พิชิตใจ ยัยสาวเฉิ่ม

-

เขียนโดย NoeyJangzz

วันที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เวลา 00.30 น.

  1 chapter
  3 วิจารณ์
  1,595 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 01.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) ยินดีที่ได้รู้จักนะ ยัยเฉิ่ม

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

     ยามเช้าที่อากาศสดใส เหล่าใบไม้ให้พัดปลิวไปไปตามเส้นทางของลม ผ่านกิ่งไม้ ทุ่งหญ้า หน้าต่าง หลังคาเรือน ฉันแทบไม่อยากลุกออกจากเตียงนี้เลย อยากจะนอนต่อแบบนี้ยาวๆ แต่ก็คงทำไม่ได้ เพราะวันนี้เป็นวันเปิดเทอมวันแรกของฉัน ฉันคงต้องฝืนใจไปโรงเรียนสินะ 

     เด็กสาวนึกคิดในใจ นอนมองหน้าต่างที่ท้องฟ้าแจ่มใส และใบไม้ที่ปลิวผ่านหน้าต่างไปไม่หยุด เธอคนนี้มีชื่อว่า 'โอเลี้ยง' เป็นเด็กสาวอายุ 16 ปี ที่เติบโตมากับครอบครัวที่อบอุ่น เธอมีรูปหน้าเหมือนพ่อ และดวงตาสีน้ำตาลที่สวยเหมือนแม่ ใครจะไปคิดว่าลูกสาวที่เหมือนพ่อ จะดูดีได้ขนาดนีั้ เว้นเสียแต่ว่า เธอไม่ได้มีแค่เพียงรูปหน้าที่เหมือนพ่อ สีผิวของเธอก็เช่นกัน...

     พ่อของเธอมีผิวที่คล้ำ เพราะอดีตเคยเป็นลูกชาวสวน และด้วยความขยัน และจิตใจที่มุ่งมั่น จึงได้เติบโตมาสร้างครอบครัวที่อบอุ่นมาได้เช่นนี้ โอเลี้ยงไม่เคยรู้สึกขาด เธอเป็นเพียงเด็กหญิงที่มองโลกในแง่ดีคนนึง ตามที่พ่อแม่เธอสอนให้มอง ว่าเราไม่ควรตัดสินที่รูปลักษณ์ภายนอก

          "โอเลี้ยงงงงงง!! ตื่นได้แล้วลูก เดี๋ยวไปเรียนสายนะ" เสียงของคุณแม่ที่ตะโกนขึ้นมาปลุกเธอ 

     โอเลี้ยงจำใจต้องลุกจากที่นอนแบบงัวเงีย แล้วจึงลุกเดินไปอาบน้ำแต่งตัว เมื่อเธอทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย ก็มีแม่ที่นั่งนอบนรถเพื่อไปส่งเธอ เธอรู้สึกว่า อยากให้วันนี้ผ่านไปได้ด้วยดี และก็หวังว่าจะไปได้ด้วยดี

 

      ตึ๊ง ตึง ตึ๊ง ตึง   ตึง ตึง ตึ๊ง ตึง.....

     เสียงออดโรงเรียนหลังเคารพธงชาติเสร็จ เหล่านักเรียนม.4 ต่างตื่นเต้นที่จะได้เข้าห้องเรียน บ้างก็มีเพื่อนแล้วทักทายกัน บ้างก็ได้เพื่อนใหม่ และบ้างก็เป็นเพื่อนกันมาก่อนตั้งแต่ม.ต้นกันแล้ว เสียงคุยกันไม่หยุดของเหล่านักเรียนทำให้อากาศดูครึกครื้น เว้นเสียแต่ว่า โอเลี้ยงกลับไม่กล้าที่จะทักทายใครก่อน เพราะเธอไม่ค่อยมีความมั่นใจสักเท่า พ่อแม่บอกเธอเสมอว่าเธอเป็นคนฉลาด แต่ตั้งแต่มาอยู่กรุงเทพ เธอกลับขาดความมั่นใจ อาจเป็นเพราะสังคม อันที่จริง ก็เพราะสังคมนั่นแหละ โอเลี้ยงอดนึกคิดเรื่องสมัยเด็กไม่ได้ เรื่องที่ตัวเองโดนเพื่อนล้อว่าตัวดำบ้างล่ะ ไม่มีเพื่อนคบบ้างล่ะ แต่สุดท้ายแล้ว ทุกอย่างก็ผ่านไปด้วยดี เพราะเธอเป็นคนหัวดี เพื่อนๆเลยอยากเข้าหา แต่เมื่อเธอปรับตัวได้ไม่เท่าไหร่ เธอก็ต้องย้ายบ้ายเพราะเรื่องงานที่คุณพ่อเธอทำ แต่เธอก็โอเค และแค่กลัวที่จะต้องเริ่มต้ยใหม่ ที่นี่มันจะยากเหมือนที่เก่ามั้ยนะ? เธอก็คงต้องรอลุ้นคำตอบต่อไป... โอเลี้ยงเอาแต่คิดเรื่องพวกนี้ในหัวในขณะที่เดินขึ้นบันได และนี่ก็คือสาเหตุ ที่เธออยากนอนโง่ๆที่บ้านมากกว่ามาโรงเรียน เอาล่ะ ถึงห้องเรียนแล้วสินะ         

 

          "เอาล่ะ สวัสดีนักเรียนที่น่ารักทุกคนครูชื่อ ครูกรกนก นะคะ จะมาเป็นครูประจำชั้นให้พวกเธอ หวังว่าเราจะเป็นเพื่อนร่วมห้องที่ดีต่อกันนะคะ ><"      ครูกรกนกกล่าวทักทายเด็กนักเรียนในห้องเรียน ที่กำลังนั่งยิ้มอย่างตื่นเต้น แต้โอเลี้ยงกลับสังเกตเด็กผู้หญิงคนนึง เธอมีผิวที่ขาว ดวงตาสีน้ำตาลน่ารัก แก้มที่น่าหยิก และผมที่ตรงสวยคนนึง กำลังนั่งยิ้มคอเชิ่ดอยู่โต๊ะแถมหน้าสุด แลดูเธอมีความมั่นใจเป็นพิเศษ โอเลี้ยงกวาดสายตาไปรอบห้องในขณะที่ครูกำลังเล่าประวัติโรงเรียน เธอพบว่า เพื่อนร่วมห้องของเธอ ทำไมถึงมีแต่คนหน้าตาดีทั้งนั้นเลย และสิ่งนี้ทำให้เธอหมดความมั่นใจหนักขึ้นไปอีก เธอทำได้แค่นึกถึงคำสอนของพ่อแม่ ที่บอกว่าเราควรมองโลกในแง่ดีเข้าไว้

          "งั้นเรามาเริ่มแนะนำตัวกันก่อนดีกว่า พวกเธอบางคนอาจจะรู้จักกันมาบ้างแล้วสมัยเรียนม.ต้น แต่สำหรับเพื่อนใหม่ ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงใหม่สำหรับพวกเขานะจ๊ะ เอาล่ะ ใครจะเริ่มก่อนคนแรก "

     เด็กสาวมีแก้ม ผิมขาว ผมตรงสวยรีบยกมือขึ้นอยากรวดเร็ว ราวกับว่ากลัวจะมีใครแย่งเธอพูด เธอลุกขึ้นยืนและหันมาให้เห็นถึงหน้าตาที่น่ารักของเธอ พร้อมยิ้มหวานที่ทำเอาใครๆก็หลงไหล

          "สวัสดีค่ะ เราชื่อชเอมนะคะ อดีตเคยเรียนที่นี่ และเป็นหน้าเป็นตาให้โรงเรียนมาตลอด หวังว่าทุกคนจะเป็นมิตรกับเรานะ "

เพื่อนๆหลายคนต่างปรบมือในเธอ เธอยิ้มรับและหันกลับไปนั่งที่เดิม

          "งั้นชเอมเลือกเลยค่ะ ว่าจะให้ใครแนะนำตัวเป็นคนต่อไป" 

     ชเอมยิ้มหวานที่ดูเหมือนจะจริงใจ และหันหน้าชี้ไปที่เด็กหนุ่มคนนึง เขาคนนี้มีหน้าตาที่หล่อเหล่า รูปร่างสูง ผิวขาว ตาคม ทรวดทรงต้องเป็นนักกีฬาแน่ๆ เมื่อเด็กหนุ่มคนนั้นรู้ตัวว่าตัวเองเป็นคนต่อไป เขาก็ลุกขึ้นแนะนำตัวด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ 

          "สวัสดีครับ ชื่อสกาย เรียกสั้นๆว่า กาย เฉยๆก็ได้ครับ " 

     เพื่อนผู้หญิงในห้องต่างพากันกรี๊ดเบาๆ และยิ้มหวานให้เด็กหนุ่มคนนี้ มันก็ไม่แปลกหรอกที่เขาจะได้รับการสนใจมากมาย เพราะหน้าตาเขาหล่อเอาการเลยดีเดียวล่ะ และแล้วการแนะนำตัวก็ถูกส่งๆกันมาเรื่อยๆ จนกระทั่ง มาถึงคิวของเธอแล้ว... โอเลี้ยงลุกขึ้นยืนแบบกล้าๆกลัวๆ ทุกสายตาจับจ้องมาที่เธอ เธอรู้โดยทันทีว่า เพื่อนๆไม่ได้สนใจเธอ แต่สนใจสีผิวของเธอต่าง เธอกำลังคิดว่าตัวเองแต่งตัวไม่เรียบร้อยมัยนะ หรือผมเธอมัดต่ำไป   

          "สวัสดีค่ะ เราชื่อโอเลี้ยงค่ะ เพิ่งเรียนที่นี่ครั้งแรก........ ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ" 

          "ทำไมเธอถึงชื่อโอเลี้ยงล่ะ" เด็กหนุ่มคนนึงถามด้วยความสนใจ

          "อ๋อ พ่อเราชอบกินโอเลี้ยงน่ะ"

          "ไม่ใช่เพราะว่าชื่อมาจากสีผิวของเธอหรอกเหรอ" 

     สายตาของโอเลี้ยงมองไปหาต้นเสียงนั้น เธอจึงได้รู้ว่า เจ้าของคำพูดก็คือ ชเอม เด็กน่ารักที่แนะนำตัวคนแรกนั่นเอง และพอสิ้นสุดคำถามของเธอ เพื่อนๆก็ต่างพากันหัวเราะโอเลี้ยงแบบเบาๆ จนคุณครูต้องกระแอมเสียงให้เงียบ

          "นักเรียนคะ เราไม่ควรล้อเพื่อนเรื่องรูปลักษณ์ภายนอกนะคะ นี่มันหมดยุคบูลลี่กันแล้ว ระวังปากหน่อยนะชเอม เธอเป็นถึงอดีตนักเรียนม.ต้นดีเด่น อย่าทำให้เพื่อนต้องอับอายเพราะคำพูดของเธอนะ รียขอโทษเพื่อนด้วยนะจ๊ะ"

     ชเอมหันหน้ามามองโอเลี้ยงด้วยสีหน้าสำนึกผิดที่ไม่จริงใจเลยสักนิด เธอบอกขอโทษโอเลี้ยงด้วยน้ำเสียงที่เวอร์เกินจะบอกได้ว่ามันคือการแสดง เอาล่ะ ยัยนี่เป็นคนนึงแล้ว ที่โอเลี้ยงรู้สึกได้เลยว่า เธอไม่น่าคบเท่าไหร่ พ่อกับแม่พูดไม่ถูก เราควรมองโลกในแง่ดีก็จริง แต่ก็มองคนที่รูปลักษณ์ไม่ได้

 

     เมื่อถึงเวลาเลิกเรียน โอเลี้ยงจะต้องกลับบ้านเองเสมอ เพราะแม่ของเธอจะไม่ว่างมารับกลับบ้าน ซึ่งเธอเองก็มองว่าเป็นเรื่องที่ดีเหมือนกัน เผื่อวันไหนเธออยากจะแวะเที่ยวเล่นสักหน่อยก่อนกลับบ้าน เพราะถ้าเป็นคุณแม่มารับ ท่านอาจจะให้แวะบ้าง แต่เวลาก็ไม่มากพอที่จะอยู่ต่อสักหน่อย เพราะคุณแม่ต้องรีบกลับมาทำกับข้าวให้พ่อ และเธอกิน 

     เธอกลับบ้านด้วยรถไฟฟ้า อันที่จริง ตอนแรกเธอไม่เคยขึ้นด้วยซ้ำ แต่คุณแม่ก็สอนเธอขึ้น เพราะตอนม.ต้น เธอยังไม่เคยกลับบ้านเอง นานๆทีที่จะได้กลับเองบ้าง แต่เธอก็ร้องไห้เพราะกลัวที่จะกลับคนเดียว พ่อแม่โอ๋อยู่นานกว่าจะดีขึ้น และให้เธอสัญญากับพวกท่านว่า เมื่อโตขึ้น เธอจะต้องหัดกลับบ้านเองให้ได้ ในช่วงปิดเทอมฤดูร้อน คุณแม่ต้องคอยสอนเธอกลับบ้านด้วยทางรถไฟตลอด จนตอนนี้เธอไม่กลัวที่จะชึ้นรถไฟแล้ว

          "นี่! เธอ!! เธออ่ะ!!!" โอเลี้ยงหันไปตามเสียงเรียก เธอพบว่ามีเด็กหนุ่มคนนึง กำลังวิ่งมาหาเธอด้วยท่าทีที่ไม่ดูเหนื่อยเลยสักนิด เขาคนนั้นคือสกายนั่นเอง

          "มีอะไรเหรอ" เธอถาม

          "อ่อ ฉันแค่จะถามเธอน่ะ ว่ากลับรถไฟเหมือนกันหรอ" 

          "อืม ใช่" เธอตอบเสียงเรียบๆ 

          "เป็นอะไรรึเปล่า หรือไม่โอเคที่ชเอมพูดกับเธอเรื่องเมื่อเช้า" เขาถามอย่างสนอกสนใจ

          "อ่อ เปล่าหรอก เราแค่คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ" 

          "แล้วบ้านเธออยู่ไหนหรอ"

          "ถามทำไม" เธอหันไปมองเขาด้วยสายตาที่นิ่งเฉย 

          "เปล่าหรอก ฉันแค่เห็นว่าเธอเป็นเพื่อนห้องเดียวกัน เลยอยากถามไว้ เผื่อเธอไม่สบาย พวกเราจะได้ไปเยี่ยมได้ไง"

          "อ่อ" เธอตอบสั้นๆ เพราะเธอรู้สึกไม่ไว้ใจคนหน้าตาดีสักเท่าไหร่

          "ว่าแต่ พ่อเธอชอบกินโอเลี้ยงจริงๆหรอ" เขาชวนเธอคุยในขณะที่กำลังรอรถไฟมา แต่โอเลี้ยงกลับรู้สึกว่า ยิ่งถามยิ่งไม่อยากตอบ

          "นี่ เธอดูนิ่งมากเลยนะ เธอรังเกียจฉันขนาดนั้นเลยหรอ" 

          "เปล่านะ" เธอรีบหันไปตอบ

          "แล้วทำไมถึงพยายามหลบหน้าฉันล่ะ หรือว่าเธอ....กลัวคนหล่อ" คำพูดนี้ทำเอาโอเลี้ยงถึงกับต้องถอนหายใจหันไปตอบเขาโดยทันที

          "ใช่ พ่อฉันชอบกินโอเลี้ยง และฉันก็ไม่ได้กลัวคนหล่อแบบที่นายคิดหรอกนะ" 

          "งั้นเรามาเป็นเพื่อนกันนะ ไหนๆก็เพื่อนร่วมห้องกันแล้ว มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน ถ้าเธอไม่เข้าใจอะไรก็ถามฉันได้เสมอเลยนะ"

      โอเลี้ยงรู้สึกว่า ผู้ชายคนนี้ดูชวยคุยเก่งเป็นพิเศษ เขาคุยแบบนี้กับทุกคนเลยหรอ แต่ก็เอาเถอะ คิดเสียว่า เธอได้เพื่อนคนแรกในห้องของเธอก็แล้วกัน และเธอก็คงไม่คุยกับเขาแบบนี้บ่อยๆเช่นกัน 

     ไม่กี่นาทีต่อมา เสียงรถไฟก็ดังมาแต่ไกล โอเลี้ยงกับสกายต่างเดินขึ้นรถไฟกัน และตั้งแต่เข้ามาในรถไฟ สกายก็เอาแต่ใส่หูฟังฟังเพลงของเขาแบบไม่สนใจใคร มีอยู่ช่วงแว๊บนึงที่เขาหันมามองโอเลี้ยงแล้วก็ยักคิ้วให้ โอเลี้ยงรู้สึกว่าเป็นแบบนี้แหละดีแล้ว เพราะเธอก็อยากอยู่แบบสงบๆเหมือนกัน และแล้วรถไฟก็มาถึงชานชลาที่โอเลี้ยงต้องลง จังหวะที่เธอกำลังจะเดิกออกประตูก็มีเสียงตะโกนมาว่า

     "ยินดีที่ได้รู้จักนะ! ยัยเฉิ่ม!!!!!!" 

     โอเลี้ยงรีบหันหน้าไปมอง พอสิ้นสุดเสียงนั้น ประตูรถไฟก็ปิด และตัวรถไฟก็แล่นไปตามเส้นทางของมัน โฉมหน้าของสกายก็ค่อยๆเคลื่อนผ่านเธอไปจนลับสายตา 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายฟิคชั่นเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา