The trap of the heart กับดักของหัวใจ
เขียนโดย NannyCandy
วันที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2559 เวลา 21.02 น.
แก้ไขเมื่อ 4 เมษายน พ.ศ. 2559 11.41 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
8) WELL
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความCHAPTER 07
ฉันตวัดหางตามองผู้ชายข้างๆที่เอาแต่ยิ้มเหมือนตัวเองได้ชัยชนะนั้นไปหารู้ไม่ว่าฉันไม่มีทางทำตามเขาง่ายๆหรอก
“ขอโทรศัพท์ก่อนสิ” ฉันเริ่มหัวหมอต่อรองให้เขาเอามือถือมาให้ฉันแต่จะพูดไหมก็อีกเรื่องนะโทโมะ
“ขอฉันคุยกับแฟนก่อนแล้วเดี๋ยวฉันบอกเลิก”
“คิดว่าฉันเชื่อไหมล่ะ?” โทโมะถามฉันเสียงเหนือ
บางทีฉันก็ลืมไปว่าเขาก็มีสมองไม่ต่างจากฉันเหมือนกัน
“แล้วจะให้ฉันบอกเลิกแฟนทั้งๆที่แฟนฉันไม่ได้ทำอะไรผิดเลยเนี่ยนะตลก”
“แฟนเธอไม่ได้ทำผิดแต่เธอทำผิดมันก็ไม่ต่างอะไรกันตรงไหนนี่คุณแก้วใจ”
โทโมะเรียกชื่อฉันเต็มยศฉันไม่ค่อยชอบการประชดประชันที่ออกมาจากปากเขาสักเท่าไรบวกกับท่าทางและหน้าตาที่ย้ำกวนประสาทฉันเรื่อยๆยิ่งแล้วใหญ่
“ขอร้องล่ะนายจะทรมานฉันยังไงก็ทำแต่อย่ามาทำความรักระหว่างฉันกับต้าร์พังเพราะฉันจริงจัง”
“แล้วฉันล่ะเธอเอาฉันไปไว้ไหนแก้ว ฉันก็เป็นส่วนหนึ่งของเธอเหมือนกันไม่ใช่”
หึ…ฉันอยากจะหัวเราะออกมาให้รู้แล้วรู้รอดสิ่งที่เขาทำมันคือการปิดปากมันคือการข่มขู่มันไม่ได้ช่วยให้ฉันใจอ่อนหรือให้อภัยกับเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้นเลยสักนิด
“หยุดพล่ามแล้วเอาโทรศัพท์มาให้ฉัน!” ฉันเริ่มเดือดและโน้มตัวเพื่อเอื้อมไปเอาโทรศัพท์ในมือของเขาแต่โทโมะกลับใช้วงแขนล็อกเอวของฉันเอาไว้ในตอนนี้ตัวของฉันทับอยู่บนร่างเขาอย่างจำยอม
“ให้ฉันโทรหาแฟนแค่นาทีเดียวก็พอ” ฉันขอร้องเขาในขณะที่หน้าฉันยังอยู่ประชิดเขาไม่ได้เขยิบหนีไปไหน
“โทรสิ” โทโมะยังไม่ให้ฉันลุกเขาล็อกเอวฉันแน่น
“โทรตรงนี้ตอนนี้นี่แหละ”
ดูเหมือนว่าโทโมะยังไม่ได้ลบเบอร์ของแฟนฉันออกไปเขากดหาทันทีก่อนจะแนบมาที่หูฉันเขาไม่ให้ฉันจับโทรศัพท์ของเขาเพราะในตอนนี้แขนของฉันถูกรวบอยู่ในอ้อมกอดเขาเหมือนกัน
ฉันรอเสียงตอบรับจากปลายสายแต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าต้าร์จะรับสายนั่นโทโมะโน้มหน้าเข้ามาหาฉันก่อนจะกดคางลงบนไหล่ฉันเหมือนเรากำลังกอดกันยังไงยังงั้นฉันดิ้นไม่ได้เพราะต่อให้ดิ้นมันก็ไม่หลุดพ้นอยู่ดี
(โหลใครครับ)
ฉันยิ้มออกมาทันทีที่ได้ยินเสียงต้าร์จากปลายสาย
“ต้าร์นี่แก้วเองนะ” ฉันดี้ด้าทันทีก่อนจะกรอกเสียงตัวเองลงไปในมือถือแต่ในช่วงจังหวะนั้นโทโมะก็เริ่มเล่นแผลงๆจากที่เขาเอาคางกดไหล่ฉันไว้เขาก็เปลี่ยนมาสูดหายใจข้างๆต้นคอฉันแทน
“ตะต้าร์สบายดีไหม…”
ฉันเริ่มเห็นท่าไม่ดีจึงไม่กล้าเอ่ยอะไรออกไปมากนอกจากบทสนทนาปกติที่ไม่ได้แฝงขอร้องอะไรไป
โทโมะเม้มติ่งหูฉันค่อยๆก่อนจะไล่พรมจูบที่ต้นคอสลับกับกดริมฝีปากลงมาเรื่อยๆในขณะที่มือของเขายังคงถือมือถือแนบกับหูฉันอยู่เขากำลังเล่นพิเรนณ์กับฉันสินะ…
(ต้าร์ไปหาที่คอนโดแก้วมาหลายวันแล้วนะแก้วหายไปไหนเนี่ย)
น้ำเสียงเป็นห่วงของต้าร์ทำเอาฉันสะอึกน้ำลายตัวเองฉันรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่กำลังหักหลังแฟนปากก็คุยโทรศัพท์กับเขาแต่ร่างกายฉันกำลังถูกรุกลามอยู่กับอีกคน…
“บอกเลิกมันสิ” เสียงกระซิบข้างหูอีกด้านของโทโมะดังขึ้นฉันหลับตาปี๋เพราะความรู้สึกขนลุกเบา
“พอได้แล้ว…” ฉันเอ่ยห้ามโทโมะที่ยังคงลามปามไม่หยุดโทโมะชะงักไปชั่วครู่ก่อนจะค่อยๆเคลื่อนจมูกจรดที่ข้างแก้มของฉัน
(พออะไรแก้วต้าร์เป็นห่วงนะจะให้ต้าร์พออะไรอะ) เสียงงงงวยของต้าร์ดังขึ้นทำให้ฉันเลิกสนใจคนที่กำลังเล่นสนุกกับร่างกายฉันอยู่
“อะอ๋อเปล่าแก้วแค่ดุหมาในบ้านน่ะตอนนี้แก้วมาหาแม่ที่ต่างจังหวัดแก้วขอโทษนะที่ไม่ได้บอกต้าร์”
(อ้าวไม่เป็นไรแค่แก้วไม่เป็นอะไรต้าร์ก็สบายใจล่ะทีหลังไปไหนมาไหนบอกต้าร์ก่อนนะเข้าใจไหมแก้ว)
“อะอืมต้าร์ไม่ต้องห่วงแก้วหรอกนะถ้าแก้วกลับไปแก้วจะโทรไปบอก” ฉันที่พร้อมจะวางสายพอนึกถึงเรื่องบางเรื่องได้ก็รีบเอ่ยก่อนที่โทโมะจะกดวาง
“แก้วโทรศัพท์พังนะต้าร์ไว้แก้วจะติดต่อไปเอง”
สิ้นสุดคำพูดของฉันเจ้าของมือถือก็กดปิดวางสายลงฉันดันตัวเองออกจากตัวโทโมะคนถูกทับปล่อยฉันเป็นอิสระทันที
“บอกให้บอกเลิกมันไง” โทโมะมองมาที่ฉันอย่างหาเรื่องเหมือนฉันกำลังขัดใจเขาสุดๆเขากำลังบังคับใจคนรู้ตัวบ้างหรือเปล่า
"กว่าเราสองคนจะคบกันได้มันนานมากนะโทโมะ"
"แล้วไงจำเป็นหรือไงนานไม่นานยังไงคนบอกเลิกก็บอกได้ปะวะ"
เขาเริ่มใช้ความงี่เง่าของตัวเองขึ้นมาเล่นกับอารมณ์ความรู้สึกซะแล้วสิ
“ถ้านายมีแฟนแล้วฉันบังคับให้นายเลิกกับแฟนนายจะเลิกไหมล่ะ”
ฉันย้อนถามคนที่นั่งอยู่บนโซฟาโทโมะเลิกคิ้วสูงก่อนจะยิ้มเยาะออกมาเหมือนคำถามของฉันเป็นคำถามตลก
“เลิก” และเขาก็ตอบมาโดยไม่คิด
“เพราะนายมันไม่มีหัวใจและระบบความรักที่แท้จริงเหมือนที่คนอื่นเขามีไง”
“เปล่า”
“…”
“ถ้าฉันมีแฟนที่ไม่ใช่เธอแล้วเธอสั่งให้ฉันเลิกฉันก็จะเลิกและถ้าฉันมีแฟนเป็นเธอใครหน้าไหนก็ตามมาสั่งให้ฉันเลิกกับเธอ…”
“…”
“ฉันจะไม่เลิกเด็ดขาด”
“เห็นแก่ตัว” ฉันสบถใส่หน้าเขาก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาอีกครั้ง
“ต้าร์ก็คงคิดเหมือนนายเขาไม่มีทางเลิกกับฉันแน่นอนต่อให้ใครหน้าไหนมาสั่งให้เราสองคนแยกจากกันก็ตาม”
ฉันพูดสีหน้านิ่งกว่าที่เป็นโทโมะหันมามองฉันแถมยังหายใจฟัดเหวี่ยงเหมือนคนโดนขัดใจเขาลุกขึ้นก่อนจะถอดเสื้อตัวเองแล้วปาไปที่พื้นด้วยอารมณ์โมโหก่อนที่เขาจะเดินไปที่ห้องน้ำโดยไม่เอ่ยอะไรกับฉันอีกความเอาแต่ใจของนายมันใช้ไม่ได้ผลกับฉันทุกครั้งหรอกนะ
ฉันมองตามหลังเขาไปเมื่อเห็นว่าเขาปิดประตูห้องน้ำฉันจึงรีบล้วงคีย์การ์ดที่หยิบมาจากหัวเตียงของเขาขึ้นมาก่อนจะค่อยๆย่องไปที่หน้าประตูเงียบๆเรื่องกุญแจรถของฉันเอาไว้ก่อนแล้วกันตอนนี้ฉันขอให้ได้กลับคอนโดก็พออยู่ที่นี่อึดอัดเป็นบ้า
ฉันไม่รอช้าแสกนคีย์การ์ดอย่างเร่งด่วนเมื่อประตูเปิดออกฉันก็ยิ้มร่าด้วยความดีใจก่อนจะเอาตัวเองออกจากห้องบ้าๆที่คล้ายคุกนี่ฉันวิ่งออกจากคอนโดด้วยเท้าเปล่าในตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวฉันมีแค่คีย์การ์ดและบัตรเอทีเอ็มที่แอบเก็บไว้กับตัวเองเอาเถอะอย่างน้อยฉันก็โคจรหลุดออกจากห้องของอชิได้เสียทีฉันรีบลงลิฟท์ไปที่ชั้นล่างสุดเมื่อลิฟท์ลงมาถึงชั้นล่างฉันก็ตรงดิ่งที่จะออกไปข้างนอกคอนโดนี่ทันที
พรึ๊บ!
แต่ดูเหมือนว่าความผิดพลาดบางสิ่งบางอย่างกำลังจะเกิดขึ้นจู่ๆข้อมือของฉันก็ถูกใครบางคนจับเอาไว้แน่นฉันหยุดกึกก่อนจะค่อยๆหันไปมองเจ้าข้อมือที่จับฉันไว้
โทโมะ…
เขาลงมาในสภาพที่เสื้อผ้ารองเท้าครบหมดเขาไม่ได้อาบน้ำหรอกเหรอ…
“จะไปไหน” คนรั้งเอ่ยถามเสียงเรียบฉันก็ได้แต่ยิ้มแหยะๆพร้อมกับกลืนน้ำลายลงคอด้วยความลำบาก
“ฉันถามว่าจะไปไหน!”
น้ำเสียงเรียบเปลี่ยนเป็นตะคอกจนคนทั่วคอนโดหันมามองที่พวกเราเป็นจุดเดียว
“ฉันจะกลับคอนโด” ฉันบอกเขาไปตามจริงโทโมะกดตาลงมองคคีย์การ์ดห้องตัวเองในมือฉันก่อนที่เขาจะดึงคีย์การ์ดออกไป
“เล่นตุกติกกับฉันอีกแล้วเหรอแก้ว”
“ปะเปล่าแต่นายไม่มีสิทธิ์มากักขังฉันไว้แบบนี้นายจะติดคุกได้นะ”
ฉันพยายามพูดให้เขาคิดตามอย่างน้อยในตอนนี้คำว่าคุกก็ค้ำหัวเขาไปครึ่งนึงแล้วไม่ใช่หรือไง
“ฉันไม่สนฉันสนอย่างเดียวว่าเมื่อไรเธอจะเลิกเล่นตุกติกซะที” โทโมะชูโทรศัพท์ตัวเองขึ้นก่อนจะมองมาที่ฉันเหมือนกำลังจะบอกอะไรบางอย่าง
“ถ้าเธอตุกติกกับฉันอีกครั้งเพียงคลิ๊กเดียวในมือถือคลิปของเราว่อนทั่วเน็ตแน่แก้ว”
สีหน้าและนำเสียงจริงจังของโทโมะบ่งบอกได้ว่าเขาไม่ได้พูดเล่นแม้ฉันจะยังไม่ได้เห็นคลิปบ้าๆนั่นแต่ฉันเชื่อว่าเขาต้องปล่อยออกมาแน่ๆดูขนาดน้องฉันยังโดนเขาเล่นงานมาก่อนแล้วเลย…
…แล้วฉันล่ะ
“เล่นสกปรกแบบนี้งานถนัดนายเหรอโทโมะ”
“มันเป็นทางเดียวที่จะหุบปากเธอได้ดีที่สุดไง” โทโมะจ้องมาที่ฉันอย่างท้าทาย
“ลองคิดดูนะพี่สาวกับน้องสาวมีคลิปฉาวว่อนเน็ตกับผู้ชายคนเดียวกันเขาจะคิดว่าครอบครัวเธอเป็นคนยังไงดีล่ะโทโมะแล้วไหนจะแฟนเธอ…”
เพลี๊ยะ!
ฉันกัดฟันแน่นก่อนจะส่งฝ่ามือของตัวเองฟาดไปที่หน้าของคนตรงหน้าอีกครั้งด้วยความอึดอัดใจฉันโมโหจนควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ไหวอีกต่อไปแล้วเขาไม่ได้มีจิตใจที่ดีหรือสำนึกบ้าสำนึกบออะไรเลยสักนิดเลวจนใช้คำว่าเลวก็ยังไม่พอฉันไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาเปรียบเทียบสันดานของเขาจริงๆ
ในตอนนี้ฉันไม่อายคนที่เดินผ่านไปมาข้างล่างคอนโดแล้วเอาให้เขารู้ไปเลยว่าคนตรงหน้าฉันมันชั่วขนาดไหนเพศแม่นายเลยนะกดขี่เพราะความสนุกแบบนี้เลยเหรอ…
“แม่ไม่รักเหรอโทโมะ” ฉันพูดออกไปด้วยความเจ็บปวด
“ถึงได้มาลงกับผู้หญิงคนอื่นแบบนี้”
“เล่นถึงแม่ฉันเหรอ…”
สายตาโทโมะสั่นเครือไม่แพ้อะไรกับฉันตอนนี้เขาลูบหน้าตัวเองเพราะความชาที่ได้รับจากน้ำมือฉันไป
“ฉันไม่รู้ว่าครอบครัวนายสั่งสอนนายมายังไง” ฉันพูดอย่างท้าทายแม้ในใจจะกลัวว่าเขาอาจจะโมโหจนต่อยฉันลงไปกับพื้นก็ได้
“แต่ที่นายกำลังทำนายกำลังเหยียบหัวเพศแม่ตัวเองอยู่รู้หรือเปล่า”
“อืม” โทโมะพยายามเค้นหัวเราะเหมือนว่าสิ่งที่ฉันพูดไม่ใช่เรื่องที่ควรนำมาคิดตาม
“ไม่มีใครทำไปเพราะไม่มีความจำเป็นหรอกทุกสิ่งล้วนแต่ทำเพื่อประโยชน์ตัวเองทั้งนั้นและนี่ก็คือประโยชน์ส่วนตัวของฉันพอใจหรือยัง”
“…”
“ฉันไม่ได้คิดอะไรกับเธอเกินเลยกว่าคำว่าเห็นแก่ประโยชน์เลยด้วยซ้ำ”
“หึฉันก็ไม่ได้คิดว่านายจะคิดกับฉันเป็นอย่างอื่นเลยโทโมะ”
ฉันยิ้มแสยะเหมือนคนไพ่เหนือแม้ในตอนนี้น้ำตาของฉันจะคลอเบ้าเพราะเหมือนโดนเอามีดมาแทงซ้ำๆเพราะคำพูดคนตรงหน้าก็ตามจริงสิฉันมันคือตัวอันตรายสำหรับเขาถ้าเขาปล่อยฉันไปเขาก็ต้องติดคุกอิสระในชีวิตของเขาก็จะหายไปนี่คือสิ่งที่เขาต้องทำเพื่อปิดปากฉัน
ถูกแล้ว…
“กลับขึ้นห้องไปซะ” โทโมะเปลี่ยนประเด็นมาสั่งฉันแทนฉันพยายามฝืนหน้าด้านยืนยิ้มเหมือนคนไม่ได้อ่อนแอแต่แววตาของฉันโกหกเขาไม่ได้หรอก
“ฉันอึดอัด” ฉันตัดสินใจพูดบางอย่างออกไปฉันไม่ชอบห้องสี่เหลี่ยมแคบๆที่มีแต่โซฟากับห้องนอนโสมมนั่นเลยสักนิดฉันเหมือนยิ่งอยู่ฉันก็ไม่ปลอดภัยฉันอึดอัดจนอยากจะระเบิดตัวตายณจุดๆนั้นให้รู้แล้วรู้รอด
“ฉันอยากไปข้างนอก”
“ขึ้นห้องไปซะแก้วเลิกขอร้องอะไรที่เป็นไปไม่ได้สักที”
“พาฉันไปข้างนอกที” ฉันขอร้องเขาอีกครั้งคราวนี้ฉันเงยหน้ามองตาเขาเป็นสื่อขอร้องว่าฉันอ้อนวอนเขาอยู่
“ขอร้อง”
โทโมะจ้องหน้าฉันชั่วครู่เมื่อเห็นว่าฉันมีสีหน้ามุ่งมั่นที่จะไปข้างนอกจริงๆเขาก็ดึงมือฉันออกจากคอนโดนี่ก่อนจะตรงดิ่งไปที่รถคันเดิมของเขาโทโมะยัดฉันเข้าไปที่นั่งข้างคนขับเหมือนครั้งก่อนพอเขาเข้ามานั่งด้านคนขับเราสองคนก็ไม่ได้เอ่ยอะไรออกมาโทโมะถอนหายใจเหมือนหน่ายกับเรื่องที่เกิดขึ้นก่อนที่เขาจะตัดสินใจเหยียบคันเร่งออกไปโดยไม่ได้บอกจุดมุ่งหมายกับฉัน
ภายในรถเงียบสงัดมีเพียงเสียงแอร์เบาๆที่ดังออกมาฉันเอื้อมมือจะไปเปิดเพลงแต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเห็นว่าโทโมะกำลังจะเอื้อมมือมาเปิดเหมือนกันฉันเลยต้องดึงมือกลับมาปล่อยให้เขาเปิดมันไป
แต่พอเพลงดังขึ้นฉันก็ต้องชะงักกับเนื้อเพลงที่ได้ยินไปเล็กน้อย...
“ฉันอยากเปลี่ยนเพลง”
ฉันที่กำลังจะเอื้อมมือไปเปลี่ยนเพลงโทโมะก็คว้ามือให้ฉันหยุดอยู่กลางอากาศไว้แบบนั้น…
และเนื้อเพลงที่ดังขึ้นต่อจากนั้น…
'รักฉันยังอยู่แต่ไม่รู้เธอต้องการไหม
ขอให้เธออยู่แต่ไม่รู้เธอจะไปไหม
กลัวฉันกลัวเหลือเกินกลัวว่าวันหนึ่งเธอจะทิ้งฉันไป'
“หัวใจ…อยู่ไม่ไหวจริงๆ...”
อัพแล้วน๊าเม้นโหวตกันหน่อย ที่จริงจะอัพนานแล้ว แต่เข้าเว็บขีดเขียนไม่ได้ก็เลยมาอัพช้า
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ