ที่ฉันร้าย...ก็เพราะรัก
1) บทนำ
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
ห้องโถงขนาดใหญ่ของคฤหาสน์สุริยา มีบรรดาญาติสนิทนั่งอยู่ในห้องกันถ้วนหน้า ใบหน้าของแต่ละคนนั้นทั้งเครียดขรึม วิตกกังวล ทุกคนต่างมองมายังเด็กสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าบุรุษวัยกลางคนใบหน้าหล่อเหลาที่ตอนนี้ใบหน้ากำลงแดงก่ำ และมีดวงตาที่เต็มไปด้วยความโกรธอย่างหนักใจ
"เพี๊ยะ เพี๊ยะ เพี๊ยะ !!!"
"แกทำอย่างนี้ได้ยังไงห่ะ ยัยดารา แกทำลงไปได้ยังไงฮึ" ท่านนายพลสุริยะเทพที่หน้าตาแดงก่ำไปทั้งหน้าจ้องมองเด็กสาวที่อยู่ตรงหน้าด้วยความโกรธจัด หลังจากที่ลุแก่อารมณ์ใช้ไม้ตีไปที่สะโพกของเธอเพื่อเป็นการลงโทษ ถึงแม้ว่าท่านจะตีเธอไปแล้วแต่แววตาของท่านนายพลก็ยังไม่ลดความขึ้งขุ่นลงแต่อย่างใด
"ว้ายย...คุณคะ พอเถอะค่ะ ค่อยๆ พูดกับลูกนะคะ อย่าใช้อารมณ์กับแกเลยนะคะ" คุณหญิงนภาภางค์ รีบถลันเข้ามากันลูกสาวกับสามีด้วยกลัวว่าท่านนายพลจะลงไม้ลงมือกับลูกสาวอีก ทั้งๆ ที่ไม่เคยเลยสักครั้งที่ท่านนายพลหรือแม้แต่คุณหญิงเองจะลงไม้ลงมือกับลูกสาว
"ฮึก..ฮึก..ฮือ..ดารา..ฮึก..ไม่ได้..ทำอะไรเลย..นะคะคุณพ่อ..ฮึก..ไม่ได้ทำจริงๆ นะคะคุณแม่..ฮึก..ฮืออ.." เด็กสาววัยสิบสี่ปีนามว่าดารา หรือ สุริยาวดี สุรกานต์ กล่าวพร้อมกับสะอื้นไห้อย่างน่าสงสาร เด็กสาวกอดมารดาไว้แน่นบอกย้ำกับมารดาให้เชื่อในสิ่งที่เธอบอก ในขณะแววตาที่กลมโตสวยหวานบัดนี้กับกลบไปด้วยน้ำตาที่ไหลรินลงมาเป็นทางเต็มสองข้างแก้ม เธอจ้องมองผู้เป็นบิดาด้วยสายตาตัดพ้อผิดหวังที่ท่านไม่เชื่อใจเธอเลยสักนิด ตลอดเวลาที่ผ่านมาพ่อไม่เคยตีเธอเลยสักครั้งไม่ว่าเธอจะซุกซนแค่ไหนก็ตาม ท่านได้แต่ว่ากล่าวตักเตือนด้วยเหตุและผล หรือแม้แต่วาจาท่านก็ไม่เคยเลยที่จะกล่าววาจาที่ทำร้ายให้เธอเจ็บช้ำน้ำใจ แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นกัน พ่อถึงไม่เชื่อเธอเลย
"แกยังจะเถียงพ่ออีกเหรอ ดูสิคุณหญิงดูยัยดารานะ มันยังจะเถียงผม คุณเห็นมั้ย" ท่านนายพลว่าเด็กสาวตรงหน้าพร้อมกับมองหน้าคุณหญิงนภาภางค์ก่อนจะตวัดสายตามามองหน้าลูกสาวที่อยู่ในอ้อมกอดของภรรยา
"ไม่เป็นไรนะคะลูก หนูยังมีแม่อยู่ข้างๆ หนูนะคะ แม่เชื่อหนูนะลูก แม่รักหนูนะคะ" คุณหญิงกระซิบปลอบลูกสาวพร้อมกับกอดเด็กสาวตรงหน้าให้แน่นขึ้น
"หนูไม่ได้ทำ..ฮึก..จริงๆ นะคะ..ฮึก..ฮือ..คุณแม่.." ก่อนที่คุณหญิงจะทันได้พูดอะไรเสียงของท่านนายพลก็ดังขัดจังหวะขึ้นอีกครั้ง
"แกรู้มั้ยว่าสิ่งที่แกทำลงไปมันเลวร้ายแค่ไหน" ท่านนายพลมองสบอตาบุตรสาววัยสิบห้าปีอย่างคาดคั้น ท่านไม่อยากจะเชื่อว่าลูกสาวคนโตจะทำให้ท่านผิดหวัง เสียใจได้ขนาดนี้
"พอก่อนเถอะคุณเทพ เราฟังหนูดาราก่อนนะคะ" เสียงคุณหญิงทิพย์มณี ธิติธร เอ่ยขึ้นอย่างทนไม่ไหว เพราะสงสารหลานสาวนอกไส้ที่บัดนี้ยังคงซุกตัวแน่นอยู่กับอกมารดาพลางสะอื้นไห้จนตัวโยน
"นี่คุณหญิงยังจะให้ผมฟังอีกเหรอ ผมไม่เข้าใจเลยจริงๆ ในเมื่อคนที่ยัยดาราทำร้ายน่ะ เป็นคนรักของตานกนะครับ" ท่านนายพลมองคุณหญิงทิพย์มณีด้วยสายตาที่ข้องใจเป็นอย่างมาก
"ผมก็เห็นด้วยกับทิพย์นะพี่เทพ พวกเราน่าจะฟังยัยหนูกันก่อน ก่อนที่จะตัดสินใจอะไรลงไป" ท่านนายพลธนิศซึ่งเป็นรุ่นน้องท่านนายพลสุริยะเทพหนึ่งปี เอ่ยขึ้นอย่างเห็นด้วยกับคำพูดของภรรยา
"แต่ป้าไม่เห็นด้วยนะพ่อนิศ ยัยดาราทำผิดเห็นๆ ก็ต้องโดนลงโทษสิ" คุณหญิงสิริโสภาเ่อ่ยขัดขึ้น
"นั่นสิพ่อนิศลุงก็เห็นด้วยกับเค้านะ อีกอย่างนึงคนที่เสียหายเป็นคนรักของตานกไม่ใช่หรอ ที่เราทำโทษยัยดาราน่ะดีแล้ว จะได้ไม่มีใครเอาเยี่ยงอย่าง" อดีตท่านนายพลสุริยะราชเอ่ยขึ้นอย่างเห็นด้วยกับภรรยา
"แต่คุณพ่อคุณแม่คะ นภาว่าหนูดาราไม่ได้ตั้งใจทำให้มันเกิดเรื่องขึ้นหรอกค่ะ อีกอย่างแกยังเด็กคงไม่คิดอะไรที่มันซับซ้อนอย่างนั้นได้หรอกค่ะ" คุณหญิงนภาภางค์กล่าวขัดอดีตท่านนายพลเฒ่ากับคุณหญิงสิริโสภา เพราะสงสารลูกสาวที่ขณะนี้ยังยืนตัวสั่นร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่กับอก
"คุณปู่..ฮึก..คุณย่า..ฮึก..คุณพ่อ ดาราไม่ได้ทำจริงๆ นะคะ..ฮึก..ฮือ..ดาราไม่มีเหตุผล..ที่จะต้องทำร้ายพี่..เกวเลยนะคะ" สุริยาวดีเอ่ยอ้อนวอนให้ทุกๆ คนที่อยู่ในที่นี้เชื่อเธอ โดยเฉพาะคุณปู่คุณย่า และบิดาบังเกิดเกล้า
"แกไม่ต้องมาพูดเลยยัยดารา เหตุผลที่แกทำเรื่องเลวๆ นี่ ก็เพราะว่าแกรักพี่นกของแกไง แกถึงได้ทำอะไรสิ้นคิดอย่างนี้" คุณหญิงสิริโสภาว่ากล่าวหลานสาวคนโตอย่างโมโห
"ดาราเปล่านะคะ..คุณย่า ดารารักพี่นก..แบบพี่ชาย..มะ..เหมือนที่รักพี่ปิลันธ์เลยนะคะ" สุริยาวดีกล่าวออกมาอย่างข่มกลั้นอารมณ์ทุกอย่างเอาไว้
'ใช่ทุกคนรู้ว่าเรารักพี่นก หวงพี่นก แต่เราก็ทำให้ทุกคนเห็นตลอดนี่ว่าเราไม่เคยคิดแบบนั้น ทั้งๆ ที่เราพยายามปกปิดมันมาตลอดคุณย่ายังรู้ได้ แต่ถ้าเรายืนกรานว่าไม่ได้รักก็คงไม่มีใครรู้อยู่ดีว่าเราโกหก ทั้งๆ ที่เรายังไม่รู้เลยว่าความรู้สึกของเราเปลี่ยนไปตั้งแต่เมื่อไร จากที่รักแบบพี่ชายกับกลายเป็นรักแบบหนุ่มสาวได้ยังไงก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้เราต้องปฏิเสธทุกอย่างออกมา เพราะไม่อย่างนั้นพี่นกคงเกลียดเราแน่ๆ ที่หาว่าเราทำลายความรักของเขา' เด็กสาวคิดอยู่ในใจ ตอนนี้เธอหยุดร้องไห้แล้วมีเพียงเสียงสะอื้นเพียงเล็กน้อยที่ถูกส่งออกมาให้ได้ยินเท่านั้น
"ว่ายังไงนก นกจะให้ลุงจัดการยัยดารายังไง ลุงว่าลุงยกให้นกจัดการเองก็แล้วกันนะ" ท่านนายพลสุริยะเทพกล่าวออกมาอย่างตัดสินใจยกเรื่องทั้งหมดให้ผู้เสียหายตัวจริงจัดการเองว่าจะเอาอย่างไร
"ผมไม่เอายังไงหรอกครับ แค่อยากถามน้องเท่านั้น" ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ใบหน้าหล่อเหลาดูเรียบเฉยในขณะพูด แต่ดวงตาคมกริบกวาดสายตามองไปทั่วใบหน้าของเด็กสาวแล้วจ้องตาเธอไว้ ขณะที่เด็กสาวก้มหน้าหลบสายตานั้น สายตาที่มองเธอมันมีประกายบางอย่างที่ทำเอาเธอขนลุก แววตาที่ต้องการตะคลุบเหยื่อ
"ว่าไงครับหนูดารา บอกพี่นกได้หรือยังว่ามันเกิดอะไรขึ้น หนูดาราถึงได้ขับรถชนคุณเกวลินเขา เรื่องมันเป็นอย่างที่คุณย่าบอกหรือเปล่า" ชายหนุ่มถามพร้อมพับมองเด็กสาวตรงหน้าด้วยสายตาเย็นชากดดันอยู่ในที
'พี่นกไม่เคยมองดาราด้วยสายตาแบบนี้เลยนะคะ ทำไมมันถึงดูเย็นชา ไม่มีความอ่อนโยนให้เห็นเลยแม้สักนิด ไม่เหมือนพี่นกคนเก่าที่ตามใจดาราแทบทุกอย่าง ถ้าดาราพูดความจริงพี่นกจะเชื่อมั้ยนะ' เธอคิดใคร่ครวญอยู่ในใจพลางมองสบตาชายหนุ่มตรงหน้าอย่างไม่ยอมหลบสายตาที่แสดงถึงความจริงใจ
"ดาราไม่ได้ตั้งใจนะคะพี่นก ตอนที่ดาราขับรถออกมาอยู่ดีๆ พี่เกวก็วิ่งตัดหน้ารถเองนะคะ ดาราเหยียบเบรกแล้วนะคะแต่ว่ามันเบรกไม่อยู่ พี่นกเชื่อดารานะคะ ดาราพูดจริงๆ นะคะพี่นก" หญิงสาวกล่าวพร้อมกับสบตาชายหนุ่มตรงหน้าอย่างจะยืนยันในสิ่งที่เธอพูดอย่างหนักแน่น แต่ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มตรงหน้าจะตอบว่าอย่างไร
"เพี๊ยะ !!!" เสียงเนื้อกระทบเนื้อจากหญิงสาวรูปร่างผอมเพียวตรงเข้ามาตบหน้าเธออย่างที่เธอไม่ทันได้ตั้งตัว ในขณะที่เด็กสาวยืนนิ่งอย่างมึ้นงงก่อนจะตั้งสติได้ เพราะเสียงหวีดแหลมของหญิงสาวตรงหน้า
"แกมันบ้านังดารา แกมันเป็นฆาตกร!! แกจงใจจะฆ่าพี่สาวฉัน" เกวลีกล่าวด้วยน้ำเสียงโมโห พร้อมกับยกมือขึ้นเพื่อจะตบหน้าเธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอสามารถยกมือขึ้นมาป้องกันได้ทัน
"ฉันไม่ได้บ้า ไม่ได้เป็นฆาตกร!! ไม่ได้ทำ..."
....................................................................................
คำยืนยันของเจ้าของนิยาย
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ