เข้าทรงสื่อรัก

8.3

เขียนโดย Arainee

วันที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2553 เวลา 21.58 น.

  1 ตอน
  4 วิจารณ์
  6,126 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) ฝันแก้ว...ความฝันอันเปราะบาง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ตอนที่๑: ฝันแก้ว...ความฝันอันเปราะบาง

 


ตึ๊ง! เสียงเตือนข้อความดังขึ้นพร้อมกับข้อความสีชมพูบนหน้าจอคอมพิวเตอร์

 


"ดีจร้า ตะเอง"

 


เด็กสาวเจ้าของเครื่องคลี่ยิ้มออกมา ขยับนั่งให้ถนัดแล้วพิมพ์ข้อความตอบกลับไป

 


"ดีค่า ^o^/"

 


"กำลังลุ้นอยู่ล่ะซี่ XD" ฝ่ายนั้นถามมา

 


"ช่ายยยยย...หัวใจจะวายแล้วเนี่ย >O<;" เด็กสาวตอบจากความรู้สึกจริงๆของเธอ

ก็จะไม้ให้ตื่นเต้นได้อย่างไร ในเมื่อวันนี้เป็นวันประกาศผลสอบแอดมิชชั่นที่รอลุ้นมานาน

 


"555+ สมนำหน้า"

 


 เด็กสาวย่นจมูกนิดหนึ่งก่อนพิมพ์ตอบไป ยิ้มอยู่ในสีหน้า "สมน้ำหน้าไรยะ?"

 

 

"ก้ไม่ยอมเอาโควตาเองนิ"

 


"ก็อยากเรียนที่นี่นี่ >3<#"

 


"คร่า....แม่คนเก่ง"

 


"ประชดหรอยะ?"

 


"555+ เอาใจช่วยน้า…4โมงชิมิ?"

 


"อื้อ ^^;"

 


"คึคึ อย่าเพิ่งหัวใจวายก่อนล่ะตะเอง"

 


"จ้า^^"

 


เด็กสาวยิ้มแต่ในใจกำลังกระวนกระวายอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งมองนาฬิกาเห็นเวลากระชั้น

เข้ามาทุกทีก็ยิ่งใจหาย ความรู้สึกมากมายประดังเข้ามาราวกับน้ำหลาก ทั้งตื่นเต้น ดีใจ

กลัว และกังวล ความรู้สึกเหล่านี้มันมากมายจนเธอรู้สึกเครียด

 


ร่างบางถอดหูฟังวางลงบนโต๊ะ ลุกออกจากที่แล้วทิ้งตัวลงบนฟูกหนา รวบผ้านวมมากอด

ไว้นอนกลิ้งไปมาอย่างพยายามสงบสติอารมณ์

 

 

.................

 

 

ตึ๊ง! เสียงเตือนข้อความทำให้เด็กสาวสะดุ้ง เธอเคลิ้มๆกำลังจะหลับอยู่แล้ว เมื่อได้อ่านข้อ

ความสีชมพูเด่นนั้นเด็กสาวก็รู้สึกเย็นวาบไปถึงไขสันหลัง

 


"สี่โมงแร้วน้า.....^0^/"

 


ร่างบางค่อยๆยันกายลุกขึ้นจากเตียง เดินไปที่โต๊ะทำงานอย่างช้าๆ หัวใจเต้นรัวราวกับจะ

หลุดออกมาจากอก เธอกำลังตื่นเต้น และกลัว กังวลว่าถ้าไม่ติดขึ้นมาเธอจะทำอย่างไรต่อไป

 


"เดี่ญวซี่ ยังไม่ได้ทำใจเลย ><;;"

 


เธอพิมพ์ประโยคตอบไปอย่างติดขัด มือสั่นจนพิมพ์ผิดๆถูก

 


"อย่ามาลีลาน้า...ดูเด๋วเน้เรย= =#"

 


"ก้ได้ๆ XC "

 


แล้วมือขาวๆก็เลื่อนเคอร์เซอร์เปิดโปรแกรมเว็บเบราส์เซอร์ขึ้นมา กรอกที่อยู่เว็บลงไปด้วย

มืออันสั่นเทา เธอพิมพ์ผิดอยู่หลายครั้ง จนรู้สึกหงุดหงิดกับตัวเอง แต่ก็พิมพ์เสร็จในที่สุด

 


วงแหวนสีเทาหมุนวนแสดงสถานะว่ากำลังดึงข้อมูลจากต้นทาง เด็กสาวหลับตาลงสองมือ

ประสานแน่นเท้าศอกไว้กับโต๊ะและก้มศีรษะลงวางหน้าผากลงบนมือคู่นั้น

 


เนิ่นนานเท่าไรไม่ทรายได้ที่เธอเอาแต่นิ่งอยู่อย่างนั้น จนเมื่อเสียงเตือนข้อความดังขึ้น

เด็กสาวจึงรู้สึกตัว

 


หน้าเว็บเรียบๆปรากฏอยู่ตรงหน้า ตราของกระทรวงเด่นหราอยู่ที่หน้าจอ มีช่องสองช่องสำหรับ

กรอกข้อมูล เด็กสาวกรอกข้อมูลลงไปด้วยนิ้วที่แข็งเกร็ง หัวใจเต้นแรง หายใจไม่ทั่วท้อง และมี

อาการคล้ายจะเป็นลม

 


ตึก! เธอกระแทกปุ่ม "Enter" โดยแรง หลับตาปี๋

 


ตึ้ง! เสียงเตือนข้อความแว่วมาอีกแต่เด็กสาวหาได้ใส่ใจไม่ เพราะข้อความสีเขียวที่เห็นเด่นเหนือ

ข้อความอื่นบนหน้าจอทำให้ร่างกายของเธอชาไปหมดทุกส่วน ยิ่งไล่สายตาอ่านต่อไปร่างกาย

ขอเธอก็เหมือนกับโดนแช่แข็ง ทั้งๆที่ข้างในร้อนผ่าวด้วยเลือดลมที่สูบฉีดไปทั่ว

 


"ม้าว!" เด็กสาวสะดุ้งเพราะเสียงเล็กๆนั้น เมื่อหันไปทางต้นเสียงก็พบกับนัยน์ตาสีฟ้าที่จ้องมองมา ขนขาวลายส้มของมันเด่นสะดุดตาอยู่ท่ามกลางกองหนังสือเตรียมสอบบนโต๊ะ

 


"เจ้าเหมียว..." เธอเรียกมันเสียงแผ่ว แมวลายมองสบตาเด็กสาวเหมือนกับจะถามว่า เกิดอะไร

ขึ้นหรอ? เด็กสาวรวบตัวมันมากอดไว้แน่น

 


"เจ้าเหมียวชั้นสอบได้แล้ว! ชั้นสอบติดแล้ว!"

 


เธอร้องออกมาแทบไม่เป็นภาษาความดีใจเอ่อล้นราวกับน้ำหลาก ร่างบางหัวเราะลั่นชูเจ้าเหมียว

ขึ้นเหนือศีรษะแล้วหมุนไปรอบๆอย่างร่าเริง ก่อนจะเสียหลักล้มลงไปบนเตียงทั้งคนทั้งแมว


 

เด็กสาวนอนแผ่นอยู่บนเตียง รอยยิ้มที่ประทับอยู่บนดวงหน้าสวยเปี่ยมล้นไปด้วยความสุข แก้ม

เป็นสีชมพูระเรื่อ หายใจถี่เพราะสารความสุขที่หลั่งออกมา

 

 

ฝ่ายเจ้าแมวลายก็กระโดแผล็วไปหมอบอยู่ยังที่นอนของตน รักษาระยะห่างอย่างกลัวว่าจะโดน

รัดและจับเหวี่ยงไปมาอีก ส่งสายตาขุ่นเคืองมาทางเจ้านาย

 


ตึ๊ง!

 


เสียงเตือนข้อความดังขึ้นอีก ร่างบางผุดลุกขึ้นนั่งสงบสติอารมณ์อยู่ครู่หนึ่งก็ไปประจำอยู่ที่

เครื่องคอมพิวเตอร์ตามเดิม จัดการบันทึกหน้าเว็บนั้นเอาไว้แล้วสั่งพิมพ์

 


"ตะเอ๊งงงง!!!!!!!!!! ผลเปงงายบ้างจร๊า?"

 

เธออ่านข้อความของเพื่อนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม จากนั้นจึงจัดแจงบันทึกภาพหน้าจอตัดเฉพาะ

ส่วนที่ต้องการบันทึกเก็บไว้ เสร็จแล้วก็ส่งไปให้เพื่อนของเธอผ่านโปรแกรมสนทนา

 


"กรี๊ดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!!!! ดีจัยด้วยนร้า^O^"

 


ฝ่ายนั้นตอบกลับมา

 


"ขอบคุณจ้า ^^"

 


"ไปบอกพ่อกับแม่ก่อนนะ เดี๋ยวมาคุยใหม่"

 


"จร้า!!!!!! จะขอรถรึงัย555+"

 


เด็กสาวยิ้มกับคำหยอกของเพื่อนแต่ไม่ได้ตอบอะไร เธอหยิบกระดาษแผ่นที่สั่งพิมพ์เมื่อครู่แล้ว

วิ่งออกจากห้องไป

 


................

 


ร่างบางที่ถลันวิ่งลงบันไดมาอย่างรีบร้อนเรียกความสนใจจากบุคคลที่กำลังนั่งคุยกันอยู่บริเวณ

ห้องรับแขก คนหนึ่งเป็นชายร่างสูงหน้าตาเกลี้ยงเลาแต่งตัวภูมิฐาน อีกคนเป็นหญิงร่างแบบบาง

รูปหน้าละม้ายคล้ายเด็กสาว ทั้งสองคนมีความหม่นหมองอยู่ในสีหน้าผิดกับเด็กสาว

 


"พ่อคะแม่คะ!" เธอร้องเรียกบุคคลทั้งสอง

 


"มีอะไรหรอภา?" กรองแก้วผู้เป็นแม่ถาม ยิ้มให้บุตรสาวอย่างอ่อนโยน แต่แววตานั้นหม่นหมอง

 


พิมพ์ประภาโผเข้ากอดแม่ทั้งน้ำตาในมือยังคงยึดกระดาษแผ่นนั้นไว้แน่น ปากก็ร้องบอกแม่

อย่างดีใจว่า "หนูสอบติดแล้วค่ะแม่ สอบติดแล้ว" น้ำเสียงของเธอสั่นเครือและขาดห้วง เพราะ

กำลังร้องไห้ด้วยความดีใจ

 


กรองแก้วกอดตอบลูกสาวเธอเอาไว้สบตากับเจริญภพสามีของเธอ สีหน้าของทั้งคู่เป็นกังวล

และไม่มีความดีใจเลยแม้แต่นิดเดียว

 


"ภาดีใจที่สุดเลยค่ะ..." พิมพ์ประภาคลายอ้อมกอดของเธอพูดกับแม่ด้วยรอยยิ้มก่อนจะ

ชะงักไปเมื่อเห็นท่าทางของบุพการีทั้งสอง

 


"พ่อกับแม่เป็นอะไรไปคะ?"

 


"ภา...ฟังพ่อนะลูก" ผู้เป็นพ่อเริ่มพูดขึ้น สีหน้าเป็นกังวลอย่างที่เด็กสาวไม่เคยเห็นมาก่อน

 


"คือเรื่องเรียนต่อของภาน่ะ...มัน..."

 


"มันอะไรคะคุณพ่อ?" เธอถามเมื่อเห็นพ่อเงียบไปนาน

 


"มัน...มันคงเป็นไปไม่ได้ภา...พ่อ...พ่อส่งหนูเรียนต่อไม่ได้"

 


คำตอบของพ่อทำให้เธอต้องเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ

 


"นี่พ่อกับแม่แกล้งหลอกภาเล่นอีกแล้วหรอคะ?"

 


ผู้เป็นพ่อส่ายศีรษะหมดแรงที่จะพูด เขามีเรื่องเครียดมากมายและหนึ่งในนั้นคือเรื่องอนาคต

ของลูกสาวคนเดียวของเขา...เขาไม่อาจพูดอะไรต่อไปได้อีกแล้ว

 


"นี่มันอะไรกันคะ? ภางงไปหมดแล้ว" พิมพ์ประภาเริ่มใจไม่ดี ไม่เคยมีครั้งไหนที่เธอเห็นพ่อกับ

แม่มีสีหน้าเครียดและเป็นทุกข์เท่านี้มาก่อน และถ้าพ่อเอ่ยปากเองว่าไม่สามารถส่งเธอได้ ก็

เท่ากับว่าเรื่องการเงินมีปัญหา...ทั้งๆที่รายได้ของครอบครัวเดือนหนึ่งไม่ต่ำหว่าสิบล้าน

 


"บริษัทกำลังจะปิดจ้ะภา..." แม่เป็นฝ่ายตอบคำถามของเธอ พ่อทรุดตัวนั่งลงบนโซฟาอย่าง

หมดแรง ยกมือขึ้นกุมขมับไม่กล้าสบตาลูกสาว ด้วยเกรงว่าจะกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ แค่นี้เขาก็ไม่

อยากอยู่สู้หน้าลูกอยู่แล้ว

 


"แต่เงินเรามีตั้งเยอะแยะนี่คะ ถึงจะปิดบริษัทปิดโรงงานก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรเลย เงินเดือนล่วง

หน้าคนงานจะสักเท่าไหร่เชียว" เด็กสาวแย้ง การที่บริษัทจะปิดทำให้เธอตกใจก็จริง แต่เรื่อง

เรียนต้องมาก่อน

 


"ภา..." แม่เรียกชื่อเธอเสียงแผ่ว มองเธอด้วยสายตาแสนเศร้าอย่างที่เธอไม่เคยคิดว่าจะได้เห็น

 


"พ่อกับแม่ผิดเองที่ไม่ได้บอกหนู เพราะเราคิดว่าเราจะแก้ได้ แต่ตอนนี้ หนี้สินเรา

มากเต็มที...ลำพังเงินเท่าที่มีอยู่ไม่พอใช้ด้วยซ้ำไป"

 


"...ม...แม่ว่าอะไรนะคะ?"

 


"เราเป็นหนี้เขาเยอะจ้ะภา...เยอะมาก"

 


"แม่คงไม่ได้กำลังจะบอกภาว่าเรากำลังจะล้มละลายใช่ไหมคะ?" เด็กสาวหยั่งเสียงอย่างไม่

อยากจะให้มันเกิดขึ้น หากล้มละลายขึ้นมาเรื่องเรียนของเธอต้องมีปัญหาแน่

 


ผู้เป็นแม่ส่ายศีรษะ เด็กสาวรู้สึกโล่งใจแต่ก็เพียงเสี้ยวนาทีหนึ่งเท่านั้น

 

 

"เรา ไม่ได้กำลังจะล้มละลายจ้ะ แต่พ่อกำลังจะถูกฟ้องล้มละลาย และเงินในบัญชีของแม่กับหนู

ต้องเอาไปใช้จ่ายเรื่องพนักงานกับคนงาน...คงเหลือไม่พอที่จะส่งหนูเรียนหรอกจ้ะ"

 


"ต...แต่..." พิมพ์ประภารู้สึกสับสน สมองของเธอพยายามคิดหาทางออกเธอจะไม่ยอมให้

การเรียนของเธอจบลงแค่นี้แน่

 


"แต่เราก็กู้ หรือไม่ก็ขอทุนได้นี่คะแม่" เธอพยายามหาทางออกของเธอเอง แต่บุพการีทั้งสอง

นิ่งเงียบไม่ตอบคำถามของเธอ

 


"ภา...แต่ยังไงมันก็ไม่ทันจ่ายค่าลงทะเบียนแรกเข้าหรอกจริงไหม?...หนูทำใจดีๆนะภา ปีหน้า

ค่อยสู้ใหม่นะลูก" กรองแก้วพยายามพูดกับลูกสาวอย่าละมุนละม่อมที่สุด ในหัวของเธอตอนนี้

แสนสับสน และแทบจะคิดคำพูดออกมาไม่ได้แล้ว มีแต่น้ำตาเท่านั้นที่กำลังจะไหลออกมา

 


"แม่...แม่พูดอย่างนี้ได้ยังไงคะ? ภาพยายามแทบตายเพื่อการนี้ ทำแม่พูดเหมือนมันไม่สำคัญ

เลยสักนิด!" พิมพ์ประภาโวยลั่น น้ำตาที่รินไหลออกมาเป็นน้ำตาแห่งความเจ็บปวดไม่ใช่ความ

ปีติสุขอีกต่อไป

 


"ภา..." กรองแก้วโผเข้าหาบุตรสาว แต่เด็กสาวสลัดหนี

 


"แม่ไม่ต้องมายุ่งกับหนู!" เสียงกร้าวที่สั่นเครือแผดดังไม่ทั้งบ้าน ร่างบางวิ่งขึ้นบันไดหายลับไป

เสียงปิดประตูดังสนั่นราวฟ้าร้อง เสียงนั้นเสียดแทงเข้าไปในใจของบุคคลทั้งสองที่รักเด็กสาว

ยิ่งกว่าแก้วตาดวงใจ

 


บ้านทั้งบ้านเงียบเหงา มีแต่ความเศร้าแผ่ปกคลุมไปทั่วทุกแห่ง เจริญภพรู้สึกตันไปหมด

ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไป เขาเจ็บ เจ็บอย่างที่ไม่เคยเป็นราวกับจะตายไปเสียตรงนั้น เบื้องหน้า

กระดาษแผ่นนั้น กระดาษที่ลุกสาวคนเดียวของเขาเอามาด้วยหมายจะอวดอย่างภาคภูมิใจ

 


ชื่อคณะ ขื่อมหาวิทยาลัย และผลคะแนนของลูกสาว...เป็นดั่งมีดที่เสียดแทงเข้าไปในใจ

หากเป็นยามปกติเขาคงจะยิ้มอย่างยินดีในความสำเร็จขั้นหนึ่งของบุตรสาว

ซื้อของสดมาทำกับข้าวเลี้ยงฉลองกัน เดินทางไปเยี่ยมพ่อของเขาด้วยความปีติสุข

ท่านคงจะดีใจไม่น้อยเลย

 


แต่ในตอนนี้เขาไม่อาจแม้แต่จะยิ้มแสดงความยินดีกับลูกสาวได้เลย...หากพิมพ์ประภา

สอบไม่ติด เขาอาจจะพอยิ้มออกมาได้บ้าง เพราะอย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เป็นพ่อที่ใจร้าย

ขนาดทำลายอนาคตลูกตัวเองแบบนี้

 


"คุณคะ..." คู่ชีวิตวางมือลงบนบ่าเขาอย่างปลอบใจ เขารู้ว่าเธอเข้าใจความรู้สึกของเขา

และเธอเองก็เสียใจไม่แพ้กัน

 


ทั้งสองไม่พูดอะไรอีก เพียงแต่นั่งพิงกันและกันอยู่เงียบๆ ปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไป ปล่อยใจให้

คลายความตึงเครียดลงบ้างก่อนจะหาทางรับมือกับปัญหาที่มากมายเสียจนไม่รู้จะเริ่มแก้

ตรงไหน

 


...............

 


ในห้องสีครีมสดใส ร่างบางนอนคว่ำอยู่บนเตียงร้องไห้สะอึกสะอื้น มีแมวลายนอนอยู่เคียงข้าง

มันเอาหัวถูไปกับศีรษะของเธออย่างปลอบใจ มันไม่รู้เหตุผลแต่รู้ว่าเจ้านายกำลังเศร้า มันรู้เพียง

แค่นั้น และทำในสิ่งที่มันคิดว่าดีที่สุดที่จะทำได้

 


ตึ๊ง!

 


ตึ๊ง!

 


ตึ๊ง!

 


เสียงเตือนข้อความดังขึ้นต่อเนื่องไม่หยุด แต่พิมพ์ประภาก็หาได้สนใจไม่ ร่างบางยังคงนอน

ร้องไห้อยู่อย่างนั้น เหตุเพราะปราสาทแห่งฝันพังทลายลงราวกับปราสาททรายที่ถูกคลื่นซัด

 

 

 

-จบตอน๑-

 

.......................

 

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนนะคะ...ช่วงนี้งานเข้าเยอะเลยอยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง

เขียนเรื่องรักอีกแล้วสิ...ช่วงนี้เป็นอะไรเนี่ย?(ก่อนหน้านี้มีแต่แฟนตาซีเต็มเครื่อง= ='')

ยังไงก็ฝากติชมด้วยนะคะ^^

 

...........................

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.5 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.5 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา