None

10.0

เขียนโดย katem

วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.29 น.

  10 ตอน
  2 วิจารณ์
  12.64K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558 21.32 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

3)

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

-------------------------------------------

จากวันนั้นถึงวันนี้เวลาล่วงเลยมาเกือบ 2 อาทิตย์ ข่าวที่เกิดขึ้นถูกแก้ต่างโดยคนที่หญิงสาวเลือกที่จะเรียกว่าพี่ชาย ทำให้เรื่องร้ายคลี่คลายไปในทางที่ดีแต่สำหรับชายอีกคนมันต่างกัน ตลอด 2 อาทิตย์ที่ผ่านมาใช้เวลาครุ่นคิดเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้น ถึงข่าวจะเงียบหาย แต่ความโกรธเหมือนลาวาที่เดือดพล่านในกายไม่มีทีท่าว่าจะสงบ แต่สาเหตุที่ต้องแสดงอาการนิ่งเงียบก็เพราะเหตุผลแค่ข้อเดียว คือรอเวลาระเบิดเท่านั้น

------------------------------------------

“โทโมะ วันนี้ซ้อมเสร็จแล้วแกกลับบ้านเลยรึป่าว” เสียงบอสใหญ่ของทีมเอ่ยถามเพื่อนสนิท หลังจากที่ดูอาการมันมาเกือบอาทิตย์ ก็โล่งใจครับมันคงทำใจได้ ไม่เห็นมันอาระวาดอีกนับจากวันนั้น ไม่ต้องห่วงเรื่องรอยยิ้มที่หายไปเพราะมันเป็นอย่างนี้มานานหลายเดือนแล้ว แต่เห็นอย่างนี้ป๊อปก็สบายใจครับ

“ยังไม่กลับ ขอบคุณ” บอกเสียงเรียบก่อนจะคว้ากระเป๋าเดินออกไป

“เห้ย แล้วแกจะไปไหน เดี๋ยวไปส่ง” ทั้งอึ้งทั้งงงกับอาการที่เห็น กึ่งวิ่งกึ่งเดินมาดักหน้า ก็ในเมื่อ 2 อาทิตย์ที่ผ่านมามันไป – กลับ กับผมตลอด จนกระทั่งวันนี้

“ทำธุระนิดหน่อย ขอตัวนะ” ตอบเสียงเรียบก่อนจะรีบเดินหนีออกไป

ยืนมองหนุ่มญี่ปุ่นเดินไปลับตา เห็นอย่างนี้ป๊อปชักหวั่นๆ วันนี้มันมาแปลกกว่าทุกวันหลังจากที่สงบมานาน แต่ถ้าเปรียบมันเหมือนทะเล ก็น่ากลัวครับเพราะหลังทะเลนิ่งสงบจะตามมาด้วยพายุใหญ่ที่ใครก็คาดไม่ถึง ถ้าเป็นอย่างนั้นต้องแย่แน่ๆ มือแกร่งรีบกดหมายเลขคนคุ้นเคยก่อนจะเล่าทุกอย่างให้คนรักฟัง อย่างน้อยก็กันไว้ดีกว่าแก้ครับ

“คงไม่มีอะไรมั้งคะป๊อป เพราะตอนนี้พวกฟางก็ถ่าย MV อยู่คงเกือบสว่างถึงจะเสร็จอีกอย่างแม่มนก็อยู่คงไม่มีอะไรหรอกคะ ฟางว่าป๊อปกังวลไปรึป่าว โทโมะคงไม่ทำอะไรแก้วหรอก ถ้าทำน่าจะทำไปนานแล้วอีกอย่างป๊อปบอกเองไม่ใช่เหรอว่าสองอาทิตย์ที่ผ่านมาโทโมะก็ดูปกติไม่โวยวายนี่คะ”

“ไม่รู้สิครับ แต่วันนี้ป๊อปกังวลแปลกๆ แต่ป๊อปว่าป๊อปคงคิดมากไปเองครับ งั้นทำงานในสนุกนะครับ ถ้าจะกลับโทรหานะเดี๋ยวไปรับครับ”

“คะ แต่คงเกือบสว่างนั่นแหละ ป๊อปพักผ่อนด้วยนะบายคะ”

ตัดสายจากแฟนสาวทำให้ความกังวลในใจคลี่คลายไปได้บ้าง แต่ไอ้ความรู้สึกหวิวๆที่เกิดขึ้นหล่ะ ลางสังหรณ์เหรอ คงไม่ใช่หรือว่าวันนี้ผมคงเหนื่อยเกินไปจริงๆ

-------------------------------------------

วางสายจากแฟนหนุ่มก็รีบวิ่งเข้าไปรวมกลุ่มกับเพื่อนๆอีก 2 คนรอเวลาถ่ายซีนต่อไป เห็นสาวร่างบางที่เจอข่าวร้ายๆมายิ้มได้ก็ดีใจ แต่ยังห่วงอยู่บ้างกับอาการป่วย เพราะดูจากสภาพร่างกายคงยังไม่เท่าที่เท่าไหร่ รอยยิ้มและเสียงหัวเราะดังออกมาเป็นระยะ แต่เจ้าของรอยยิ้มและเสียงหัวเราะคงไม่รู้ว่ามีสายตาคมดุดเหยี่ยวที่ถูกปกปิดด้วยแว่นดำอีกคู่จับจ้องมองอยู่ตลอด

-------------------------------------------

กว่าจะถ่ายเสร็จก็เกือบตี 2 เห็นม๊านั่งหลับบนเก้าอี้ยิ่งรู้สึกแย่ แต่ที่แย่กว่าเห็นจะเป็นพี่ชายดันอยากมาเซอร์ไฟรส์ ก็รู้ว่าม๊าไม่ค่อยชอบเท่าไรแต่ก็ห้ามพี่เค้าไม่ได้ โชคยังดีที่รีบมารีบกลับเพราะแค่นี้แก้วก็รู้สึกกับม๊าจะแย่แล้ว มือเรียวค่อยสะกิดเรียกหญิงสาวของผู้เป็นมารดา ก่อนจะได้รับรอยยิ้มหวานจางๆกลับมาแทน

“ม๊า แก้วถ่ายเสร็จแล้วกลับบ้านกันเถอะ” เสียงหวาน งัวเงียบอก ทั้งเมื่อยทั้งเหนื่อย

“เหนื่อยมั้ยลูกวันนี้ดึกเลยนะ” ค่อยเก็บของก่อนเดินนำลูกสาวคนสวยไปที่รถสีขาวคันโต

“ไม่คะ ไปเถอะ” ทั้งฉุดทั้งดึง แต่ก็ต้องแปลกใจเมื่ออยู่ๆ แม่ของตนหยุดเดินแล้วหันไปมองตรงสวนดอกไม้ด้านข้าง

“ม๊า มีอะไรหรือป่าวคะ” ถามเสียงหวานก่อนจะหันมองไปทางเดียวกัน

“ม๊าว่า ม๊าเห็นโทโมะ แต่จะตีสามแล้วป่านนี้หลับปุ๋ยไปแล้ว คงไม่ใช่ม๊าคงตาลายจ่ะไปเถอะ ไปพักผ่อนกัน”

-----------------------------

ร่างสูงยืนมอง สองแม่ลูกเดินจูงมือไปยังรถคันโตก่อนจะขับเคลื่อนออกไปลับตา ก่อนจะหมุนตัวกลับเดินก้าวไปข้างหน้า ดีใจที่ได้เห็นหญิงสาวผู้เป็นที่รักแข็งแรงและร่าเริงขึ้นบ้างหลังจากเจอเรื่องร้าย แต่แล้วความโกรธในกายกับทวีเพิ่มมากขึ้นเมื่อได้เห็นคนเป็นพี่ชายเดินเข้ามา อยากเข้าไปถามว่าต้องการอะไร แต่ก็ทำได้แค่ยืนสงบกำมือแน่น รอจนถึงเวลาหญิงสาวกลับบ้าน

เดินเข้ามาในบ้านก็พบพ่อ แม่ พี่มากิและพี่เคนจิ นั่งรออยู่ เห็นเจ้าลูกชายตัวดี คนเป็นพ่อก็รีบลุกเดินเข้ามาหา ห่วงเจ้าลูกชายก่อนจะดึงร่างสูงเข้ามากอด

“ไปไหนมาโทโมะ ทำไมปิดโทรศัทพ์แล้วไม่โทรมาบอกพ่อกับแม่ก่อนละลูกว่าจะกลับแบบนี้ แม่เค้าเป็นห่วงนะ” สิ้นเสียงประมุขของบ้านทำเอากลุ่มคนที่นั่งรอรีบลุกเดินเข้ามาหา

“ผมขอโทษครับพ่อ แม่แล้วก็พี่ๆที่ทำให้เป็นห่วง” ตอบกลับเสียงเรียบ ก่อนจะสวมกอดกลับชายผู้เป็นบิดา

“รักเค้ามากเหรอลูก แล้วทำไมเพิ่งรู้ใจตัวเองตอนนี้” เสียงมารดาเอ่ยถามเจ้าลูกชาย เห็นแค่หน้าต่อไม่เห็นดวงตาที่ถูกแว่นดำปกปิดก็รู้ว่าเจ็บแค่ไหน ก่อนจะดึงเจ้าลูกชายคนเล็กไปกอดแน่น

“.....” ไม่มีเสียงเอ่ยตอบ ก้มหน้ากับไหล่บางและกอดคนเป็นมารดาแน่นไม่แพ้กัน

“ใจเย็นไว้ไอ้น้องชาย น้องเค้ายังไม่ยอมรับสักหน่อยว่าเป็นแฟนกัน ถือว่าตอนนี้แกก็ยังมีสิทธิ์อยู่นะ” ตบบ่าเจ้าน้องชายตัวแสบ ตั้งแต่เกิดมาเพิ่งเคยเห็นมันอ่อนแอที่สุดก็วันนี้

“นั่นสิ โทโมะอย่าคิดมากนะ นี่คงยังไม่ได้นอนพี่ว่าเราขึ้นไปนอนก่อนดีกว่า”

สิ้นเสียงพี่สาว ก็รีบผละออกจากอกคนเป็นแม่ก่อนจะรีบขอตัวขึ้นห้องของตน ทำไงได้ในเมื่อหยดน้ำใสๆ ที่เอ่ออยู่ในดวงตาคม จวนเจียนเต็มทีที่จะล่วงหล่นและไม่อยากให้คนในครอบครัวเห็นสภาพแย่ๆของเค้าเช่นตอนนี้ เข้าห้องได้ก็เหวี่ยงสัมภาระทุกอย่างให้พ้นทาง ก่อนจะนอนคว่ำหน้ากับเตียงใหญ่ ปล่อยให้น้ำใสๆไหลไปเรื่อย และเนื่องจากเหนื่อยงานก็เหนื่อย เหนื่อยใจยิ่งเหนื่อยกว่าส่งผลให้คนบนเตียงใหญ่เผลอหลับพร้อมรอบคราบน้ำตาไปตอนไหนก็ไม่รู้

-----------------------------------------------

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
10 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
10 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
10 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา