Fanfic สองรัก (บาส&บอล)
เขียนโดย ณัฐพล
วันที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 19.41 น.
แก้ไขเมื่อ 6 มกราคม พ.ศ. 2564 20.13 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
11) กลับมาคืนดีกัน(ตอนแรกของการเดินทาง)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จ บาสอมยิ้มที่ได้คุยกับอาภาคิน เขาเองก็มักจะถามเรื่องอาภาคินว่าเคยมีแฟนหรือเปล่า คำตอบของทหารยศพันโท ก็คือ ยังไม่เคยมี จนบาสนั้นก็ชักจะอยากติดรถไปกับอาภาคิน เพราะคำสั่งของทหารนั้นออกมาเมื่อไหร่ต้องไปเมืองปัตตานี เขาคิดในระหว่างทางขากลับจากรับประทานอาหารเย็น และปล่อยให้คนที่นั่งอยู่ข้างหน้าคุยกัน
“ผมว่าบาสลูกชายคุณพูดได้ดีนะครับ แบบว่าเขามีความคิดเป็นของตัวเอง”ภาคินตอบก่อนสลับลดกระจกมองหลังให้มองเห็นคนอยู่ท้ายรถ
“ใช่ค่ะ แต่ฉันเป็นแม่เขาเราต้องดูแลแกอย่างห่างๆ”
“แต่ผมคิดว่า แกสั่งอาหารและยังรู้ใจแม่เลยนี่ครับว่าแม่ของแกชอบทานอะไร”ภาคินพูดอย่างสุดปลื้ม
“ก็งั้นๆ นั่นแหล่ะมั๊งคะ คุณภาคินคะ ถ้าคำสั่งออกมาก็อย่าลืมโทรมาหามาด้วยนะคะ”
จุติมาย้ำอีกครั้ง
“ครับผมจะไม่ลืม”
ก่อนที่ภาคินจะเลี้ยวมายังหน้าร้านตัดเสื้อของจุติมา ก่อนให้สองแม่ลูกได้ลงจากรถ ในขณะเดียวกันแม่บ้านลิลี่ก็เดินออกมาต้อนรับ
“คุณนายกลับมาแล้วหรอคะ”
จุติมาอมยิ้มก่อนจะหันไปโบกไม้โบกมือให้อีกฝ่ายที่นั่งอยู่ฝั่งคนขับ บาสก็เดินเลี้ยวเข้าบ้านไป
“นั่นคือใครหรอคะ ที่มาส่ง”
“สามีใหม่ของฉันเองลิลี่”
“สามีใหม่”แม่บ้านลิลี่เอ่ยขึ้นอย่างตกใจ
“ใช่นะสิ แล้วมีลูกค้าโทรมาไหมตอนที่ฉันไม่อยู่”
“ไม่มีนี่คะคุณผู้หญิง แต่มีFax ส่งมาจากปัตตานีจ่าหน้าเขียนชื่อว่า “พงษ์พช”
“บอลส่งมาหรอ ไหนมาเอาให้ฉันทีหน่อยสิ”
แม่บ้านหยิบเอกสารที่ส่งมาทางFax ก่อนที่จะเปิดอ่าน
ในกระดาษเขียนไว้ว่า
‘บาสเพื่อนรัก ตอนนี้เราคิดถึงแม่ เราอยู่กับพ่อในตอนนี้ก็ไม่ได้กินไม่ได้นอน เราเองก็กินข้าวไม่ค่อยลงถ้านายมาปัตตานีเมื่อไหร่ ส่งFax
มาหาเราด้วยนะเพื่อน แม่ครับผมคิดถึงแม่ ถ้าแม่สบายดีอย่าห่วงผมเลยนะครับ ผมก็สบายดีที่นี่มีเพื่อนๆ เยอะ อย่าห่วงเลยนะครับ’
ก่อนที่จุติมาจะพับเก็บไว้เหมือนเดิม
“ไปตามบาสมาหาแม่เดี๋ยวนี้”เขาวานใช้แม่บ้านให้ไปตามอีกฝ่ายมา
ในตอนนี้บาสกำลังเก็บแผ่นซีดีเข้าชั้นก่อนแม่บ้านจะเรียนอีกฝ่ายให้ลงไปหาแม่
“คุณหนู คุณผู้หญิงเรียกให้ไปพบ”
พอสิ้นเสียงบาสก็รีบเดินออกมาก่อนที่จะลงบันใดอย่างเสรี
“แม่มีอะไรหรอครับ”
จุติมายื่นกระดาษให้บาสก่อนที่จะเปิดอ่าน
“บอลส่งFax มา เขาคงคิดถึงแม่นะสิครับ”บาสเอ่ยขึ้น
“ใช่ แม่พูดจริงๆ นะ แม่ก็คิดถึงบอล”
“ผมเองก็คิดถึงครับ ผมผิดเองที่สลับตัวกับบอล”
บาสโทษตัวเอง
จุติมาดึงตัวบาสเข้าโผกอดก่อนที่จะเอ่ยขึ้น
“ลูกอย่าโทษตัวเองสิ เข้มแข็งไว้นะ”
แม่บ้านออกความคิดเห็น
“คุณผู้หญิง คุณหนูลิลี่ว่าเราไปที่ปัตตานีเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”
“ไม่ได้ เราต้องไปกับอาภาคิน”บาสบอก
“แล้วเขาจะไปเดือนไหนหรอ”ลิลี่ถามอีกฝ่าย
“เดือนหน้าครับ”
“เดือนหน้าหรอ วันๆ หนึ่งก็ผ่านไปเร็ว”
ในตอนนี้บอลนั้นโดนกักขังไว้ในห้อง เขาหาหนังสือที่บาสเคยเก็บไว้ ในนี้มีนิยายเล่มเล็กเขาหยิบมาอ่านเพื่อแก้ขัด
ก่อนที่จะมีเสียงเคาะอยู่หน้าประตู “ก๊อก ก๊อก”ก่อนที่คนข้างนอกจะเอ่ยขึ้น
“คุณหนูบาส อาหารเย็นมาแล้วครับ”เสียงของน้าพละกำลังวางจานไว้หน้าห้อง
“เดี๋ยวจะเปิดไปกินเดี๋ยวนี้”
พูดจบบอลเปิดประตูก่อนที่จะคว้าจานที่มีข้าวอยู่เข้าไปกินก่อนที่จะรีบปิดประตู
“พ่อของเราไม่ยุติธรรมเลย ที่จะขัดคำสั่งของเรา แสดงว่าพ่อเราชอบยัยแม่เลขานั่น นี่แหล่ะนะ หลงหอยจริงๆเลย”บอลบ่นพึมพำ
“คุณหนูอย่าไปใส่ใจเลย แกก็เป็นแบบนี้ทุกครั้ง”
น้าพลปลอบใจ
“น้าพล รู้ไหมว่าผมทำไมถึงอยากให้แม่ผมกลับมาคืนดีกับพ่อ”
“ไม่ทราบสิครับ”
“เพราะว่า แม่เคยบอกว่าพ่อนะเจ้าชู้ประตูดิน ถ้าพ่อเราเลิกเจ้าชู้ เวลาตายไปคงไม่ตกนรก ผมเคยอ่านหนังสือแนวธรรมะ พระท่านเคยสอนเราว่า
ศีลข้อสาม คือห้ามประพฤติผิดในกาม หรือผิดลูกผิดเมียคนอื่นมันบาปนะน้า”
น้าพลซึ้งก่อนเอ่ยขึ้น
“ก็ใช่นะคุณหนู แต่น้าคงช่วยไม่ได้แล้วละ งั้นน้าไปก่อนนะ”
คนขับรถได้เดินออกไปจากตรงนั้นก่อนที่จะปล่อยให้บอลอยู่ข้างในห้องแต่โชคดีคือ มีนิทาน นิยายเล่มเล็ก มากมายให้อ่าน
ภายในห้องเงียบสงบก่อนที่จะบอลจะอ่านมันจนจบเล่ม
หนึ่งเดือนต่อมา
ณ เมืองนครพนม ในเช้าเริ่มวันใหม่ของเดือน ก่อนที่จะมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“ฮัลโหล”
“คุณมา”เสียงปลายสายเป็นทหารหนุ่ม
“อ้าวคุณภาคิน คำสั่งออกแล้วหรอคะ”จุติมาถามปลายสาย
“ครับ วันที่สิบ มิถุนายน คำสั่งเขาแจ้งว่าให้ผมไปปฏิบัติภารกิจในสามจังหวัดชายแดนใต้ครับ”
“หรอคะ ดีใจจังที่จะได้ไปเที่ยวที่นั่น”
ก่อนที่บาสจะรีบวิ่งลงบันใดมาก่อนที่จะเห็นแม่ของตนกำลังคุยกับใครในปลายสาย
“แม่ครับ ใครโทรมาครับ”
ก่อนที่จุติมาจะกดวางสาย
ก่อนที่จะแจ้งให้อีกฝ่ายทราบ
“อ๋อ อาภาคินโทรมานะลูก”
“อาเขาว่าอะไรบ้างละครับแม่”
จุติมารีบบอก
“อาภาคินบอกว่า วันที่สิบ เดือนนี้จะไปปฏิบัติภารกิจที่ปัตตานี เขาบอกว่าลูกกับแม่จะไปที่นั่นแล้ว”
“จริงหรอครับแม่”
สองแม่ลูกกอดกันอย่างดีใจ ก่อนที่แม่บ้านจะเดินออกมา
“คุณหนู คุณผู้หญิง ดีใจอะไรหรอคะ”
“คือว่า เรากับบาส จะพากันไปที่ปัตตานีแล้วค่ะ ลิลี่”
“ยินดีด้วยนะคะส่วนบ้านหลังนี้จะให้ฉันเฝ้าบ้านเหอะ”
จุติมาส่ายหน้าก่อนตอบ
“มาว่าให้ลิลี่ไปด้วยละกันเห็นบอกว่าคิดถึงใครนะ น้าพลด้วยไม่ใช่หรอ”
ลิลี่ใบหน้าแดงก่ำก่อนที่จะปฏิเสธไป
“ไม่นี่คะ ลิลี่แค่คิดถึง”
บาสได้ยินเลยย้อน
“ผมว่าลิลี่ไปด้วยกันนะครับ ส่วนเรื่องบ้านมีคนเฝ้าให้แล้ว”
ทั้งสองคนถาม
“ใคร จะ มา เฝ้า บ้าน ละ”
บาสอมยิ้มก่อนที่จะตอบไป
“ก็ฮาน่าไงครับ เขาบอกว่าจะอาสาเฝ้าบ้านให้”
ทั้งสองพยักหน้าก่อนที่บาสจะเรียกฮาน่า
“ฮาน่า ฮาน่า ช่วงนี้เธอว่างไหม”
อีกฝ่ายพยักหน้า
“ก็ว่างนะ มีน้าๆ ของฉันมาเยอะเลย ว่าแต่ถามทำไมหรอ”
บาสจึงเอ่ยขึ้น
“ก็เรานะอยากให้น้าๆ ของเธอเฝ้าบ้านนะสิ เพราะว่าเราจะติดรถกับอาที่เป็นทหารไปปัตตานี”
“ปัตตานีหรอ”
“ใช่ ฉันจะให้แม่ฉันไปคืนดีกับพ่อที่ปัตตานี”
ฮาน่าอมยิ้มก่อนสำรวจรอบๆ ตัว
“ฉันจะขออะไรบางอย่างละกันนะ ขอให้พ่อของเธอคืนดีกับแม่เธอด้วยนะ”
บาสอมยิ้มก่อนที่จะตอบไป
“ขอบคุณนะ ฉันว่าคงสำเร็จแล้วละ แต่ถ้าหากว่าเสร็จงานเธอคงไม่เป็นลมละนะที่ฉันมีสองคน”
ฮาน่าฉงนกับคำว่า ‘คงไม่เป็นลมละนะที่เขามีสองคน’ก่อนที่จะยังคาใจอยู่เสมอ
ณ ปัตตานี
เสียงแว๊ดๆ ดังลั่นภายในสำนักงาน ก่อนที่จะมีพนักงานชายหญิงมองมาที่ต้นเสียง ก่อนที่จะรู้ว่าเป็นรัตนาหรือรัตน์กำลังคุยกับ เจ้าของโรงงาน
“พี่วิทย์ขา ลูกชายของพี่นะสิคะ ฉันเกลียดมันเด็กอะไรทำตัวอย่างกับคนปัญญานิ่มไม่สิ คนปัญญาอ่อน ก็สมควรนี่คะที่มันโดนขังไว้ในห้อง
รัตน์นะเกลียดมัน น่าจะส่งให้ไปอยู่กับแม่มันจังเลย”
ประวิทย์ห้ามปราม
“อย่าไปว่าเขาแบบนั้นสิ ถึงแม้ว่าบาสเขาจะเป็นคนแบบนั้นแต่เขาก็มีสัมผัสพิเศษนะ”
รัตน์หันมามองหน้าอีกฝ่ายก่อนที่จะเบิกตาโต
“สัมผัสบ้าบออะไรคะ ไอ้ควายบาสอะไรเนี่ย ไม่เห็นมีสัมผัสพิเศษเลย ก็แค่เด็กธรรมดา”
เธอพูดอย่างหมั่นไส้
“อย่าไปว่าเขาเลยนะรัตน์ ปล่อยเขาไปเหอะ ตอนนี้เราแต่งงานแล้วนี่แบบลับๆ แล้วนะ”
“พี่วิทย์ขา ในตอนนี้รัตน์ก็มีพี่แล้วนี่คะ ส่วนเรื่องไอ้เด็กเมื่อวานซืนก็ปล่อยมันเข้าป่าไปถ้ามันโดนลอยแพคงจะดีมากๆ เลย”เธอพูดอย่างประชด
ประวิทย์ปลอบใจ
“ชั่งมันเถอะ ก็แค่เด็กลูกติดเมียเก่ามันก็ของตายแล้วนี่”
ประวิทย์บอก
“ถ้ามันไปตายก็คงดีเนอะ ส่วนรัตน์เองก็จะไปใช้ชีวิตด้วยกันสองต่อสอง”
ก่อนที่จะบอกแบบเรียบๆ
ในตอนนี้ประวิทย์ยังหลงคารมณ์กับคนตรงหน้าก่อนเสแสร้งทำเป็นพยักเพยิด
พนักงานในโรงงานไม่เห็นบาส(บอล)ก็เลยถามหา
“เห็นบาสไหม น้าพล”
ตอนนี้พลคนขับรถกำลังก้มหน้า
“เห็น แต่โดนท่านประธานกักขังไว้ในห้องแล้ว”
“หา! โดนขังไว้ในห้องหรอ”
“ใช่แล้วละ เราเองก็ได้แต่สงสารคุณหนูถ้าเป็นแบบนี้คงเหงาแน่ๆ เลย”
พนักงานที่สนิทกับบอลก็อดสงสารอีกฝ่ายไม่ได้ เพราะไม่มีใครกล้าขัดคำสั่งเลยสักคนเดียวแต่ก็ต้องกล่ำกลืนฝืนทน
ณ นครพนม ในวันที่กำลังออกเดินทาง บาสขนสัมภาระไปใบใหญ่ มีล้อ พร้อมด้วยสองคนที่เหลือนั่นคือ จุติมากับ ลิลี่
ก็กำลังจะปิดบ้านเพื่อที่จะออกเดินทางไปยังปัตตานี รถสีน้ำเงิน มีกะบะตอนเดียว กะบะท้ายมีหลังคาก็มาหยุดอยู่ตรงหน้า
“แม่อาภาคินมาถึงแล้ว”
บาสรีบเดินไปขึ้นกะบะท้ายก่อนที่จะเอากระเป๋าไว้อีกทาง ก่อนยื่นมือจับมือลิลี่เพื่อให้ขึ้นกะบะท้ายด้วย ส่วนจุติมากำลังมองสำรวจความเรียบร้อย
“คงจะเรียบร้อยแล้วเนอะบาส”
“ครับแม่ เรื่องนี้ผมกับพี่ลิลี่จะดูแลเอง”
ก่อนที่จุติมาจะเปิดประตูเข้าไปนั่งตอนหน้า ก่อนจะหันมามองภาคินวันนี้เขาแต่งตัวสวมชุดลำลองพร้อมหยิบชุดทหารที่วางอยู่ตรงกลาง
และสิ่งที่สำคัญคือ ปืนพก อีกหนึ่งกระบอก จุติมาจึงเอ่ยขึ้น
“คุณภาคิน ไปขนาดนี้ยังพกปืนไปด้วยหรือคะ”
“ครับ กลัวเหตุจี้ปล้นระหว่างทางครับเพื่อความปลอดภัย”
“ออกเดินทางกันเลยดีกว่าค่ะ”
“ครับ”
จบบทสนทนาแล้ว รถคันดังกล่าวก็เคลื่อนออกไปตามถนนหลวง ก่อนที่จะสลับไปมองยังข้างหลังบาสอมยิ้มให้ภาคินก่อนยกนิ้วโป้งให้ว่า
ไม่เป็นไรอย่าห่วง ส.บ.ย.ห ก่อนที่จะอมยิ้มให้ลิลี่ เขาไม่เคยลำบากอะไรแบบนี้มาก่อนเสียเลย
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง
✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ