Fic naruto ภาค พายุโลหิต

10.0

เขียนโดย นิกซ์

วันที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 เวลา 15.23 น.

  33 ตอน
  12 วิจารณ์
  54.27K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 16.43 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

10) บทที่ 10 หมดมุข?

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

หนุ่มผมชมพูแอบกระซิบถามหญิงสาว “เอาไงดี เพื่อน”เพราะตอนนี้พวกตนถูกล้อมเอาไว้จะหนีผ่าออกไปก็ไม่ได้

หญิงสาวผมชมพูที่สวมหน้ากากจิ้งจอกแดง กำลังคิด หาทางถ่วงเวลา เธอนิ่งเงียบอยู่นาน ก่อนจะระเบิดหัวเราะลั่น”หึๆ ฮ่าๆๆๆ”

ทำเอาคนรอบตัวผงะ

ขุนนางใหญ่หน้าซีด ชินจูโร่ตะโกนถาม “หัวเราะอะไร!”

ร่างบางเอ่ยอย่างยียวน“ก็...อีกไม่กี่นาที ที่นี่ก็จะระเบิดน่ะซี่ อ๊ะ ฮ่าๆๆๆ”

หนุ่มผมชมพูร้องถาม “หมายความว่ายังไง”

“ทำไมชั้นถึงแยกมาคนเดียวล่ะ”รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้น “ชั้นวางระเบิดที่เกาะนี้หมดแล้ว  คงยาก ที่จะรอดนะ” ว่าจบหญิงสาวก็ระเบิดหัวเราะอีกครั้ง ประหนึ่งนางร้าย ที่ฆ่านางเอกได้สำเร็จ ในละครหลังข่าว

ทำเอาทุกคนหน้าซีดเผือก ขุนนางร่างอ้วนรีบหนีไปที่ยานรบพร้อมผู้ติดตาม

ชินจูโร่ได้สติ”นะ...นี่ แก คิดจะพลีชีพเหรอ”

หญิงสาวไม่ตอบ ยังคงหัวเราะอย่างอย่างสะใจ “ช่าย...ช๊าย! ชั้นจะลากพวกแกให้มาลงนรกด้วยกันกับชั้นยังไงล่ะ”

ชินจูโร่กัดฟันกรอด เลือดขึ้้น“แต่...ก่อนหน้านั้น ชั้นจะฆ่าแกก่อน นังปีศาจ” ดาบในมือของนักฆ่าหน้าบากพุ่งมาหมายจะฟัน หญิงสาวสวมหน้ากากจิ้งจอกแดง

เจ้าหล่อนใช้ดาบในมือกันดาบของอีกฝ่ายได้ทันท่วงทีก่อนจะเอ่ยอย่างยียวน “เน่ๆ ลืมไปรึเปล่าว่า ในระหว่างการต่อสู้น่ะ ห้ามใช้อารมณ์นะจ๊ะ”รอยยิ้มหวานผุดบนดวงหน้างามที่ตอนนี้ สวมหน้ากากจิ้งจอกแดงขาวปิดไว้ครึ่งหน้า

‘ตุ้บ!’

มือขวาที่กำดาบของชินจูโร่ ตกสู่พื้น เลือดทะลักออกมาจากแขนราวกับน้ำพุ

“”อ๊ากกกก!”นักฆ่าหนุ่มรีบเอามือกุมแผลไว้ทันที พลางจ้องมองหนุ่มหัวผมพูที่ตัดมื­ของเค้าอย่างเคียดแค้น

กลุ่มนักฆ่าคนอื่นๆเอาตัวมากันหัวหน้าเอาไว้

“นังปีศาจ”

หญิงสาวกลับตะโกนลั่น”ใครกันแน่ที่เป็นปีศาจ! นายของเจ้าต่างหากล่ะ” เธอเค้นยิ้ม ก่อนจะเอ่ยเสียงแผ่ว

“หวังว่ามันคงจะไม่ตายไปซะก่อนนะ”

‘ตู้ม!!ๆๆๆๆๆๆ’

ริวโอรีบอุ้มหญิงสาวขึ้นบ่าทันที

คนโดนอุ้มโวย “อุ้มชั้นทำไมยะ!”

“หนีสิ ถามล่าย เกาะจะระเบิดเลี้ยว!”

“จะบ้าเหรอ ชั้นไม่มีปัญญาขนาด วางระเบิดเกาะทั้งเกาะหรอกนะ”หญิงสาวเอ่ยขึ้น “นั่นน่ะมุขถ่วงเวลาเฟ้ย! เข้าใจมั้ย มันคือมุข ทีนี้ปล่อยชั้นลงได้แล้วยะ”

ริวโอกลับทำหูทวนลมอุ้มร่างบางไว้ในอ้อมแขน

หนุ่มผมเงินเอ่ยถาม“แล้วเสียงระเบิดนั่นล่ะเบนิ”

“อ๋อ ชั้นไปวางระระเบิดยานรบของพวกมันน่ะ วางชั้นลงสิยะริวโอ”หญิงสาวกระเด็งตัวออกจากอ้อมแขนเพื่อน

“หมายความว่ายังไง!?”ชินจูโร่ตะโกนลั่น

หญิงสาวตอบกลับทันทีด้วยสีหน้าเปื้อนยิ้ม “นิ ชั้นไม่โง่พอที่จะพลีชีพไปพร้อมกับพวกแกหรอกนะ ที่ทำน่ะ คือการถ่วงเวลา ก็เท่านั้นแหละ”

ยานรบขนาดเล็กกำลังจะบินขึ้นฟ้า

หญิงสาวสบถ “ชิ! เสร็จกัน ยังเหลือยานรบอีกรึ!” นี่ขนาดเธอวางระเบิดยานรบของศัตรูหมดทุกลำแล้วนะเนี่ย นึกไม่ถึงว่าจะมียานลำเล็กซ่อนอยู่อีก

ยังไม่ทันที่ยานรบจะออกจากเกาะ มือสีม่วงขนาดยักษ์ก็จับเข้าที่ยานลำนั้น

เรมเอ่ยอย่างเป็นนัยๆ “ดูเหมือนว่า ตัวละครพิเศษ ที่ผมช่วยเคลียร์เงื่อนไขไว้ จะส่งผลต่อตอนนี้ด้วยนะครับ”

“คงจะเป็นอย่างนั้น ถ้าเป็นบนฟ้า หมอนั้นก็ใช้ซูซาโนโอะได้”

ชินจูโร่พุ่งตัวเข้ามาหมายจะแทงหญิงสาวที่ไม่ทันระวังตัว

สามหนุ่มใช้ดาบในมือแทงที่จุดตายของอีกฝ่าย หญิงสาวใช้ดาบในมือฟันดาบของอีกฝ่ายจนหัก

ดาบยาวในมือของชินจูโร่หักไป แต่คมของดาบที่หักนั้น กลับทำให้ หน้ากากจิ้งจอกแดงที่สวมอยู่แตก ส่วนหนึ่งร่วงสู่พื้น

หญิงสาวปลดหน้ากากที่สวมอยู่ “จบซะทีนะ”

ยานรบลำใหญ่ร่อนลงมา

ชายชราในชุดเครื่องแบบทหารเต็มยศ ที่กำลังสูบมะเร็ง พ่นควันออกมา “ทำได้ดีมา เด็กๆ”

หญิงสาวหน้าหงิก “กว่าจะมาได้นะป๋า”

บันไซ “รอจนรากจะงอกแล้วนะครับ”

ริวโอบ่นใส่ “มัวแต่ดูหนังโป๊รึไงน่อ!”

“บ๊ะ! ไอ้พวกนี้นิ พวกแกก็ยังอาการครบ 32 นี่หว่า”

เรมที่เงียบมานาน เอ่ยอย่างเหลืออด “ต้องให้พวกเราตายก่อนรึไงครับ”

มิคาโดะสะดุ้ง เพราะนานๆทีคนสุภาพอย่าง เรม จะโมโห

ซาสึเกะที่ใช้คาถาซูซาโนโอะ ได้กระโดดลงมา ทันทีที่เท้าของเค้าสัมผัสกับพื้น คาถาซูซาโนโอะก็หายไป ยานรบที่ถูกมือเทพวายุจับอยู่ก็ร่วงลง

มิคาโดะออกคำสั่ง “ไปจับมันมา!”ทหารเกือบสิบนายตรงไปที่ซากยานรบก่อนจะ ลากขุนนางกบฏออกมาพร้อมกับลูกน้อง ส่วนเหล่านักฆ่า เมื่อหัวหน้าจบชีวิตแล้ว ต่างคุกเข่าขอยอมแพ้

ยามาซารุ ขุนนางเฒ่า อยู่ในสภาพน่าสมเพช เนื้อตัวเต็มไปด้วยคราบฝุ่นและเขม่าดินปืน ตามตัวมีแผลไฟลวก เสื้อผ้้าอย่างดีที่สวมอยู่ในตอนนี้ ยับเยิน

“พวกแก บังอาจมาก!ที่ทำกับข้าแบบนี้!”

หนุ่มเลือดร้อนริวโอ นึกอยากจะตั๊นหน้าเจ้าขุนนางปากมากจริงๆแต่เรมได้จับบ่าห้ามไว้

สองแฝดนิ่งเงียบไม่ได้เอื้อนเอ่ยอะไร

เมื่อใครบางคนเดินมา

ซามูไรแทบทุกคน (ยกเว้นทหารที่คุมตัวพวกกบฏ)คุกเข่าเคารพ บุคคลหนึ่งในชุดเกราะพร้อมรบ

“ซะ...ซาบุโร่...”

“ท่านลุง ครานี้โทษของท่านมันชัดเจนจริงๆ”

จบคำ เอกสารปึกหนาในมือของท่านโชกุนผู้ครองแคว้นเอโดะ ก็ถูกปาใส่หน้าขุนนางกบฏ

ยามาซารุสะบัดตัว จากการจับกุม จนทหารที่กุมตัวเตรียมชักดาบออกมา“ข้าทำทุกอย่าง ก็เพื่อ เจ้า ในยามที่เจ้าไม่มีพ่อ ซ้ำแม่ของเจ้ายังอ่อนแอ ก็มีเพียงข้าที่คอยปกป้องเจ้า! ข้าพยายามทำให้เจ้าเป็นใหญ่อย่างทุกวันนี้ ซาบุโร่! เนี่ยเหรอคือสิ่งตอบแทนของข้า! เจ้าตอบแทนข้าแบบนี้งั้นรึ!!!”

สีหน้าของผู้ครองแคว้นเอโดะคนปัจจุบันยังคงเรียบเฉย “ใช่ ท่านดูแล ปกป้องข้ามาตั้งแต่เยาว์ เพื่ออะไร ข้ารู้ดี เพื่อให้ข้าเป็นหุ่นเชิดของท่าน เพื่อให้ท่านได้นำอำนาจไปสนองประโยชน์แก่ตัวเอง เมื่อเก้าปีก่อน ท่านพยายามทำลาย ไมตรี ที่ข้าพยายามสร้าง และนั่นทำให้ข้าเกือบสูญเสียทหารผู้ภักดีไป และครานี้ท่านพยายามกำจัดทหารที่ซื่อสัตย์ของข้าอีก เพื่ออำนาจของตัวเอง ท่านช่างเห็นแก่ตัวยิ่งนัก แต่เห็นแก่ท่านที่คอยเลี้ยงดูข้ามา ข้าจะละเว้นโทษตาย.. .”

ยามาซารุเริ่มเห็นความหวัง อย่างน้อย ก็โดนแค่เนรเทศ นั่นล่ะคือโอกาส ด้วยพวกพ้องของตนยังมีอีกมาก

ท่านโชกุนเอ่ยต่อด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา “เป็นจำคุกตลอดชีวิตแทน เอาตัวไป”

ทหารสองนายที่คุมตัวก็ลากขุนนางกบฏไป

ขุนนางชราเค้นยิ้ม ก่อนจะตะโกนใส่“หึ! ทหารผู้ซื่อสัตย์ ไอ้เด็กผีสี่คนนี่ มันก็ไม่ต่างจากบรรพบุรุษของพวกมันหรอก สักวัน สักวัน! พวกมันจะหันคมดาบใส่เจ้า! สักวันกบฏสิบตระกูลจะเกิดขึ้นอีกครั้ง!! จำไว้ ซาบุโร่!!”

เมื่อขุนนางเฒ่าและกลุ่มนักฆ่าถูกจับไปที่คุกบนยานรบแล้ว

โชกุนซาบุโร่ถอนใจเฮือกใหญ่“ข้าทำถูกแล้วใช่มั้ย มิคาโดะ”

มิคาโดะพยักหน้า“ถูกแล้วขอรับ หากเนรเทศก็เท่ากับปล่อยเสือเข้าป่า หากประหารคนจะประณามท่านให้เสื่อมเกียรติ์ได้”

“อืม พวกเจ้ายืนขึ้นเถอะ”

คนที่คุกเข่าเหยียดตัวขึ้น

เรมเข้ามาหาหญิงสาวผมชมพู “เบนิ แผลที่หลัง...”

“เลียแผล็บเดียวก็หายแล้ว”เธอตอบอย่างไม่แยแสอะไร “ข้าว่า พวกควรไปรับพวกที่อยู่เชิงผาก่อน แล้วไปโรง’บาลนะ พวกนายก็จะไม่ไหวแล้วนิ”

คนเจ็บถูกพยุงไปรักษาตามเรื่อง

ซาสึเกะนึกอยากจะเข้าไปหา แต่โดนเรมเข้าขวางเสียก่อน หนุ่มผมเงินโค้งศีรษะเล็กน้อยเป็นเชิงขอบคุณ “ขอบคุณที่มาช่วยได้ทันการณ์นะครับ”

“ไม่เป็นไร ทำไมที่นี่ถึงใช้พลังจักระไม่ได้ล่ะ นายพอรู้มั้ย”

“อ้อ เพราะที่นี่มีหินชนิดพิเศษที่จะกักพลังจักระเอาไว้ ทำให้นินจาไม่สามารถกีดเร้นพลังจักระได้ คุกที่นี่ก็เป็นคุกสำหรับนินจาเหมือนกัน”

...

ซากุระกระโดดลงผาอย่างชำนาญแม้ไม่มีพลังจักระ เธอก็สามารถทำได้อยู่แล้ว

“ซากุระ”อิโนะพุ่งเข้ามาหาเพื่อนรักที่ตอนนี้สภาพเรียกว่าอ่วมอรทัย “เป็นยังไงบ้าง”

“สบายดี ตอนนี้ พวกเราชนะแล้ว เตรียมตัวกลับกัน ชั้นมารับพวกเธอไปที่ยานรบ ตามมาเร็ว”

หน่วยแพทย์ทุกคน รีบเก็บของตามไป

สาวผมทองโวยลั่น เมื่อเห็นแผลที่หลังของเพื่อนตัวร้าย “ยัยโหนก!ทำแผลก่อน!!!”

“ตะโกนทำไม ก็อยู่ใกล้ๆ แผลที่หลังไม่ต้องห่วง ชั้นสกัดจุดห้ามเลือดแล้ว ตามไปเร็ว”

เมื่อทุกคนขึ้นไปที่ยานรบพร้อมแล้ว ทุกคนก็ได้รับการปฐมพยาบาลกันไปตามเรื่อง

ซากุระยังไม่ทำแผลเพราะจะไปทำที่โรงพยาบาลแทน เพราะผู้ชายอยู่เป็นฝูง

สามนินจาโคโนฮะ อากิระ ซามุย ชิโอะ ได้มาพักอีกห้องหนึ่ง ซึ่งเป็นห้องส่วนตัว ร่วมกับสี่แสบแห่งเอโดะ

ริวโอบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ”ชิ ไอ้ขุนนางนั่นไม่ควรจะโดนขังคุกเลยน่อ เปลืองข้าวคุกสุกๆ”

เรมยิ้มเย็น “ผมว่าดีแล้วแหละครับ อย่างที่ป๋าบอก จะประหารก็เสื่อมเกียรติ์ท่านซาบุโร่ จะเนรเทศก็ปล่อยเสือเข้าป่า สู้ขังคุกจะดีกว่า มันก็คือความทรมานดีๆเลยนะครับ”

“เรมพูดถูก “ชิโอะไม่วายแขวะใส่ ”ว่าแต่ เรมทำไมนายโดนจับคนแรกล่ะ เสียชื่อลูแปงพันหน้าหมด”

“ ก็ผมโดนเล็งคนแรกเลยนี่ครับ ทำไงได้”ชายหนุ่มหัวเราะเบาๆเป็นการแก้เขิน

หญิงสาวทำได้แต่ส่ายหน้าอย่างระอา ก่อนจะหันมาทางซามุยที่เงียบไป

“ซามุย..”

“ขอบคุณขอรับ”

“หือ?”

“ขอบคุณที่สังหารพี่ชินจูโร่ให้ผม ไม่อย่างนั้น ผมอาจจะต้องเป็นคนสังหารเค้าเอง”

หญิงสาวพูดอะไรไม่ออก รู้สึกสงสารลูกน้องของเพื่อน ถึงจะไม่ใช้พี่น้องร่วมสายเลือดแต่ความผูกพันก็ยังมีอยู่ “พรุ่งนี้นายไปจัดการทำศพให้เค้าเถอะ นั่นเป็นสิ่งสุดท้ายที่นายจะทำให้เค้านะ”

“ขอรับ”

อิโนะมองเพื่อนรักกับชายหนุ่มอีกคนที่นอนพิงไหล่เพื่อนของเธออย่างเหนื่อยอ่อน คนๆนี้ช่างเหมือนกับเพื่อนรักของเธอทุกประการ ยกเว้นเพศและสีตา

“อิโนะ ซาอิ ซาสึเกะ”

ทั้งสามมองหญิงสาวที่เรียกชื่อ สาวผมชมพูจึงเอ่ยต่อ “พักที่เอโดะซักอาทิตย์หนึ่งก่อนนะ แล้วค่อยกลับโคโนฮะ”

“แล้วเธอจะกลับโคโนฮะด้วยไหม”

“ยัง อีกสักเดือนสองเดือน ขอลางานยาวเลยละกัน เพราะที่นี่มีงานอีกมาก ที่ต้องสะสาง ถึงโรง’บาลแล้วปลุกด้วย อยากนอนแล้วส่วนคุณแม่ชั้นจะส่งข้อความไปบอกท่านเอง”ว่าจบหญิงสาวก็เอนซบที่ศีรษะของหนุ่มผมชมพูที่พิงไหล่เธอไป

กลายเป็นภาพที่น่ามอง

ซาสึเกะมองร่างบางที่หลับอย่างอ่อนล้าด้วยสายตาอ่อนโยน ในตอนนี้เธอคงจะเหนื่อยมากจริงๆ

ซาอิจึงเอ่ยถามเรื่องที่สงสัยมานาน “เท่าที่ดูมา ไม่มีผู้หญิงคนอื่นเลยนะครับ”

หนุ่มผิวเข้มร้องถาม “หมายความว่ายังไงน่อ”

“คือ ก่อนหน้าที่กำลังเสริมจะมา ผมได้ยินเสียงหัวเราะที่แสบแก้วหูมาก เหมือนนางร้ายที่ตายแล้วของทุกช่องที่มี รวมกันเลย ใครหัวเราะครับ”

ริวโอ เรมและชิโอะ เบนสายตาไปยังหญิงสาวผมชมพูที่กำลังหลับอย่างไม่รู้เรื่อง

หรือแม้แต่คนที่หลับอยู่อย่างบันไซเองก็ใช้มือชี้ไปที่แม่เพื่อนรักของเค้า

...ยังไม่หลับสินะ...

“จ้ะ ชั้นแค่อยากพิงไหล่เพื่อน มีไรป่ะ”คนที่คิดว่าหลับไปแล้วกลับพูดเฉยเลย ตาสีน้ำทะเลมองไปที่สาวผมทองที่จ้องมองมาที่ตน

ริวโอที่นั่งใกล้ก็จะเตรียมพิงไหล่เพื่อนสาวแต่ อากิระกระชากหนุ่มผิวเข้มออกไปแทน

‘โครม!/โอ๊ย!’

“ถ้าง่วงก็ลงไปนอนบนพื้นเถอะ เดี๋ยวถึงจะปลุกนะ อย่าไปพิงเบนิจังเลย”

ริวโอส่งสายตาอย่างอาฆาต

“อย่าทะเลาะกันนะ...ถ้าเสียงดังเดี๋ยวต่อยตับแตก”เสียงหวานๆ ที่ขู่นั้นออกแนวงัวเงีย ดังขึ้น

ร่างบางที่กำลังหลับเอ่ยขึ้น ก่อนที่จะเปลี่ยนอิริยาบถจากนั่งมาเป็นนอนหนุนตัก หนุ่มหัวชมพูแทน

ส่วนคนโดนนอนหนุนตักก็นั่งหลับคอพับคออ่อนไม่รู้เรื่องปล่อยให้เพื่อนสาวนอนตักสบายอารมณ์

ริวโอ เรม อากิระ ชิโอะและซาสึเกะ ทำได้แต่ส่งสายอิจฉาไปที่หนุ่มหัวชมพูแทน

ยานรบนี้มีความทันสมัยมาก  เพียงสองชั่วโมงก็มาจอดที่โรงพยาบาล

บันไซสะกิดเพื่อนรักที่กำลังหลับสบาย “ตื่นได้แล้วเพื่อน”

“อืม...ถึงแล้วเหรอ”

“เออ มาเดี๋ยวแบกไป”

ชายหนุ่มจัดการแบกร่างของหญิงสาวผมชมพูขึ้นหลังโดยไม่มีทีท่าจะเหนื่อย

ซาสึเกะพยายามจะเข้าไปหาสองหนุ่มสาวผมชมพู ก็เห็นว่า แผ่นหลังของหญิงสาวถูกฟันเป็นทางยาว

...ใครมันทำร้ายเธอ...

หน่วยพยาบาลต่างเข้ามาพยุง พาคนเจ็บไปรักษา อิโนะ ซาอิ ซามุย และอากิระแม้จะไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร แต่ก็โดนพาตัวไปตรวจร่างกายเพื่อความแน่ใจอีกที

หลังจากนั้น สามนินจาโคโนฮะก็ถูกพาไปพัก ยังเรือนรับรองของแคว้น ทำเอาอิโนะตะลึงในความหรูหรา และสะดวกสบายของที่นี่ หลังจากที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ทั้งหมดก็เข้าสู่ห้วงนิทรา

 

ตอนหน้าจะเป็นอย่างไร โปรดติดตาม

หายหน้าไปนาน...เลยอัพให้สองตอนเลย ส่วนฟิค นารูโตะ พันธสัญญาสีดำนั้นไม่ลืมแน่ค่ะ กำลังแต่งตอนต่อไปอยู่นะคะ ชอบก็ไลท์ เม้นให้กำลังใจ ให้คะแนนกันได้นะคะ ขอบคุณค่าาาา

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา