เส้นทางสีหม่น
เขียนโดย MissP
วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 เวลา 01.34 น.
แก้ไขเมื่อ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2560 02.50 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
2) Chapter 2 Nice to Meet U ยินดีที่ได้รู้จัก
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
Chapter 2
Nice to Meet U (ยินดีที่ได้รู้จัก)
คยองซูหยุดมองตึกสูงระฟ้าที่ตกแต่งสไตล์โมเดิร์นด้วยกระจกเงารอบด้าน อาคารนี้คือที่ใฝ่ฝันของหนุ่มสาวจากรั้วมหาวิทยาลัยทั้งหลายที่อยากจะเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของมันรวมถึงเขาด้วย “SM Agency” บริษัทตัวแทนโฆษณายักษ์ใหญ่ที่มี billing กว่าหมื่นล้านวอนต่อปี ยิ่งใหญ่และมีอิทธิพลในวางการนี้ไม่น้อยทีเดียว ถึงแม้จะยังไม่ได้มาเป็นพนักงานเต็มตัวแต่แค่ได้มาฝึกงานก็ถือว่าเขาก้าวสู่เส้นทางแห่งฝันหนึ่งก้าวแล้ว ชายหนุ่มร่างเล็กสูดลมหายใจเต็มปอดก่อนจะผลักประตูกระจกก้าวเข้าไปในตัวอาคาร เขาสาวเท้าไปยังเคาน์เตอร์ใหญ่ที่มีหญิงสาวสวยปากแดง 2 คนยิ้มรับให้กับแขกและพนักงานที่เดินผ่านเข้ามา
“สวัสดีครับ ผมโดคยองซู มาเริ่มฝึกงานวันแรกครับ” หญิงสาวตรงหน้าเขายิ้มรับพร้อมแจ้งให้เขาแลกบัตรก่อนขึ้นลิฟท์ไปชั้น 25 ซึ่งเป็นชั้นสำหรับแผนก Creative & Production
“ขอบคุณครับ” เขาโค้ง 90 องศาด้วยความนอบน้อมอย่างที่สุด
“ยินดีค่ะ” หญิงสาวกล่าวพลางก้มหัวให้เล็กน้อย
คยองซูกึ่งเดินกึ่งวิ่งเมื่อเห็นลิฟท์กำลังจะปิดลง เขารีบกดลิฟท์เพื่อให้มันค้างก่อนจะแทรกตัวเข้าไป กำลังจะก้าวขาเข้าลิฟท์
“พลั่ก!!” เหมือนมีแรงกระแทกมาจากด้านหลังเขาไม่ทันได้ระวังร่างเล็กจึงเกิดอาการเสียศูนย์เซถลาเข้าไปปะทะกับอะไรสักอย่างที่อยู่ตรงหน้าพอตั้งตัวและสติได้เขาค่อยๆยันตัวเงยหน้าขึ้นมองหลักพิงที่ให้เขาเกาะ ชายหนุ่มร่างสูง ผิวขาว หน้าหวานกับผมสีน้ำตาลอ่อนแต่ที่สะดุดตาเขากลับเป็น ดวงตาคู่สวยเหมือนตากวางคู่นั้นที่ตรึงเขาให้ค้างนิ่งเป็นหุ่นลองเสื้อ
“น้องจะดึงแขนเสื้อพี่อีกนานมั้ยครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามพร้อมจ้องหน้าเขา สาบานตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยใจเต้นแรงขนาดนี้มาก่อนเลยขนาดมีสาวมาขายขนมจีบหัวใจเขายังเต้นเป็นจังหวะบัลลาดธรรมดา แต่ครั้งนี้มันยิ่งกว่าสามช่าอีกนะเว้ยย
“อ่า..ขอโทษครับ” รีบลนลานปล่อยมือพร้อมหันหลังยืนตัวเกร็ง อยากให้ถึงชั้น 25 เร็วๆจังไม่ใช่ว่าอายแต่กลัวหัวใจวายตายซะก่อน “ทำไมหล่อจังว้า” ได้แต่คิดอยู่ในใจ
“ติ๊ง!!” เสียงลิฟท์เปิดออก ชั้น 25 เขารีบก้าวออกมายืนเก้ๆกังๆ เพราะมันมีสองฝั่งน่ะสิ แล้วต้องไปฝั่งไหนเนี่ย ไอ้ฝ่าย Creative น่ะ
“มาพบใครรึเปล่าครับ” เห ทำไมเสียงมันคุ้นจังเหมือนเพิ่งได้ยินมาไม่นาน แว้กกก!! พี่คนหล่อมาทำอะไรตรงนี้เนี่ย
“เอ่อ อ่า ผะ ผม ผมมาฝึกงานฝ่าย creative ครับ” อยากจะตบปากตัวเองเกิดติดอ่างอะไรตอนนี้ฟระเสียลุคหมด
“อ่อ งั้นตามพี่มา” พี่คนหล่อว่าพลางเดินนำหน้าเขาไป ขนาดข้างหลังยังหล่อโฮกเลย รูปร่างสมส่วนถึงแม้จะดูไม่ล่ำบึกแต่ก็ไหล่กว้าง ไม่ได้ผอมบางเป็นไม้เสียบ ถึงแม้เพื่อนของเขา 2 คนที่จัดว่าหล่อทำลายล้างแล้วแต่กับพี่คนนี้ไม่ใช่แค่หล่อแต่มันกลับมีเสน่ห์ดึงดูดประหลาดยังไงบอกไม่ถูก ก่อนที่ความคิดจะเตลิดไปไกลถึงขั้วโลกเหนือ
“เอ้า ถึงแล้วติดต่อใครไว้รึเปล่าล่ะ” เสียงทุ้มของคนในความคิดก็กระชากสติเขาให้กลับมาในโหมดปกติ
“อ่อครับ พี่เอ่อ พี่จุนมยอนครับ” ตอบคำถามพี่คนหล่อแต่หน้ากลับก้มจนคางจะชิดอก
“นี่เขินพี่เหรอ ถึงได้ทำท่าทางแบบนั้น” แน่ะพูดแซวไม่พอยังมาส่งยิ้มกรุ้มกริ่มให้อีก
“เป็นผู้ชายจริงรึเปล่าเนี่ยขี้อายยิ่งกว่าผู้หญิงอีก”
“ปะ..เปล่านะครับผมแค่...” ยังพูดไม่ทันจบพี่คนหล่อก็หันไปกดโทรศัพท์ตรงเคาน์เตอร์กรอกเสียงทุ้มลงไป
“จุนมยอน มีเด็กฝึกงานมาพบ” ไม่ถึง 2 นาที เจ้าของชื่อจุนมยอนก็เดินตัวขาวโอโม่ยิ่งกว่าหลอดไฟฟลูออเรสเซ้นต์ที่บ้านมาถึงด้านหน้าประตูที่เขายืนก้มหน้าอยู่
“โดคยองซูใช่มั้ย จากมหาวิทยาลัยโซล?”
“ใช่ครับ ผมโดคยองซู” พูดจบก็ก้มหัวโค้งคำนับ 90 องศาแสดงความเคารพทันที
“โอเค เดินตามพี่มาเลย” ก่อนเดินตามพี่จุนมยอน คยองซูแอบชำเลืองมองพี่คนหล่อที่ส่งยิ้มให้เขาพร้อมยักคิ้วให้อีกต่างหาก คยองซูหน้าร้อนขึ้นมาทันทีรีบหันกลับสาวเท้าตามพี่
จุนมยอนอย่างไว
เดินเข้ามาถึงโซนด้านในสุด
“นั่นโต๊ะนายนะ” พี่จุนมยอนชี้ไปยังโต๊ะตัวในสุดที่ติดริมหน้าต่างกระจกข้างๆมีตู้เก็บเอกสารใบใหญ่ตั้งอยู่ พร้อมคอมพิวเตอร์บนโต๊ะ คยองซูเดินไปวางเป้และซองเอกสารแล้วรีบเดินไปยืนข้างๆพี่จุนมยอน
“เดี๋ยวตามพี่มาพี่จะพาไปแนะนำกับแผนกนะ จะได้รู้จักพี่ๆเพราะเดี๋ยวต้องทำงานด้วยกัน” คยองซูพยักหน้ารับคำ แล้วเดินตามพี่จุนมยอนไป ออฟฟิศแผนก creative มีพนักงานประมาณ 8-10 คนเท่าที่เขามองสำรวจดู แต่ละคนดูหน้าดำคร่ำเคร่งกับกองงาน และคอมพิวเตอร์ข้างหน้าแทบจะสิงเข้าไปในงานอยู่แล้ว บางคนหัวคิ้วนี่เรียกว่าผูกโบว์หูกระต่ายได้ด้วยซ้ำ
“นี่พี่เลย์นะ เป็น creative เลย์นี่คยองซูน้องฝึกงาน” พี่เลย์หนุ่มผิวขาวผู้มีลักยิ้มน่ารักข้างแก้มส่งยิ้มเบาๆมาให้เขา
“ยินดีที่รู้จักครับ” พูดเสร็จก็หันไปปั่นงานตรงหน้าต่อ พี่จุนมยอนพาเดินไปแนะนำทุกโต๊ะ จนคยองซูรู้สึกปวดหลังตะหงิดๆเพราะก้มมาแล้วเกือบจะ 10 ครั้ง
“เอ้า!! ไอ้ 2 คนตรงนี้มันหายหัวไปไหนวะ” ยกมือเกาหัวแกรกๆ จนคยองซูแอบขำ พี่จุนมยอนเดินลึกเข้าไปส่วนแคนทีนด้านใน เขาได้แต่เดินตามเพราะไม่รู้ว่าต้องทำอะไรต่อไป
“กูว่าแล้วว่ามึงสองตัวต้องแอบมาอู้งานอยู่ตรงนี้” ยกมือเท้าสะเอวพร้อมแยกเขี้ยวเข้าใส่เพื่อน 2 คน พอเงยหน้าขึ้นมองตามสายตาพี่จุนมยอนคยองซูถึงกับสะดุ้ง นั่นมันพี่คนหล่อนี่นา เหมือนพรหมลิขิตที่ได้เจอกันอีก นี่อย่าบอกนะว่าพี่เขาทำงานอยู่แผนกนี้ คยองซูรู้สึกหน้าร้อนขึ้นมาทันที
“ใครอู้กูมาหาคาเฟอีนใส่ร่างไหม มะคืนแมร่งแทบไม่ได้นอน มัวแต่แก้งานไอ้ลูกน้องที่ไม่รู้เอามือหรือส้นตีนทำเดี๋ยวออกไปก่อนพ่อจะจัดชุดใหญ่ให้แมร่งไปไม่เป็นเลย” พี่ผู้ชายตัวสูงหน้าหล่อยังกะนายแบบบ่นเสียงดังจนไม่รู้น้ำลายกระเซ็นโดนหน้าพี่จุนมยอนไปกี่ฟอง
“คยองซูนี่พี่คริสนะ เป็น อาร์ตไดที่นี่ หน้าตาเหมือนจะใจดีแต่ปากปีจอมาก ระวังมันไว้อย่าไปทำให้มันโมโหเชียวล่ะ”
“เห้ยๆๆ กูไม่โหดเว้ยอย่ามาใส่ความกัน หวัดดีครับ” หันไปแยกเขี้ยวใส่พี่จุนมยอนก่อนจะหันมายิ้มหวานให้เขาเหมือนคนเป็นไบโพล่า
“เห้ย!! ลืมแนะนำกูเป่าเนี่ย” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมาพร้อมยกมือกอดอกถามพี่จุนมยอนแต่ตากลับจ้องมาทางเขา “อ๋อ!! นี่พี่ลู่หานนะ เป็น Creative Group Head” คยองซูรีบโค้งให้พี่ทั้งสอง ก่อนเอ่ยด้วยความสุภาพว่า
“ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ ผมโดคยองซู”
วันแรกของการฝึกงานทำเอาคยองซูแทบจะหมดแรง ไหนจะวิ่งซีร็อกซ์เอกสารเป็นปึกๆ ไหนจะวิ่งเบิกของที่ฝ่ายบุคคล ชั้น 19 อีก ไม่ได้เบิกแค่รอบเดียวนะครับพี่น้อง 4-5 รอบจนคยองซูอยากจะมีประตูโดเรม่อนแบบเปิดไปเป็นฝ่ายบุคคลง่ะ ตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยต้องวิ่งเป็นกุลีขนาดนี้เลย วันๆแค่ไปเรียนกลับบ้าน กินข้าว คุยโทรศัพท์แล้วเข้านอน นี่ครั้งแรกในชีวิตอยากจะร้องไห้ยังไม่ทันจะได้วางกระดาษ A4 3 ปึกใหญ่ลงข้างเครื่องซีร็อกซ์ เสียงหนึ่งก็ตะโกนขึ้นมา
“คยองซู..คยองซูไปเบิกแฟ้มใส 10 แผ่น แม็กซ์เย็บกระดาษ ลูกแม็กซ์ด้วยนะ” พี่มินยองลุกขึ้นตะโกนมาจากโต๊ะตัวเอง
“ได้ครับพี่” รอบที่ 6 แล้วนะยังไม่ถึง 5 โมงเย็นเลย วันนี้ต้องมี ไม่ต่ำกว่า 10 รอบแน่คยองซูโอดครวญอยู่ในใจ ก่อนเดินไปถึงประตู เสียงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นข้างๆตัว เขาอดสะดุ้งไม่ได้
“เหนื่อยมั้ย”
“ไม่ครับ แค่นี้สบายมาก” เขาตอบพร้อมส่งยิ้มตาหยีที่คิดว่างดงามที่สุดไปให้คนข้างๆ
“แน่ใจนะ พี่เห็นหน้าเราดูเหนื่อยเหมือนไปปีนเขาเอเวอร์เรสมาเลย” พี่ลู่หานถามพร้อมยกยิ้มให้เขาจริงๆมันก็แค่ยิ้มธรรมดานั่นแหละแต่สำหรับเขาทำไมมันโคตรจะเท่ห์เลยโว้ย นี่เขาท่าจะเป็นเอามาก พอๆๆคยองซูมาฝึกงานๆท่องไว้ไม่ได้มาเลือกคู่
“เดี๋ยวพี่ไปเป็นเพื่อน” พี่ลู่หานพูดเสร็จก็แตะที่แขนเขาเบาๆทำนองให้เดินตามมา
“พี่ว่างเหรอครับ”
“ต้องว่างด้วยเหรอ ถึงจะมาเป็นเพื่อนเราได้น่ะ” ไม่พูดเปล่าแถมยังหันมาส่งสายตาวิบวับใส่เขาอีก
“โห!ผมเกรงใจพี่อ่ะ เดี๋ยวงานไม่เสร็จมาโทษผมไม่ได้น้า” พุดจบก็ก้มหน้ายกเท้าเตะพื้นไปเรื่อย เป็นอาการแก้เขินที่เขามักจะใช้ประจำเวลาทำอะไรไม่ถูก เพราะไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาจึงไม่รู้ว่าผู้ชายที่อยู่ข้างๆเขาแอบอมยิ้มมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ
End
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ