Candine The Poserry

10.0

เขียนโดย SilverFox

วันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2553 เวลา 18.48 น.

  7 chapter
  5 วิจารณ์
  13.35K อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

5) ผู้ร่วมทาง

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

ผ่านไปประมาณ 3 ชั่วโมง

 

      เสียงคุยจอแจดังไปทั่วห้องอาหารหลังจากที่ความตรึงเครียดจางหายไป ซึ่งต้นเสียงที่ดังทีสุด คือหญิงสาวเจ้าของดวงตาสีน้ำตาลและเส้นผมสีน้ำตาลเข้ม ที่กำลังตื่นเต้นกับความรู้ใหม่ หญิงสาวถามทุกอย่างที่เธออยากรู้ เหมือนเด็กน้อยที่ได้ของเล่นใหม่ก็ไม่ปาน ดวงตาของหญิงสาวเปล่งประกายไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น ใบหน้าที่ยิ้มแย้มเพราะกำลังสนุก ทำให้แคนดี้รู้เลยว่า ‘ถ้าไม่รีบออกไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุดมีหวังได้อยู่ที่นี่ต่ออีกหลายชั่วโมง’ แคนดี้นั้นพยายามหนีออกจากห้องอาหารนี่ตั้งแต่ เมื่อหนึ่งชั่วโมงที่แล้วแต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเพราะถูกหญิงสาวเจ้าของผม สีน้ำตาลเข้มล็อคตัวไว้ จนหน้าเริ่มเปลี่ยนสีแล้วเพราะตอนนี้เธอรู้สึกเบื่อและรำคาญที่จะต้องตอบ นู่นนี่เป็นอย่างมากเธอจึงตัดสินพูดออกมา

 

“เอ่อนี่ก็คุยกันมาตั้งหลายชั่วโมงแล้วข้าขอออกไปข้างนอกหน่อยเถอะนะ” ไม่พูดพร่ำทำเพลงแคนดี้ก็รีบเดินดิ่งออกจากห้องอาหารด้วยความเร็วสูง โดยมีบางคนตามหลังเธอไปด้วย

 

“อ้าว โธ่” หญิงสาวโอดครวญขึ้นเมื่ออีกฝ่ายหนีจากการเกาะกุมได้’โธ่ยังมีเรื่องอยากจะถามอีกตั้งเยอะ ตามไปดีกว่า’ดูเหมือนเพื่อนสาวทั้งสองของเธอจะรู้ความคิดของหญิงสาวจึงเดินเข้าไปหาเพื่อจะหยุดความคิดของเพื่อนสาวผมสีน้ำตาลเข้มเอาไว้ ทั้งสองคิดว่าถ้าไม่รีบหยุดเธอ คนที่เค้าต้องคอยตอบคำถามเพื่อนเธอต้องวีนแตกใส่เพื่อนเธอก่อนจะตอบคำถามต่อไปน่ะซิ

 

“ซารี่ เราไปกินข้าวกัน...” ยังไม่สิ้นเสียง ซารี่ก็หันซ้าวแลขวาจนสายตาไปหยุดอยู่ที่คนๆหนึ่งซึ่งคนที่ตกเป็นเป้าสายตา กำลังคุยอยู่กับกัปตันของเรือนี้’หมอนั่น ก็เป็นเอลฟ์นี่ถ้าอย่างนั้น’ร่างกายไวเท่าความคิด ร่างของเธอก็ไปหยุดอยู่ที่ เอลห์หนุ่มคนนั้นเสียแล้ว หญิงสาวยิ้มให้เอลฟ์หนุ่ม ส่วนเจ้าตัวก็ไม่เข้าใจความหมายว่า ซารี่คิดจะทำอะไร เอลฟ์หนุ่มหารู้ไม่ว่าตนกำลังจะกลายเป็นจำเลยให้กับหญิงสาวคนนี้เสียแล้ว ส่วนเพื่อนสาวทั้งสองก็ถูกทิ้งไปโดยปริยาย

 

“โธ่ ซารี่....เฮ้อ~~” เพื่อนสาวทั้งสองได้แต่ถอนหายใจ ส่ายหน้าระอาให้กับความอยากรู้อยากเห็นของซารี่  

 

“งั้น เราไปกินข้าวกันสองคนเถอะเทียร์”

 

“เฮ้อ~~ ไปจ๊ะฮิลด้า”  ฮิลด้าพยักหน้ารับลัเดินจับมือเทียร์ไปโต๊ะกินข้าว

“เฮ้อ~ รอดไปทีกว่าจะหลุดออกมาได้เบื่อเต็มแก้แล้ว” แคนดี้พูดพลางเดินไปตามทางออกสู่ดาดฟ้าเรือ

 

“อากาศดีจัง....นายล่ะว่าไง?” แคนดี้หลับตาลง แล้วหันไปพูดสบตากับผู้ที่เดินตามหลังมาตลอดตั้งแต่ห้องอาหาร

 

 “….” แคนดี้เห็นอีกฝ่ายไม่พูดจึงเดินมาอยู่ตรงหน้าฝ่ายชาย

 

“มีอะไรรึเปล่า ถึงตามฉันมา”

 

“....” แคนดี้หน้ามุ่ยลงทันที เมื่อถามแล้วอีกฝ่ายไม่ตอบ จึงพูดกวนๆใส่อีกฝ่าย

 

“เป็นใบ้หรือไง” แคนดี้ยื่นหน้าเข้าไปใกล้แล้วสบดวงตาสีดำของอีกฝ่าย

 

“เผ่าหมาป่าอสูรนี่...เป็นใบ้รึไงนะ” แคนดี้หันหลังกลับไปแล้วเดินไปเกาะขอบของเรือเพื่อมองพระจันทร์ยามค่ำคืน

 

“...แค่ออกมารับลมข้างนอก” แคนดี้หันมาหาฝ่ายชาย ใบหน้าของแคนดี้เผยรอยยิ้มออกมาเล็กน้อยหลังจากไม่ได้ยิ้มมานาน’โกรธด้วยแฮะ ก็ยังดีกว่าไม่ตอบล่ะนะ’

 

“ก็นั่นน่ะสิข้างนอกมันอากาศดีนี่นา” แคนดี้หันหน้ากลับไปมองพระจันทร์อีกครั้งพร้อมกับเงยหน้าให้สูงขึ้นเหมือนต้องการจะบอกอีกฝ่ายว่า อากาศดีจริงๆ

 

“อืม..แต่ถ้าคนแถวๆนี้ไม่พูดขึ้นมาบรรยากาศคงจะดีกว่านี้” แคนดี้หันมาแล้วทำหน้ามุ่ยใส่อีกฝ่าย ‘ตานี่ ยั่วโมโหกันรึไง หรือยังโกรธเราอยู่นะ’ คิดดังนั้นแคนดี้จึงหันหน้ากลับไปมองพระจันทร์อีกครั้งเพราะคิดว่าอีกฝ่ายคงรำคาญ แต่ก็ต้องหันหน้ากลับมาสบดวงตาอีกฝ่ายอีกครั้ง

 

“เธอชื่ออะไร”

 

“ห๊ะ?” แคนดี้มองเข้าไปในดวงตาของอีกฝ่าย’คิดอะไรอยู่นะ ทำหน้านิ่งเชียว แล้วจะถามชื่อเราไปทำไม ไม่ตอบดีกว่า’ คิดดังนั้นแคนดี้ก็ยื่นหน้าไปนอกเรือเพื่อที่จะรับลมกลางคืนได้เต็มที่

“รูฟ..” ชายเจ้าของดวงตาสีดำเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เบามากเหมือนกระซิบ ทำให้แคนดี้ได้ยินเพียงแว่วๆเท่านั้นแต่ก็ทำให้เธอต้องหันกลับมามองอีกฝ่าย

 

“?”

 

“รูฟ เวอร์เรส” เจ้าของดวงตาสีดำจ้องมองดวงตาสีเงินของแคนดี้

 

“ชื่อของนายอย่างนั้นหรอ?” ฝ่ายชายพยักหน้าเป็นคำตอบ’ไหนบอกว่าเราทำให้เสียบรรยากาศไง ตานี่ตลกชะมัด’

 

คิก แคนดี้หลุดหัวเราะออกมาทำให้อีกฝ่ายสงสัย

 

“หัวเราะอะไร?” เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำหน้างงกับท่าทางของแคนดี้ที่ยิ้มแป้น แล้วพยายามเอามือปิดปากเพื่อไม่ให้เสียงหัวเราะหลุดออกมา

 

“อุ๊บ! คิก คิก ...ขอโทษไม่มีอะไรหรอก” แคนดี้หยุดหัวเราะแล้วยิ้ม

 

“ฉัน แคนดี้ อ๊ะ!...เสียมารยาทสินะ ฉัน แคนดิเน่ มาติน่า แต่ทุกคนเรียกฉันว่าแคนดี้น่ะ นายจะเรียกฉันว่า แคนดี้ก็ได้” แคนดี้ทำหน้าลำบากใจก่อนที่จะตอบแล้วเงียบลง

 

“แคนดี้” รูฟพูดด้วยเสียงเรียบ

 

“ค่ะ?” แคนดี้สะดุ้งเล็กน้อย เมื่ออีกฝ่ายเรียกชื่อ ตอนที่กำลังจะหันหน้าออกไปนอกเรือ เป็นผลทำให้แคนดี้ต้องหยุดการกระทำนั้นลง แต่เมื่อรูฟจะพูด

 

วู้บ! วิ้ง! แสงของลูกแก้วที่แคนดี้ห้อยเอาไว้ที่คอสว่างขึ้น และแสงที่สว่างก็พลันเปลี่ยนเป็นเส้นแสงสีดำชี้ไปที่ตัวรูฟแล้วครอบตัวของรูฟเอาไว้

 

“....!” รูฟเกิดอาการตกใจเล็กน้อยแต่ก็ตั้งสติได้เร็วทำให้แคนดี้ไม่เห็นว่าอีกฝ่ายตกใจ

 

แสงที่เคยคลอบคลุมรูฟจางหายไปก่อนที่สร้อยคอจะสว่างขึ้นอีกครั้งแล้วชี้ไปทางทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ส้นแสงที่ชี้ยาวมากเหมือนไม่มีที่สิ้นสุดแต่เมื่อแคนดี้เห็นทิศที่แสงชี้ไปแคนดี้ก็เบิกตาโตขึ้นเหมือนนึกได้ แล้วแสงก็สลายไป

 

“เมื่อกี้อะไร?” รูฟถามขึ้น เพราะไม่เข้าใจในสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น

 

“อะ..เอ่อ คือ...” แคนดี้ทำหน้าลำบากใจเล็กน้อย’การที่แสงสว่างขึ้นแสดงว่า ตานี่’

 

“ฉันก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ แต่ทิศทางที่แสงชี้ไปเมื่อกี้ คือที่ๆฉันกำลังจะไป เมืองแห่งน้ำ มิซุขิโตะ” เมื่อแคนดี้พูดจบ รูฟก็ถามด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

 

“แสงนั่นชี้มาที่ข้าทำไม” เท่านั้นแหละ แคนดี้ก็เผยรอยยิ้มที่มุมปาก แล้วเดินมาอยู่ตรงหน้ารูฟ แล้วพูดติดตลกว่า

 

“สงสัยลูกแก้วคงจะชอบนายล่ะมั้ง เวอร์เรส” แคนดี้ชี้ไปที่จี้ห้อยคอแล้วหันหน้ามามองรูฟ

 

“งั้นหรอ” รูฟทำสีหน้าครุ่นคิดนิดหน่อย แล้วหันกลับไปสบตาแคนดี้

 

“รูฟ” รูฟพูดเสียงเรียบ

 

“...!”

 

“เรียกข้าว่ารูฟก็ได้ แคนดี้” คนตอบก็ตอบด้วยสีหน้าและน้ำเสียงที่เรียบเช่นเคย

 

“ทำไม?” แคนดี้ เริ่มสงสัยว่าคนที่เงียบ ไม่ค่อยสนใจอะไร จะสนใจกับแค่เรื่องชื่อ

 

รูฟหลบสายตาและเบือนหน้าหนีแคนดี้เล็กน้อย ทำให้แคนดี้ยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ “เพราะไม่ชอบ”

 

‘เอ๊ะ ตานี่จะเอายังไง ไม่ชอบ ไม่ชอบให้ใครเรียกนามสกุลแปลกแฮะ เหมือนเกลียดนามสกุล

งั้นเหละ’

 

“งั้นฉันไปล่ะ จะไปนอน” แคนดี้เดินไปที่ประตูทางเข้า แต่ก็ต้องหยุดชะงักลงแล้วเผยรอยยิ้มเมื่ออีกฝ่ายถามว่า

 

“ทำไม ถึงแทนตัวเองว่าฉันปกติ แทนตัวเองด้วยข้า” แคนดี้เผยรอยยิ้ทอย่างมีเลศนัย ก่อนที่จะตอบกลับเหมือนเสียงกระซิบเบาๆว่า

 

“ถ้ากับคนที่แก่กว่า หรือคนที่ไม่อยากจะยุ่งด้วยน่ะใช่ แต่ถ้าเป็นประเภทพูดด้วยแล้วไม่เบื่อก็อีกเรื่อง” สิ้นเสียงแคนดี้ก็เปิดประตูแล้วเดินตรงไป ยังห้องนอนของตนทันที

 

    แสงของเช้าวันใหม่ทำให้หญิงสาวเจ้าของผมสีเงินลืมตาตื่นขึ้น เผยให้เห็นดวงตาสีเงิน และผมที่ยุ่งเหยิงของคนปกติเมื่อตื่นนอน ไม่นานหญิงสาวก็ลุกขึ้นจากเตียงและตรงเข้าห้องน้ำทันที

 

   5 นาทีผ่านไป

 

ร่างบางของหญิงสาวผมสีเงินเดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพที่ห่มผ้าเอาไว้ ร่างบางเดินไปยังต๊ะข้างหัวเตียงแล้วหยิบชุดขึ้นมาเพื่อจะทำการสวมใส่’นี่สินะ ชุดที่มนุษย์ใส่กัน ต้องขอบคุณ กัปตันที่เอาชุดมาให้ กัปตันบอกว่าเข้าเมืองตาหลื่วตองหลิ่วตาตาม เพราะถ้ายังใส่เสื้อตัวเดิมอยู่จะตกเป็นเป้าสายตา กัปตันว่างั้น’

 

ไม่นานก็เผยให้เห็น ชุดกระโปรงลูกไม้สีฟ้าตัดกับขอบผ้าสีขาว แคนดี้เดินไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง แล้วมัดผมสีเงินสลวยด้วยริบบิ้นสีฟ้าที่เข้ากับชุด แคนดี้ติดเครื่องประดับประจำตัวที่มีลวดลายที่สวยงาม หยิบจี้ห้อยคอขึ้นมาสวม

 

“ถึงที่หมายแล้ว เตรียมตัวให้เรียบร้อย” สิ้นเสียงกัปตันแคนดี้รีบคว้าคันธนูและกระเป๋าถุง แล้วรีบวิ่งไปที่ท่าเทียบเรือทันที

 

“งั้นพวกเราไปก่อนนะค่ะ/บ๊ายบายค่ะ กัปตัน รอยด์ด้วยนะ/ซารี่” สามสาวบอกลากัปตันจากนั้นก็เดินหายไปทางซ้ายมือซึ่งเป็นทางไปเมืองคาริน ส่วนรูฟก็เดินไปทางขวามือเงียบๆโดยไม่ได้บอกลาใคร

 

“ข้าไปนะ กัปตัน รอยด์” แคนดี้โบกมือให้ทั้งสองแล้วก็วิ่งไปทางเดียวกับที่รูฟพึ่งเดินไป

“ว้า~ ไปกันหมดและเหงาจัง/กัปตัน” รอยด์ดุกัปตันเล็กน้อยก่อนที่จะผลักกัปตันขึ้นเรือเพื่อเดินทางไปรับผู้โดยสารกลุ่มต่อไป

 

ตึก! ตึก! เสียงฝีเท้าที่ไล่หลังชายหนุ่มเจ้าของดวงตาสีดำดังขึ้นก่อนที่ต้นเสียงจะตะโกนเรียกเขา

 

“รูฟ รูฟ” ชายหนุ่มเจ้าองดวงตาสีดำหันกลับมาทางต้นเสียงเมื่ออีกฝ่ายเรียกชื่อตน

 

“มีอะไร” รูฟตอบกลับเสียงเรียบ

 

“ไปด้วยกันนะ/ไม่” แคนดี้ยิ้มให้รูฟ แต่เมื่ออีกฝ่ายปฏิเสธแคนดี้ก็ต้องหุบยิ้มทันที

 

“ทำไม” แคนดี้ถามเสียงอ่อย’หมอนี่รำคาญเราจริงๆสินะ แต่ว่า’

 

“ก็ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปกับ” รูฟพูดพลางเดินก้าวไปข้างหน้าด้วยความเร็วสูง’ไวชะมัด’แคนดี้ยิ้ม ก่อนที่รูฟจะหยุดชะงัก

 

วู้บ! วิ้ง! แสงสว่างสีดำที่สร้อยคอสว่างขึ้นแล้วชี้ไปที่รูฟแล้วครอบคลุมร่างของรูฟเอาไว้

 

“รูฟ นายยังไม่รู้จะไปที่ไหนใช่ไหม” รูฟมองแคนดี้อย่างสงสัย ดวงตาของรูฟและใบหน้า แสดงสีหน้าฉงนเล็กน้อย

 

“ลูกแก้วอันนี้มีไว้เพื่อนำทางน่ะ หน้าที่ของมันคือนำทางพาเราไปยังจุดมุ่งหมาย สำหรับคนที่ไม่รู้จะไปที่ไหน ไม่รู้หนทางมันก็จะชี้นำทางไปที่ๆสมควรจะไป หรือง่ายๆก็พาเราไปที่ๆเหมาะสมกับเรา”

 

“หรือจุดมุ่งหมายของเราน่ะแหละ ในกรณีฉันก็แค่อฐิษฐานให้นำทางไปยังที่ๆฉันต้องไปเท่านั้นแหละ” แคนดี้ยิ้มแล้วพูดออกมาอย่างกวนๆปนติดตลกว่า

 

“จะเอายังไง ไม่รู้จะไปไหนไม่ใช่หรอ ให้ลูกแก้วชี้ทางสว่างให้ก็ได้นะ แล้วมันก็ไม่เคยปล่อยผู้ที่ยังไม่รู้ว่าตนจะไปไหนไปหรอกนะ” รูฟถอนหายใจเล็กน้อย

 

“นำ แคนดี้” แคนดี้หัวเราะออกมาเล็กน้อยก่อนจะเดินนำหน้ารูฟไป

 

“ตามมาผู้ร่วมเดินทาง” อีกฝ่ายส่ายหน้าระอาเล็กน้อย ก่อนที่จะเดินตามไป
----------------------------------------------------------------------------------------------
จากใจผู้เขียนฝากถึงผู้อ่านทุกคน

ในที่สุดก็อัพเสร็จอีกตอน
เคย มีคนถามว่าทำไมแต่ละตอนถึงสั้น-ยาวไม่เท่ากัน เพราะว่า แต่ละตอนจะเน้นเนื้อหาที่สำคัญของการดำเนินเรื่องค่ะ ส่วนเนื้อหาที่สำคัญ เช่นบทนำที่ยาวเพราะเป็นส่วนสำคัญต่อการดำเนินค่ะมันสำคัญมาก(อ้าง)

ขอขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านและติดตามต่อๆไปนะค่ะ อ่านแล้วรบกวน เม้น+โหวตให้ด้วยนะค่ะ ตรงส่วนไหนผู้เขียนๆผิดเม้นบอกได้นะค่ะ ขอขอบคุณคนอ่านทุกคนค่ะ แล้วก็ขอร้องนะค่ะอย่าทำตัวเป็นนักอ่านเงา เพราะผู้เขียนอ่อนไหวง่ายนะค่ะ(มันเกี่ยวไหม)
                                                                  ขอขอบคุณผู้อ่านจากใจจริงค่ะ รักผู้อ่านทุกคนค่ะ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา