C H A N G E .

8.2

เขียนโดย Omoji

วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2558 เวลา 19.13 น.

  25 ตอน
  138 วิจารณ์
  37.08K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 25 กันยายน พ.ศ. 2558 21.31 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

11) เช้งค์สิบเอ็ด

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

CHANGE 11

 

“มายด์....

 

         เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น แล้วโน้มใบหน้าลงพร้อมกับประกบปากร่างเล็กที่อยู่ใต้ร่างอย่างไม่รีรอ ฟางที่ดันไหล่สูงอยู่จำต้องยอมบีบไหล่กว้างนั้นช้าๆ

 

            ไม่รู้เมื่อไหร่ที่น้ำใสไหลร่วงจากดวงตา..

 

            ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ฟางรู้สึกปวดหนึบที่หัวใจมากมายขนาดนี้..

 

อื้อ!..” เมื่อลิ้นหนาอยู่ไม่สุขมันก็ไม่รีรอจะกอบกินน้ำหวานที่อยู่ในปากฟาง ป๊อปปี้ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ากลีบปากบางนั้นหวานแค่ไหนแต่เขาก็ไม่อาจที่จะละจากปากนี้ได้เลยสักครั้ง

 

“มายด์..ฉันคิดถึงเธอมากนะรู้ไหม

 

 

            คำพูดของป๊อปปี้ฉุดสติของฟางที่พลั้งเผลอไปให้หวนกลับมา ร่างเล็กดันไหล่กว้างออกก่อจะผลักอย่างเต็มแรง

 

 

นายเมามากแล้วป๊อป!” ฟางเช็ดน้ำตาของตัวเองที่ไหลออกมา ก่อนจะยันตัวเองขึ้นให้ลุกขออกจากเตียงต้องชะงักเมื่อฝ่ามือหนากลับฉุดรั้งร่างเธอไว้

 

อย่าไปเลยนะ.

 

“…”

 

ฉันไม่เหลือใคร..แล้วจริงๆ

 

 

            ฟางหันหลังกลับมาอย่างกล้าๆกลัวๆ คนตัวเล็กมิได้ขัดขืนอะไรก่อนที่เธอจะตัดสินใจเข้ากอบกุมมือร่างสูงไว้แล้วค่อยๆพาลงนอนบนเตียงอย่างเคย

 

เพราะฉันเป็นห่วงนายนะป๊อปฉันต้องรับผิดชอบนาย  ฟางเอ่ยจบก็เดินหายเข้าไปในห้องน้ำ ก่อนจะออกมาพร้อมกับกะละมังใบเล็กในนั้นมีน้ำและผ้าที่แช่อยู่

 

 

           ร่างบางลงมือบีบผ้าผืนขาวทาบลงบนใบหน้าของคนบนเตียงอย่างอ่อนโยน…ฟางมองดูใบหน้าของอีกคนอย่างอึ้งๆ..นี่ป๊อปปี้โตขึ้นมากเลยจริงๆ เขายังจำได้เมื่อก่อนป๊อปปี้ยังเป็นเพียงเด็กน้อยขี้แกล้งอยู่เลย

 

 

“มายด์กลับมา..ฉันรักเธอ..ฉันรั..” ป๊อปปี้ยังพูดไม่ทันจบมือบางกลับปิดปากเอาไว้เสียก่อน..พร้อมเอ่ยประโยคต่อมา

 

“ป๊อปเงียบเถอะนะ ฉันสัญญาถ้าผู้หญิงของนายกลับมา..ฉันจะไปเอง”  ฟางเอ่ยขึ้นขณะที่ยังคงเช็ดตัวให้ร่างสูง

 

 

            เธอยอมรับว่าการที่พูดออกไปแบบนั้นมันทำให้รู้สึกแปลกๆแต่เธอก็ตัดสินใจแล้วว่าการที่ป๊อปปี้มีผู้หญิงคนนั้น อาจทำให้เขากลับมาร่าเริงอีกครั้งก็เป็นได้เหมือนกันดังนั้นฟางจึงยอมทำแบบนั้น

 

 

            หลังจากที่เจ้าของบ้านทั้งสองขึ้นไปยังบนห้องก็เหลือแต่แขกทั้งหลายที่ต้องทำหน้าที่เคลียร์ของทุกอย่างเสียเอง -_-

 

“นี่นายเดี๋ยวจานนี้ฉันล้างเอง” แก้วแย่งจานใบหนึ่งจากมือโทโมะ

 

“ไม่ต้อง ฉันจะล้างจานนี้” โทโมะยื้อกลับ

 

“ก็บอกว่าฉันจะล้างไงเล่า” แก้วก็ดึงอีก

 

“อ๋ออ นี่นายเห็นว่าจานนี้มันสกปรกน้อยใช่มั๊ยล่ะ ถึงอยากได้น่ะห้ะ”

 

“จะบ้ารึไง! อ๋อออ แสดงว่าเธอคิดแบบนั้นสินะถึงไม่ยอมเอาจานนี้ให้ฉัน” โทโมะว่าบ้าง

 

“เปล่าสักหน่อย ที่ฉันพูดเพราะฉันเห็นนายเป็นคนอย่างนั้นต่างหาก”

 

 

“ฮึ้ยยยย!” จนสุดท้ายโทโมะก็สามารถดึงจานจากแก้วไปได้เลยถือโอกาสผลักหัวอีกคนไปหนึ่งทีแล้วเดินไปที่เคาน์เตอร์ล้างจาน

 

“เกิดมากากแรงน้อยก็ต้องถอยไปนะครับ” โทโมะหันกลับมาพูดกระตุกยิ้มเล็กๆ

 

“เออ! ไม่เอาก็ได้วะ! โด่วว!” แก้วหงุดหงิดโคตรๆก่อนจะเดินส่ายตูดไปเก็บจานอื่นแทน

 

 

 

 

 

            อีกฟากที่ก็ทำงานหนักไม่แพ้กันคือเขื่อนและเฟย์ที่กำลังจัดเก็บอุปกรณ์ตกแต่งงานที่เต็มไปด้วยไฟห้อยเป็นจำนวนมากอย่างระมัดระวัง 

 

 

“เขื่อนไหวรึเปล่า ตรงนั้นมันสูงนะ” เฟย์ที่อยู่ข้างล่างตะโกนบอกอีกคนที่กำลังปีนเก้าอี้เก็บไฟที่ห้อยโตงเตงอยู่บนผนัง

 

“ไม่ต้องเป็นห่วงหรอก ฉันตัวสูง” เขื่อนว่าก่อนจะเขย่งเท้าเอื้อมหยิบ  ไฟดวงน้อยๆค่อยๆเคลื่อนลงมาจนหมด

 

 

“นายนี่เก่งเนอะ เฟย์ว่าพลางตบมือแปะๆให้ร่างสูงด้วยใจที่เต้นถี่

 

            มันเป็นครั้งแรกที่เธอรู้ว่า..

 

            ตัวเองกำลัง ตกหลุมรัก เข้าเสียแล้ว..

 

นี่เฟย์..” เสียงใหญ่น้องทักขึ้น ก่อนจะจับบ่าทั่งสองข้างของเฟย์แล้วหันเข้าหาตน

 

หื้ม?

 

ยิ้มแบบนั้นเขาเรียกว่ากำลังมีความสุขรึเปล่า..”

 

เอ๋?

 

ถ้าใช่…”

 

….

 

 

 

 

ก็ช่วยยิ้มบ่อยๆ ฉันจะได้รู้ว่าเธอมีความสุขเวลาอยู่กับฉัน”

 

            คนพูดจะรู้บ้างรึเปล่าว่าคนฟังกำลังหน้าแดงจัด หัวใจเต้นแรงและรัวจนแทบจะระเบิดเรียกรอยยิ้มให้ร่างสูง มือหนาเคลื่อนขึ้นมายีหัวเล็กเบาๆก่อนจะเดินยิ้มออกไป ปล่อยให้เฟย์ยืนอยู่กับที่

 

 

บ้าชะมัด เฟย์ทุบหน้าอกซ้ายของตัวเองเบาๆ มันเป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกแบบนี้..กับเขื่อนคนเดียว

 

 

                                                            CHANGE

 

 

            ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ฟางเดินกลับออกมาจากห้องน้ำก่อนจะเดินไปยังเตียงนอนของร่างสูงแล้วค่อยๆดึงผ้าห่มผืนหนาขึ้นปกคลุมร่างกายของคนบนเตียง มือเล็กที่ดึงผ้าห่มต้องชะงักอีกคราเมื่อมือหนาคว้าเอาไว้แล้วกระชากลงจนฟางล้มลงคาอกกว้าง

 

           อีกแล้วหรอ 

 

“ป๊อปปี้ปล่อย ฟางดันอกกว้างอีกครั้งแต่มันไม่เป็นผล ป๊อปปี้กอดเธอแน่นจนรู้สึกอบอุ่น

 

          

            อุ่นทั้งกายและใจ

 

ปล่อยเถอะ..” ฟางเอ่ยขึ้น ก่อนจะหายใจติดๆขัดๆเมื่อใบหน้าแนบกับอกซ้ายของป๊อปปี้

 

เสียงหัวใจที่เต้นแรงและเร็วฟางได้ยินมันชัดเจน

 

 

            เพราะของเธอเองก็เป็นแบบนั้น

 

ไม่ปล่อยหรอก..ฟาง”

 

            ฟางหยุดชะงักอยู่กับที่ เมื่อป๊อปปี้เรียกชื่อตน..ในใจกลับรู้สึกแปลกๆเมื่อรู้ว่าเขาไม่ได้เรียกชื่อผู้หญิงคนนั้นแล้ว

 

 

            เปลือกตาคมปรือขึ้น มองหน้าคนที่นอนทับตัว ก่อนจะกระตุกยิ้มมุมปากเมื่อเห็นสีหน้าตื่นๆของอีกคน ป๊อปปี้พลิกฟางให้ลงมานอนข้างๆแทน ซึ่งเธอก็ไม่ได้ขัดขืนแต่อย่างใด เพียงแค่ดันหน้าอกกว้างให้ออกห่างเล็กน้อยแค่นั้น

 

นายหายเมาแล้วหรอ..”

 

 

            คนถูกถามส่ายหัวเป็นคำตอบ

“..พูดมาก ป๊อปปี้ดันหัวเล็กให้แนบกับอกของตัวเอง แล้ววางคางไว้บนศีรษะอีกคนที่อยู่ข้างๆ

 

“…”

 

“…”

 

            ไม่มีเสียงใดที่เอื้อนเอ่ยออกมาก่อน ฟางค่อยๆปิดเปลือกตาลงช้าๆ เธอไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้ถึงรู้สึกอบอุ่นอย่างแปลกประหลาด..อบอุ่นเกินไป

 

            การที่ป๊อปปี้กอดเธอไว้แน่นแบบนี้ ฟางเองก็กลัว..กลัวว่าความจริงแล้วป๊อปปี้อาจจะคิดว่าเธอเป็นผู้หญิงคนนั้น

 

            แต่อีกใจ..เธอก็ไม่อยากออกจากอ้อมกอดนี้

 

            อยากอยู่แบบนี้ให้นานที่สุด

 

 

CHANGE

 

 

 

             เช้ารุ่งขึ้นร่างสูงที่เหยียดกายอยู่บนเตียง ต้องขยี้ตาเมื่อแสงแดดจากด้านนอกสาดส่องเข้ามา ป๊อปปี้ควานหาร่างบางที่กอดเมื่อคืน

 

            เขารู้หมดทุกอย่างว่าทำอะไรลงไป

 

            รู้ว่าตัวเองกอดฟางอยู่ทั้งคืน ก็แค่นั้น

 

 

หายไปไหนวะ ป๊อปปี้มองรอบๆห้องก่อนจะยันตัวเองขึ้นยืนแล้วลุกออกจากเตียง หยิบผ้าขนหนูขึ้นพาดบ่าแล้วตรงไปในห้องน้ำ

 

 

            กลิ่นหอมจากด้านล่างฟุ้งทั่วบ้าน ปรากฏฟางยืนหมุนตะหลิวในมืออย่างคล่องแคล่ว เช้าวันนี้ป๊อปปี้ต้องไปเรียนและก็เป็นหน้าที่ของฟางที่ต้องทำขนมให้ป๊อปปี้กินย่างเช่นทุกวัน มือเล็กหมุนตะหลิวต้องชะงักเมื่อมีเสียงเรียกจากทางด้านหลังเอ่ยขึ้น

 

 

ทำอะไร

            ฟางหันไปตามต้นเสียง ใบหน้าคมอยู่ในระยะประชิดอีกครั้ง หากแต่ครั้งนี้กลับไม่มีใครยอมถอยออกห่าง และมันคงดีกว่านี้ถ้าป๊อปปี้ไม่คิดที่จะเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ฟาง

 

 

ถอยออกไปนะ..” ฟางพูดขึ้นกลางคัน ใบหน้าคมหยุดอยู่กับที่ก่อนจะตัดสินใจให้เธอเป็นอิสระ 

 

 

คือฉัน..”

 

มันไหม้นายคงกินไม่ได้รอก

 

            ฟางตัดสินใจหลบสายตาคู่นั้น ไม่อยากมอง ไม่อยากเห็นหน้าป๊อปปี้เลยสักนิด..มองทีไรหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะทุกที

 

            ไม่สิ..ตั้งแต่เมื่อคืน

 

            ใจเธอเต้นแร็วตั้งแต่เมื่อคืนที่เขา..

 

            จูบ  

 

 “เสีย ด..ดายจัง..”

            ฟางมองคุกกี้ในมือพร้อมกับพูดตะกุกตะกัก ไม่ชอบเลยเวลาเป็นแบบนี้..

 

 

หมับ!

 

เอามานี่ ป๊อปปี้ดึงถาดคุกกี้ในมือของฟางไป แล้วเทใส่ในกล่องพลาสติกอย่างเคย มือใหญ่ปิดฝาก่อนจะหยิบมันติดมือแล้วเดินออกไป

 

“ป๊อปปี้ นายจะเอาไปไหน!”

 

 

 CHANGE

 

 

ไอป๊อป ในมือนั่นอะไรดำๆวะ” โทโมะร้องทัก ทันทีที่เพื่อนสนิทถือกล่องใบเล็กมาด้วยสีหน้านิ่ง ก่อนที่เขาจะหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆวางกล่องใบเล็กนั่นบนโต๊ะเพื่อนอีกคนที่อยู่ข้างๆ

 

คุกกี้ของฟางหรอวะ เขื่อนคว้ากล่องเล็กนั่นไว้ในมือ ค่อยๆเปิดฝาออกช้าๆ

 

อื้อหือ มึงทำไมเหม็นไหม้แบบนี้วะ

 

 

            คำถามของโทโมะเรียกสายตาของป๊อปปี้ให้มองคุกกี้ในกล่อง พร้อมนึกท่าทางแปลกๆของฟางในตอนเช้า เขานึกทบทวนมาตลอดทางว่าเขาไปทำอะไรให้ฟางมีท่าทีแบบนั้น

 

เป็นไรวะ..” ป๊อปปี้ได้แต่พูดลอยๆออกไป หากแต่คำพูดของเขาเรียกสายตาของเพื่อนสนิทที่อยู่ข้างๆเป็นอย่างดี

 

ทำไมวะ โทโมะโน้มคอลอกระซิบข้างหูป๊อปปี้ แล้วมองสลับกับกล่องคุกกี้นั่น

 

อะไรมึง!” ป๊อปปี้ผลักหัวโทโมะไปอีกทาง

 

ไอสัส!มึงทำบ้าไรวะ!ผลักหัวกูหาพ่อ_มึงหรอ!”  

 

ไอป๊อป เมื่อคืนเป็นไงวะ..เหนื่อยมั้ยวะเพื่อน เป็นเขื่อนที่เดินมานวดบ่าเพื่อนสนิทอย่างรู้ใจ แต่เจ้าของชื่อกลับไม่รู้เรื่อง

 

พูดเชี่ยไร

 

ก็เมื่อคืนไง ก็เห็นมึงจะจับฟางปล้ำอยู่รอมร่อ แล้ว..ตกลงเป็นไงวะ ฟางเด็ดป่าววะ โทโมะถามบ้าง

 

มึงพูดเรื่องอะไรเมื่อคืน กู..กับ..”

 

ไอห่า! นี่มึงยังไม่รู้หรอว่าทำอะไรลงไป เมื่อคืนมึงจับฟางปล้ำไง แค่นี้จำไม่ได้หรอวะ ฮ่าฮ่า

 

“พวกมึงพูดเรื่องอุบาทอัปปรีไรวะ! กูไม่ได้ปล้ำยัยนั่นนะเว้ย” ป๊อปปี้รู้สึกถึงแรงหนักๆที่หัวใจ หรือนี่อาจจะเป็นเหตุผล

 

“อ้าวว พวกกูจะไปรู้หรอก็เมื่อคืนฟางก็ถูกมึงจับทุ่มลงเตียงไม่ใช่ไง?” 

 

“เชี่ยไรวะแม่ง” แล้วไอความรู้สึกที่กำลังก่อกวนเขาในตอนนี้คืออะไร?

 

 

           สองเท้าอยู่เฉยไม่ได้อีกต่อไป ป๊อปปี้เร่งฝีเท้าออกจากจุดนั้นอย่างไม่คิดชีวิตเขาคิดมาเสมอว่าต้องมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นแน่ๆ และมันก็เป็นจริงๆเขาแค่อยากไปหาฟาง ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้..เขาอยากพบฟาง

 

“ไอป๊อป! ไอป๊อป!” โทโมะตะโกนเรียกเจ้าของชื่อแต่กลับไม่มีการหันหลังกลับมาแต่อย่างใด

 

“เป็นอะไรของมันวะ” เขื่อนได้แต่สบทอย่างงงๆ

 

 

“เฟย์รอฉันด้วยยยย โอ้ยยย หนักเว่อรรรรรรร์”  เสียงแหลมๆเรียกสติของทั้งโทโมะและเขื่อนได้เป็นอย่างดี

 

 

            และแน่นอนว่าทั้งสองก็หันมา

“กูว่าแระ เสียงแหลมๆปรี๊ดแตกนั่นคงหนีไม่พ้นยัยปากจัดตัวแสบหรอก” โทโมะพูดอย่างเอือมๆ

 

“กูว่าเข้าไปช่วยเหอะ” เขื่อนไม่ได้มองหรอกแก้วอะไรน่ะ มองอีกคนต่างหาก..

 

“มึงจะไปช่วยทำม๊ายยย อยู่เฉยๆเหอะเชื่อกู” โทโมะแย้ง

 

“มึงนี่ก็นะ ไอคนไม่มีน้ำใจ!” ว่าจบเขื่อนก็ไม่ฟังหรอกเพื่อนรักอย่างโทโมะน่ะ-_-

 

 

            เขื่อนเดินตรงหรี่ไปหาเฟย์และแก้วทันทีโดยที่โทโมะก็ต้องจำใจเดินตามมาย้ำนะ จำใจ!

 

“เฟย์”

 

“เอ้า เขื่อน..มีอะไรหรอ” เฟย์ถามในขณะที่ทั้งสองมือก็ถือกองหนังสือที่เยอะพ้นหัว..

 

“ นี่..ฉันช่วยดีกว่า อยู่แบบนี้แล้วฉันเหมือนคุยกับหนังสือมากกว่าเธอนะ” เขื่อนเอื้อมมือคว้าหนังสือจากเฟย์มาครึ่งหนึ่งและมันก็ดีมากเพราะช่วยเบาแรงให้กับอีกคน

 

“ขอบใจนะเขื่อน สบายกว่าเยอะเลยอ่ะ” 

 

“ไม่เป็นไรหรอก ฉันอยากช่วยเธอ”

 

 

 

            และดูเหมือนโทโมะและแก้วจะเป็นส่วนเกินเสียเอง..ทั้งคู่หันมามองหน้ากันเหมือนงงๆกับทั้งคู่..ก่อนจะเป็นแก้วที่พยายามกระแทกไหล่โทโมะเหมือนต้องการความช่วยเหลือ

 

“อะไร”

 

“ชช่วยฉันหน่อยดิ” แก้วก็จำใจจะตายแล้วเหมือนกัน

 

“เรื่องอะไรฉันต้องช่วยเธอด้วยวะ”

 

 

“โหยย ไอคนไม่มีจิตสำนึก! นายสะกดคำว่า น้ำใจ! ไม่เป็นรึไง”  แก้วก็พูดได้ยากลำบากเหลือเกินเมื่อหนังสือแทบจะล้ำหน้าอยู่แล้ว

 

 

“ฉันจะช่วยเฉพาะคนที่สมควรช่วยต่างหาก” จริงๆโทโมะก็แอบเหล่ๆมองแก้วอยู่เหมือนกันแต่เขาก็ต้องคิดอยู่เสมอว่าไม่ถูกกัน

 

 

“ไอคนไร้หัวใจ โอ้ยยยย ไอหนังสือนี่ก็เหมือนกัน โอ้ยย จะหนักอะไรนักหนาวะเนี่ยยย” 

 

 

อ่ะๆ เห็นว่าเป็นมนุษย์คนนึงอ่ะนะ โทโมะว่าพลางหยิบหนังสือมาสองสามเล่มจากแก้ว แต่ดูเหมือนหนังสือมันจะไม่ได้ลดลงเลยสักนิด

 

โหหห ไอบ้า!  ถ้าจะช่วยแค่สามเล่มอ่ะน่ะ ไม่ต้องช่วยก็ได้เว้ย!” แก้วยู่หน้าใส่ร่างสูงด้วยความแค้น ก่อนจะหันหลังหนีโทโมะที่หัวเราะอย่างชอบใจ เห่อะ!คนไร้น้ำใจ!หน้าตาก็ไม่ดีแล้วยังใจดำอีก!

 

          

อ๊ะ!” หากแต่แก้วที่ค่อยๆเดินไปก็ชะงัก เมื่อรู้สึกถึงน้ำหนักที่เบาลง เหลียวมองคนข้างกายที่ถือหนังสือกว่าสิบเล่มไว้ในมือ

 

ไง..หลงรักเลยดิ

 

แหวะ! จะอ้วกก ไปไกลๆเลยอีตาบ้า!” แก้วกระทืบเท้าเดินจากร่างสูงไป หากแต่บนใบหน้าหวานนั้นเปื้อนรอยยิ้มบางๆเล็กน้อย เธอกำลังยิ้ม..

 

            ยิ้มเพราะโทโมะ

 

            ..บ้าจริง


โมะแก้วเรียกน้ำย่อยน้อยๆ สปอยเล็กๆ อิ๊อิ๊  ><  ป๊อปปี้ก้ไม่รู้ว่าใจจริงรู้สึกยังไงกับฟางกันแน่ยังไงก็ช่วยติดตามกันด้วยนร้าาา 

 

ชอบ / ไม่ชอบ ยังไงก็เม้น บอกได้จ้ะ  สามารถเพิ่มคะแนนความพอใจ ตามความชอบเลยย กดติดตามถ้าอยากอ่านแบบสม่ำเสมอน้าา  

 

1 เม้น  = 1 กำลังใจ

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.3 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
8.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
8.2 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา