(fic undertale) Horror truth
เขียนโดย จอมมารไนท์
วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 เวลา 19.02 น.
แก้ไขเมื่อ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2561 22.25 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
4) Tell me the truth
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
.
.
.
แซนส์ได้แต่ยืนนิ่งท่ามกลางหิมะอันหนาวเหน็บหลังจากได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากมนุษย์ตัวน้อยที่อ้างว่าตัวเป็นลูกของฟริกส์จนจบ มือกระดูกสีขาวโพลนยังคงถือจดหมายเก่าๆที่นอกจากจะยับแล้วยังบางแถมยังเหลืองซีด สภาพเหมือนพร้อมจะขาดได้ทุกเมื่อหากว่าออกแรงมากไปเพียงนิดเอาไว้อย่างแสนทะนุถนอม ขณะดวงตาสีแดงดั่งเลือดที่เหลือเพียงแค่ข้างเดียวจะเหม่อมองไปยังสุดขอบหล้าของดินแดนใต้พิภพแห่งนี้อย่างไร้ซึ่งจุดหมาย
เด็กนั่น.. ไม่สิ อลิชาเล่าว่าหลังจากที่เด็กน้อยของเขากลับขึ้นไปบนโลกสิ่งแรกที่ฟริกส์ทำคือบอกกับมนุษย์คนอื่นๆว่าตำนานที่เล่าสืบต่อกันมานั้นเป็นความจริงเธอได้พบกับมอนสเตอร์ที่ถูกกักขังอยู่ใต้พิภพและเล่าเรื่องราวต่างๆที่เธอประสบเมื่อติดอยู่ในอันเดอร์กราวทั้งเรื่องดอกไม้พูดได้เวทมนตร์ชะตากรรมของเด็กมนุษย์คนอื่นๆที่พลัดตกลงมาก่อนหน้าชีวิตประจำวันของพวกมอนสเตอร์คำสัญญาและการตัดสินใจรวมไปถึงที่เธอเอาชนะราชาของพวกเขาและเป็นมนุษย์คนแรกที่กลับมาได้
แต่ว่า.. มนุษย์พวกนั้นไม่เชื่อ
พวกเขาต่างพากันคิดว่าเธอติดอยู่ในนั้นนานไปจนกลายเป็นบ้า ตัดสินใจจับเธอขังเอาไว้เบื้องหลังกำแพงสีขาวตัดขาดออกจากคนอื่นๆในอาคารที่พวกมนุษย์เรียกกันว่า 'โรงพยาบาลจิชเวช'
และหลังจากที่เข้าไปแล้วฟริกส์ก็ไม่เคยมีโอกาสได้กลับออกมาอีกเลย.. ตลอดกาล
ตัวอลิชาเองก็ไม่รู้ว่าพ่อของเธอคือใคร แต่จากที่ยายของเธอหลุดปากพูดออกมาฟริกส์ไม่แม้แต่ที่จะนอกใจเขาด้วยซ้ำ แต่.. เธอถูกผู้ชายที่อยู่ในสถานที่แห่งนั้นขืนใจจนตั้งท้อง และเด็กสาวก็ไม่อาจร้องขอความช่วยเหลือจากใครได้เลย เพราะว่าแม้แต่แม่ที่เป็นครอบครัวคนเดียวที่เหลืออยู่ของเธอ (หรือก็คือยายของอลิชานั่นเอง) ก็ยังไม่เคยแม้แต่คิดจะมาเยี่ยมลูกสาวคนเดียวของเธอเลยนับจากที่ถูกส่งตัวเข้ามาในโรงบาลบ้าแห่งนี้เลยแม้แต่น้อย ฟริกส์จึงถูกผู้ชายคนนั้นข่มขืนซ้ำไปมาจนเรื่องมาแดงขึ้นเมื่อท้องเธอโตขึ้นและจำเป็นที่จะต้องคลอดก่อนกำหนด
และเพราะสภาพร่างกายที่อ่อนแอและสภาวะตรอมใจฟริกส์เลยจากโลกนี้ไปหลังจากที่เธอคลอดลูกสาวออกมาได้เพียงแค่ไม่กี่วันเท่านั้น..
อลิชาที่เกิดมาแบบไม่มีทั้งพ่อและแม่จึงถูกเลี้ยงขึ้นมาโดยยายของเธอแต่เธอก็ไม่ได้รับความรักจากผู้เป็นยายเท่าไหร่นักในสังคมของมนุษย์เธอไม่แม้แต่จะปรากฎชื่อในทะเบียนบ้านเพราะทางโรงบาลนั่นจงใจปิดข่าวการตายของฟริกส์เพื่อรักษาชื่อเสียงและหน้าตาของโรงพยาบาลเอาไว้ผู้ชายที่ข่มขืนฟริกส์ก็ยังลอยหน้าลอยตาอยู่ในสังคมอยู่เหมือนเดิมยายของอลิชาเองหลังจากที่ได้รับเงินค่าปิดปากจากทางโรงบาลมาก้อนหนึ่งก็ทำทีเหมือนกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น.. ทั้งๆที่สูญเสียไปคือชีวิตหนึ่งชีวิตของลูกในใส้ของตนแท้ๆ
และวันหนึ่งหลังจากที่โตพอที่จะรู้ความขณะที่กำลังทำความสะอาดห้องเก็บของอลิชาก็ไปพบบันทึกของฟริกส์ที่เขียนเล่าเรื่องราวทั้งหมดเอาไว้เข้าโดยบังเอิญรวมถึงจดหมายที่เธอไม่มีโอกาสได้ส่งเขียนถึงโครงกระดูกนามแซนส์ผู้เป็นที่รักของเธอด้วยมันปะปนอยู่กับข้าวของๆฟริกส์ที่ถูกส่งมาให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตหลังจากที่ผู้ป่วยเสียชีวิตหลังจากที่ได้อ่านมันจนจบอลิชาจึงรู้สึกสงสารและเห็นใจแม่ของเธอเป็นอย่างมากจนทำให้เธอตัดสินใจที่จะลงมายังอันเดอร์กราวแห่งนี้เพื่อที่จะส่งมอบจดหมายและบันทึกของฟริกส์ให้กับแซนส์ผู้ชายที่แม่ของเธอรักมากที่สุดในชีวิตจนเธอได้ขึ้นภูเขาอีบ็อตต์มาเพื่อลงมาพบกับพวกแซนส์ที่อันเดอร์กราวที่นี่ในปัจจุบันเนี่ยแหละ
หลังจากที่ฟังเรื่องที่มนุษย์ตัวน้อยเล่าจนจบ โครงกระดูกแจ็คเก็ตน้ำเงินก็เอ่ยปากขอเวลาให้เขาได้อยู่คนเดียวสักพัก เพื่อที่จะทำใจกับสิ่งที่เขาพึ่งรับรู้มา เขาขอให้พาไพรัสพาเด็กมนุษย์คนนั้นไปซ่อนตัวให้พ้นจากสายตาของมอนสเตอร์ตนอื่นๆ ยังบ้านของพวกเขาก่อน และเขาจะตามกลับไปสมทบในภายหลังเอง หลังจากที่เขาสามารถทำใจและตัดสินใจเกี่ยวกับทางเลือกของเด็กคนนั้นต่อจากนี้ได้แล้ว
ตอนนี้ภายในอกข้างซ้ายของแซนส์สามารถรู้สึกได้อย่างชัดเจน เขารู้สึกว่ามันเหมือนกับดวงวิญญาณของเขามันกำลังที่จะแตกสลาย และค่อยๆหายไปอย่างช้าๆ
มันทั้งทรมานและรู้สึกหน่วงในอก..
ฟริกส์.. เด็กน้อยของเขาได้ละจากโลกนี้ไปแล้วและได้นำพาเอาหัวใจของเขาติดตัวไปยังปรภพด้วย ถ้าหากว่าโครงกระดูกอย่างเขามีมันล่ะก็นะ..
คำพูด.. คำสัญญาของมนุษย์คนนั้นในวันที่บอกกับเขาว่าเธอจะออกจากสโนว์ดินและอันเดอร์กราวเพื่อกลับไปยังโลกภายนอก และคำสัญญาในวันวานยังคงตราตรึงและฝังแน่นอยู่ในความทรงจำที่แสนเลือนลางของเขา
'แซนส์.. ฉันจะออกไปจากที่นี่ออกไปจากอันเดอร์กราวแห่งนี้'
'แต่ว่า.. เอ่อ.. สักวันนึงฉันจะกลับมานะ!'
'ฉันจะกลับมาและปลดปล่อยทุกๆคนออกไปจากที่นี่.. ก็มันไม่มีใครที่สมควรโดนกักขังอยู่ใต้ดินแบบนี้นี่นาใช่มั้ยล่ะ! '
'เพราะอย่างนั้นแล้วนายต้องรอฉัน.. รอฉันนะเข้าใจมั้ยแซนส์?'
'ช่วยรอจนกว่าฉันจะกลับมาหา 'บ้าน'.. กลับมาหาครอบครัวของเราทีนะ'
'และตอนที่ฉันกลับมาแล้วพวกเราสามคน.. ฉันกับนายและแพ๊พจะไม่ต้องจากกันอีกพวกเราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปภายใต้ความอบอุ่นของแสงอาทิตย์'
'ฉันสัญญา..'
"ฮ่าๆ ๆ ๆ!! รอ? บอกให้รองั้นหรอ!?" ฮู้ดสีน้ำเงินถูกโครงกระดูกหนุ่มยกขึ้นมาคลุมเพื่อปิดบังใบหน้าที่เกรี้ยวกราดและโศกเศร้าของเขา ขณะที่เขาปล่อยให้น้ำตาเลือดไหลพรั่งพรูจากดวงตาที่เหลือเพียงข้างเดียวลงเป็นสาย
"คนโกหก.." เธอผิดคำสัญญาที่ให้ไว้กับฉันนะที่รัก
แน่นอน.. เขารู้ดีแก่ใจว่ามันไม่ใช่ความผิดของเด็กคนนั้นเลย เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อที่จะรักษาคำสัญญาที่เคยให้ไว้กับพวกเขา แม้ว่านั่นจะเป็นหมายถึงการทำให้มนุษย์คนอื่นๆ คิดว่าเธอเป็นบ้าจนตัวเองต้องโดนริดรอนอิสรภาพที่มีไปจนหมด แต่เธอก็ยังยืนยันคำพูดเดิม เพื่อที่จะยืนหยัด ช่วยเหลือพวกเขาจวบจนกระทั่งนาทีสุดท้ายของชีวิต
และสุดท้ายเป็นไงล่ะ? แทนที่จะได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ข้างนอกนั่นอย่างที่ควรจะเป็น.. เธอกลับต้องถูกขังอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมโง่ๆ คนเดียวมาเป็นปีๆ สุดท้ายก็ต้องจบชีวิตลงอย่างโดดเดี่ยวในโรงพยาบาลบ้า.. เป็นความตายที่โครตจะไร้ความหมายสิ้นดี
นี่น่ะหรอ.. อิสรภาพและชีวิตที่เธอควรจะได้ หลังจากที่พวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในนรกที่ชื่ออันเดอร์กราวภายหลังความตายของราชาแอสกอร์? หึ.. โง่เง่างี่เง่า
ทั้งหมดนี่มันงี่เง่าสิ้นดี
"ฮึก ฟริกส์.. ที่รัก ฉัน.. ฉันขอโทษ.." ขอโทษที่เคยโกรธ เคยแค้น และเอาแต่ด่าเธอทั้งๆ ที่ไม่ได้รู้อะไรเลยว่าข้างนอกนั่นเธอต้องเผชิญกับอะไรบ้าง
อยู่คนเดียวในห้องแคบๆที่ไม่มีใครเลยและถูกไอ้พวกสารเลวนั่นขืนใจซ้ำไปมาเป็นเวลาสิบๆปี.. โครงกระดูกหนุ่มนึกภาพตามไม่ออกเลยว่าระหว่างที่โดนขังในไอ้โรงบาลบ้านั่น เด็กน้อยของเขาจะรู้สึกทุกข์ทรมานและอยากตายมากแค่ไหน เธอจะร้องไห้และร้องเรียกหาเขากับแพ๊พกี่ครั้งกันนะ?
ทุกครั้งที่เธอร้องไห้ เจ็บปวด ทุกครั้งที่เธอวิงวอนขอปาฎิหาริย์ ทุกครั้งที่เธออธิษฐานความช่วยเหลือจากพวกเขา
แต่ไม่มีใครมา..
ในตอนที่เธอกำลังจะตาย เด็กน้อยของเขาจะเจ็บปวดและรู้สึกโดดเดี่ยวมากเพียงไหน? ไม่มีใครรู้หรือสามารถที่จะตอบได้นอกจากเจ้าตัว และเขาก็ไม่ต้องการที่จะรู้.. เพราะมันหดหู่และเจ็บเกินไปที่จะรู้
ในตอนแรกที่เขาคิดว่าโดนเธอหลอกให้รอและโดนทิ้งให้ติดอยู่ที่นี่อย่างไร้ความหมาย เขาทั้งโกรธแค้น ผิดหวัง และเสียใจมากเมื่อคิดว่าตัวเองถูกเด็กคนนั้นผิดคำสัญญาและทรยศต่อความรักที่เขามีให้ แต่เขาก็ไม่เคยเกลียดเธอได้ลงสักที นั่นก็เพราะเขารักเธอมาก.. มากเกินกว่าที่จะเกลียดได้ลงคอ
และต่อให้จะรู้สึกทรมานและหมดหวังกับการที่ต้องติดอยู่ในอันเดอร์กราวแห่งนี้มากแค่ไหน หรือแม้แต่ตอนที่ต้องเผชิญหน้ากับอีผีบ้าอย่างอันไดน์ แต่ทุกครั้งที่สิ้นหวังเขาก็ยังมีน้องชายผู้แสนดีอย่างพาไพรัสคอยปลอบโยนและให้กำลังใจอยู่ข้างๆเสมอ ทำให้ทุกอย่างไม่เลวร้ายมากจนเกินไปนัก..
แต่ว่าที่นั่น.. ฟริกส์ไม่มีใครเลย
ไม่มีเลยแม้สักคนเดียว..
ขุมนรกที่เขาเผชิญมาตลอดเวลาหลังจากที่ฟริกส์จากเขาไป เทียบไม่ได้เลยแม้สักเสี้ยวเดียวกับที่เด็กน้อยของเขาต้องเผชิญตลอดเวลาที่ติดอยู่ในไอ้โรงบาลเส็งเคร็งนั่น.. เทียบกันไม่ได้เลยสักนิด
ถ้าหากว่าเธอไม่พยายามเพื่อที่จะช่วยพวกเขาตามคำสัญญานั่นแล้วล่ะก็.. ป่านนี้เธอก็คงได้เริ่มต้นใหม่และใช้ชีวิตอยู่ข้างนอกอย่างมีความสุขไปนานแล้ว
ความคิดนั่นมันทำให้วิญญาณภายในอกมันรู้สึกเจ็บยิ่งกว่าตอนที่เอาแต่เฝ้าคิดแล้วคิดอีกว่าอีกฝ่ายทอดทิ้งเขาไปเสียอีก เพราะว่าเผ่าพันธุ์มอนสเตอร์.. เพราะคำสัญญาโง่ๆ นั่น.. และก็เพราะว่า เขาฟริกส์ถึงต้องมาตายในสภาพแบบนั้น
ทำไมกันฟริกส์? ทำไมถึงพึ่งให้มารู้อะไรเอาป่านนี้?
เขายอมเข้าใจว่าโดนอีกฝ่ายทรยศและผิดคำสัญญาต่อไป ยังจะดีซะกว่าที่จะต้องมารับรู้ว่าความเป็นจริงว่าเขาได้สูญเสียเธอไปตลอดกาล เพราะคำสัญญาที่ให้ไว้กับเขา.. อย่างน้อยๆถ้าหากว่ายังเชื่อแบบนั้น เขาก็ยังมีสามารถหวังลมๆแล้งๆได้ว่าสักวัน.. ถ้าพวกเขาสามารถออกไปข้างนอกบาเรียนั่นอีกครั้งได้เมื่อไหร่ เขาก็คงจะมีโอกาสได้เห็นหน้าคนรักของเขาอีกครั้งในสักวันหนึ่ง ถ้าหากว่าเขาพยายามมากพอ!
แต่ต่อไปนี้ความหวังนั่นมันไม่มีอีกแล้ว.. เพราะฟริกส์ได้จากพวกเขาและโลกใบนี้ไปแล้ว เพราะไอ้พวกมนุษย์ข้างนอกนั่นพรากเอาชีวิตของเธอไป!
ทั้งหมดมันคือความผิดของเขา ถ้าหากว่าตอนนั้นเขาฝืนรั้งตัวเธอเอาไว้จริงจังกว่านี้อีกสักนิด เรื่องราวทุกอย่างมันก็คงไม่ลงเอยแบบนี้.. ที่ฟริกส์ต้องมาตาย มันเป็นความผิดของเขา!
อาใช่แล้วล่ะ..
.
.
.
มันเป็นความผิดของเขาเอง 'ทั้งหมด' นั่นเลย
"ฮะๆ" ดวงตาที่เหลืออยู่แค่ข้างเดียวหลุบมองลงต่ำขณะที่ริมฝีปากที่ไม่เคยหยุดยิ้มได้เอ่ยชื่อที่ติดตรึงอยู่ภายในดวงใจและดวงวิญญาณของเขาเสมอมา
"ฟริกส์.." คนโกหก..
ไหนว่าพวกเราสามคนจะอยู่ด้วยกันตลอดไปยังไงล่ะ? ไหนว่าจะไม่มีวันทิ้งฉันไปไหน?
ไหนเธอว่าสักวันหนึ่งจะต้องกลับมาให้ได้ไงล่ะ.. ที่รัก?
"ได้โปรดเถอะ.." ใบหน้าของโครงกระดูกหนุ่มซบลงกับฝ่ามือที่เคยเปื้อนเลือดมาครั้งแล้วครั้งเล่าพร้อมกับส่งเสียงสะอื้นไห้ออกมาอย่างเงียบงัน ที่ผ่านมาหัวใจเขารับรู้ความตายของมนุษย์หรือความสูญเสียมามาก แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่หัวใจของเขาจะเจ็บปวดเหมือนในครั้งนี้
"ใครก็ได้.. ได้โปรดให้ทั้งหมดนี้มันเป็นแค่เรื่องโกหก.. เป็นแค่ฝันร้ายโง่ๆ ของผมทีเถอะ"
พระเจ้าครับ ถ้าหากว่าท่านมีตัวตนอยู่จริงล่ะก็.. ได้โปรดเถอะ
อย่าพรากเอาแสงสว่าง.. อย่าพรากเอาความหวังเพียงหนึ่งเดียวของผมไปเลย
.
.
.
But the truth is always be truth, she was gone forever.
And the fact is kiddo . . . Frisk will never come back to me again.
That's cruel but it will not change.
The reality, the truth cannot change, no matter what
.
.
.
Even I wish it to be . . .
************************************************************
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ