Drak night Moon light หัวใจนี้มีไว้เพียงเพื่อเธอ

9.7

เขียนโดย glecefant

วันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2553 เวลา 14.22 น.

  2 chapter
  7 วิจารณ์
  8,936 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

   ฉันนั่งกอดเข่าเอาหัวพิงหน้าต่างบานยาวที่เย็นเฉียบของฉัน เม็ดฝนหยดใหญ่ตกลงมาอย่างไม่ขาดสาย เสียงประตูแง้มเปิดอย่างไม่ลังเลดังขึ้น ฉันได้ยินมันอย่างชัดเจนแต่สายตายังคงเบิกกว้างจ้องเม็ดฝนอย่างเอาเป็นเอาตาย

"มิลเลต แม่ของลูกพูดถูกแล้ว ลูกก็ควรจะยอมรับแล้วปรับปรุงซะ"ฉันกระชากสายตาไปมองชายวัยกลางคนผมดำแซมขาว

"ขอโทษเหอะ ยัยนั่นไม่ใช่แม่ฉันและจะไม่มีวันได้เป็น หล่อนคงจะปลื้มนะ"ทันทีที่ฉันกระชากเสียงพูดจบ ลมก็พัดกระโชกเหมือนพายุจนทำให้หน้าต่างที่ล็อกอยู่ของฉันกระชากเปิดอย่างรุนแรง สายฝนก็ตกลงมาเม็ดใหญ่เท้าฝ่ามือและตกลงมาอย่างบ้าคลั่ง

"แม่พูดถูก ลูกกลับบ้านดึกทกวันแอบไปเร่ร่อนที่ไหนรึเปล่าก็ไม่รู้แล้วไหนจะยัง-"ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบประโยค สายฟ้าลำใหญ่ก็ผ่าลงมายังต้นโอ๊คต้นใหญ่สูงสองชั้นจนมันโค่นลงไปทับแปลงกุหลาบสุดโปรดของยัยแม่เลี้ยงสองหน้านั่นและฉันก็คุมสติไม่อยู่อีกแล้ว ฉันรู้สึกว่านัยตาสีช็อกโกแล็ตของฉันกลายเป็นสีขาวและแข็งกร้าวไร้ความรู้สึกเช่นเดียวกับใบหน้า ลมที่ยังคงกระชากอย่างบ้าคลั่งพัดผมของฉันจบปลิวสยายจากด้านหลัง ตอนนี้พื้นไม้ใต้เท้าของฉันเริ่มสั่น ไม่สิ ไม่ใช่พื้นไม้แต่เป็นพื้อนดินใต้บ้านต่างหาก

"ออกไป"น้ำเสียงของฉันเย็นชาไร้ความรู้สึก พ่อไม่ตกใจแต่อย่างใด เขาเห็นมันบ่อยจนชินแล้ว เขาส่ายหน้า

"หยุดมันซะ"พ่อพูดอย่างเบื่อหน่ายแล้วหันหลังเดินออกไป ทันทีที่เขาปิดประตูทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติ ดวงตาของชั้นกลัมามีสีช็อกโกแล็ตเหมือนเดิและเส้นผมของฉันก็ทั้งตัวลงเหมือนเคย ฉันเดินไปยังหน้าต่างที่ถูกกระชากเปิดเพราะลม เฮ้อ!ฉันทำหน้าต่างพังไปหลายสิบบานตั้งแต่ที่พ่อแต่งงานกับยัยแม่มดหน้าสวย และนี่ก็อีกบานนึง ฉันปิดมันอย่างอย่างเบามือแล้วเดินผ่านพื้นที่เปียกแฉะจากฝนไปยังประตูสีขาวนวลดุจวิปครีมแล้วกดล็อกที่ลูกบิดสีช็อกโกแล็ต รู้สึกไร้เรี่ยวแรงอย่างที่สุดแต่ก็ฝืนเดินไปยังเตียงนอนสีเดียวกับบานประตูแล้วลมตัวลงนอนและเพียงไม่กี่วินาที ฉันก็เข้าสู่ห้วงนิทรา

 

"ขนมปังสักแผ่นไหมจ๊ะ มิลเลต" แม่เลี้ยงสองหน้าคนสวยถามตอนที่ฉันเดินผ่านห้องอาหารไปยังประตูบ้านด้วยเสียงหวานเลี่ยนซึ่งฉันรู้เหตุผลดี พ่อละสายตาจากหนังสือพิมพ์มามองหน้าฉันแล้วขมวดคิ้หนาสีดำ ฉันมองไปที่โต๊ะไม้สีสวยที่มีคนนั่งล้อมอยู่สามคน น้องเลี้ยงตัวร้ายหน้าหล่อมองหน้าฉัน เจ้าน้องงี่เง่านี่ได้ความหน้าตาดีมาจากแม่แน่ๆ ผมสีบร์อนออน่จนเกือบเป็นสีเงิน ดวงตาสีเขียวเข้มแวววาวดุจมรกต ผิวขาวซีดนวนสว่างและสูงห้าฟุตครึ่ง ฉันหันไปประสานสายตากับแม่เลี้ยงคนสวยเธอมีดวงตสีเขียวออน่แววาวเหมือนลูกแก้ว ผมสีเดียวกับลูกชาย ร่างเล็กบอบบาง ผิวสีขาวเจือเหลืองเล็กน้อยเนียนงามและริมปากเรียวบางสีแดงสด

"ขอขอบพระคุณมากกกกค่ะ แต่ไม่ดีกว่า"ฉันตอบอย่างกวนอารมณ์ พ่อส่ายหน้าและอ่านหนังสือพิมพ์ต่อ ทัทีที่พ่อหันไป ยัยแม่มดกับลูกชายก็ทำตาเขียวแยกเขี้ยวใส่ฉัน ฉันส่งยิ้มหวานไปให้แล้วเดินไปยังโรงรถ ฉันไขกุญแจรถเก๋งแดทสันสีดำเก่ากึกแต่วิ่งเจ๋งของฉัน ฉันแล่นมันไปยังร้านอาหารข้างทางที่ๆฉันทานอาหารเช้ากับเพื่อนแบบเดียวกันทุกวัน ทันทีที่เดินเข้าไปในร้านสายตาหลายคู่ก็มองมาที่ฉันราวกับเห็นตัวประหลาด โดยเฉพาะคุณนายแม็กเซิล เมย์เยิร์สจอมหวงลูกชายเรียกว่าเบิ่งตามองเลยดีกว่า ฉันทำเป็นไม่สนใจเหล่าสายตาที่มองอย่างมุ่งร้ายแล้วเดินไปยังโต๊ะประจำที่มีสาวหน้าหวานเพื่อนฉันนั่งอยู่

"ไฮ"ฉันทัก เธอไม่ละสายตาจากหนังสือเล่มหนาที่อ่านอยู่

"ดีจ๊ะ"เธอทักตอบเบาๆ ผมสีน้ำตาลอมส้มของเธอรวบไว้อย่างเรีบยร้อย แว่นกรอบหนาสีเงินของเธอตกลงมาอยู่ที่จมูกเล็กๆ เธอใช้มือสีขาวซีดดันแว่นให้เข้าที่ เลิกอ่านหนังสือแล้วางมันบนโต๊ะ

"ได้ข่าวว่าวันนี้จัมีเด็กใหม่นะ"เธอบอกฉัน สายตาสีเขียวเข้มเป็นประกายจับจ้องอยู่ที่ใบหน้า

"เธอรู้ได้ยังไงน่ะ?"เธอใช้นิ้วชี้ขวาเคาะขมับเบาๆสามครั้งแล้ชี้ไปนอกร้าน ฉันมองไปยังจุดที่เธอชี้ สาวหน้าสวยทะเล้นรุ่นเดียวกับเรายืนอยู่กับแม่ที่หน้าเหมือนเทอมากๆ ทั้งสองเดินมาทางเรา

"สวัสดัค่ะ คุณนายลีเม็ต"ฉันกับแอนดรีย์พูดพร้อมกัน

"สวัสดีจ๊ะเด็กๆ"เธอทักตอบพร้อมกับส่งยิ้มหวานมาให้แล้วหันไปพูดกับลูกสาว

"งั้นแม่ไปก่อนน่ะจ๊ะ พรี๊ตต้า"เธอหอมแก้มลูกสาว

"ค่ะแม่ ขับดีๆนะคะ"ลูกสวยสุดสวยตอบ ทันทีที่แม่ของเธอไป เธอก็นั่งลงตรงข้ามฉันกับแอนดรีย์ทันที ถ้าใครไม่เคยรู้จักเธอคงคิดว่าเธอเป็นแวมไพร์แน่ๆ เธอมีผมสีน้ำตาลแดงซอยสั้นสุดเท่ ผิวสีมะกอกสว่างสดใสเป็นประกายมันวาวและแข็งเหมือนโลหะแต่เนียนและเรียบลื่นมากๆ เธอว่องไวกว่ามนุษย์หลายพันเท่า เธอมองเห็นอนาคตได้ แถมเธอยังมีเขี้ยวด้วย เขี้ยวของเธอคมกริบและแข็งกว่าผิวเธอเล็กน้อยแต่ก็แข็งพอจะกัดทะลุผิวหนังมนุษย์ได้ ฟันเธอก็เช่นกันแต่ฉันก็พูดได้เต็มปากเต็มคำว่าเธอไม่ใช่แวมไพร์เพราะของโปรดของเธอคือฮ็อทดอกซอสเยิ้มและเธอก็กลัวเลือดมากๆด้วย ทันทีที่เธอนั่งลงกลิ่นน้ำหอมดียอ์ แอดดิคท์ก็ส่งกลิ่นแรงขึ้น

"ฉันเอาฮ็อทดอกกับชามะนาวจ๊ะ"เธอบอกน้ะเสียงแหลมเล็กขี้เล่น

"แหม มาถึงก็สั่งเลยนะคะ"ฉันแซวอย่างประชดประชัน เธอและแอนดรีย์หัวเราะคิก

"แล้วเธอล่ะแอน?"ฉันถาม

"เอาชุดอาหารเช้าแล้วก็จ๊ะ"

ฉันเดินไปสั่งอาหารกับพนักงานหญิงที่ทำหน้าขยะแขงเมื่อฉันอยู่ใกล้ เธอรีบบริการฉันอย่างไม่เต็มใจนัก เหมือนว่ารีบๆเอาแล้วก็รีบๆไปซะ ฉันหันไปมองแอนดรีย์ เธอสามารถอ่านใจได้และความสามารถอีกอย่างของเธอคือฆ่าคนที่เธอเกลียดได้โดยไม่แตะตัว แค่เธอเกียดเท่านั้นแหล่ะคนๆนั้นก็ต้องตายอย่างสยดสยองแล้ว แต่เธอก็ไม่เคยใช้มันฆ่าใคร เธอนิ่วหน้าเมื่อได้ยินความคิดของพนักงานสาว ทันทีที่เรากินกันเสร็จก็ต้องซิ่งไปโรงเรียนจริงๆ เราสายมากๆแล้ว ฉันเดินแยกกับพรี๊ตต้าและแอนดรีย์เพื่อเข้าเรียนวิชาแรก เศรษฐศาสตร์ไม่เคยเป็นวิชาโปรดของฉันจริงๆ ฉันขมวดคิ้วเรียนอย่างตั้งใจ คาบแรกและคาบที่สองจบไปอย่างรวดเร็ว แต่คาบที่สามนี่สิ วรรณคดีเป็นวิชาโปรดของฉัน แต่วันนี้ชักจะไม่ใช่เสียแล้ว ที่นั่งข้างๆฉันที่เคยว่างตอนนี้มีหนุ่มผมทองสุกสว่าง ผิวขาวซีดดุจชอล์กและเนียนมากๆ เนียนกว่าพรี๊ตต้าเสียอีก เขาสูงหกฟุต ตัวผอมแต่ดูไม่บอบางเลย เขามีมัดกล้ามขนาดกำลังดี ไม่ใหญ่เกินไป และทันทีที่เขาหันมาฉันก็เห็สีตาสีประหลาดของเขา สีน้ำเงินเข้มสวยเป็นประกายแวววาว จมูกโด่งเป็นสันและริมผีปาดสีแดงเนียนสวย แต่ก็เพราะเขาหันมานั่นแหล่ะทำให้ฉันตัวแข็งทื่อ ใจเย็นน่า แค่เดินไปนั่งเดี๋ยวก็หมดคาบแล้ว ฉันบอกตัวเอง ฉันหลบตาเขา รู้สึกถึงความร้อนที่แผ่กระจาบไปทั่วแก้มทั้งสองข้าง เราไม่ได้คุยอะไรกันสักคำในชั่วโมงนั้น เขาหันมามองฉันเป็นระยะๆตลอดชั่วโมง ฉันลืมไปเลยว่าเมื่อเช้าแอนดรีย์บอกอะไรไว้ ชั่วโมงนั้นนานเหมือยาวเป็นวัน ทันทีที่เสียงกริ่งดังขึ้นฉันก็รีบเดินออกจากห้องไปเร็วที่สุดที่จะทำได้บางอย่างบอกฉันว่าเขาไม่ปลอดภัย ไม่น่าเข้าใกล้แต่จะให้ฉันเลี่ยงยังไงล่ะ ฉันยังรู้สึกว่าสายตาเขาจับจ้องอยู่ที่แผ่นหลังตอนที่กำลังเดินออกจากห้อง ฉันกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปที่ห้องเรียนภาษาอังกฤษ คาบที่ฉันได้เรียนกับเพื่อนทั้งสอง พรี๊ตตี้กับแอนดรีนั่งรออยู่แล้วแต่ทันทีที่เข้าห้องไปทั้งสองต่างมองฉันอย่างสนใจ ไม่สิไม่ใช่ฉัน ฉันหันไปมองข้างหลังช้าๆ โอ๊ยตาย!นายนี่เรียนคาบเดียวกับฉันอีกแล้ว ฉันมองไปที่เพื่อนๆ ฉับพอจะรู้ว่าขาต้องนั่งที่ไหน กลุ่มอื่นมีคนนั่งครบสี่คนแล้ว แต่กลุ่มของฉันนี่...มีแค่สาม ฉันกลืนน้ำลายเหนียวอย่างยากเย็นแล้วใช่มือเช็ดเหงื่อกาฬที่ผุดขึ้นมาเต็มหน้าผาก

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา