[Fic Vampire Knight] รัตติกาลสีเงิน

-

เขียนโดย เจ้าหนอน

วันที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2559 เวลา 21.49 น.

  15 รัตติกาล
  5 วิจารณ์
  38.22K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2562 13.48 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

7) ความสิ้นหวังในจิตใจ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

   “คิริว เซโร่ถูกถอดถอนออกจากสมาคม!!”

   ชายวัยกลางคนร้องลั่นกลางห้องทำงาน ครอส ไคเอ็น แทบลมจับเมื่อรู้ว่าลูกชายสุดที่รักถูกพรากความเป็นแวมไพร์ฮันเตอร์ที่ภาคภูมิใจไป

   “ใช่ ฉันเป็นห่วงก็เลยมาดูเขาหน่อย แต่หัวหน้าของไนท์คลาสไม่อนุญาตให้พบเขา”

   ชายร่างสูงยืนสูบบุหรี่อยู่ริมนหน้าต่าง ดวงตาข้างหนึ่งถูกปิดเอาไว้ ผมสีน้ำตาลเข้มพลิ้วไปตามแรงลมที่อยู่ด้านนอก

    “เกิดอะไรขึ้นที่สมาคม แล้วอิจิรุรู้เรื่องนี้หรือยัง?”

    ไคเอ็นกระวนกระวายเดินไปมา ยางาริถอนหายใจก่อนจะเอ่ยขึ้น

    “สำหรับเรื่องนั้น ฉันก็จำเป็นต้องบอกนายเหมือนกัน”

 

   เมื่อตะวันลับขอบฟ้า ถึงเวลาที่เหล่าแวมไพร์หนุ่มสาวต้องเข้าเรียน คานาเมะเดินมาหาคนที่นอนหันหลังให้เขาก่อนจะนั่งลงข้างๆ

   “เซโร่”  

   “อะไร?”

   ร่างโปร่งขานรับเมื่อถูกเรียกชื่อ เซโร่ยังไม่ยอมมองคานาเมะตรงๆตั้งแต่กลับมา

   ใครมันจะไปกล้ามอง เล่นร้องไห้จะเป็นจะตายใส่ซะขนาดนั้น

   “ไปเรียนกันเถอะ”

   ร่างสูงสัมผัสผมสีเงินที่นุ่มเหมือนเส้นไหมเบาๆ เซโร่ถอนหายใจก่อนที่จะลุกขึ้น เส้นผมสีเงินยุ่งเยิงจากการนอนดิ้นไปมา

   “ไปแต่งตัวซะ ผมเตรียมชุดให้แล้ว”

   เซโร่เดินไปอาบน้ำ แต่งตัวอย่างว่าง่าย ชุดไนท์คลาสสีขาวผูกด้วยเนคไทน์สีแดงกลัดด้วยสัญลักษณ์กุหลาบสีเงิน สวมทับด้วยกั้กสีดำ ตามด้วยสูทสีขาว กางเกงสเลคสีขาวยาวที่ทับรองเท้าหนังสีดำมันวาว ผมสีเงินถูกเซ็ตเปิดผมด้านหน้าเผยใบหน้าสวยหวาน ดวงตาสีม่วงอ่อนหงุดหงิดเล็กน้อยเมื่อต้องแต่งตัวให้เรียบร้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า

    “ดูดีเหมือนกันนะเมื่อเธอแต่งตัวแบบนี้”

   คานาเมะที่ทำหน้าเซ็ตผมให้ร่างโปร่งผมยิ้มน้อยๆพลางกลัดกุหลาบสีแดงที่อกเสื้อด้านซ้าย

    “ทำไมต้องกลัดกุหลาบด้วย”

    “เธอโดดเรียนจนไม่รู้เลยสินะว่าวันนี้มีงานเต้นรำครบรอบ 100 ปีของโรงเรียน ผู้ชายต้องใส่ยูนิฟอร์มของโรงเรียนแล้วกลัดกุหลาบสีแดง”

   ร่างสูงอธิบายให้เข้าใจ เซโร่ชักสีหน้าทันทีเมื่อรู้ว่ามีงานเลี้ยง จัดทุกปีอยู่ได้ น่ารำคาญ

   “ไม่อยากไป”

   “ไม่ได้ เธอต้องไปกับผม”

   คานาเมะปฏิเสธทันทีเมื่อเซโร่บอกว่าไม่อยากไป มือหนาคว้ามือเรียวก่อนจะเดินออกจากห้อง

   ทางเดินที่มีเพียงแสงเทียนให้ความสว่าง แต่สำหรับแวมไพร์ทั้งสองไม่เป็นปัญหา คานาเมะจูงมือเซโร่เดินมายังชั้นล่าง แวมไพร์ระดับขุนนางกำลังรอคนทั้งคู่

   “ว้าว! คิริวคุงหล่อเอาเรื่องเหมือนกันนะเนี่ย ดูดีไม่หยอกเลย”

   อิจิโจปรบมือลั่นพลางเอ่ยปากชม เซโร่หน้าแดงนิดๆแต่ไม่พูดอะไร คานาเมะจึงเป็นฝ่ายเอ่ยปากแทน

   “ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ไปกันเถอะ งานเลี้ยงสำหรับเราได้เริ่มขึ้นแล้ว”

   ในหอประชุมขนาดใหญ่ที่สามารถบรรจุนักเรียนได้มากถึงสามพันคน นักเรียนชายเดย์คลาสสวมยูนิฟอร์มสีดำที่เหมือนไนท์คลาสทุกประการ กลัดกุหลาบสีแดงไว้ที่อกซ้าย ประเพณีที่ว่ากุหลาบที่อยู่บนอกซ้ายของฝ่ายชายจะมองให้กับคู่เต้นรำที่ถูกใจเมื่อจบงานเลี้ยงและฝ่ายที่ได้รับต้องปักมาเรียนในวันถัดมา

   เป็นธรรมเนียมที่ผู้อำนวยการชื่นชอบและทำมาทุกปี

   และชายหนุ่มที่สาวๆหลงใหลอยากได้ดอกกุหลาบจากพวกเขา

   อันดับ 1 คุรัน คานาเมะ

   อันดับ 2 คิริว เซโร่

   อันดับ 3 อิจิโจ ทาคุมะ

   อันดับ 4 ชิกิ เซนริ

   สี่หนุ่มที่ไม่เคยมีใครในประวัติศาสตร์ได้รับกุหลาบที่กลัดอกของพวกเขาไป!

   แล้วในปีนี้ล่ะ?

   สาวๆต่างจับต้องไปที่สี่หนุ่มโดยเฉพาะเซโร่ที่วันนี้ดูดีผิดหูผิดตา ผมสีเงินนั่นโดดเด่นเมื่ออยู่ภายใต้แสงไฟ อิจิโจส่งยิ้มให้สาวๆพลางโบกมือทักทายแต่ก็ยังไม่คิดจะขอใครเต้นรำ ชิกิก็สาละวนอยู่กับป็อกกี้ในมือโดยไม่สนใจคนรอบข้าง ส่วนนายเหนือคุรันก็จ้องอดีตอดีตฮันเตอร์โดยไม่คิดจะขอใครเต้นรำเช่นกัน

   เซโร่ยืนพิงผนังห้องงานเลี้ยงอย่างเหม่อลอย ความคิดกำลังย้อนไปเมื่อหนึ่งปีก่อน เมื่อครั้งที่ยูกิยังมีชีวิต

   ‘เซโร่! งานสำคัญทั้งทีแต่งตัวให้เรียบร้อยหน่อยสิ!’

   ‘นายเป็นกรรมการนักเรียนนะ มีปัญหาหรือไง?’

   ‘ฉันสวยใช่มั้ยล้า~ ชุดนี้รุ่นพี่คานาเมะซื้อให้แหละ’

   ‘ทำหน้าอมทุกข์อยู่ได้ ไปเต้นรำได้แล้ว!’

   ทุกคำพูดย้อนเข้ามาในหัวราวกับความทรงจำฉายซ้ำ คนที่มักร่าเริงแล้วก็อยู่กับเขาเสมอ ดวงตาสีแดงเข้มที่เป็นประกายกับเรือนผมสีน้ำตาลสับสั้น คนที่มักสอบตกทุกครั้งเมื่อมีสอบ แม้ว่าเขาจะติวให้ตลอดก็ตาม

   รอยยิ้มน้อยๆปรากฏขึ้นบนใบหน้าของอดีตฮันเตอร์ ดวงตาสีม่วงอ่อนเหม่อมองงานเลี้ยงที่ยูกิมักรอคอยทุกปี แต่ปีนี้เธอไม่มีโอกาสได้เห็นอีกแล้ว

   ถ้าเธอมองอยู่ตอนนี้ ทุกคนสบายดีนะ เจ้าพ่องี่เง่าของเธอก็ยังงี่เง่าเหมือนเดิม ทุกคนคิดถึงเธอนะ ยูกิ....

   ทุกความรู้สึกอยู่ในสายตาของคนที่มองอยู่ตลอด คานาเมะทำเพียงแค่จ้องมองร่างโปร่งที่ยืนพิงผนังเท่านั้น ไม่นานดวงตาสีแดงเข้มก็ฉายแววความคิดออกมา

    “เซโร่ ตามผมมานี่หน่อย”

   นายเหนือคุรันเอ่ยเรียกร่างโปร่งก่อนจะเดินนำหน้า เซโร่ถอนหายใจก่อนจะเดินตามร่างสูงของคานาเมะออกมาด้านนอก บรรยากาศที่เงียบสงบยามค่ำคืนชวนให้ผ่อนคลาย สายลมที่พัดพลิ้วต้องผมสีเงินที่สะท้อนแสงจันทร์ชวนมอง

   ร่างสูงที่เดินนำก็ยังคงเดินไปเรื่อยๆสู่เส้นทางที่คุ้นตา เสียงน้ำดังกระทบพื้นกระเบื้องดังอยู่อยู่ด้านหน้า คานาเมะหยุดเดินเมื่อถึงเป้าหมาย

   เซโร่ยืนมองสถานที่โดยรอบ ลานน้ำพุที่เขามักมาเป็นประจำ กลิ่นกุหลาบอบอวลไปทั่วบริเวณ สายลมอ่อนๆพัดผ่านร่างทั้งสองไปจนเส้นผมพลิ้วไหว

   “ที่นี่คือสถานที่โปรดของเธอสินะ”

   เซโร่ไม่ตอบ ดวงตาสีม่วงอ่อนจ้องมองร่างสูงที่นั่งลงบนขอบน้ำพุก่อนจะตบพื้นที่ข้างตัวเป็นเชิงให้เขาเข้าไปนั่ง ซึ่งร่างโปร่งก็เดินไปนั่งข้างกายแต่โดยดี มือแกร่งรั้งคนคนข้างตัวให้ให้เข้ามาใกล้มากกว่าเดิมจนเซโร่ต้องซบหน้าลงบนไหล่กว้างของอีกฝ่าย

   “พาฉันมาที่นี่ทำไม?”

   “เธอไม่ชอบงานเลี้ยงไม่ใช่หรอ? ผมแค่พาเธอมาเปลี่ยนบรรยากาศ”

   ร่างสูงเงยหน้ามองหมู่ดาวที่ที่ระยิบระยับบนท้องฟ้า แม้แสงจันทร์ก็ไม่อาจบดบังรัศมีของมันได้

   “เซโร่ฟังคำขอของผมสักอย่างสิ”

   “นายเหนือแวมไพร์อย่างแกจะมาขอร้องคนอย่างฉันให้ได้อะไรขึ้นมาล่ะ”

   เซโร่กวนประสาท แม้ในเวลาที่สมควรจะสวีทหวาน เซโร่ก็ยังเรียกคานาเมะว่า ‘แก’ อยู่ดี

   “เพราะเป็นเธอต่างหากผมถึงอยากขอร้อง”

   ร่างสูงก้มหน้าลงมามองคนที่ซบบ่าเขาอยู่ เซโร่หลบสายตาก่อนที่จะพึมพำ

   “ก็ว่ามาสิ”

   เซโร่แก้มแดงน้อยๆคานาเมะยิ้มก่อนจะเชยคางคนที่ก้มหน้าก้มตาขึ้นเพื่อให้สบตากับเขา

   “เต้นรำกับผมนะ”

   ร่างโปร่งหลับตาพริ้มเมื่อร่างสูงโน้มหน้าลงมาจุมพิตบนริมฝีปากบาง มือเรียวยกขึ้นมาประคองใบหน้าหล่อจัดก่อนจะแทรกนิ้วผ่านเรือนผมสีน้ำตาลที่นุ่มมืออย่างหลงใหล ร่างโปร่งเผยอปากนิดๆราวกับเชิญชวนซึ่งร่างสูงก็ตอบรับคำเชิญชวนอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ลิ้นร้อนกวาดต้อนไปทั่วโพรงปากเพื่อควานหาความหวานที่คุ้นเคย มือแกร่งประคองต้นคอของคนในอ้อมกอดเพื่อให้ทั้งสองแนบชิดกันมากขึ้น

   คานาเมะจำใจถอนริมฝีปากออกมาก่อนจะยิ้มกว้าง เซโร่ไม่เข้าใจในรอยยิ้มนั้นแล้วก็ตกตะลึงที่เห็นคานาเมะยิ้มกว้างขนาดนี้ครั้งแรก

   “แกยิ้ม......”

   เซโร่ชะงัก ไม่ใช่เพราะตกใจในรอยยิ้มของอีกฝ่ายแต่เป็นเพราะเสียงของเขาเองต่างหาก

    “อืม น่ารักดีหนิ เข้ากับเธอมากเลย”

   นายเหนือแวมไพร์เนรมิตกระจกบานใหญ่ตรงหน้าเซโร่ เซโร่ช็อกไปนิดก่อนที่จะคว้าคอเสื้อของคานาเมะมาจับเขย่า

   “แกทำอะไรกับฉันห๊ะ! เด็กผู้หญิงคนนี้เป็นใคร!”

   เซโร่ชี้เข้าหาตัวเองก่อนที่จะจับคานาเมะเขย่าอีกครั้ง ความสูงที่เปลี่ยนไปทำให้ร่างโปร่งชะงักนิดๆ

   “แกสูงขึ้น? ไม่ ฉันเตี้ยลงหรอ!”

   ร่างโปร่ง.....อ่า ตอนนี้กลายเป็นร่างเล็กหันไปมองกระจกอีกครั้งก่อนจะโดดลงจากขอบน้ำพุ ลากร่างสูงของคานาเมะมายืนข้างๆก่อนจะร้องลั่น

   “อ้ากกกกก!! ทำไมฉันถึงได้กลายเป็นเด็กผู้หญิงปัญญาอ่อนแบบนี้! ไอ้ตากลมบล็อก ผมยาวเว่อร์นี่มันอะไร ปากฉันไม่เล็กขนาดนี้นะ! แล้วฉันไม่เตี้ยกว่าแกขนาดนี้ด้วย! ชุดนี้มันอะไรกันรุ่มร่ามชะมัด”

   ร่างเล็กบ่นยาวเป็นหางว่าวซึ่งหาได้ยากมากในยามปกติ คานาเมะมองร่างโปร่งที่เขาบรรจงมอบร่างกายใหม่ให้เป็นกรณีพิเศษ

   แค่คืนนี้เท่านั้นแหละ

   จากคนหนุ่มร่างสูงโปร่ง กลายเป็นเด็กสาวที่มีความสูงแค่ไหล่ของเขา ผมยาวสลวยสีเงินปล่อยสยายประดับด้วยที่คาดผมกุหลาบสีขาว ดวงตาสีม่วงอ่อนกลมโตประดับด้วยขนตาหนาเป็นแพ ริมฝีปากประจับเล็กน่าจูบ พวงแก้มใสออกสีแดงระเรื่อ สวมชุดเดรสสีขาวแขนพองยาวเลยเข่า รองเท้าส้นสูงสีเงินที่เข้าตัวใส่ก็เข้ากันกับชุด สวมถุงมือสีขาวและต่างหูรูปกุหลาบ                 เซโร่ในตอนนี้ก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กผู้หญิงที่น่าทะนุถนอม

   “เด็กผู้หญิงนี่เนาะ ก็แบบนี้แหละ”

   คานาเมะยิ้มอย่างอารมณ์ดี คว้าร่างเล็กเล็กมาแนบอกก่อนที่จะก้มลงมอบจุมพิตอันอ่อนโยนให้คนที่กำลังอารมณ์เสีย

   “สัญญากับผมแล้วไงว่าจะเต้นรำกับผม เซโร่จะเต้นรำกับผมทั้งๆแบบนั้นจริงๆหรอ?”

   ร่างเล็กชั่งใจ ผู้ชายสองคนเต้นรำด้วยกันดูยังไงก็พิลึก

   “ก็บอกกันก่อนจะทำแบบนี้เซ่!”

   เสียงหวานโวยวายแต่ทำอะไรไม่ได้ เขาไม่มีพลังพอที่จะลบล้างอำนาจของคานาเมะที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ได้

   “เธอยินยอมแล้วนะ ถ้าอย่างนั้นกลับไปที่งานเลี้ยงกันเถอะ”

   ร่างเล็กคว้ามือหนาเอาไว้ก่อนที่จะเบรกคนตัวสูง คานาเมะหันไปมองเหมือนจะเข้าใจความคิดของอีกฝ่าย

   “ไม่มีใครจำเธอได้แน่นอน แล้วผมก็จะไม่ยอมให้จำได้ด้วย”

   คานาเมะหมายความตามนั้นจริงๆทำไมเขาต้องให้คนอื่นจำหญิงสาวที่แสนสวยคนนี้ได้ด้วย

   “ไม่มีแน่นะ?”

   “ไม่มีครับ”

   ร่างเล็กถามย้ำ เมื่อได้คำตอบร่างสูงจึงยื่นมือไปกอบกุมมือเล็กเอาไว้ แล้วมุ่งหน้าสู่งานเลี้ยงที่ทั้งสองออกมาก่อนที่ทุกคนจะตามหากันให้วุ่น

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้ฉันแต่งขึ้นเอง

✓ เรื่องนี้ไม่มีเจตนาทำให้บุคคลที่อ้างถึงเสียชื่อเสียง และฉันจะยอมรับผิดเมื่อบุคคลนั้นตำหนิหรือเตื่อนมา

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

คุณคิดยังไงกับนิยายฟิคชั่นเรื่องนี้

* สามารถกรอกแบบสำรวจโดยไม่ต้องเป็นสมาชิกก็ได้ครับ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา