None
เขียนโดย katem
วันที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558 เวลา 21.29 น.
แก้ไขเมื่อ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2558 21.32 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
1)
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความตั้งแต่มีข่าวบันทึกรักของพี่ชายและน้องสาวต่างวัย สร้างกระแสในสื่อบันเทิงทุกฉบับ ไม่ว่าทั้งคู่จะทำอะไรดูได้รับความสนใจทุกครั้ง
--------------------------------------------
“แก้ว พักนี้ดูสวยขึ้นเป็นกองเลยนะไปทำอะไรมา หรือว่าเพราะพี่ชายคนสนิทมาตามดูแลจ๊ะ” เสียงสาวหน้าหวานล้อเลียนเพื่อนคนสนิท ที่นั่งส่งยิ้มหน้าขาวนวลปรากฏสีแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัด
“บ้า ไม่มีอะไรหรอกฟาง ก็แค่พี่เค้าอยากมาดูเฉยๆ”
“ให้มันจริงเถอะแก้ว ฉันเห็นข่าวแกกับเขาแล้วบอกตรงๆ ชักหวั่นๆ ยังไงก็ไม่รู้” สาวแก้มปุ๋มกล่าวบ้าง
“ก็ดูๆ กันไปเรื่อยๆ อ่ะเฟย์” กล่าวบอกเสียงเรียบ เพราะรู้ดีว่าสาวแก้มปุ๋มไม่ชอบพี่ชายเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้โกรธอะไรมาก เพราะรู้ว่าเพื่อนเป็นคนพูดตรงขนาดไหน
“ฉันก็ไม่ว่าอะไรแกหรอก เพราะโตๆกันแล้ว อีกอย่างแกก็เป็นคนเลือกเองด้วย คงทำได้แค่ดูห่างๆ แต่คนที่เฟย์ห่วง โน่นกลุ่มเพื่อนแฟนพี่ฟางโน่น ตั้งแต่มีข่าวบางคนรอยยิ้มก็หายไปจากหน้าของอีกคน พี่ฟางเจอกันที่บ้าน แก้วเฟย์ไปก่อนนะ” บอกร่ายยาว กับความรู้สึกข้างใน ก่อนจะหิ้วกระเป๋าใบโตเดินออกไป
“แก้ว ฟางขอโทษแทนยัยเฟย์ด้วยนะ มันเป็นอย่างนี้แหละพูดอะไรไม่คิด” จับมือเพื่อนสาวแน่น เพราะรู้ดีคำพูดน้องสาวสร้างความกังวลให้มากแค่ไหน
“ไม่เป็นไรหรอกฟาง แก้วไม่โกรธเฟย์หรอก” บอกสีหน้าแววตาเครียส ก่อนจะขอตัวกลับบ้านก่อน ทั้งที่อารมณ์ดีอยู่แล้วทั้งวันแต่กลับมาหงุดหงิดเพราะคำพูดเพื่อนสาว ไม่ได้โกรธที่เพื่อนสาวบอกแต่รู้สึกไม่สบายใจถึงบุคคลที่สามที่อยู่ในประโยค
“แก้วกับบ้านยังไงอ่ะ พี่ข้ามารับเหรอ”
“ป่าวจ่ะ แม่มารับ พอดีพี่เข้าติดงานอ่ะไปนะฟาง”
----------------------------------------------
วางสายจากแฟนสาวถึงได้รู้ว่าตอนนี้ แฟนสาวอยู่ที่บริษัท และน้องสาวกับเพื่อนอีกคนขอตัวกลับบ้านไปแล้ว
“โทโมะ แกจะกลับบ้านรึยัง เดี๋ยวข้าต้องไปรับฟาง” ถามหนุ่มอีกคนที่วิ่งไม่รู้เหนื่อยบนลู่วิ่งอัตโนมัติ
“ไปเถอะ อีกสักพักว่ะ ขอคิดอะไรนิดหน่อย”
“คิดอะไรของแกนักหนาว่ะ เรื่องคนเดิมอีกหล่ะสิ” ได้ผล พอเอ่ยถึงอีกคนหนึ่ง ร่างแกร่งหยุดการกระทำทุกอย่างก่อนจะเดินมานั่งหน้าเซ็งบนเก้าอี้พัก
“จะพูดทำไม ไม่เกี่ยวกัน” บอกเสียฉุนๆ ก่อนจะคว้าพาเช็ดหน้ามาเช็ดเหงื่อ ปากบอกไม่คิดอะไรแต่ดูจากสีหน้าก็รู้ คิดหนักเลยแหละ
“เออไม่เกี่ยว อยากจะรู้นักว่าเสียเค้าไปจริงๆ แล้วมันจะเกี่ยวกับแกไหม แล้วไอ้ที่เป็นแบบนี้ตั้งแต่ สี่ ห้า เดือนที่ผ่านมาอ่ะ มันเกี่ยวไหม เดี๋ยวจะไปรับฟางกลับพร้อมกันเลยรึป่าว” หมั่นไส้ในความไม่ชัดเจนของเพื่อนสนิท ไม่กล้าแม้แต่จะลงมือสุดท้ายก็ได้แต่นั่งมองสาวที่หมายปองกำลังหลุดมือ อยากบอกให้มันสู้แต่ในเมื่อมันไม่ยอม ก็ต้องประชดมันไปอย่างนี้
“เออ งั้นรอก่อนแล้วกัน” ลุกคว้าผ้าเช็ดตัวสีขาวสะอาดก่อนก้าวยาวเข้าห้องน้ำในยิม
ปล่อยน้ำเย็นไหลผ่าน ถ้าเป็นคนอื่นคงสบายแต่กับเค้ามันต่าง ครุ่นคิดถึงคำพูดเพื่อนเมื่อครู่ ตบตีกับความคิดงี่เง่าตั้งแต่ต้น หากกล้าหรือชัดเจนกว่านี้สักนิดคงไม่เสียเธอไป ขนาดได้ทำงานร่วมกัน ยังไม่กล้าสักคำที่จะเอ่ย ก็พอดูไม่ยากว่าคนสวยก็คงคิดไม่แตกต่าง แต่ในเมื่อผมไม่กล้า แล้วมีหรือเธอจะแสดงออก สุดท้ายคนเจ็บหนักที่สุดก็เป็นผมเอง แต่ก็ยังดีตรงที่สาวที่หมายปองยังไม่ยอมรับว่าคบกับบุคคลที่สามยังคงสถานะพี่ชาย น้องสาว แต่เธอจะรู้ไหมทุกภาพที่เห็นมันรอยกรีด เป็นแผลลึกกับดวงใจดวงนี้ของผมทั้งสิ้น
------------------------------------------------
ใช้เวลาไม่นาน รถยนต์สีบลอนซ์คันหรูก็จอดสนิทหน้าบริษัทที่คุ้นเคย ก่อนจะลงไปรับแฟนสาว โดยให้หนุ่มอีกคนนั่งรอบนรถ ใช้เวลาไม่นานก็ออกมาพร้อมสาวหน้าหวานที่คุ้นเคย
“สวัสดีโทโมะ วันนี้เป็นไงบ้าง ป๊อปออกกำลังรึป่าว หรือว่าอู้” เอ่ยถามเพื่อนอีกคน ไม่ได้อยากจะจับผิดแฟนตัวเอง แต่ไม่รู้จะคุยอะไรกับชายที่นั่งหน้าบูดด้านหลัง
“ป๊อปขยันฟาง เล่นไม่หยุดเลย” หันมาบอกเสียงเรียบตามมารยาท แต่อารมณ์ตอนนี้ยากที่จะคุม
“ที่แกบอกฟางอ่ะหมายถึงแกเองใช่ไหม” หันมาถามอีกคน
“ไม่สบายใจเหรอ”
“เปล่าฟาง โทโมะสบายดี”
“โทโมะโกหกไม่เนียนนะ ฟางเห็นเวลาโทโมะไม่สบายใจก็ต้องมายิม ไม่งั้นก็ต้องซ้อมเต้น เท่าที่นับดูอาทิตย์นี้โทโมะเข้ามายิมมา 5 วันแล้วนะ ขาดสองวันที่มีงานคอนฯ” ที่บอกก็เพราะรู้ในเมื่อเข้ายิมทีไรชวนแฟนของเธอมาเป็นเพื่อนทุกที
“....”
“คิดมากเรื่องแก้วเหรอ แล้วตอนนี้โทโมะคุยกับแก้วบ้างหรือป่าว”
“ไม่ค่อยได้คุย เพราะเดี๋ยวแก้วจะไม่สบายใจ” บอกเสียงเรียบนัยน์ตาเศร้า
“ทำไมแก้วต้องไม่สบายใจหล่ะ โทโมะก็คุยปกติมาตลอดนี่นา” สงสัยทำไมเพื่อนชายถึงคิดอย่างนั้นในเมื่อแก้วก็ไม่มีท่าทางที่แสดงออกว่าไม่เหมือนเดิม
“กลัวเค้าลำบากใจน่ะ ไม่อยากให้ทะเลาะกับพี่ชาย แต่ช่างเถอะฟางขอบคุณนะ โทโมะขอนอนก่อน ไอ้ป๊อปถึงบ้านก็ปลุกด้วยนะ ง่วง” ชิงตัดบทก่อนจะดึงหมวกลงปิดหน้า นอนหลับตานึกอะไรไปเรื่อยๆ เหนื่อยกายไม่เท่าไรแต่ตอนนี้เหนื่อยใจเป็นที่สุด
“ฟาง ปล่อยมันไปเถอะครับ อีกสักพักนั่นแหละมันถึงจะทำใจได้ หรือถ้าทำใจไม่ได้มันก็บ้าไปเองนั่นแหละ” กล่าวติดตลก ไม่ใช่ไม่ห่วงแต่ก็ไม่รู้จะช่วยเพื่อนยังไงเหมือนกัน
-------------------------------------
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ