ตราบาปสีขาว

9.6

เขียนโดย Chapond

วันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2561 เวลา 14.10 น.

  28 ตอน
  115 วิจารณ์
  50.82K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2561 10.52 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

28) 28 พยายามจะหักห้ามใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

ชั้นยอมมาทานข้าวกับคุณแล้วคุณคืนมือถือชั้นเถอะนะ”ฟางที่นั่งทานข้าวกับป๊อปปี้ที่ร้านอาหารของที่พักก็เอ่ยขึ้น เพราะเมื่อเธอตื่นขึ้นมาและอยู่กับ

เขาที่นี่ แสดงว่าเขาจะต้องเก็บมือถือของเธอไปแน่ๆ

 

 

 

“ขืนให้ไปตอนนี้ก็เอาไปโทรตามให้บรรดาหนุ่มๆของคุณมารับสิ ไม่มีทาง”ป๊อปปี้ยิ้มก่อนที่จะตอบมากวนๆ แล้วทำทีเป็นดื่มน้ำไม่สนใจฟาง

 

 

 

“นี่คุณต้องการอะไรจากชั้นกันแน่ รึว่านิสัยเจ้าชู้ของคุณกำเริบขึ้นมาอีก ชั้นไม่อยากเข้ามาอยู่ในวงจรบ้าๆนี้ของคุณหรอกนะ”ฟางโวยวาย

 

 

 

“ถ้าไม่อยากยุ่งก็คงไม่มาอยู่ตรงนี้หรอก เอาล่ะทานเสร็จแล้วใช่มั้ย ไปกันเถอะ”ป๊อปปี้พูดก่อนที่จะรีบดึงมือฟางให้ลุกขึ้นเดินตามเขาออกไป

 

 

 

 

“นี่คุณจะพาชั้นไปไหน หยุดเดี๋ยวนี้ชั้นจะกลับ”ฟางโวยวายและพยายามขืนตัวเองแต่ไม่เป็นผลเมื่อป๊อปปี้ลากเธอมาขึ้นรถและกว่าฟางและป๊อปปี้จะนั่ง

บนรถได้สำเร็จก็เล่นเอาเขาแทบหอบ

 

 

 

 

“เอ้าหมดฤทธิ์แล้วล่ะสิ นั่งเงียบเชียว”ป๊อปปี้เหล่มองฟางที่นั่งกอดอกหน้างอไม่ยอมพูดกับเขามาตลอดทาง

 

 

 

 

“ใครว่าล่ะ ตอนนี้ชั้นเก็บแรงเอาไว้ เพราะถ้าคุณจอดรถชั้นนี่ล่ะ จะรีบวิ่งหนีทันที”ฟางหันขวับกลับไปบอกชายหนุ่มอย่างไม่กลัว

 

 

 

 

“กะแล้วว่าต้องคิดแบบนี้ ดีนะที่เตรียมมาด้วย”ป๊อปปี้เหล่มองฟางเล็กน้อยก่อนที่จะคว้ากุญแจมือออกมาใส่ให้กับฟาง

 

 

 

 

“กรี๊ดด จะบ้ารึไง ทำอะไรของคุณเนี่ย”ฟางร้องตกใจเมื่อป๊อปปี้จับเธอใส่กุญแจมือแล้วหันไปมองป๊อปปี้ด้วยสายตาไม่พอใจ แต่ชายหนุ่มกลับหัวเราะ

ชอบใจแล้วขับรถออกไปจากที่พักทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่ชั้นยังไม่ตายจริงๆหรอเนี่ย”เฟย์ตาตื่นขึ้นมาแล้วมองไปรอบๆห้องก่อนที่จะพึมพำกับตัวเอง แล้วมองไปยังรูปถ่ายของขิมและเขื่อนที่ถ่ายกับแม่ของ

พวกเขา ใบหน้าที่ยิ้มแย้มสดใสของขิมมันทำให้เธอคิดถึงเรื่องราวในอดีต ขิมคือเพื่อนที่ดีของเธอคนหนึ่งในตอนนั้น แต่เธอกลับตอบแทนมิตรภาพ

ของเพื่อนคนนี้ได้อย่างเลือดเย็น

 

 

 

 

“ชั้นขอโทษขิม ชั้นผิดไปแล้ว ถ้าชั้นย้อนเวลาไปได้ ชั้นจะไม่มีวันทำแบบนั้น”เฟย์หยิบรูปของขิมออกมาแล้วพูดขึ้นก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา เฟย์

ร้องไห้อยู่ตรงนั้นสักพักก่อนที่จะปาดน้ำตาแล้วตั้งสติเดินออกมาจากห้องนั้น เมื่อเฟย์เดินออกมาเรื่อยๆพบว่าที่นี่คือบ้านพักของเขื่อนที่เกาะส่วนตัวที่

เธอเคยแอบมาสืบความจริงของเขื่อนกับฟาง พลันสายตาของเฟย์เห็นพยาบาลเดินถือถาดยาเข้าไปในห้องๆหนึ่ง เฟย์รีบเดินตามไปทันที

 

 

 

 

“ขิมไปไหนเขื่อน แม่อยากเจอขิม”เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นทำให้เฟย์ชะงักแล้วมองไปยังผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งรถเข็นยืนหันหลังมองทะเลอยู่ริม

ระเบียงห้องกับเขื่อน

 

 

 

“น้องไปเรียนไงครับแม่ แม่ไม่ต้องห่วงนะครับ มาทานยาหลังอาหารดีกว่านะแม่”เขื่อนฝืนยิ้มก่อนที่จะเปลี่ยนเรื่องคุย

 

 

 

 

 

“ไม่เอา จะไปหาขิม เขื่อนเราเป็นพี่นะ ทำไมไม่ดูแลน้อง ถ้าน้องเป็นอะไรไปจะว่ายังไง”แม่ของเขื่อนโวยวายแล้วดุลูกชายทำให้เขื่อนต้องเบือนหน้า

หนี อีกครั้งแล้วสินะ ที่หลังจากแม่ช็อคกับเรื่องของขิมแล้วออกจากโรงพยาบาล เธอก็มีแต่ความทรงจำก่อนที่ขิมตายเท่านั้น

 

 

 

 

“ผมขอโทษครับแม่ที่ผมดูแลน้องไม่ดี”เขื่อนพูดเสียงสั่นคิดถึงเรื่องราวของน้องสาวและแม่ของเขาที่ต้องเจอชะตากรรมแบบนั้น

 

 

 

 

“ร้องไห้ทำไม ไม่ต้องร้องนะ”แม่ของเขื่อนที่ทานยาเสร็จเห็นเขื่อนร้องไห้ก็ดึงลูกชายไปกอด ภาพเหล่านั้นมันยิ่งทำให้เฟย์สะเทือนใจกว่าเดิม เพราะ

ความคึกคะนองของคนกลุ่มหนึ่งต้องทำลายครอบครัวหนึ่งไปแบบนี้

 

 

 

 

“อ้าวคุณ ฟื้นแล้วหรอคะ”พยาบาลที่เอายาให้แม่เขื่อนเสร็จหันมาเห็นเฟย์ที่ยืนอยู่ก็ร้องทักขึ้นทำให้เขื่อนผละออกจากแม่ของเขาเดินเข้ามาหาเฟย์

ทันที

 

 

 

 

“ชั้นเจ็บนะ ไหนคุณบอกว่า แม่ของคุณเสียไปแล้วไง นี่มันอะไรกัน”เฟย์ร้องมือถูกร่างสูงคว้าแขนเธอมาอย่างแรงก่อนที่จะรีบถาม

 

 

 

 

“มันไม่ใช่เรื่องที่เธอจะต้องมารับรู้เรื่องครอบครัวชั้น มานี่”เขื่อนว่าก่อนที่จะรีบกระชากร่างบางเดินออกมาจากห้องแม่เขาทันที

 

 

 

“โอ๊ย ถ้าจะทำกันขนาดนี้แล้วจะมาช่วยชั้นออกมาทำไมคนใจร้าย ทำไมไม่ปล่อยให้ชั้นตายเลยล่ะ”เฟย์ถูกเขื่อนลากกลับมาที่ห้องก่อนที่จะเหวี่ยงร่าง

บางลงไปที่เตียงทำให้เฟย์ถึงกับพูดตัดพ้อกับความเอาแน่เอานอนของคนใจร้ายคนนี้ไม่ได้

 

 

 

 

“ชั้นจะปล่อยเธอตายได้ยังไง ในเมื่อเธอยังไม่มาขอขมาขิมแล้วก็แม่ของชั้น และอีกอย่างถ้าปล่อยให้เธอตายไป แล้วใครจะเป็นพยานจัดการไอ้ตัวการ

ที่ทำน้องชั้นตายล่ะ”เขื่อนพูดแล้วหยิบเอาโซ่ยาวเส้นหนึ่งมาล่ามเฟย์เอาไว้กับเตียง

 

 

 

 

“นี่คุณจะบ้าไปแล้วหรอ จับชั้นล่ามโซ่แบบนี้ไม่ได้นะ คนบ้า คนใจร้าย คน อื้ออ”เฟย์ดิ้นโวยวายอยู่ในอ้อมกอดเมื่อถูกเขื่อนล็อกตัวเพื่อที่จะล่ามโซ่เธอ

ก่อนที่เสียงโวยวายของเธอถูกกลืนหายไปเมื่อถูกชายหนุ่มบดจูบอย่างร้อนแรงก่อนที่เขาจะค่อยๆดันเฟย์ลงไปนอนกับเตียงแล้วค่อยๆเปลี่ยนรสจูบที่

ร้อนแรงนั้นเป็นหอมหวานทำให้ร่างบางที่สัมผัสรสจูบแล้วเริ่มเคลิบเคลิ้มโอนอ่อนไปกับสัมผัสนั้น

 

 

 

 

“อยู่ในห้องนี้ ถ้าไม่อยากล่ามโซ่ก็อย่าคิดหนี เพราะเธอคือตัวประกันของชั้น”แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะทำอะไรต่อไป เขื่อนก็ได้สติก่อนที่จะผละออกจากเฟย์

แล้วพูดขึ้นก่อนที่จะรีบเดินออกไปจากห้องทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“เดี๋ยววันนี้คงได้อยู่กับน้ำหนึ่งนานหน่อย เพราะวันนี้ชั้นได้ยินมาว่าแม่มีธุระกว่าจะมาอีกทีก็ตอนน้ำหนึ่งผ่าตัดเสร็จ”โทโมะเดินคุยกับแก้วระหว่างเดิน

เข้ามาในโรงพยาบาล

 

 

 

 

“ขอบคุณนะที่ให้ชั้นได้เจอกับลูก”แก้วพูดขึ้นแล้วคิดถึงเมื่อวานที่โทโมะมาส่งเธอที่ห้องพักแล้วนั่งอยู่กับเธอจนดึกก่อนที่จะกลับไป

 

 

 

 

“การที่แม่ได้เจอกับลูกมันเป็นเรื่องดีไม่ใช่หรอเอาเถอะ ถึงห้องลูกแล้วเข้าไปกันเถอะ”โทโมะพูดก่อนที่จะเปิดประตูเข้ามาในห้องแล้วทั้งคู่ต้องตกใจ

เมื่อคนของแม่และแม่ของเขานั่งรออยู่ก่อนที่แก้วจะถูกพวกของแม่เธอจับตัวไป

 

 

 

“นี่มันอะไรกัน นายหลอกชั้นให้มาหาแม่นายงั้นหรอ”แก้วตกใจก่อนที่จะหันไปโวยวายใส่โทโมะ

 

 

 

 

“ชั้นไม่รู้เรื่องนะ ถ้ารู้ชั้นก็ไม่พาเธอมาที่นี่หรอก”โทโมะพยายามอธิบายกับแก้ว

 

 

 

“นี่ถ้าคนของแม่ไม่เห็นว่าเราพายัยลูกหนี้คนนี้เข้าออกโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น เราก็คงจะไม่บอกแม่ใช่มั้ย นี่นึกยังไงถึงจะไปช่วยมันทำไมถึงขัดคำสั่ง

แม่ มันเคยทำร้ายเรา แล้วเราก็เกลียดมันไม่ใช่หรอ”แม่ของโทโมะโวยวายใส่ลูกชายไม่หยุด

 

 

 

 

“แต่อย่างน้อยแก้วเป็นแม่ของน้ำหนึ่ง ช่วงเวลาที่สำคัญอย่างการผ่าตัด ลูกควรได้กำลังใจจากแม่ที่เลี้ยงเค้ามานะครับ น้ำหนึ่งจะได้มีกำลังใจในการ

เข้าผ่าตัด”โทโมะอธิบาย

 

 

 

 

“แต่คำสั่งของแม่คือห้ามไม่ให้ผู้หญิงคนนี้เข้ามายุ่งกับน้ำหนึ่ง เราก็ยังจะฝ่าฝืนคำสั่งของแม่อีกนะโทโมะ นี่ถ้าเกิดถูกพวกนั้นจับไปทรมานอีกล่ะจะว่า

ยังไง”แม่ของโทโมะไม่พอใจรีบว่าบ้าง

 

 

 

 

“ชั้นคงไม่ทำเรื่องแบบนั้นอีกแล้วล่ะ เพราะถ้าเลือกได้ชั้นก็อยากจะต่างคนต่างอยู่กับคนอย่างพวกคุณ”แก้วรีบว่าทำให้โทโมะหันขวับไปมองอย่าง

ตกใจ

 

 

 

 

“แต่สุดท้ายเธอก็ยังเข้ามายุ่งกับลูกชายชั้น ไปอยู่กับลูกชั้นที่คอนโดอีก เนี่ยหรอคนไม่อยากยุ่ง หึ บอกไว้เลยนะ อย่างเธอมันก็แค่ของเล่นฆ่าเวลาของ

ลูกชั้นเท่านั้น ไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลย ถ้าเบื่อเค้าก็ทิ้งไปหาคนใหม่ เอ รึว่าจริงๆแล้วเธอก็แค่อยากจะใช้วิธีลัดปลดหนี้ด้วยการเอาตัวเข้าแลก

ลูกชายชั้นล่ะสิ พวกคนอย่างเธอสมองมันก็คิดได้แค่นี้สินะ”แม่โทโมะยิ้มเยาะพร้อมกับพูดจาดูถูกแก้ว เสียๆหายๆทำให้ร่างบางที่ถูกจับอยู่นิ่งและเม้ม

ปากเข้าหากัน จริงอย่างที่แม่โทโมะบอก โทโมะก็แค่เห็นเธอเป็นของเล่นในตอนนี้ ถ้าเบื่อเค้าก็พร้อมที่จะทิ้งไปหาคนใหม่

 

 

 

 

 

“แต่เรื่องนี้มันไม่เกี่ยวกับการที่ผมจะควงใครเลยนะแม่ แค่แม่ลูกได้เจอหน้ากันแค่นี้เองเหมือนกับแม่ที่พยายามทำทุกอย่างที่จะตามหาผม”โทโมะรีบ

พูดแต่กลับยิ่งตอกย้ำแก้วว่าเขาไม่ได้สนใจอะไรเธอจริงๆ

 

 

 

 

“ได้ยินชัดแล้วนะคะ ว่าลูกชายของคุณไม่ได้สนใจอะไรในตัวชั้นเลยที่เค้ามาช่วยก็แค่เรื่องลูก เค้าแค่รู้สึกสมเพชชั้น สบายใจได้นะคะ ว่าชั้นไม่ได้หวัง

เอาตัวเข้าแลกเพื่อใช้หนี้อย่างที่คุณว่าหรอกค่ะ หนี้ทั้งหมดทุกบาททุกสตางค์ชั้นจะหามาคืนคุณเอง”แก้วเงยหน้าขึ้นมาตอกกลับแม่ของโทโมะทันที

ก่อนที่จะสะบัดมือที่เกาะเธออยู่ทิ้งแล้วหมายจะเดินหนีโทโมะรีบไปคว้าแขนแก้วเอาไว้ไม่ให้เธอไปไหน

 

 

 

 

“แกจะไปยุ่งกับผู้หญิงคนนี้อีกทำไม ในเมื่อแกบอกเองตอนนั้นว่าแกไม่ได้รักผู้หญิงคนนี้แล้วแกจะไปยุ่งทำไมโทโมะ ทำไมต้องช่วยมัน ปล่อยแม่นั่น

เดี๋ยวนี้นะ”แม่ของโทโมะตกใจมากกับภาพที่เห็นก็รีบโวยวาย โทโมะนิ่งไม่ตอบแม่แต่ก็ไม่ยอมปล่อยมือจากแก้วเช่นกัน

 

 

 

 

 

“นี่ ปล่อยชั้นเถอะนะ แม่นายไม่พอใจใหญ่แล้ว”แก้วพยายามพูดแต่โทโมะไม่ยอมปล่อยแก้วดึงแก้วออกมาจากคนของแม่เขา

 

 

 

 

“อย่ามายุ่งกับผู้หญิงคนนี้ เค้าคือผู้หญิงของชั้น”เมื่อคนของแม่โทโมะจะเข้ามาจับแก้วอีกครั้งโทโมะรีบดันตัวแก้วไปไว้ด้านหลังเขาก่อนที่จะพูดขู่ด้วย

น้ำเสียงเรียบปนความน่ากลัวแก้วอึ้งเมื่อได้ยินโทโมะพูดออกไปแบบนั้น

 

 

 

 

 

“นี่จะพากันไปไหน ถ้าแกไปจากห้องนี้ถือว่าเราขาดกัน เออ จะไปก็ไปต่อไปนี้ก็ไม่ต้องกลับมาที่บ้านอีก อยากจะช่วยนังลูกหนี้คนนี้ก็ไม่ต้องมาเคารพ

ชั้นเป็นแม่”แม่ของโทโมะรีบสั่งห้ามไม่ให้โทโมะพาแก้วออกไปจากห้องแต่ชายหนุ่มไม่สนใจทำให้แม่ของเขารีบตะโกนว่าชายหนุ่มไล่หลังไปทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นี่มันอะไรกัน เค้าหายไปไหนของเค้านะ”ทางด้านฟางที่นั่งรถมากับป๊อปปี้แต่ไม่ยอมคุยกับเขาจนร่างบางเผลอหลับก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาเมื่อพบว่าเธอนอน

อยู่บนรถแต่คนขับกลับหายไป ร่างบางที่มองข้อมือตัวเองถูกปล่อยเป็นอิสระก็แปลกใจก่อนที่จะเดินลงมาจากรถ แล้วต้องตกใจกว่าเดิมเมื่อพบว่ารถ

ของป๊อปปี้มาจอดอยู่ที่บ้านไม้หลังหนึ่งที่คุ้นเคย ร่างบางเริ่มรู้สึกร้อนๆหนาวไปทั้งตัวก่อนที่จะรีบตั้งสติแล้วเดินเข้าไปในบ้านหลังนั้นทันที

 

 

 

 

แอ้ด

 

 

ฟางเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้านที่ห้องๆหนึ่งด้วยความเคยชิน ข้าวของทุกอย่างมันยังอยู่เหมือนเดิม ผ้าปูที่นอนสีหวานถูกปูเอาไว้ราวกลับรอคอยให้ใคร

สักคนกลับมานอน ฟางเดินไปหยิบรูปถ่ายของ2แม่ลูกคู่หนึ่งกอดกันถ่ายรูปถ่ายรูปอยู่ที่หน้าบ้านหลังนี้ในวันที่เรียนจบมัธยม ใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มแห่ง

ความสุขนั้นมันทำให้ฟางมือสั่น ภาพในอดีตหวนคืนกลับมาในวันที่เธอเรียนจบได้ทุนไปเรียนต่อมหาลัยในกรุงเทพ รอยยิ้มแห่งความภูมิใจของแม่ที่

เธอเห็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่เรื่องราวอัปยศจะเกิดขึ้น เธอทำให้คนที่เธอรักที่สุดต้องผิดหวังเพราะความโง่ที่เชื่อในความรักจอมปลอมที่เขาเคยมอบให้

 

 

 

 

 

“คุณพาชั้นมาที่นี่ทำไม คุณต้องการอะไร คุณพาชั้นมาที่นี่ทำไม๊”

 

 

 

 

เพี้ยะ

 

 

ทันทีที่ป๊อปปี้เดินตามฟางเข้ามาในห้อง ฟางไม่รอช้าตรงเข้ามาตบหน้าชายหนุ่มจนหันก่อนที่จะแผดเสียงร้องแล้วทุบอกกว้างรัว ก่อนที่ความเครียด

จากเหตุการณ์เลวร้ายในอดีตจะกลับมาอีกครั้ง แล้วสติทุกอย่างของฟางก็ดับวูบไปทันที

 

 

 

 

 

“คุณเฟียซ ฟื้นสิ คุณ….. ฟาง อย่าเป็นอะไรนะ”ป๊อปปี้ตกใจรีบคว้าคนตัวเล็กที่หมดสติไว้ในอ้อมกอดได้ ก่อนที่จะพยายามเรียกฟาง

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“นายกลับไปหาแม่นายเถอะนะ ตอนนี้ชั้นว่าเรื่องมันเริ่มบานปลายไปหมดแล้ว”แก้วพยายามพูดเตือนสติโทโมะที่พาแก้วออกมาจากโรงพยาบาลแล้ว

นั่งรถออกมากับเขา

 

 

 

 

“ฮัลโหล อะไรนะ อาญัติบัญชีชั้น โธ่ โว้ย”ไม่ทันที่โทโมะจะพูดอะไรชายหนุ่มก็รับสายจากเลขาของเขาแล้วยิ่งหัวเสีย เพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง บัญชี

และคีย์การ์ดคอนโดของเขาก็ถูกแม่เขาจัดการอาญัติและเปลี่ยนคีย์การ์ดหมดทุกอย่าง

 

 

 

“เรื่องทุกอย่างมันเป็นเพราะชั้นถ้าชั้นไม่ทำร้ายนาย เรื่องมันก็คงไม่เกิด”แก้วยิ่งรู้สึกแย่ไปกว่าเดิมเมื่อเห็นโทโมะถูกแม่แท้ๆของเขาจัดการตัดขาดเขา

ทุกอย่างจริงๆไม่ได้เพียงแค่พูดขู่

 

 

 

 

นี่พาชั้นมาที่นี่ทำไมกัน”แก้วแปลกใจเมื่อชายหนุ่มขับรถมาจอดที่้านไม้ริมน้ำหลังหนึ่ง

 

 

 

 

“ตอนนี้เธอก็กลับบ้านไม่ได้ คอนโดชั้นก็กลับไปไม่ได้ ยังไงซะเรื่องเกิดขนาดนี้แล้ว ก็หลบมาอยู่ที่นี่สักพักนี่เป็นบ้านเช่าของเพื่อนชั้นเค้าเปิดบ้านเช่า

ไว้พอดี ไว้คิดอะไรออกแล้วเราค่อยว่ากันอีกที”โทโมะพูดพลางเดินจูงมือแก้วเข้ามาในบ้านแล้วจัดแจงเอาผ้าคลุมโต๊ะและเตียงที่ถูกคลุมออกก่อนที่จะ

เดินไปเปิดไฟ

 

 

 

 

 

“ฮึก ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย จะพาตัวเองมาลำบากทำไมกัน ทุกอย่างเป็นเพราะชั้นทำให้นายเดือดร้อนทำไมต้องมาช่วยกันด้วย”แก้วน้ำตาไหลออก

มาก่อนที่จะพูดขึ้นเธอไม่เข้าใจจริงๆ ทำไมเขาทั้งใจร้ายหมายเล่นงานเธอให้หมดทุกอย่างแบบนี้ ทำไมถึงต้องช่วยเธอ พาตัวเองมาเดือดร้อนกับเธอ

แบบนี้

 

 

 

 

“เพราะถ้าชั้นไม่ทำร้ายเธอ เรื่องทุกอย่างก็ไม่เกิดขึ้น เธอก็คงไม่เป็นแบบนี้ แค่นี้มันยังน้อยไปกับความเลวที่ชั้นเคยทำไว้กับเธอ ให้ชั้นได้ชดใช้บาปนี้

ให้เธอเถอะนะ”โทโมะพูดก่อนที่จะดึงแก้วไปกอดปลอบแล้วเช็ดน้ำตาให้เธอ ก่อนที่ทั้งคู่จะสบตากันแล้วบรรจงจูบร่างบางที่อยู่ในอ้อมกอดอย่างอ่อน

โยน

 

 

 

 

มาอัพแล้วนะคะ ยังอ่านกันอยู่มั้ยเอ่ย

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา