แค่อยาก...ลอง kristao
เขียนโดย เต่าไร้กระดอง
วันที่ 24 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 01.20 น.
แก้ไขเมื่อ 24 เมษายน พ.ศ. 2559 02.01 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
3) ช่วย
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ.
.
.
ชายร่างโปร่งคิดวนไปซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนไม่มีสมาธิในการเรียนถึงแม้วันนี้จะเป็นวิชาที่สำคัญก็ตาม พอเลิกเรียนร่างโปร่งของจื่อเทาก็ได้แต่มานั่งเครียดอยู่โต๊ะม้าหินอ่อนที่ประจำก่อนจะมีพี่รหัสสุดสวยมานั่งด้วย
“จื่อเทาทำหน้าเครียดแบบนั้นล่ะ หรือมีปัญหาเรื่องการเรียน”คนตัวเล็กถามด้วยความสงสัยส่วนคนที่ถูกถามก็ได้แต่ส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธ
“ปะ..เปล่าหรอกครับพี่คยองซู พอดีผมแค่สงสัยอะไรนิดหน่อยน่ะ มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกครับ”
“ออ..เหรอ ไม่เป็นไรก็ดีแล้วงั้นจื่อเทาไปคณะวิศวะหน่อยซินะๆ” จื่อเทามองหน้าคยองซู ก่อนตอบตกลงมันมักจะเป็นแบบนี้เกือบทุกครั้งเสมอที่คนตัวเล็กมาหาตนไม่ชวนไปหาของกิน ก็แวะไปคณะอื่น
“แล้วทำไมต้องมาคณะวิศวะด้วยล่ะครับ เห็นทุกทีพี่ชอบไปนิเทศน์ ไม่ก็สถาปัตย์ไม่ใช่เหรอ”
“ออ พอดีพี่กำลังทำมิสชั่นอยู่น่ะ อิอิอย่าบอกใครนะเทา คืออย่างงี้พี่กับแบคฮยอนน่ะกำลังแข่งกันทำมิสชั่นอยู่ ภาระกิจของพี่ก็ไม่มีอะไรมากหรอกก็แค่ทำให้คิม จงๆอะไรซักอย่างเนี่ยแหละบอกรักน่ะ”
คยองซูอธิบายไปอย่างสนุกสนาน พลางลากคนที่ตัวสูงกว่าพาตนไปยังเป้าหมาย
“แล้วถ้าคุณคิม จงๆอะไรนั้นบอกรักพี่แล้วล่ะครับจะต้องทำยังไงต่อ”
“จะไปยากอะไร ถ้าหมอนั้นบอกรักพี่ พี่ก็แค่ถ่ายคลิปวิดีโอส่งไปให้ไอ้หมาดูน่ะสิ แค่นี้ก็ได้สามหมื่นมานอนกอดแล้ว”
“มะ..ไม่ใช่ครับ ผมหมายถึงคุณคิม จงๆอะไรนั้น พี่จะทิ้งเขาหรือเปล่าครับถ้าทิ้ง มันจะไม่ทำให้เขาเจ็บปวดไปเหรอ ทำไมพวกพี่ถึงโหดร้ายกันแบบนี้” จื่อเทาพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจังจนทำให้คยองซูรู้สึกผิดขึ้นมานิดหนึ่ง
“หน่าอย่าคิดมากเลย มันก็แค่เกมส์ ถ้าพี่ไม่ยอมปล่อยหมอนั้นก็เป็นฝ่ายแพ้ ส่วนไอ้คิม จงๆนั้นมันคงจะไม่เจ็บปวดอะไรขนาดนั้นหรอก พี่ได้ข่าวว่าหมอนั้นเป็นเสือผู้หญิงด้วยนะ เห็นว่าเจ้าชู้พอตัวด้วยแหละ”
คนตัวเล็กพยายามอธิบายให้เพื่อนตัวสูงไม่ต้องเครียดไป พอพูดคุยมากันได้สักพักทั้งสองก็มาหยุดอยู่ตรงหน้าคณะวิศวะ คยองซูลากจื่อเทามายังลานเกียร์แหล่งที่พวกวิศวะส่วนใหญ่มักจะรวมตัวกัน
“เออ พี่ดีโอครับ พะ..พี่จะไปไหน ผมกลับ..”เมื่อเห็นว่าร่างเล็กเจอเป้าหมายและมีทีท่าที่จะทิ้งตนก็ถามาขึ้นเพื่อขอตัวกลับบ้าน
“เทารออยู่นี่นะ ห้ามไปไหนรอพี่แป๊บหนึ่งเดี๋ยวพี่มา”
ยังพูดไม่ทันจบร่างเล็กก็ทิ้งตนไว้ท่ามกลางกลุ่มเด็กวิศวะที่มองเจ้าตัวอย่างสนใจ จะไม่ให้สนใจได้ยังไงก็เขาแต่งตัวเหมือนกับหลงยุคมาเสื้อตัวใหญ่ที่ติดกระดุมจำคอไหนจะชุดที่ดูเป็นระเบียบทรงผมสีดำเนี๊ยบกับแว่นตาทรงโตอีก
จื่อเทาตัดสินใจนั่งโต๊ะไม้รอพี่รหัสของตนที่วิ่งเข้าไปหาชายตัวสูงเท่ๆคนหนึ่งก่อนทั้งคู่จะเดินออกไปด้วยกัน จื่อเทาถอนหายใจเฮือกใหญ่หวังว่าพี่รหัสตัวเล็กจะไม่ลืมเขาแล้วกัน
แปะ แปะ แปะ
จื่อเทาปิดหนังสือประวัติศาสตร์จีนลงก่อนจะหันมาสนใจยุงที่คอยตามรังควานกัดไม่เลือก ร่างโปร่งพรู่หายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่ายก่อนจะหันมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองที่บอกว่าตอนนี้จะทุ่มครึ่งแล้ว จื่อเทามองคนรอบข้างที่แทบจะไม่มีเหลืออยู่
นี่เขารอคยองซูตั้งแต่5โมงจนถึงตอนนี้ แต่แล้วก็ตัดสินใจไม่รอพี่รหัสตัวเล็กต่อ ถ้าขืนรอมีหวังได้กลายเป็นไข้เลือดออกตายแน่ ป่านนี้รถเมล์คงหมดแล้วแน่เลย
จื่อเทาถอนหายใจยาวๆก่อนจะเดินออกจากตึกคณะซึ่งปกติจื่อเทาก็ไม่ค่อยจะได้กลับค่ำเท่าไหร่นัก ร่างโปร่งเดินทอดน่องไปเรื่อยๆอย่างไม่ได้รีบร้อนอะไรสายตาก็มองวิวทิวทัศน์ของมหาวิทยาลัยในยามค่ำคืนจนพ้นเขตมหาลัยจื่อเทาเลือกใช้ทางที่คิดว่าใกล้ที่สุดในการกลับบ้าน
“เฮ้ย ไอ้แว่นมาทำอะไรดึกๆดื่นๆแถวนี้ว่ะ ใจกล้าใช่เล่นเลยนิหว่า แต่เอ้อมึงอยู่คนละมหาลัยกับกู ดูจากชุดแล้ว แบบนี้คงต้องสั่งสอนซะหน่อย”
เสียงเย้ยหยันของกลุ่มวัยรุ่นต่างมหาลัยสามสี่คนทำให้จื่อเทาเริ่มกลัว หัวใจแทบจะหล่นไปถึงตาตุ่ม
“เออ..ผะ..ผมมีเงินอยู่แค่นี่ พะ..พวกอย่าซ้อมผมเลยนะครับ” ร่างโปร่งพูดด้วยความกลัวไม่รู้ว่า
“555ตลกว่ะลูกพี่อยู่ๆก็เอาเงินมาให้ แบบนี่ลูกพี่ยังจะสั่งสอนมันอยู่ไหมครับ”ชายหนึ่งในนั้นพูดขึ้น
“ไอ้แว่นคือจริงๆแล้วพวกกูก็มีตังค์โว้ย พ่อแม่กูรวย แต่ที่กูอยากเห็นคือไอ้เด็กมหาลัย×××โดนพวกกูรุมกระทืบ เพราะอะไรรู้ไหม ก็เพราะกูขิวขี้หน้าคนๆหนึ่งว่ะ”
ชายที่ถูกเรียกว่าเป็นหัวหน้ามองจื่อเทาด้วยสายตาหยามๆมือของร่างโปร่งกำเข้าหากันแน่น สายตาสอดส่องหาคนที่จะเข้ามาช่วยเหลือแต่ไม่มีเลย เมื่อพวกนั้นเข้ามาใกล้จื่อเทาก็ตัดสินใจก้าวทอยหลังก่อนจะหันหลังวิ่งไม่คิดชีวิต
“เอ้ย ลูกพี่มันหนีไปแล้ว”
“หนีก็ตามมันไปซิว่ะพวกโง่ ไปตามมันเร็ว”
แล้วการวิ่งไล่จับกันก็เกิดขึ้น จื่อเทาวิ่งหนีโดยไม่ได้สนใจดูทางข้างหน้าเลยว่าตัวเองไม่ได้คุ้นชินซักนิด แถมยังไม่ค่อยจะมีเสียงไฟอีก จื่อเทาที่ใส่เกียร์หมาหนีไม่คิดชีวิตได้แต่ภาวนาในใจขอให้ใครก็ได้ผ่านมาช่วยตนทีจน
เอี๊ยดดดดด!!
จื่อเทาที่ไม่ได้สนใจทางข้างหน้าเพราะมัวแต่กลัวว่าคนข้างหลังจะตามทันก็แทบจะพุ่งทะยานเข้าไปหารถยนต์คันหรูที่วิ่งสวนมาแต่ดีที่รถยนต์คันนั้นเบรกไว้ทัน จื่อเทาจึงไม่ได้เป็นอะไร แม่งอะไรจะซวยซ้ำซวยซ้อน
“หนีไม่พ้นแล้วมึง” เสียงคนที่วิ่งตามมาติดๆเอ่ยขึ้นประจวบกับคนที่อยู่ในรถยนต์คันหรูก้าวออกมาทันที
“อยากตายนักหรือไงถึงเที่ยววิ่งตัดหน้ารถคนอื่น” คนตัวสูงที่ลงมาจากรถด้วยความโมโห ต่อว่าคนที่วิ่งตัดหน้ารถตน พร้อมจับข้อมือไว้แน่น
“ช่วยด้วยครับ แฮกๆช่วยผมด้วย พวกเขาจะรุมทำร้ายผม”ร่างโปร่งที่ออกปากขอความช่วยเหลือ ทำให้อีกคนหันไปมองพวกที่วิ่งตามจื่อเทามาติดๆ
“ออ ก็นึกว่าใครที่แท้ก็ไอ้พวกขี้แพ้ชวนตี”
“ใครขี้แพ้ว่ะ พวกกูไม่ได้แพ้เว้ย เหี้ยเถอะ วันนี้มึงโชคดีไปนะไอ้แว่น ไปโว้ยพวกเรากลับ”แล้วพวกนั้นก็พากันกลับไปจื่อเทาถอนหายใจอย่างโล่งอก ก่อนจะหันมามองร่างสูงที่ยังจับข้อมือเขาอยู่ ผู้ชายที่มีใบหน้าหล่อที่ขับกับผิวขาวๆ แต่ส่วนสูงที่ดูเหมือนจะมากกว่าเขาแค่ไม่กี่เซน เห็นแล้วจื่อเทาอิจฉาสุดๆถ้าตัวเองหล่อขนาดนี่คงจะมีสาวติดตรึมแน่
“เออ…ขอบคุณนะครับที่ช่วยผม เออแต่ว่าช่วยปล่อยข้อมือผม” ร่างสูงปล่อยข้อจื่อเทาลง ก่อนจะเดินขึ้นไปยังรถของตัวเอง ก่อนจะรถกระจกลง
“เอาๆ แล้วนั้นนายจะไปไหนน่ะ มืดค่ำป่านนี้คิดจะเดินกลับคนเดียวเหรอ ถ้าเจอไอ้พวกนั้นดักทำร้ายอีกฉันไม่ช่วยนะ ขึ้นรถสิ” จื่อเทามองคนตัวสูงผู้ใจดีก่อนจะเดินเปิดประตูนั่งข้างๆคนขับ
“ขะ..ขอบคุณนะครับ”
“พอๆไม่ต้องขอบคุณหรอกแล้วนี่บ้านนายอยู่ไหนเร็วๆอย่าทำให้ฉันเสียเวลา” จื่อเทาบอกทางไปบ้านของตนให้กับคนร่างสูงจนในที่สุดรถหรูก็มาจอดเทียบหน้าบ้าน
“นายอยู่บ้านคนเดียวเหรอ”
“คุณรู้ได้ยังไงครับ”
“ฉันไม่ได้โง่ถึงขนาดไม่รู้นะ ดูซิบ้านมืดซะขนาดนี้จะมีใครอยู่บ้าง”
“งั้นก็ขอบคุณนะครับที่ช่วยไว้ แถมยังใจดีมาส่งอีก”จื่อเทายิ้มให้คนตัวสูงก่อนจะเปิดประตูลงจากรถ แต่ก็เหมือนยังไม่มีวี้แววที่รถคันรูจะเคลื่อนออกไป
“นี่นายแว่น นายไม่คิดจะชวนฉันเข้าไปในบ้านหน่อยเหรอ”
“ชวนเข้าไปในบ้าน?? ไปทำไมครับ”ร่างโปร่งถามด้วยความสงสัย หรือว่าจะเป็นโจรแต่ก็ไม่น่าจะใช่เพราะขับรถหรูซะขนาดนี้คงจะไม่ใช่หรอก
“นี่ฉันถามน่ะ ไม่ได้ยินหรือไง นายนี่ไม่มีน้ำใจเลยจริงๆ คนอุตส่าห์ช่วยแถมยังพามาส่ง ยังไม่คิดที่จะหาอะไรให้กินอีกคนมันหิวน่ะโว้ย” เมื่อคนร่างสูงเอ่ยออกมาก็ทำให้จื่อเทาเข้าใจว่าไอ้สูงหล่อนี่คงจะหิวแน่ๆ
“งั้นก็เข้ามาก่อนก็ได้ครับ”ร่างโปร่งพาคนตัวสูงเข้ามาในบ้านก่อนจะลงมือทำอาหารให้คนที่ท่าทางหิวโซทาน ไม่นานอาหารสองสามอย่างก็ถูกวางบนโต๊ะ
“คุณพอจะทานได้หรือปะ..”จื่อเทายังทันถามไม่จบคนตรงหน้าก็ทานอาหารอย่างรวดเร็วปรานไม่ได้กินอาหารมานับแรมปี
“แครกๆ นายนี่ก็ทำอาหารอร่อยเหมือนกันนะเนี่ย แล้วนี่นายทำไมกินน้อยแบบนั้นล่ะมาๆฉันตักให้” คำชมจากคนที่ยังเคี้ยวข้าวเต็มปากแถมยังตักเต้าหู้ปลาให้อีก จื่อเทาได้แต่ยิ้มเห่ยๆให้คนตรงหน้าที่ทำตัวเหมือนเด็กก่อนจะลงมือทานต่อ
“อิ่มโว้ย พอหนังท้องอิ่มนั่งตาก็หย่อน แว่นฉันขอนอนงีบซักแป็ปนะ ช่วงนี้ยังไม่ค่อยได้นอนเลย”ว่าจบคนตัวสูงก็เอนตัวลงนอนไปกับโซฟา จื่อเทามองดูจนแน่ใจว่าไม่ได้แค่งีบแน่ๆ
เลยเดินขึ้นไปชั้นบนของบ้านเพื่อทำธุระส่วนตัว ร่างโปร่งเดินลงมาข้างล่างเพราะคิดว่าคนตัวสูงน่าจะกลับแล้ว แต่เปล่าเลยคนตัวสูงยังคงนอนหลับต่อ จื่อเทามองหน้าคนที่นอนอุตุอย่างพิจารณา
“พอตอนนอนหลับก็ดูน่ารักไปอีกแบบแหะ” ก่อนจะตัดสินใจไม่ปลุกแล้วหาผ้าห่มมาห่มให้แทน จื่อเทาขึ้นไปชั้นบนก่อนจะนั่งอ่านหนังสือตามปกติแต่ไม่รู้ว่าทำไมใจถึงได้เต้นแรงกับคนที่นอนหลับอยู่ข้างล่างกัน ทำไมกัน
ตึก ตัก ตึก ตัก
“หัวใจบ้าหยุดเต้นแรงได้แล้ว ”จื่อเทาบ่นกับตัวเอง ไม่เข้าใจตัวเองเลยจริงๆทั้งๆที่ชื่อแซ่ก็ไม่เคยรู้จัก จื่อเทาบ้าไปแล้ว
.
.
ใครกันนะชายที่ทำให้แพนด้าน้อยของเราใจเต้นแรง~
อิอิ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ