Psychic

8.3

เขียนโดย Kuroneko_Iyo

วันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2553 เวลา 23.50 น.

  3 chapter
  8 วิจารณ์
  8,009 อ่าน
แชร์นิยาย Share Share Share

 

3) คดีคฤหาสน์มรดก บทที่สาม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

                “หมายความว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่วันแรกเลยเหรอครับ”

 

                “ใช่ค่ะ คืนแรกฉันก็รู้สึกแล้วว่ามีพลังงานบางอย่างอยู่รอบๆ สามีฉันก็บอกค่ะว่าเขารู้สึก”

 

                ในห้องฐานที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์มากเหลือคณานับ คุณผู้หญิงเจ้าของบ้านกำลังนั่งตอบคำถามของเด็กหนุ่มตัวเล็กพอๆกับตน ในขณะที่อิเซยะนั่งนิ่ง หันหลังให้ทุกอย่างและขะมักเขม้นอยู่กับคอมพิวเตอร์ส่วนตัวของเขาเอง โนร่าขมวดคิ้วเล็กน้อยและถามต่อไป

 

                “แต่จิมมี่กับอีวา ไม่เคยเห็นเลยงั้นเหรอครับ?”

 

                “แกว่าอย่างนั้นน่ะค่ะ ซึ่งก็น่าจะจริง พวกแกโตพอจะแยกออกแล้วว่าอะไรเป็นคนหรือไม่ใช่นะคะ โดยเฉพาะจิมมี่... สามีดิฉันบอกว่า อย่างน้อยถึงอีวาจะยังไม่เข้าใจ แต่จิมมี่ฉลาดพอๆกับคุณพ่อเลยค่ะ แกชอบอ่านหนังสือยากๆของคุณพ่อด้วย... แล้วพวกแกก็อยู่ด้วยกันแทบจะตลอดเวลา เป็นไปไม่ได้ที่พวกแกจะไม่รู้ค่ะ”

 

            “แล้ว... ด็อกเตอร์เบนนี่พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้บ้างไหมครับ?”

 

                “ค่ะ...” เธอมีท่าทีหม่นหมองลง “เอ่อ... เขา... บอกว่าให้ไปตามบาทหลวงหรือหมอผีมา... และให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ... เพราะ... เขาเป็นห่วงบ้านกับฉัน...แล้วก็ลูกๆด้วย...”

 

                โนร่าจดสิ่งที่คุณผู้หญิงพูดลงในกระดาษ และคิดถึงเรื่องที่ด็อกเตอร์ออกจากบ้านเพื่อไปทำงานต่างเมืองในศูนย์วิจัยแห่งหนึ่งที่ยื่นขอเสนอพร้อมเงินจำนวนหลายล้านเหรียญก่อนพวกเขาจะมาที่นี่เพียงสามวันเท่านั้น

                ก็จริงอยู่ที่การมีผีอยู่ในบ้านนักวิจัยเรื่องพลังงานลึกลับมันดูเป็นเรื่องน่าสนใจ และอาจจะมีผลต่อข้อเสนอของศูนย์วิจัยที่อุตส่าห์ยื่นมาให้ถึงที่... ด็อกเตอร์คงคิดการไกลว่าถ้าศูนย์วิจัยรู้เรื่องนี้ จะต้องอยากยื่นข้อเสนอเป็นพันล้านเหรียญเพื่อให้ได้มาทำวิจัยที่บ้านของด็อกเตอร์จนตัวสั่นแน่... บางทีด็อกเตอร์อาจจะแค่เป็นห่วงบ้าน... ขืนพวกนักวิจัยแห่กันมาที่นี่คงไม่เป็นเรื่องดีกับครอบครัวเขาอยู่แล้ว

 

                “ผมคิดว่าด็อกเตอร์ทำถูกแล้วล่ะครับ ไม่เช่นนั้นบ้านคุณได้วุ่นวายไปเป็นเดือนๆแน่”

                โนร่ายิ้มแป้นให้กับคุณผู้หญิง ซึ่งเธอก็ยิ้มตอบกลับอย่างสดใส

 

                “ใช่ค่ะ เขาเป็นคนรักครอบครัวมาก ถึงจะมีชื่อเสียงแต่เขาก็แยกเรื่องงานกับครอบครัวออกจากกันอย่างเด็ดขาดเลยล่ะค่ะ”

            โนร่ารู้สึกมีความสุขไปด้วย เมื่อเห็นสีหน้าสดใสของคุณผู้หญิงที่ดูมีความสุขทุกครั้งเมื่อพูดถึงด็อกเตอร์ และในขณะเดียวกันโนร่าก็รู้สึกดีใจที่ด็อกเตอร์ที่เขานับถือไม่ได้เป็นแค่พวกบ้างานวิจัยเท่านั้น... แต่ยังเป็นคนรักที่ดี และเป็นพ่อที่ดีมากถึงขนาดนี้

 

                “แต่คุณลีน่าคงต้องเหนื่อยมากเลยสินะครับ ด็อกเตอร์ก็ต้องไปทำงานอีกนาน แถมพวกแม่บ้านยังพากันลาออกแบบนี้อีก ดูแลบ้านใหญ่ขนาดนี้ด้วยตัวคนเดียวไหวเหรอครับ”

 

                “มันก็ยากที่จะปรับตัวค่ะ... แต่ฉันก็ปิดห้องที่ไม่ใช้ทุกห้องแล้ว และทำความสะอาดเฉพาะพื้นที่ที่จำเป็น... ส่วนเรื่องงานจิปาถะอื่นๆ บางครั้งลูกๆก็มาช่วยบ้าง อย่างตากผ้า หรือหมักเนื้อก่อนทอดน่ะค่ะ”

 

                “เป็นเด็กดีจังเลยนะครับ”

 

                “ใช่แล้ว ตอนนี้เด็กดีทั้งสองคนหลับไปแล้วล่ะคุณลีน่า”

 

                หลวงพ่อโธมัสเดินกลับเข้ามาในห้องที่เป็นฐานสำหรับทำงานของคนทั้งสาม ท่านไม่ได้อยู่ในชุดสีดำของบาทหลวงอีกแล้ว ครั้งแรกที่เห็นโนร่าเองก็ตกใจพอตัวสำหรับการเปลี่ยนลุคกระทันหันของหลวงพ่อ ท่านใส่เสื้อไหมพรมแขนยาวกับกางเกงยีนส์ธรรมดาๆ แถมยังปล่อยผมอีกด้วย ตะแคงดูยังไงก็เหมือนชายหนุ่มหน้าหวานที่หน้าตาดีผิดมนุษย์มนาก็เท่านั้นเอง

 

                “ขอบคุณมากค่ะพ่อโธมัส”

 

                “ไม่ต้องขอบคุณหรอก พ่อก็แค่เล่านิทานให้พวกเด็กๆฟังเท่านั้นเอง”

                หลวงพ่อยิ้มอ่อนโยน และลงมานั่งข้างๆโนร่าด้วย

 

 

                “เข้าเรื่องต่อนะครับ เอ่อ... ผมอยากให้คุณลองพูดเรื่องที่คุณเคยเห็นในบ้านนี้หน่อยครับ พวกผมจะได้เริ่มต้นได้ถูกที่”

 

                “ค่ะ...” เธอตอบรับและเว้นช่วงห่างไปเล็กน้อย “...ฉันมักจะพบเรื่องพวกนี้ในตอนกลางคืนค่ะ เกือบทุกคืน... ตอนเวลาประมาณเที่ยงคืน ฉันจะได้ยินเสียงเดินและวิ่งเล่นอยู่ตรงระเบียงชั้นสองตลอดเลย... บางทีอาจจะมีที่ชั้นอื่น แต่ห้องนอนของฉันอยู่ที่ชั้นสอง บางครั้งก็มาหยุดอยู่หน้าห้องฉันและเคาะประตูด้วยค่ะ”

 

                “ใช่ลูกคุณรึเปล่าครับ?”

 

                “ไม่ใช่หรอกค่ะ พวกแกหลับตั้งแต่สามทุ่มแล้ว ครั้งหนึ่งสามีฉันรอให้มันมาเคาะ คืนนั้นเรานั่งกันอยู่จนถึงเที่ยงคืน และก็มีเสียงเคาะเกิดขึ้นจริงๆค่ะ พอได้ยินปุ๊บเขาก็กระชากประตูเปิดทันที แต่พอเปิดแล้วก็เห็นแค่ความว่างเปล่า ฉันถึงเชื่อว่าต้องเป็นวิญญาณแน่ๆ”

 

                โนร่าอ่านเอกสารของหลวงพ่อที่ท่านยื่นมาให้ และอ่านคำร้องเรียนที่คุณลีน่าเขียนซึ่งระบุเกี่ยวกับเสียงเคาะหรือเสียงวิ่งเล่นเช่นกัน เขาอ่านบรรทัดต่อไปที่กล่าวถึงสิ่งของเคลื่อนไหวได้เอง

 

                “เอ่อ... มีของขยับได้เองด้วยเหรอครับ”

 

                เธอพยักหน้า

                “ฉันมักพบว่าบางทีแจกันดอกไม้ก็ไม่ได้อยู่ที่เดิม แก้วน้ำหล่นแตกทั้งที่ไม่มีใครอยู่ในห้อง และประตูที่คิดว่าน่าจะปิดอยู่ก็เปิดเฉยเลยล่ะค่ะ สามีฉันเรียกว่าโพลเตอร์ไกส์หรืออะไรทำนองนี้น่ะค่ะ”

 

                “โอเคครับ... แล้วสาเหตุที่พวกแม่บ้านกับพี่เลี้ยงลาออกล่ะครับ พอจะทราบไหม”

 

                คุณลีน่าเอียงศีรษะอย่างครุ่นคิด เธอมองเพดานเหมือนกำลังทวนความจำ

                “เอ่อ... พวกเธอเคยบอกฉันว่า พวกเธอทนไม่ได้ที่ต้องอยู่กับเสียงประหลาดๆตอนกลางคืนค่ะ มันคงจะน่ากลัวสำหรับคนสมัยนี้กระมังคะ? แต่กับพี่เลี้ยงที่ฉันบอกให้มาตอนกลางวัน... เขาบอกว่าเขาได้ยินเสียงคนพูดด้วยทั้งที่ไม่มีใครอยู่เลย แล้วก็หลอนไปเองจนต้องลาออกค่ะ”

 

            โนร่าจดข้อความเพิ่มเติมลงในกระดาษ

                “ช่วยบอกสถานที่ได้มั้ยครับ ห้องไหนที่เคยมีใครเห็นอะไรบ้าง ผมจะได้เอาอุปกรณ์ไปติดตั้งให้ถูกที่ ...เอ่อ... ผมจะทำการสำรวจตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ซึ่งต้องขอเรียนให้ทราบว่าวิญญาณ... ผมหมายถึงถ้าสิ่งที่เกิดขึ้นมาจากวิญญาณจริงๆ... บางทีอาจจะมีปฏิกิริยาน้อยมากจนถึงไม่มีเลย เพราะวิญญาณส่วนมากจะไม่คุ้นเคยกับคนแปลกหน้าครับ พวกเขาจะมีปฏิกิริยาก็ต่อเมื่อถูกกระตุ้น คงเข้าใจใช่ไหมครับ”

 

                “พวกคุณต้องการจะกระตุ้นวิญญาณเหรอคะ?”

 

                “ไม่ใช่เรื่องร้ายแรงอะไรหรอกครับ ผมแค่จะใช้อุปกรณ์ให้พวกเขาปรากฏตัวได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ไม่ใช่การยั่วโมโหหรืออะไรอย่างนั้นหรอกครับ วางใจได้”

 

                “แล้วพวกลูกๆของฉันจะปลอดภัยใช่ไหมคะ?”

 

                “ถ้ามีอันตรายอะไรพวกผมจะรีบบอกเลยครับ อย่างน้อยๆก็ให้หลวงพ่อช่วยทำพิธีอะไรให้ก็ได้ถ้าคุณต้องการ”

 

                “งั้นก็...ได้ค่ะ”

 

 

 

--------------------------------------------------------------------------------

 

 

 

                “ของในห้องครัวเคลื่อนที่ได้เองบ่อยๆ เสียงวิ่งเล่นที่ระเบียงชั้นสองหลังเที่ยงคืน เสียงเคาะประตูที่ชั้นสอง เสียงประตูเปิดปิดเองที่ชั้นสองถึงชั้นห้า เฟอร์นิเจอร์ไม่อยู่ที่เดิมที่ชั้นสามจนถึงชั้นห้า เสียงคนพูดคุยกันที่ชั้นสาม โห... แทบไม่มีที่ชั้นหนึ่งเลยนี่ แสดงว่าพื้นที่ที่เราอยู่เป็นพื้นที่ปลอดภัยสิเนี่ย”

                หลวงพ่อทวนสิ่งที่คุณลีน่าให้ปากคำอย่างละเอียดมาอีกครั้ง

 

                “ครับ พรุ่งนี้เราคงต้องติดตั้งอุปกรณ์กันให้เสร็จแล้วล่ะ ถ้าได้ทุกห้องเลยก็จะดีมากนะครับ เพราะเราเพิ่งเริ่มติดตั้งอุปกรณ์รอบบ้านกับในฐานเท่านั้นเอง”

 

                “เค้าว่างั้นแน่ะอิเซยะคุง”

 

                โนร่าสะดุ้งโหยง เขาไม่ได้ตั้งใจจะใช้งานผู้ชายน่ากลัวคนนั้นหรอกนะ...

                แต่เมื่อหันกลับไปมองก็เห็นแต่ผู้ชายสูงผอมคนนั้นกำลังนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เช่นเดิม และตอบรับอย่างสุภาพสั้นๆให้กับคำพูดของหลวงพ่อ ที่กำลังบอกให้เขาช่วยเอาอุปกรณ์ไปติดตั้งเท่านั้น

 

                “พ่อว่าเราน่าจะมีแรงงานเพิ่มขึ้นดีกว่าเนอะ”

 

                “แต่ผมว่าแบบนี้ก็ดีแล้วล่ะฮะ... เฮ้อ... เหนื่อยจัง”

                โนร่าบ่นอุบ เมื่อคืนหลังจากทราบเรื่องเขาก็มัววุ่นอยู่กับการเตรียมข้าวของอุปกรณ์แทบทั้งหมดและหาข้อมูลเพิ่ม กว่าจะได้นอนก็เลยตีสองเข้าไปแล้ว แถมยังต้องรีบตื่นมาขนของใส่รถตู้ที่หลวงพ่อเตรียมมาให้ ระยะทางในการเดินทางก็ค่อนข้างไกลมากเสียด้วย เมื่อมาถึงก็มัวแต่ทำงาน แทบไม่มีเวลาพัก ก็ต้องรู้สึกเพลียเป็นธรรมดา หลวงพ่อจึงพยักหน้าเห็นด้วย

 

                “งั้นเราก็แยกย้ายกันไปนอนบ้างดีกว่า นั่นห้องของเราล่ะ”

                หลวงพ่อชี้ไปทางทิศที่มีประตูห้องซึ่งอยู่ติดกับฐาน โนร่าตัดสินใจเดินเข้าไปเปิดประตู และเห็นห้องหรูราวกับห้องโรงแรมพร้อมด้วยเตียงใหญ่สองเตียงในห้องที่เปิดปิดไฟระบบอัตโนมัติเป็นสีส้มเหลืองนวลตา

 

                “มีเตียงสองเตียงนี่ครับ... แล้วคุณอิเซยะล่ะ...”

 

                “เห็นเขาว่าชอบนอนบนโซฟามากกว่า ในห้องฐานก็มีโซฟาตัวหนึ่ง พ่อเตรียมผ้าห่มให้แล้วล่ะ”

 

                “อ๋อ...” โนร่ารู้สึกเป็นห่วง แต่ก็ทำได้แค่พยักหน้าเงียบๆเท่านั้น

 

                “พ่ออาบน้ำแล้ว งั้นเดี๋ยวลูกอาบน้ำไปเลยนะ เตรียมตัวนอนเถอะ นี่มันห้าทุ่มแล้วล่ะ”

 

                โนร่าพยักหน้า ก่อนจะลุกขึ้นไปหยิบกระเป๋าเดินทางของตนเองซึ่งใส่เสื้อผ้ากับเครื่องใช้ส่วนตัวที่วางไว้ในห้องฐาน ใกล้กับคอมเครื่องหนึ่งที่อิเซยะกำลังใช้อยู่

                เขาเหลียวมองชายร่างสูงอย่างหวั่นๆ ชายคนนี้กำลังนั่งพิมพ์อะไรมาตั้งแต่เตรียมอุปกรณ์เสร็จเมื่อเย็นไม่หยุดพักเลย โนร่ารู้สึกอยากทักทายและคุยกับเขาบ้าง แต่ก็กลัวสายตาไม่เป็นมิตรนั่นเกินกว่าจะทักได้... โนร่าตัดสินใจกลืนน้ำลาย และหันไปพูดด้วยท่าทางอึกอัก...

 

                “เอ่อ...ฝากดูแลอุปกรณ์ด้วยนะครับ ละ...แล้วก็รีบนอนนะครับ”

 

ความเงียบก่อตัวขึ้นพักหนึ่ง...

 

                “... อืม ขอบใจ”

 

                โนร่ายิ้มและพยักหน้าให้ชายที่ไม่แม้แต่จะหันมามองหรือสบตา ก่อนจะวิ่งตัวปลิวกึ่งหนีเข้าไปในห้องนอนรับรองสุดหรู

 

 

                ปึง..............................

                เมื่อประตูในห้องนอนสีเหลืองส้มปิดลง มีเพียงความเงียบที่โรยตัวอยู่ในบรรยากาศห้องฐาน ดวงตาสีนิลเบื้องหลังกรอบแว่นมองไปรอบๆอย่างเฉยชา เขายันตัวลุกขึ้นและปิดไฟที่ไม่จำเป็น ก่อนจะลงมานั่งที่เดิม พรมนิ้วไปบนคีย์บอร์ดจนมีเพียงเสียงแกรกๆที่ดังก้องอยู่ในห้องหรูขนาดใหญ่


            ...คิกคิก... ...

                อิเซยะเหลือบดวงตาคล้ำๆของตนไปที่หน้าต่างกระจก...


วูบ...

                เงาที่อยู่นิ่งมาจนถึงเมื่อครู่หลบไปด้านข้างพร้อมรอยเหยียดยิ้ม และหายลับไปในความมืด...

 

 

To be continue.

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยาย

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา