Killer Song บทเพลงสังหาร

-

วันที่ 21 เมษายน พ.ศ. 2553 เวลา 16.04 น.

  2 Mission
  10 วิจารณ์
  8,160 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

1) Beginning of destiny

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

Beginning of destiny

Ep-00.jpg picture by Rathaporn

...ที่นี่ที่ไหน...

                เด็กชายตัวเล็กๆคนหนึ่งเริ่มปรือตาขึ้นมาหลังจากที่หลับใหลมานาน เขาพบว่าตอนนี้ตนได้อยู่ที่สุสานแห่งหนึ่งในหมู่บ้านอานาเทีย ซึ่งเป็นหมู่บ้านเล็กๆกลางป่าที่แสนสงบ...
                หิมะสีขาวทยอยๆตกลงมาจากฟากฟ้าสีหม่นไม่รู้จักหยุดจนหิมะนั้นตกกองลงบนศีรษะของเขาที่ปกคลุมด้วยผมสีเงินจนดูเผินๆหิมะกับผมของเขาจะเริ่มเป็นสิ่งเดียวกันซะได้...
                ...ฉัน...
                ...ฉันเป็นใคร?...
                ...แล้วทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้?...
                ดวงตากลมโตสีน้ำเงินที่ดูเลื่อนลอยนั้นเริ่มก้มลงสำรวจร่างกายของตนเองที่ไม่มีอะไรเลยนอกจากผ้าเก่าๆผืนหนึ่งซึ่งใหญ่พอที่จะห่อหุ้มร่างกายของเขาได้เกือบทั้งหมด...
                ...หนาวจัง...
                แต่โชคร้ายที่ผ้าผืนนั้นบางเกินกว่าที่จะต้านทานความหนาวได้
                เด็กชายผู้น่าสงสารคนนั้นก้าวเดินไปตามทางในสุสานด้วยเท้าเปล่าฝ่ากองหิมะที่ทยอยๆจะมากขึ้นเรื่อยๆไม่รู้จักหยุดหย่อน ดวงตาของเขาเหม่อมองขึ้นไปบนฟ้าบ้าง บนพื้นบ้าง ป้ายสุสานที่อยู่รอบข้างบ้าง แต่เท้าทั้งสองก็ยังคงเดินมั่งหน้าต่อไปไม่หยุดจนกระทั่ง...
                “เหวอ~!”
                “อ้ายยย~!”
                เด็กชายผมสีเงินร้องเหวอทันที่พบว่าตนได้เดินชนกับเด็กผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่เดินสวนทางมา
                “ขะๆ...ขอโทษ...ขอโทษนะ...”เด็กชายคนนั้นร้องขอโทษทันทีก่อนที่จะรีบเข้าไปช่วยพยุงตัวของเด็กผู้หญิงผมทองที่ตนเพิ่งชนไปเมื่อสักครู่นี้อย่างลนลาน
                “ไม่เป็นไรหรอก...ฉันลุกเองได้น่า”เด็กสาวผมทองมัดผมแกละสองข้างร่างบางในชุดกันหนาวสีดำหน้าตาน่ารักกล่าวก่อนที่จะยันตัวลุกขึ้นมาเองและเริ่มชายตามองไปยังร่างของเด็กชายอายุครุ่นคราวเดียวกันที่เพิ่งชนตนไปเมื่อกี้ด้วยสายตาประหลาดใจ...
                ดวงตาสีน้ำตาลกลมโตของเธอเริ่มหรี่เล็กลงเพราะกำลังเหมือนพินิจพิเคราะห์อะไรบางอย่างในหัว...
                “นี่นาย...ไม่ใช่คนของหมู่บ้านนี้นี่!? นี่นายมาจากไหนงั้นเหรอ?” สาวน้อยถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
                “อะ...เอ่อ...ฉัน...ฉะๆฉัน...ไม่รู้เหมือนกัน ว่าฉันมาจากไหน?” เด็กชายกล่าวอย่างลนลานอีกครั้งก่อนที่จะรีบก้มหน้ามุดหนี
                “แล้วชื่อล่ะ?” เด็กสาวยังไม่หยุดถาม...
                “ฉันเอง...ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าฉันชื่ออะไร?” เด็กชายผู้น่าสงสารยังคงตอบอย่างลนลานเช่นเคยพร้อมกับกุมผ้าผืนเก่าๆที่คลุมร่างกายที่เปลือยเปล่าตนเอาไว้แน่น
                “งั้นเหรอ...ฉันชื่อเจเนเรีย วาเนสซ่านะ ยินดีที่รู้จัก...”เด็กสาวกล่าวแนะนำตัวก่อนที่จะยื่นมือไปเพื่อเป็นการทักทาย
                “อะๆ...อะไรเหรอ?” เด็กชายผู้ใสซื่อยังคงไม่รู้ว่านี่เป็นการทักทาย เจเนเรียจึงหัวเราะออกมาก่อนที่จะอธิบายให้เขาเข้าใจ...
                “นี่เป็นการทักทายต่างหากล่ะ! เอามือของเธอมาจับมือของฉันสิ!!”
                “อะ...อืม”เด็กชายตอบรับก่อนที่จะค่อยๆยื่นมืออีกข้างหนึ่งที่ไม่ได้จับผ้าคลุมเอาไว้ไปจับมือกับเด็กผู้หญิงตรงหน้าตน...
                “ทำไม...เธอถึงมาที่นี่ล่ะ?” เด็กชายถาม
                “สุสานแห่งนี้เป็นสุสานที่วิญญาณพ่อแม่พี่น้องและครอบครัวของฉันทั้งหมดสิงสถิตน่ะสิ...”เด็กสาวตอบอย่างไม่คิดอะไร เพราะเธอเชื่อว่าพ่อแม่ของเธอต้องไม่ดีใจแน่ๆที่เห็นเธอร้องไห้...
                “เสียใจด้วยนะ...”เด็กชายทำหน้าเศร้าราวกับว่าเจ็บปวดแทนเจเนเรีย…
                “จะว่าไปแล้ว...มือนายนี่เย็นจัง อ้ะ! เสื้อผ้าไม่ใส่เลยงั้นเหรอนายน่ะ?!” เจเนเรียร้องอย่างตกใจเมื่อสังเกตว่าเด็กชายตรงหน้าไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอาภรณ์อะไรแต่มีแค่ผ้าคลุมเท่านั้น ก่อนที่เธอจะรีบปล่อยมือจากเด็กชายคนนั้นแล้วรีบปิดตาของตัวเองทันที
                “อ้ะ! ขอโทษ...ขอโทษจริงๆนะ ก็ฉัน...มีแค่ผ้าผืนนี้...ติดตัว...แค่นั้นเอง...นี่...นา...”เด็กชายตอบอย่างใสซื่อไร้เดียงสาก่อนที่จะค่อยๆล้มลงทิ้งร่างของตนนอจมกองหิมะต่อหน้าเจเนเรีย...
                “เฮ้ย~! นี่นาย...เป็นอะไรรึเปล่า!?” เจเนเรียร้องอย่างตกใจเมื่อพบว่าเด็กหนุ่มที่ตนเพิ่งรู้จักได้หมดสติลงต่อหน้าเธอ เธอจึงรีบเขย่าร่างของเด็กชายตรงหน้าอย่างแรงเพื่อหวังว่าเขาจะตื่นขึ้นมา แต่ไม่เลย...
                “ให้ตายสิ...เป็นผู้ชายเสียเปล่า แต่ทำไมถึงอ่อนแอแบบนี้นะ!” เด็กสาวบ่นอุบอิบก่อนที่จะเริ่มแบกร่างของเด็กชายที่ยังคงหายใจรวยรินขึ้นมาก่อนที่จะพาออกไปจากสุสานแห่งนี้ด้วยตัวเอง...
                ...จะว่าไปแล้ว...
                ...นายคนนี้ยังไม่มีชื่อเลยนี่นา...
                ...แต่อ่อนแอแบบนี้จะให้ชื่อว่าอะไรดีล่ะ...
                ...
                ...
                ...
                ...งั้นชื่อว่า คาเดน ละกัน!!...
                ...คาเดนแปลว่านักรบและผู้มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้!!...
                ...ถ้านายคนนี้ใช้ชื่อนี้ล่ะก็...
                ...ต้องเก่งมากแน่ๆ...
                ...แถมไม่อ่อนแอแบบนี้ด้วย!!...
                ...เพราะความหมายของชื่อก็สำคัญนะ!!...
                เด็กหญิงผมทองที่แสนแก่นแก้วยิ้มกริ่มเมื่อคิดชื่อให้เด็กชายปริศนานี้ได้ก่อนที่จะ รีบแบกร่างของเด็กชายผู้เป็นเพื่อนใหม่ออกไปจากสุสานเพื่อมุ่งหน้าไปยังบ้านหลังใหม่ของเธอ...
                องค์กรไลท์เดวิล...
 
*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*/*

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา