Welcome to dark side

9.8

เขียนโดย Chapond

วันที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2558 เวลา 02.04 น.

  40 ตอน
  274 วิจารณ์
  65.61K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 29 เมษายน พ.ศ. 2559 12.04 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

37) 37 Miss you like crazy

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“พ่อป๊อปฮะ เดี๋ยวเมฆกับหมอกจะไปหาอาปลื้มกับอาซีแนนที่อาคาร2นะฮะ”เสียงเรียกของลูกชาย

วัย10ขวบของป๊อปปี้ร้องดังขึ้นทำให้ชายหนุ่มหันไปมองลูกชายฝาแฝดที่สิ่งเข้ามาขออนุญาตตัวเอง

ไปหาเพื่อนทั้ง2ของเขา

 

 

 

 

 

 

 

“เอาสิครับ แล้วเดี๋ยวเราตามอาเขื่อนมาหาพ่อด้วยนะครับ”ป๊อปปี้ยิ้มพลางลูบผมลูกชายทั้ง2แล้ว

อนุญาตก่อนที่จะเดินไปหยิบกำหนดการต่างๆในวิทยาลัยมาอ่านตามปกติที่ทำเป็นประจำ

 

 

 

 

 

 

 

 

“บ้างานเหมือนเดิมเลยนะครับเพื่อน ถามจริงเถอะ นี่แกไม่คิดจะหาใครซักคนมาดูแลนายกับเจ้าแฝด

เลยรึไง”เขื่อนเดินเข้ามาทักเพื่อนชายที่ง่วนอยู่กับการทำงานอย่างเดียวก็อดไม่ได้ที่จะถาม

 

 

 

 

 

 

 

“ลำพังมีแค่ชั้นก็ไม่ได้ลำบากอะไรนิ เมฆกับหมอกยังโตมาขนาดนี้ได้ ไม่จำเป็นต้องให้ใครมาช่วย/

ป๊อป นี่มันผ่านมาจะ10ปีแล้วนะ นายควรจะเริ่มใหม่กับใครสักคนสิ นายควรจะมีใครมาดูแลนาย

นะ”ป๊อปปี้พูดอย่างไม่ใส่ใจทำให้เขื่อนถอนหายแล้วพูดขึ้นต่อด้วยความหวังดี

 

 

 

 

 

 

 

“ทั้งหัวใจของชั้นมีแค่ฟางเท่านั้น และมีแต่ฟางมาโดยตลอด ถ้าจะให้เปลี่ยนไปเริ่มต้นใหม่กับใคร

อีกก็ไม่ได้หรอก ถึงแม้ตัวชั้นจะกลายเป็นปิศาจไปแล้ว แต่ชั้นก็ขอจะรักแค่ฟางคนเดียวเท่านั้นตลอด

ไปดีกว่า”ป๊อปปี้พูด

 

 

 

 

 

 

 

“ถ้าฟางได้ยินที่นายพูดฟางคงดีใจแน่ๆ”เฟย์พูดแล้วเดินเข้ามาพร้อมลูกสาววัย5ขวบแล้วเดินมาหา

เขื่อน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“แต่เรื่องของพวกนายกว่าจะรักกันได้ก็แทบตายเหมือนกันนิ”ป๊อปปี้ยิ้มแล้วนึกย้อนไปเมื่อ10ปีที่

เกิดเรื่องที่DSนี้และสงครามครั้งนั้นทำให้เขาต้องสูญเสียพ่อแม่ เพื่อนหลายคนรวมถึงฟางด้วย

ทำให้เขามีความคิดรื้อและบูรณะDSแห่งนี้ให้เป็นที่เรียนของเหล่าปิศาจไว้ และหลังจากสงครามนั้น

เองทำให้เขามีพลังฟื้นคืนและปีกกลับคืนมาส่งผลให้ชายหนุ่มมีพลังมากขึ้นกว่าเดิมตามที่ผู้ปกครอง

เหล่าปิศาจควรมี และเพื่อไม่เป็นที่สงสัยและน่าหวาดกลัวให้กับชาวบ้านและมนุษย์อีก เขาจึงสร้างรี

สอร์ตเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติเอาไว้พร้อมกับวิทยาลัยที่ตั้งอยู่เดิมแล้วโดยสร้างม่านมิติกั้นไว้ไม่ให้

มนุษย์ปกติมองเห็นและปิศาจก็ไม่สามารถออกไปในพื้นที่รีสอร์ตของมนุษย์ได้เช่นกัน

 

 

 

 

 

 

 

 

“โอย ถึงยังไง ก็ดีอย่างนะที่พ่อตาแม่ยายของชั้นน่ะเค้าไม่ระแคะระคายเรื่องที่ชั้นไม่ใช่มนุษย์

น่ะ”เขื่อนยิ้มพอใจเมื่อคิดถึงวันนั้นหลังจากสงครามในDSเฟย์เข้ารักษาตัวและเขาสามารถถอนพิษ

สัตว์ร้ายได้ทันก่อนที่เฟย์จะกลายร่างเป็นปิศาจซึ่งพูดถึงเลือดของโทโมะเมื่อผู้บำบัดตรวจร่างกายก็

พบว่าได้หายไปจากร่างกายของเฟย์จนหมดนั่นเท่ากับว่า เลือดของนายที่ทำสัญญาทาสหมดไป

จากตัวลูกทาสก็ต่อเมื่อเจ้านายได้ตายหายจากลูกทาสไปแล้ว ซึ่งเป็นเครื่องยืนยันได้ว่าโทโมะกับ

แก้วได้จากไปแล้วจริงๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ทำเป็นพูดดีไปนะเขื่อนถ้าเอสเธอร์โตขึ้นมาเรื่อยๆพ่อกับแม่เฟย์ก็รู้ดีล่ะน่าว่าไม่ใช่มนุษย์ริงๆ/จะ

กลัวทำไมล่ะเฟย์ตอนแรกเธอก็เชื่อสนิทไม่ใช่รึไงว่าชั้นมนุษย์ เอาน่าที่รักชั้นเก่งชั้นสอนลูกแปลง

ร่างได้ ถึงจะมีลูกอีกสักโหล2โหลชั้นก็สอนพรางตัวได้”เฟย์ส่ายหน้าแล้วตอบคนรักก่อนที่เขื่อนจะ

หัวเราะแล้วตอบกลับบ้างพลางคิดถึงตอนที่เฟย์ฟื้นขึ้นมาแล้ว ก็มีแค่เขาเท่านั้นที่พยายามกันเฟย์ไม่

ให้ยุ่งกับเพื่อนชายในกลุ่มไม่เว้นแม้แต่ปลื้มจนเพื่อนๆทราบทั่วกันว่าเขื่อนแอบชอบเฟย์แต่ไม่รู้ตัว

กว่าที่ทั้งคู่จะเคลียร์นิสัยแง่งอนกันและกันได้ก็แทบจะไม่รอด จนสุดท้ายทั้งคู่ก็กลายมาเป็นคนรัก

กันและศึกษาดูใจกันจนแต่งงานและมีโซ่ทองคล้องใจเป็นครึ่งมนุษย์ครึ่งปิศาจอย่างเอสเธอร์มาและ

ทั้งคู่ก็ได้ย้ายมาอยู่ด้วยกันกับป๊อปปี้และดูแลด้านกิจการรีวอร์ตให้ชายหนุ่มอีกแรง

 

 

 

 

 

 

 

“แต่จะว่าไปแล้วก็อดคิดถึงโทโมะแก้วไม่ได้เลยว่ะเพื่อน2คนนั้นไม่น่ามาเจอเรื่องเศร้าระหว่าง

สาย2พันธุ์แบบนี้เลย”เขื่อนพูดเมื่อคิดถึงโทโมะและแก้ว

 

 

 

 

 

 

 

“จริงด้วยสิ แก้วเป็นเจ้าหญิงฟินิกซ์ตัวแทนของไฟ โทโมะเป็นนาคน้ำตัวแทนของสายน้ำความรักที่

อยู่ในเส้นขนานไม่สามารถบรรจบกันได้ สุดท้ายต้องเกิดเรื่องเศร้าแบบนี้สงสารพวกเค้าทั้งคู่เนาะว่า

มั้ย”เฟย์พูดตามด้วยความสงสารทั้งคู่

 

 

 

 

 

 

 

“แต่ถึงยังไงซะ ต่อไปนี้ทั้งคู่ก็คงจะอยู่ร่วมกันได้โดยไม่มีเส้นขนานของสายพันธุ์มาคั่นกลางได้แล้ว

ล่ะ”ป๊อปปี้พูดแล้วมองไปที่รูปถ่ายรวมของเขาและเพื่อนๆคนอื่นๆที่ถ่ายเมื่อครั้งเข้ามาเรียนที่

วิทยาลัยDSในปีแรกๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“ป๊อป เกิดเรื่องแล้ว เมฆกับหมอกหนีไปในโซนรีสอร์ตฝั่งมนุษย์”ซีแนนและปลื้มรีบวิ่งเข้ามาบอก

ป๊อปปี้

 

 

 

 

 

 

 

 

“อะไรกัน แล้วไหนว่าลูกชั้นจะไปหาพวกนายไงแล้วทำไมถึงปล่อยไปได้ล่ะ/พวกชั้นแปลกใจที่ลูกๆ

นายไม่ไปเรียนฟันดาบกับชั้นพอไปตามก็เจอพี่เลี้ยงที่ดูแลโดนมัดปิดปากไว้กับเสา ก่อนจะรู้ว่าลูกๆ

นายเป็นคนจัดการแล้วพากันหนีไปที่โซนรีสอร์ตน่ะสิ”ป๊อปปี้ตกใจรีบพูดขึ้นก่อนที่ปลื้มตั้งสติได้แล้วรีบตอบเพื่อนชาย

 

 

 

 

 

 

“อย่าพึ่เถียงอะไรกันเลย ชั้นว่าเรารีบไปตามหาเจ้า2แฝดตัวแสบกันดีกว่า”ซีแนนพูดขึ้นและนึกหวั่น

ใจเพราะพูดถึงเมฆและหมอกลูกชายฝาแฝดของป๊อปปี้แล้วนั้น มีความแสบคูณ2ยิ่งกว่าพ่อของพวก

เขา มิหนำซ้ำทั้งคู่ยังถูกห้ามไม่ให้ไปวุ่นวายฝั่งรีสอร์ตนอกพื้นที่ที่ป๊อปปี้สร้างม่านมิติกั้นไว้ แล้วถ้า

เกิดเมฆกับหมอกเกิดก่อเรื่องจนกลายร่างเป็นปิศาจมาล่ะ แล้วมนุษยืเห็นเกิดความหวาดกลัวงานนี้

คงเกิดเรื่องวุ่นตามมาแน่ๆ

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“โอ้โห ไงพ่อเราไม่เคยบอกเราเลยล่ะเมฆว่าพ่อเราก็มีที่สวยๆแบบนี้ในDSด้วย”เสียงของหมอก

แฝดน้องพูดขึ้นเมื่อออกมมาจากม่านมิติที่กั้นเขตวิทยาลัยDSไว้กับรีสอร์ตโดยสร้างกำแพงอิฐและ

สวนดอกไม้คั่นไว้

 

 

 

 

 

 

 

 

“สงสัยพ่อเราคงจะแอบซ่อนกิ๊กไว้ที่นี่แน่ๆถึงไม่ยอมให้พวกเรามากัน”เมฆแฝดผู้พี่พูดขึ้นอย่าง

จับผิด

 

 

 

 

 

 

 

 

“แต่เราว่าไม่ใช่หรอกเพราะที่นี่คือรีสอร์ตชื่อธนันท์ธรญ์รีสอร์ต นี่มันชื่อแม่จ๋าพวกเรานะเมฆ”หมอก

พุดพลางชี้ไปที่ป้ายรีสอร์ตที่ถูกสร้างไว้ที่เนินของรีวอร์ตติดกับสวนดอกไม้ที่พวกเขาอยู่ขนาดใหญ่

พอเห็น

 

 

 

 

 

 

 

“ถ้านี่คือรีสอร์ตของพ่องั้นก็เท่ากับว่าเป็นรีสอร์ตของพวกเรา ถ้างั้นพวกเราก็มีสิทธิ์มาเล่นที่นี่ได้ รอ

ช้าอะไรล่ะหมอกไปเล่นกันเถอะ”เมฆยิ้มอย่างพอใจก่อนที่จะชวนแฝดน้องออกไปวิ่งเล่นในพื้นที่รี

สอร์ตทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

“โอ๊ยๆๆๆๆ ทำไมมันร้อนแบบนี้นี่สาบานว่าอยู่ในพื้นที่เชียงใหม่ ชั้นล่ะไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมแก

ถึงอยากมาหาแรงบันดาลใจเขียนนิยายในที่ร้อนๆแบบนี้ล่ะยัยข้าว”อีกด้านของรีสอร์ตนั้นเอง เสียง

บ่นของสาวประเภท2ร่างสูงที่เดินลากกระเป๋าพลางเอาพัดพัดให้กับร่างกายเดินบ่นตามสาวร่างบางที่

เดินถ่ายรูปในบริเวณต่างๆของรีสอร์ต

 

 

 

 

 

 

 

 

“ก็ชั้นเป็นนักเขียนนะ เราก็ต้องตามหาแรงบันดาลใจใหม่ๆน่ะสิ และอีกอย่างชั้นว่าชั้นรู้สึกผูกพันกับรี

สอร์ตนี้นะมะตูม”สาวน้อยร่างบางหันไปตอบเพื่อน

 

 

 

 

 

 

 

“นี่แกจะบอกว่าแกเป็นเมียเจ้าของรีสอร์ตว่างั้น ตื่นค่ะเลิกมโน นี่มันธนันท์ธรญ์รีสอร์ตนะไม่ใช่ฟาง

ข้าวรีสอร์ต/นี่ชั้นไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้นซักหน่อยไปเช้คอินกันเถอะ”มะตูมส่ายหัวกับคำตอบ

เพื่อนสาวก่อนที่จะอดแซวไม่ได้ทำให้ฟางข้าวส่ายหน้าแล้วรีบดึงมือเพื่อนชายใจสาวเข้าไปด้านใน

ของรีสอร์ต ตุบ แต่ตอนนั้นเอง ฟางข้าวก็ล้มไปกองกับพื้นเมื่อวิ่งไปชนเข้าอย่างจังกับเด็กชายตัวเล็ก

อย่างหมอก

 

 

 

 

 

 

 

“ทำอะไรน่ะป้าแกล้งน้องผมหรอ”เมฆตกใจเมื่อเห็นหมอกล้มเมื่อชนกับฟางข้าวก็รีบเข้าไปโวยวาย

เอาเรื่องทันที

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“อ้าว น้อยๆหน่อยเถอะหนู พวกเราเดินมาชนเพื่อนพี่เองนะจะมาว่าเพื่อนพี่อย่างเดียว

ก็ไม่ได้ เราเองนั่นล่ะชนผู้ใหญ่แล้วทำไมไม่รู้จักขอโทษ/เงียบไปเลย ตุ๊ด”มะตูมไม่พอใจรีบโวยวาย

ส่าเด็กชายเมฆทันทีก่อนที่เด็กชายจะไม่ยอมแพ้รีบสวนกลับมาจนมะตูมแทบกรีดร้องออกมากับ

ความปากร้ายของเด็กแสบคนนี้

 

 

 

 

 

 

“นี่น้องมันจะมากไปแล้วนะ ทำไมถึงปากร้ายว่าพวกพี่แบบนี้น่ะ นี่ตัวเล็กแค่นี้พวกพี่น่ะแก่กว่าเราตั้ง

หลายปียังไม่ถึงกับเป็นป้านะ นี่ใครเป็นพ่อแม่น่ะ ทำไมไม่รู้จักสั่งสอนลูกแบบนี้”ฟางข้าวโกรธจัดกับ

สิ่งที่ได้ยินก็ลุกขึ้นแล้วเดินเข้าไปเอาเรื่องว่าเด็กชายยาวเหยียด

 

 

 

 

 

 

 

“เห้ย ป้าไมถึงว่าถึงแม่แบบนี้ นี่เป็นแค่มนุษย์อย่ามาปากดีเลยถ้าไม่อยากเจ็บตัว”เมฆไม่พอใจเดิน

ตรงเข้าไปเอาเรื่องบ้างโดยที่หมอกฝาแฝดรีบดึงตัวเพื่อห้ามไม่ให้ก่อเรื่อง

 

 

 

 

 

 

“อย่านะเมฆอย่ามีเรื่องพ่อป๊อปสอนเราไม่ใช่หรอไม่ให้หาเรื่องมนุษย์ที่ไม่รู้เรื่องของพวกเรา”หมอก

พยายามพูดเตือนแล้วดึงแฝดพี่เอาไว้

 

 

 

 

 

 

 

 

“เอ้าน้องพ่อก็สอนนี่แต่ทำไมไม่จำ นี่พวกพี่ก็ไม่ใช่คนใจร้ายอะไรนะแต่เด็กดื้อปากเสียงี้สงสัยจะ

ไม่มีแม่คอยสั่งสอนด้วยล่ะสิเลยกล้าว่าพวกพี่แบบนี้”มะตูมยิ้มเยาะก่อนที่จะสมทบว่าต่อทำให้

หมอกที่อ่อนโยนกว่าแฝดพี่ได้ยินคำว่าแม่ก็น้ำตาไหลร้องไห้ออกมา

 

 

 

 

 

 

 

“เห้ยร้องไห้ทำไมวะพ่อป๊อปบอกห้ามอ่อนแอนะ ไอ้ตุ๊ด แกทำน้องชั้นงั้นหรอ แกตายแน่”เมฆรีบ

ปลอบน้องชายตัวเองก่อนที่จะหันไปเอาเรื่องแล้วดวงตาของเมฆกลายเป็นสีแดงจนทำให้ฟางข้าว

ชะงัก รู้สึกคุ้นประหลาดกับสายตาคู่นี้ ที่คล้ายกับเคยเห็นที่ไหนมาก่อนแต่นึกไม่ออก

 

 

 

 

 

 

 

 

“เมฆ หมอก เลิกก่อเรื่อง มาหาพ่อเดี๋ยวนี้”เมฆที่พึ่งหมายจะวิ่งไปจัดการมะตูมและฟาง ทันใดนั้น

เองเสียงเด็ดขาดของพ่อ2แฝดดังขึ้นก่อนที่ฟางข้าวจะหันไปมองตามเสียง ทำให้ป๊อปปี้ที่ยืนอยู่นั้น

อึ้งกับสิ่งที่เห็นอยู่ตรงหน้า

 

 

 

 

 

ความจริงตอนนี้จะเป็นตอนจบนั่นล่ะ แต่เพราะว่าไรเตอร์พิมไปพิมมา มันยาวมาก เพราะไร

เตอร์กะจะอัดเนื้อเรื่อง สุดท้ายเลยตัดเป็นช่วงๆแยกละกัน

 

 

 

 รีบอัพเพราะเดี๋ยวจะไปเที่ยว555555555

 

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
9.8 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.7 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.8 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา