ขอบคุณความบังเอิญ

6.3

เขียนโดย zeeto

วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.36 น.

  17 ตอน
  0 วิจารณ์
  20.26K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 22.14 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

1) สารภาพ (ผิด) คน

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

          ณ ระเบียงทางเดินของโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ผมยืนถือช่อดอกไม้ช่อใหญ่พร้อมกับมี

การ์ดใบหนึ่งที่ตั้งใจว่าวันนี้ยังไงผมจะสารภาพรักกับเธอคนนี้ให้ได้   โดยปกติผมเป็นคนค่อนข้างขี้

อายและไม่กล้าที่จะแสดงออกใดๆ  ยิ่งกับเรื่องความรักแล้วล่ะก็ครั้งนี้เป็นครั้งแรกจริงๆ  ผู้คนเดิน

ผ่านไปมามากมายต่างพากันหันมามองผม  ที่ยืนเก้ๆกังๆอย่างเขินอาย แต่ไม่ได้ซิผมชอบเธอมาตั้ง

สองปีแล้วน่ะ จะให้ผมถอดใจตอนนี้ก็คงไม่ทัน นั้นไงครับเป้าหมายของผมมาแล้วจากตอนแรกที่คิด

ว่ารวบรวมความกล้ามามากพอ  แต่ทำไมพอเห็นหน้าเธอคนนั้นผมกับเริ่มใจเต้นไม่เป็นจังหวะ   ผม

สูดหายใจลึกๆก่อนจะค่อยๆก้าวย่างไปใกล้ๆโดยไม่กล้าที่จะมองสบตา และ

"ผมชอบคุณมานานแล้วช่วยรับช่อดอกไม้ของผมด้วยครับ" ผมก้มหน้าก่อนชื่นช่อดอกไม้ในมือส่ง

ให้ใครคนหนึ่งที่ผมมั่นใจว่าเป็นเธอคนนั้น เลศยาที่ผมเฝ้าแอบเพ้อมานาน เมื่อเห็นว่าคนที่ผมยื่นช่อ

ดอกไม้ให้เงียบไม่พูดอะไรในใจผมเองก็คิดว่าเขาหน้าจะอาย  ผมจึงค่อยๆเงยหน้าเพื่อมองใบหน้า

ขาวสวยหมวยของเธอ เพล้งงงง!!! ใครก็ได้ช่วยลากผมจากตรงนี้ไปที ตรงหน้าของผมไม่ใช่เลศยา

แล้ว แล้วไอ้หมอนี่มันเป็นใครไม่น่ะ 

"นายให้ฉันหรอ...เซอร์ไพสุดๆ" ผู้ชายคนนั้นรับช่อดอกไม้จากมือของผมไปก่อนจะจับดูนู้นนี้

"คือฉัน..คือ..."

"สวัสดีเราชื่อพัทธ์  เราชอบเธอมาสองปีแล้วอีกไม่กี่วันเราก็จบการศึกษา  เรากลัวจะไม่ได้บอก

ความในใจกับเธอ วันนี้เราเลยรวบรวมความกล้าทั้งหมดเพื่อสารภาพความในใจ  หวังว่าเธอจะไม่รัง

เกลียดเรา"   คนที่รับช่อดอกไม้ไปหันมากระตุกยิ้มที่มุมปากก่อนจะเก็บการ์ดนั้นใส่ลงในกระเป๋าเสื้อ

นักเรียน  แล้วค่อยๆเดินเข้ามาใกล้ๆผม ผมควรทำไงดีล่ะเท้าที่ยืนอยู่กับที่เริ่มขยับถอยหลังเรื่อยๆ

จนชนกับผนังอีกด้านของอาคารเรียน สายตาผู้คนที่เดินไปมาในบริเวณนั้นต่างพากันหยุดหันมามอง

ตอนนี้ผมเริ่มกลัวและอายมาก เมื่อแผ่นหลังติดกับผนังอาคารทางเดียวที่จะหลบได้คือ   ผมรีบหัน

ไปด้านซ้ายเพราะทางนั้นจะทำให้ผมวิ่งกลับไปที่ห้องเรียนของตัวเองได้   ‘1-2-3’ ผมนับกับตัว

เองในใจเสร็จสิ่งที่ผมคิดไว้คือวิ่งแต่ช้าไปแล้ว  เมื่อผู้ชายผิวเข้มคนนี้กระชากข้อมือผมไว้อย่าง

รวดเร็วก่อนดันให้อยู่กับผนังอาคารเช่นเดิม

"คือฉันขอโทษมันเป็นเรื่องเข้าใจผิดน่ะถ้านายจะเอาช่อดอกไม้นี้ก็ได้ฉันไปก่อนน่ะ" ผมค่อยๆพูด

ใจดีสู้เสือกับคนตรงหน้า  ที่ยิ้มอย่างมีเลศนัยก่อนจะค่อยๆเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ๆแล้วกระซิบกับ

ผมเบาๆ 

"โอเคฉันยอมเป็นแฟนนายก็ได้ก็นายอุตส่ามาสารภาพรักฉันไม่ใช่หรอ?"

"ห่ะ?...เปล่าน่ะคือความจริง.." ผมไม่ทันได้แก้ตัวอะไรอีกแล้วเมื่อนายคนผิวเข้มจับข้อมือของผม

แล้วดึงเข้ามายืนข้างๆก่อนหันไปตามสายตาของผู้คนที่ยืนมองเต็มไปหมด

"ทุกคนผู้ชายคนนี้มาสารภาพรักกับฉัน ต่อจากนี้ให้ทุกคนรู้ไว้น่ะว่าผู้ชายคนนี้ที่ชื่อพัทธ์เป็นของฉัน

ห้ามใครมายุ่ง"  ผมหันไปมองคนที่อยู่ข้างๆสลับกับสายตาของทุกคน  ที่ต่างพากันปรบมือแสดง

ความยินดีกับผม  แต่ไม่ใช่น่ะแบบนี้จะเรียกว่าแสดดงความยินดีได้ไงผมไม่ได้อยากเป็นแฟนกับนาย

คนนี้น่ะ แล้วที่ทำให้ผมแทบล้มทั้งยืนด้วยนั้นคือเลศยา  ที่ยืนกอดอกมองอยู่นานแล้วพร้อมกับปรบ

มือให้ผม 

"นายทำบ้าอะไรของนาย นายพูดแบบนั้นไปได้ไงห่ะ?"

"ก็นายมาสารภาพรักกับฉันถ้าฉันไม่ตอบรับก็ทำให้นายเสียใจซิ"

 

"จะบ้ารึไงฉันไม่ได้ส่งให้นายซ่ะหน่อยคนที่ฉันส่งให้.." 

"ไม่รู้ซิในเมื่อมันตกอยู่ในมือของฉันนายก็เป็นคนของฉัน  ไปเรียนได้แล้วเที่ยงๆฉันจะไปรับนายที่

ห้องเอง" 

"ห่ะ?.." นี่มันวันอะไรของผมกันเนี้ยยยยย....

          

          แอบมองมาตั้งนานไม่เคยคิดเลยว่าจะไปบอกความรู้สึกซักครั้ง  คิดว่าถ้าวันหนึ่งที่ผมเรียน

จบไปคงจะลืมได้  แต่วันนี้กับมีเรื่องโชคดีเข้าข้างเมื่อพัทธ์  คนที่ผมหลังรักมาตั้งแต่เข้าม.4ยื่นช่อ

ดอกไม้ให้  แต่ความจริงก็รู้อยู่แล้วว่าเขาไม่ได้ให้ผมหรอก  แต่จะปล่อยให้โอกาสได้พูดคุยมาถึง

แบบนี้ก็ดูจะโง่ไป  เพราะฉะนั้นผมจะยอมเป็นคนนิสัยเสียดูแล้วกัน  เพราะถ้าผมยังคงทำตัวเป็นคน

ที่แสนดีก็ไม่มีทางได้โอกาสแบบนี้แน่ๆ   แต่หลังจากนี้ผมจะค่อยๆทำให้พัทธ์รักผมให้ได้คอย

ดูเถอะคนอย่างผมจะไม่ปล่อยให้โอกาสที่รอมาสองปีหลุดไปแน่ๆ 

"ขอบคุณโชคชะตาที่วันนี้เข้าข้างผม" ผมมองตามหลังคนที่เดินจากไปก่อนจะหันหลังเดินกลับ

ห้องเรียนตัวเอง

"ไงว่ะไอ้ธัญได้ข่าววันนี้ประกาศตัวเป็นเจ้าของใครมาว่ะ" เสียงของไอ้ปรานต์เพื่อนสนิทของผมที่

เดินเข้ามานั่งข้างๆก่อนถามขึ้น ผมหันไปกระตุกยิ้มบางๆใส่ 

"ยิ้มแบบนี้เรื่องดีชัวร์เล่ามาเลยเพื่อน" 

"วันนี้คนนั้นเขาส่งช่อดอกไม้ผิดเลยส่งให้กูว่ะ" 

"คนนั้น?...เฮ้ยอย่าบอกน่ะว่าพัทธ์ห้อง3" 

"อือ.."

"แล้วเป็นไงมึงเล่ามาให้หมดเลยไอ้ธัญเรื่องดีๆแบบนี้"

"ความจริงเขาไม่ได้ส่งให้กูหรอกถ้ากูเดาไม่ผิดหน้าจะเป็นศยาห้อง1ว่ะ  แต่ท่าทางเขารนๆเลยก้ม

หน้าก้มตาส่งไม่มองกูเดินตามหลังมาเลยกลายเป็นคนที่เขาสารภาพรักแทน" 

"โอ้ววว...นี่มึงเลยใช้โอกาสนี้มัดมือชกเลยใช่ไหมไอ้ธัญ" 

"เออ"  ผมหันไปยิ้มให้ไอ้ปรานต์ที่นั่งขำผมอย่างซ่ะใจ 

"แบบนี้โอกาสก็เข้าข้างมึงแล้วซิ  ว่าแต่มึงจะทำไงต่อว่ะไอ้ธัญ” 

"กูหรอ?...หลังจากนี้กูจะค่อยๆผูกมัดเขาแล้วทำให้เขารักกูให้ได้" 

"เฮ้ยยยย...ไอ้ธัญมึงอย่าบอกน่ะว่ามึงจะปล้ำเขาเลย" 

"โถ่ไอ้ปรานต์  ไอ้เวรมึงเห็นกูเป็นพวกแบบนั้นรึไงว่ะ...ไปนั่งโต๊ะเรียนมึงเลยไปกูไม่คุยกับมึงแล้ว"

ผมไล่ไอ้ปรานต์ให้กลับไปนั่งที่โต๊ะเรียนก่อนจะเปิดกระเป๋าหยิบหนังสือเรียนขึ้นมา

 

          "พัทธ์ตกลงเป็นไงกันแน่เมื่อเช้าก่อนเข้าเรียนกูเห็นคนพูดเรื่องมึงไปสารภาพรักกับเด็ก

ห้อง5มาจริงหรอว่ะ ก็ไหนมึงบอกว่ามึงชอบศยาไง" ทันทีที่เข้ามาในห้องแทนที่ผมจะได้นั่งสงบสติ

อารมณ์กับเรื่องหน้าอับอายไอ้เพื่อนหน้าฝรั่งครึ่งไทยก็เอาแต่ซักเรื่องยาวไม่จบซักที

"โอ๊ยยยย...เลิกถามกูก่อนได้ไหมไอ้ดรันกูไม่ได้ตั้งใจโว๊ย  ตอนแรกว่าจะเอาไปให้ศยาแต่ไม่รู้ไอ้

ดำนั้นมาจากไหน" 

"แล้วแบบนี้เรื่องมึงกับศยาล่ะ" 

"หยุดพูดเถอะศยาเขาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมดแล้ว  กูไม่หวังจะไปสารภาพรักกับเธออีกแล้วล่ะ ฮื่อๆๆๆๆๆ พูดแล้วเศร้า" 

"ใจเย็นๆบางทีอาจจะไม่ร้ายแรงก็ได้"  ผมหันไปมองไอ้ฝรั่งครึ่งไทยตาสีฟ้าที่นั่งมองผมข้างๆก่อน

จะก้มหน้ากับโต๊ะต่อ 

"แล้วคราวนี้กูจะทำไงดีว่ะไอ้ดรัน  ไอ้ดำนั้นมันบอกตอนเที่ยงจะมารับกูด้วยนี่ก็ใกล้จะหมดชม.แล้ว"

ผมหันไปมองหน้าไอดรันสลับกับก้มมองที่หน้าปัดนาฬิกา  ที่ตอนนี้เข็มชี้บอกเวลาว่าอีกเพียงแค่สิบ

นาทีก็จะเที่ยงแล้ว แต่โชคดีที่วันนี้อาจารย์ให้ทำแบบฝึกหัดเท่านั้น  ไม่เช่นนั้นผมคงบ้าแน่ๆ ผมนั่ง

ทำแบบฝึกหัดไปเรื่อยๆจนสัญญาณหมดเวลา ใช่ซิถ้าผมรีบชิ้งหนีออกจากห้องไปก่อนที่ไอ้ดำจะมา

ยังไงซ่ะผมก็รอดแน่นอน หึหึ ผมแอบดีใจกับความฉลาดของตัวเองก่อนจะรีบเก็บทุกอย่างลงกระเป๋า

แล้ววิ่งทันที 

"เฮ้ยยย!!!" ผมหันไปมองตามแรงกระชาก  หลังจากที่ผมจะออกจากห้องเรียนไอ้นี่มันบ้ารึไงทำไม

มันมาไวขนาดนี้

"จะไปไหน?"

"ไปกินข้าวเทียงแล้ว" ผมตอบไปรนๆก็ใครจะไปคิดกันว่าเสียงสัญญาณพึ่งดังไม่ถึงสามนาทีไอ้นี่มัน

มาถึงห้องเรียนของผมเป็นที่เรียบร้อย  ผมมองหน้ามันพร้อมกับหันมองคนในห้องที่ค่อยๆทยอยเดิน

ออกจากห้องไปพักกลางวัน 

"ก็บอกแล้วไม่ใช่หรอว่าจะมารับ" 

"จะมารับทำไมไปกินคนเดียวได้" 

"ก็นายเป็นแฟนฉันแล้ว" 

"เฮ้ย...อย่ามาพูดมั่วๆน่ะ กูไปเป็นแฟนมึงเมื่อไร?"

"งั้นนายคอยดู" ไอ้นี่มันจะเล่นอะไรของมันอีกว่ะ

"เฮ้ยเมื่อเช้าเห็นที่พัทธ์มาสารภาพรักกับเราไหม?" ผมหันไปมองนายคนนี้ที่อยู่ก็เดินไปถามเพื่อน

ในห้องของผมเรื่องเหตุการณ์เมื่อเช้าทุกคนต่างพากันพยักหน้าตอบเป็นเสียงเดียวกัน

"ขอบใจทุกคนน่ะที่เป็นพยาน...ไงล่ะคราวนี้ก็ไม่มีข้อสงสัยแล้วน่ะไปกินข้าวกันได้แล้ว" พูดจบไอ้

ดำนี่ก็จับมือผมเดินไปตามทางเดินเพื่อไปกินข้าวทันที  ผมได้แต่หันไปมองไอ้ดรันที่ยืนขำคิกคัก

ตามหลังแทนที่จะช่วยกันกลับปล่อยให้ใครก็ไม่รู้มาลากเพื่อนไปไอ้ดรัน  ไอ้ฝรั่งทรยศ

          

          "กินอะไร?" ผมนั่งที่โต๊ะในโรงอาหารกับพัทธ์ที่ทำหน้าอย่างเซ่งๆ  ไม่รู้จะทำไงเหมือนกันก็ทุกอย่างมันเป็นอุบัติเหตุ  ผมไม่ได้ตั้งใจจะฉวยโอกาสซักหน่อย 

"พัทธ์จะกินอะไร?"

"ไม่รู้อยากกินอะไรก็ไปดิยุ่งไรกับกูว่ะเนี้ย" รอมาตั้งสองปีกว่าจะได้พูดกัน  แต่มาแบบนี้ผมเองก็ไม่รู้

จะทำไงเหมือนกันน่ะ  ก็ใช่ว่าที่ทำแบบนี้ผมจะไม่ตื่นเต้นคนที่ตัวเองแอบรักมาตั้งสองปีนั่งอยู่ที่โต๊ะ

เดียวกันโอกาสแบบนี้แม้รู้ดีไม่ใช่ผม  แต่มันก็ไม่ใช่ว่าผมจะสร้างโอกาสให้เป็นจริงไม่ได้ไม่ใช่หรอ? 

"ก็เป็นแฟนเราแล้วเราก็จะเทคแคร์ไงพัทธ์อยากกินอะไรก็บอกดิจะไปซื้อให้"

"เดี๋ยวกุไปหากินเองได้"

"พัทธ์..." ผมเริ่มขึ้นเสียงแข็งใส่คนตรงหน้าพร้อมกับสายตาที่จ้องบอกให้รู้ว่าอย่ายั่วประสาท  คนที่

เถียงอยู่ค่อยๆก้มหน้าหลบกับโต๊ะ 

"เอาข้าวผัดคะน้าหมูกรอบไข่ดาวแล้วก็ชาเย็น" ผมพยักหน้าก่อนหยิบกระเป๋าไปซื้อของตามที่พัทธ์

บอก  ไม่นานมากนักก่อนจะเดินกลับมาพร้อมกับข้าวและน้ำที่อยู่ในถาดสองชุด(เหมือนกัน) 

"อะนี่ของพัทธ์" ผมหยิบจานข้าวพร้อมกับน้ำส่งให้ พัทธ์รับไปพร้อมกับมองมาที่ข้าวของผมเช่นกัน

"ทำไมต้องกินเหมือนกันด้วย" 

"ก็อยากกินแบบที่พัทธ์ชอบกินดู" 

"ถ้าฉันจะกินผัดเผ็ดปลาไหลไม่ต้องมานั่งกินด้วยรึไง" ..ผมว่าผมได้ยินพัทธ์บ่นอะไรซักอย่างน่ะแต่

ไม่ชัดและผมก็ไม่คิดจะถามหรอกผมหันไปยิ้มให้พัทธ์ก่อนจะทำท่าทางตักข้าวเข้าปากอย่าง

เอร็ดอร่อย 

"ชื่ออะไร?"  อยู่ๆคนที่ก้มหน้าก้มตากินข้าวอยู่ก็เงยหน้าจากจานข้าวถามผมขึ้น

"ห่ะ?...ว่าไงน่ะ?" 

"ถามว่าชื่ออะไร?"

"ธัญ...จำให้ดีๆล่ะฉันเป็นแฟนนายน่ะถ้าจำชื่อไม่ได้ฉันจะทำให้นายจำได้ไม่ลืมเลยคอยดู"  

 

ผมแกล้งพูดพร้อมกับยิ้มแบบมีเลศนัยตักข้าวกินต่อ 

"มึงไม่อายรึไงอยู่ๆมาแกล้งกูด้วยการบอกคนอื่นไปทั่วว่ากูเป็นแฟนมึง กูเป็นผู้ชายน่ะ" 

"ไม่...ก็ขนาดพัทธ์ยังกล้าส่งช่อดอกไม้มาสารภาพกับเราทำไมเราต้องอายด้วย" 

"ก็บอกแล้วไงว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด" 

"กินนี่ซิอร่อยน่ะ"  ผมไม่อยากฟังอะไรที่พัทธ์จะพูดเลยตักข้าวส่งให้พัทธ์ที่กำลังจะอ้าปากว่า  แต่

ภาพกับทำให้ทุกคนเห็นเลยกลายเป็นว่าผมป้อนข้าวพัทธ์อยู่นั้นเอง คนถูกป้อนข้าวเข้าไปค่อยๆ

เคี้ยวก่อนกลืนแล้วหยิบน้ำยกดูดเบาๆ 

"อร่อยไหม?" ผมถามเพราะเห็นว่าตอนนี้หน้าของพัทธ์แดงมาก  ก่อนจะค่อยตักข้าวเข้าปากตัวเอง

บ้าง ความรู้สึกเหมือนผมได้จูบกับพัทธ์ทางอ้อมยังไงไม่รู้ก็ช้อนที่ผมป้อนเขากับช้อนที่กินข้าวของ

ผมมันคันเดียวกันนี่ 

"ยิ้มอะไร?"

"ก็เหมือนได้จูบทางอ้อมไงอร่อยน่ะว่าป่ะ"  ผมตักข้าวกินต่อแต่คนที่ถูกตอบกับหน้าแดงไปหมด

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
7 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
4 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา