก" กรองแก้วพยายามพูดกับลูกสาวอย่าละมุนละม่อมที่สุด ในหัวของเธอตอนนี้
แสนสับสน และแทบจะคิดคำพูดออกมาไม่ได้แล้ว มีแต่น้ำตาเท่านั้นที่กำลังจะไหลออกมา
"แม่...แม่พูดอย่างนี้ได้ยังไงคะ? ภาพยายามแทบตายเพื่อการนี้ ทำแม่พูดเหมือนมันไม่สำคัญ
เลยสักนิด!" พิมพ์ประภาโวยลั่น น้ำตาที่รินไหลออกมาเป็นน้ำตาแห่งความเจ็บปวดไม่ใช่ความ
ปีติสุขอีกต่อไป
"ภา..." กรองแก้วโผเข้าหาบุตรสาว แต่เด็กสาวสลัดหนี
"แม่ไม่ต้องมายุ่งกับหนู!" เสียงกร้าวที่สั่นเครือแผดดังไม่ทั้งบ้าน ร่างบางวิ่งขึ้นบันไดหายลับไป
เสียงปิดประตูดังสนั่นราวฟ้าร้อง เสียงนั้นเสียดแทงเข้าไปในใจของบุคคลทั้งสองที่รักเด็กสาว
ยิ่งกว่าแก้วตาดวงใจ
บ้านทั้งบ้านเงียบเหงา มีแต่ความเศร้าแผ่ปกคลุมไปทั่วทุกแห่ง เจริญภพรู้สึกตันไปหมด
ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป เขาเจ็บ เจ็บอย่างที่ไม่เคยเป็นราวกับจะตายไปเสียตรงนั้น เบื้องหน้า
กระดาษแผ่นนั้น กระดาษที่ลุกสาวคนเดียวของเขาเอามาด้วยหมายจะอวดอย่างภาคภูมิใจ
ชื่อคณะ ขื่อมหาวิทยาลัย และผลคะแนนของลูกสาว...เป็นดั่งมีดที่เสียดแทงเข้าไปในใจ
หากเป็นยามปกติเขาคงจะยิ้มอย่างยินดีในความสำเร็จขั้นหนึ่งของบุตรสาว
ซื้อของสดมาทำกับข้าวเลี้ยงฉลองกัน เดินทางไปเยี่ยมพ่อของเขาด้วยความปีติสุข
ท่านคงจะดีใจไม่น้อยเลย
แต่ในตอนนี้เขาไม่อาจแม้แต่จะยิ้มแสดงความยินดีกับลูกสาวได้เลย...หากพิมพ์ประภา
สอบไม่ติด เขาอาจจะพอยิ้มออกมาได้บ้าง เพราะอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เป็นพ่อที่ใจร้าย
ขนาดทำลายอนาคตลูกตัวเองแบบนี้
"คุณคะ..." คู่ชีวิตวางมือลงบนบ่าเขาอย่างปลอบใจ เขารู้ว่าเธอเข้าใจความรู้สึกของเขา
และเธอเองก็เสียใจไม่แพ้กัน
ทั้งสองไม่พูดอะไรอีก เพียงแต่นั่งพิงกันและกันอยู่เงียบๆ ปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไป ปล่อยใจให้
คลายความตึงเครียดลงบ้างก่อนจะหาทางรับมือกับปัญหาที่มากมายเสียจนไม่รู้จะเริ่มแก้
ตรงไหน
...............
ในห้องสีครีมสดใส ร่างบางนอนคว่ำอยู่บนเตียงร้องไห้สะอึกสะอื้น มีแมวลายนอนอยู่เคียงข้าง
มันเอาหัวถูไปกับศีรษะของเธออย่างปลอบใจ มันไม่รู้เหตุผลแต่รู้ว่าเจ้านายกำลังเศร้า มันรู้เพียง
แค่นั้น และทำในสิ่งที่มันคิดว่าดีที่สุดที่จะทำได้
ตึ๊ง!
ตึ๊ง!
ตึ๊ง!
เสียงเตือนข้อความดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุด แต่พิมพ์ประภาก็หาได้สนใจไม่ ร่างบางยังคงนอน
ร้องไห้อยู่อย่างนั้น เหตุเพราะปราสาทแห่งฝันพังทลายลงราวกับปราสาททรายที่ถูกคลื่นซัด
-จบตอน๑-
.......................
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนนะคะ...ช่วงนี้งานเข้าเยอะเลยอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง
เขียนเรื่องรักอีกแล้วสิ...ช่วงนี้เป็นอะไรเนี่ย?(ก่อนหน้านี้มีแต่แฟนตาซีเต็มเครื่อง= ='')
ยังไงก็ฝากติชมด้วยนะคะ^^
...........................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ