Fifty shades - SJ Fiction
เขียนโดย มินเฮร
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 17.43 น.
แก้ไขเมื่อ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 18.16 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
5) CHAPTER 05 สัญญาณ || KIHAE
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ5
สัญญาณ
ทงเฮกระชับกุญแจรถในมืออย่างระมัดระวังระหว่างเดินเข้าไปในอาคารจอดรถชั้นใต้ดินของบริษัท มองหารถพอร์ชสีดำตามที่เจ้าของรถบอกมาอย่างตั้งใจ เจอแล้วคันหนึ่ง
กดปลดล็อก พอแสงไฟสว่างวาบที่ไฟหน้ารถแล้วก็มั่นใจ เดินไปขึ้นรถฝั่งที่นั่งข้างคนขับแล้วเอื้อมมือไปกดปุ่มสตาร์ทรถระหว่างรอ ไม่ถึงห้านาทีก็เห็นเจ้าของรถเดินมาทางนี้ มือขวาปลดคัฟลิงก์ เสร็จแล้วจึงต่อด้วยการคลายเนคไทออกเล็กน้อย ตบท้ายด้วยการเสยผมยุ่งๆ ไปด้านหลังอย่างไม่ใส่ใจอีกที
ให้ตาย เขาฮ็อตชะมัดเลย
คุณคิบอมเปิดประตูรถและแทรกตัวเข้ามาด้านในอย่างเป็นธรรมชาติ เขาไม่เคอะเขินแม้แต่นิดเดียวเวลาเผชิญหน้ากัน ผิดกับเขาที่รู้สึกเกร็งขึ้นมาฉับพลัน และต้องใช้เวลาอีกสักพักในการปลอบใจตัวเองไม่ให้กลัวหัวหดเวลาเผชิญหน้ากับอีกฝ่ายในบางครั้ง
“เดี๋ยวนะ” เขาบอก ทำท่าเหมือนนึกขึ้นได้แล้วเอี้ยวตัวไปด้านหลัง ทงเฮมองมือของเขาที่เอื้อมไปหยิบบางอย่างที่เบาะหลังแล้วก็หน้าแดง นึกถึงตอนที่เขาใช้มือนั้นสัมผัสไปทั่วร่างกายตัวเองจนเกือบถึงด้านหน้า และคิดว่ามันจะรู้สึกยังไงถ้ามือของเขาเอื้อมไปถึง...
ไอ้บ้าในใจกำลังสวมชุดคอสเพลย์กระต่ายเซ็กซี่ ปลดกระดุมบนออกทุกเม็ด ทงเฮจินตนาการเห็นมันแยกขาออกแล้วไม่มีอะไรปกปิดนอกจากชุดกระโปรงสั้น เรียกร้องให้ฝ่ามือกว้างของคิมคิบอมล่วงล้ำเข้าไป
หยุด หยุดเดี๋ยวนี้
ถุงกระดาษใบใหญ่ถูกยื่นมาให้ ทงเฮคืนสติ กะพริบตาปริบๆ มองอีกฝ่าย
“เปิดดูสิ”
ช็อกโกแลตกล่องเล็กกล่องใหญ่เกือบสิบกล่องอัดแน่นกันอยู่ใต้ถุง แม้อ่านภาษาญี่ปุ่นไม่ออกแต่เลข 0 ที่ต่อท้ายกันยาวเหยียดก่อนหน้าสัญลักษณ์เงินเยนนี่ก็ทำให้รู้ว่าราคามันไม่ใช่น้อยๆ
เป็นครั้งแรกที่ทงเฮรู้สึกถึงความไม่มั่นใจในน้ำเสียงของท่านประธาน
“คงชอบช็อกโกแลตนะ”
“เรียกว่าคลั่งเลยก็ได้ครับ”
คำว่า ‘คลั่ง’ ที่ทงเฮบังเอิญเลือกใช้ในประโยคนั้น เรียกรอยยิ้มบางอย่างบนริมฝีปากเขาได้ ทงเฮชะงัก หน้าร้อนผ่าว เอ่ยขอบคุณเบาๆ แล้วก้มหน้ามองถุงของฝากใบโตแทนการเผชิญหน้ากับคิมคิบอม
ได้ยินเสียงปลดเกียร์ หางตากลมที่ตอนนี้เชื่องเหมือนลูกแมวไม่มีผิดมองเห็นฝ่ามือแกร่งยกขึ้นจับพวงมาลัย
“อยากไปไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า”
อืม... ที่ไหนงั้นเหรอ
เฮือก!
ลมหายใจสะดุดเมื่อจู่ๆ ก็ถูกมือแข็งแรงรั้งใบหน้าให้หันไปหา แล้วริมฝีปากก็ถูกปิดสนิทด้วยสัมผัสหนักหน่วง ทงเฮตัวแข็งทื่อ ปิดเปลือกตาแน่น สับสนปนตั้งตัวไม่ถูกเพราะจู่ๆ ก็ถูกดึงเข้าไปจูบ ถุงกระดาษในมือถูกกำจนได้ยินเสียงกรอบแกรบเคล้าคลอไปกับเสียงของริมฝีปากที่เชื่อมเบียดกัน
จนกระทั่งคิบอมถอนริมฝีปากออก เกิดเสียงของริมฝีปากที่ดูดปากล่างอวบอิ่มแรงๆ ดังขึ้นอย่างเซ็กซี่ แล้วร่างโปร่งบางกว่าเขาถึงครึ่งจึงได้รู้ถึงความผิดของตัวเอง
“นอกจากตอนไม่พอใจ เวลานายใช้ความคิดก็ยังยื่นปากอีกเหรอ”
ทงเฮหน้าร้อนจัด ร้องฮื้อออกมา เผลอเง้างอดใส่เขาไปโดยไม่ตั้งใจแต่มันอดไม่ได้ เขาไม่ทันทำอะไรผิด แต่เป็นความกามของท่านประธานเองต่างหากป่ะวะที่อยากจะเรื่องเอารัดเอาเปรียบ ร่างเล็กกว่ากระถดตัวหนีจนติดประตูอย่างระแวดระวัง พอเขาถามอีกครั้งว่าอยากไปไหนทงเฮก็ได้แต่ส่ายหน้าดิก ไม่คิดมันแล้ว!
ได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอดังแผ่ว นึกเคืองที่เขาเอาแต่หยอกเย้าไม่สิ้นสุด พอเริ่มรู้ตัวแล้วว่าตัวเองกำลังจะยื่นปากอีกทงเฮก็รีบเม้มริมฝีปากฉับ แล้วก็ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไม่ปล่อยให้เขาจูบได้ตามอำเภอใจเพราะความผิดที่เขาตั้งบทลงโทษขึ้นเองอย่างนั้นอีกแน่
ถึงจะชอบจูบของเขาก็เถอะ
แต่ก็ไม่ควรยอมเขามากจนเกินไปสิ!
จะให้เขารู้ไม่ได้เด็ดขาด ว่ามีใครอีกคนกำลังจะตกเป็นทาสของเขา ไอ้ปีศาจเซ็กส์เอ๊ย!
ประธานคิมขับรถเลียบแม่น้ำสายหนึ่งไปโดยไม่มีจุดหมาย เพราะรายนั้นเป็นคนดัง ส่วนเขาก็มีรูปชัดเจนอยู่ในเว็บเด็กฝึกหัดของเอสเอ็ม ทั้งคู่จึงต้องเรียกการขับรถเล่นไปเรื่อยๆ แบบนี้ว่าเป็นการเดท
แต่เขาก็ไม่ใช่ผู้หญิงที่ฝันถึงดอกไม้หรือดินเนอร์หรูๆ อยู่แล้ว เด็กผู้ชายที่เพิ่งจะหัดริมีความรักกลับชอบบะหมี่ในกล่องกระดาษที่ร่างสูงเดินลงไปซื้อมาให้เรานั่งกินด้วยกันบนรถ ชอบตอนที่ท่านประธานหน้าโหดตาดุใช้ปลายนิ้วเช็ดคราบซอสถั่วดำที่ริมฝีปากของเขาให้ ถึงในใจทงเฮจะคิดไปแล้วว่าคิมคิบอมคงอยากจะเช็ดคราบพวกนั้นออกให้เขาด้วยปากมากกว่าก็เหอะ
ทั้งคู่แกะช็อกโกแลตของฝากกินด้วยกัน ทงเฮยื่นกล่องไปตรงหน้าท่านประธาน แอบส่งสายตาอ้อนๆ ให้เขาอย่างไม่ให้ผิดสังเกต
“กินคนเดียวมันรู้สึกผิดอ่ะ”
สีหน้ายุ่งยากของเขาแทบจะมีป้ายปิดประกาศว่าเกลียดของหวาน แต่เขาก็ยอมเลือกไปชิ้นหนึ่ง(ที่ทงเฮทันมองว่าเป็นดาร์คช็อกโกแลต)
“คุณเคยเดทไหม”
ทงเฮถามแล้วทำเป็นมองไปเรื่อยเปื่อย แต่หูยังขยายใหญ่เท่าชามข้าวหมาดังเดิม
“สองสามครั้ง”
“กับคู่สัญญาเหรอครับ”
เป็นครั้งแรกตั้งแต่เขากลับมาที่มองคนปากไวอย่างดุๆ เหมือนจะตำหนิอีกครั้ง “จะให้ฉันบอกอีกสักกี่ครั้ง ว่าฉันไม่เดทกับคนที่เซ็นสัญญาด้วย”
คนปากไวแทบจะหดหัวกลับเข้ากระดอง ฉี่จะเล็ดไหมเนี่ย
“นี่เป็นเดทในรอบหกปีของฉัน” คิมคิบอมพูดแล้วจ้องหน้าเขาอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อ จะจริงจังไปไหนเล่า แค่นี้ก็มองหาร้านขายกางเกงในแทบไม่ทันแล้ว
“และฉันอยากให้นายจำไว้ว่าฉันไม่ชอบตอบคำถามอะไรซ้ำซาก”
“แปลว่าคุณชอบคำถามใหม่ล่าสุด”
ยัง ยังอีก ไอ้ปากเวร
โชคดีที่ดูเหมือนว่าคิมคิบอมจะเห็นสิ่งที่ปากเวรๆ ของเขามันพูดออกไปโดยไม่ทันยั้งคิดเป็นเรื่องตลกไปเสียนี่ เขาถึงได้รอยยิ้มมุมปากน่าหลงใหลของปีศาจเซ็กส์กลับคืนมา
“งั้นคำถามใหม่ล่าสุด บอกผมถึงแผนเดทของเราในคืนนี้หน่อยสิครับ”
เขาทำหน้ายุ่งยากใจเมื่อคิดถึงมัน“เดทในรถ จูบและอะไรอีกนิดหน่อย ไปส่งหน้าบ้าน ปราศจากเซ็กส์”
ทงเฮแอบขำ เขาคงอยากทำมากกว่าที่จะพูดออกมา
และหูสะดุดกับคำว่า ‘อะไรอีกนิดหน่อย’ นั่น จากนั้นก็พลันนึกถึงมือเก่งๆ ของเขากับเราสองคนในห้องอาบน้ำ
หยุด อีทงเฮดันหน้าไอ้บ้าหื่นกามที่กำลังกลายเป็นสวมจริตสาวน้อยร่ำๆ จะเสียตัวกลับเข้าไปใต้จิตสำนึกอีกครั้ง
ก็ถ้า… คิมคิบอมจะจูบและทำอะไรอีกนิดหน่อยอย่างที่เขาวางแผนไว้ ทงเฮก็ต้องใช้เวลาก่อนหน้านั้นล้วงความลับของเขากับบรรดายุงลายในเอสเอ็มออกมาให้มากเท่าที่มากได้
“ครั้งแรกของคุณล่ะ”
ทงเฮปกปิดความอยากรู้อยากเห็นในน้ำเสียงไว้ไม่ได้เลย
“นายนี่ช่างซักนะ” เขาติง ทงเฮยื่นปาก
“จงใจงั้นเหรอ” น้ำเสียงของคิมคิบอมจับผิด มองริมฝีปากล่างที่กำลังจะขบกันอย่างจริงจัง ให้ตายเถอะ นี่ไม่คิดจะปล่อยให้ปากของเขาหลุดรอดไปได้แม้สักวินาทีเลยหรือยังไงนะ
ทงเฮขยับริมฝีปากไปมาอย่างระมัดระวังว่าจะไม่เผลอกัดปากอีก คิบอมมองคนอ่านง่ายที่มีสีหน้าอยากต่อว่าเขาเต็มประดาแต่ต้องกลั้นไว้เพราะตำแหน่งท่านประธาน - เด็กฝึกหัดมันค้ำคอ ดวงตาคมกริบมองทงเฮเม้มริมฝีปากอย่างหวาดระแวง เพิ่งจะมานึกหวงมันตอนนี้เหรอเด็กน้อย กลัวว่าจะสายไปแล้ว อะไรที่คนอย่างเขาปักใจไว้แล้วว่าต้องได้ มันก็ต้องเป็นไปตามนั้น
คิบอมยืนยันความคิดนั้นของตัวเองด้วยการจับโครงหน้าขาวเหมาะมือไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ปลายนิ้วออกแรงบีบแก้มนุ่มนั่นเพียงนิดก็บังคับให้ริมฝีปากที่ปิดสนิทเปิดอ้าออก ร่างสูงยื่นหน้าเข้าไปแล้วประกบจูบ ความเชี่ยวชาญของเขาแสดงออกเป็นความรู้สึกของทงเฮที่รู้สึกว่าริมฝีปากของตัวเองถูกเขากลืนกินหายไป
“อื้อ...” ประท้วงได้แค่ในลำคอ
ครั้งนี้คนถูกล่วงล้ำเปิดตามองคนเอาแต่ใจ ขนตาหนาเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ รับกับคิ้วเข้มเป็นทรงได้รูป ทงเฮสำรวจอย่างถ้วนถี่จนแน่ใจว่าคิ้วของคุณคิบอมเป็นทรงสวยอย่างธรรมชาติ เพราะไม่มีตอขนคิ้วสักนิด ผู้ชายคนนี้จะสมบูรณ์แบบในทุกสัดส่วนร่างกายไม่ได้นะ
ความคิดเกี่ยวกับใบหน้าของเขาลอยล่อง ทงเฮใจลอยคิดถึงคนตรงหน้า ในขณะที่โพรงปากถูกสำรวจหนักหน่วง ถูกจับใบหน้าให้เอียงซ้ายขวาเป็นพักๆ ราวกับรู้ตัวว่าใครบางคนไม่ได้สนใจกับจูบของเขามากนัก ฟันคมจึงกัดให้เบาๆ ครั้งหนึ่ง ไม่ได้รู้สึกเจ็บมากนักแต่เรียกให้รู้สึกตัวแปลบขึ้นมาได้
ทงเฮมองค้อนอีกฝ่ายอย่างเปิดเผย สีหน้าแบบที่คิมคิบอมเผลอเอ่ยในใจขึ้นมาว่า เจ้าเด็กนี่เอาแต่ยั่วเขา....
ตาคมกริบเข้มขึ้นนิดหนึ่งราวข่มอารมณ์บางอย่าง แล้วตอบคำถาม
“ครั้งแรกของฉันตอนอายุสิบหก”
“สุดยอด” ทงเฮลืมตัว ตะครุบปากตัวเองไว้ไม่ทัน พอเห็นคิบอมขมวดคิ้วก็รีบอธิบายต่อทันที “แหม น่าอิจฉาจะตาย ไปโรงเรียนแบบไม่โดนล้อด้วย ตอนผมอายุสิบหกผมเพิ่งเคยชอบผู้หญิงเอง”
จู่ๆ น้ำเสียงสบายๆ อีกฝ่ายก็เข้มขึ้น คิมคิบอมจ้องเขาเขม็ง
“ใคร”
“เอ่อ เยรินนูน่าน่ะครับ พี่สาวของฮเยริ คนที่เป็นเด็กฝึกเหมือนกัน เธอเรียนโรงเรียนเดียวกับผม”
“ชอบผู้หญิงคนนั้นมากหรือ” เขาเดาใจท่านประธานไม่ออก น้ำเสียงของเขานิ่งลึก แต่สายตาคมกริบยังคงมองจ้องอย่างต้องการคำตอบ
“ก็… ชอบครับ”
“ชอบมากแค่ไหน”
“ตอนนี้ก็… ไม่มากแล้วครับ”
“บอกเป็นเปอร์เซ็นต์มา”
ฮึ่ย
“นายกำลังยื่นปาก”
ทงเฮเม้มริมฝีปากฉับ คิ้วขมวดเหม็งมองเขากลับ
“กี่เปอร์เซ็นต์ล่ะ”
“สิบเปอร์เซ็นต์มั้งครับ” ทงเฮตอบหน้าม่อย เมื่อไหร่คิมคิบอมจะเลิกสนใจว่าปากของเขามันจะกำลังอยู่ในทิศทางไหนเสียทีนะ “ไม่ได้เจอกันนานมากแล้วตั้งแต่เยรินนูน่าเรียนจบไป”
ท่านประธานคิมฟังคำตอบของเขาแล้วไม่ได้พูดอะไร ร่างสูงเบือนหน้ากลับไปตามเดิม สีหน้าครุ่นคิดจริงจังเหมือนราคาหุ้นตก ทงเฮแอบยื่นปาก มันน่าหงุดหงิดนี่ว่าเขากำลังคิดอะไรตอนที่ได้ฟังคำตอบของตัวเองแล้วมีสีหน้าแบบนั้น
“บอกผมได้ไหมว่าคุณกำลังคิดอะไร”
“กำลังคิดว่าจะทำยังไงให้สิบเปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงคนนั้นเหลือแค่ศูนย์”
ทงเฮกะพริบตาปริบ ปากเก่งๆ มันก็ช่างทำงานดีเหลือเกิน
“แล้วคิดออกหรือยังครับ”
แล้วรอยยิ้มมีเสน่ห์ของท่านประธานก็ทำให้ใจดวงน้อยเต้นตุบตับ ทงเฮชอบเวลาที่รอยยิ้มของเขาค่อยๆ ขยับขึ้นบนริมฝีปาก เผยฟันเรียงกันสวย ดวงตาคมกริบที่ดุจัดในเวลาปกติก็หรี่ลงอย่างคนอ่านเกมออก มือข้างขวาของเขาเอื้อมมาจับเบาะรองศีรษะฝั่งที่นั่งข้างคนขับ ออกแรงเพียงน้อยนิดก็แทบจะเหวี่ยงร่างกายใหญ่โตมาติดร่างของเขาได้ ทว่ามันก็เป็นไปอย่างเชื่องช้า คิมคิบอมหยุดรอและมองผมอย่างสำรวจ คล้ายจะมองหาการปฏิเสธจากผม ยังจะขออะไรอีกทีตะกี้ยัง... ช่างเถอะ
และเมื่อร่างสูงพบว่าเขาหลับตาลงช้าๆ และปล่อยริมฝีปากที่เม้มแน่นให้คลายออก คิมคิบอมก็เผยรอยยิ้มมีน่าหลงใหลอีกครั้งและพึมพำกับปลายจมูกขาว
“ฉันอยากกัดปากนายอีก”
ทงเฮครางฮือ พูดตอบโดยที่แทบไม่รู้ตัวว่ากำลังทำอะไรอยู่
“เอาสิครับ”
แล้วริมฝีปากล่างอวบอิ่มก็ถูกแตะแผ่วเบา ฟันคมดึงขบด้วยความนุ่มนวล เขาออกแรงดึงน้อยๆ แล้วใช้ปลายลิ้นดุนดันริมฝีปากล่างของทงเฮที่อยู่ในปากเขา ได้กลิ่นหอมของช็อกโกแลตอบอวลอยู่ในโพรงปากคนทั้งคู่ รสหวานติดมาจากปลายลิ้นของทงเฮที่เขาเข้าเกี่ยวพัน ในขณะที่รสชาติขมนิดหวานหน่อยของดาร์คช็อกโกแลตที่ยังคงติดอยู่บนลิ้นหนาเองก็น่าอร่อยสำหรับทงเฮเหลือเกิน
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
ทงเฮสะดุ้งเฮือก เผลอกระถดตัวติดเบาะเมื่อได้ยินเสียงคนเคาะกระจกรถฝั่งที่ตนเองนั่งอยู่ ใจเต้นถี่รัวด้วยความหวาดกลัว ผิดกับคิมคิบอมที่ค่อยๆ ถอนหน้าออกห่างแล้วเบือนมองผู้มาเยือนด้วยสายตาดุจัด
แน่ละ วันนี้เขาถูกขัดจังหวะไปไม่รู้ต่อกี่ครั้ง แต่มันไม่ใช่เรื่องจะมาใส่ใจตอนนี้!
คิมคิบอมกดกระจกไฟฟ้าลง ตวัดเสียงต่ำด้วยความหงุดหงิดสุดขีด
“มีอะไร”
ผู้ชายในชุดแจ็คเก็ตหนังสีเลือดหมูโน้มตัวลงมาให้เห็นหน้าชัดเจน แต่งตัวแบบนี้มัน...
“ผมได้รับเบาะแสของการทำอนาจารเยาวชนอายุไม่ถึงยี่สิบแถวๆ นี้ ขอตรวจบัตรด้วยครับ”
ตากลมจ้องมองร่างสูงที่กำลังยืนตกลงกันอยู่ห่างออกไป ทงเฮเกาะกระจกมองอย่างกังวล บ่อยครั้งที่คิมคิบอมมองกลับมาที่รถ สายตาคู่นั้นบอกให้เขาไม่ต้องกังวลใจ ผู้ชายแปลกหน้าที่อ้างว่าเป็นตำรวจกลับมีสีหน้าอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า เขามองมาทางนี้เช่นกัน
คิมคิบอมพูดอะไรอีกสองสามคำ จู่ๆ ตำรวจคนนั้นก็ทำหน้าเครียด ทงเฮยิ่งหวั่นใจ ตั้งท่าจะเปิดประตูลงไปหลายต่อหลายรอบ แต่ตอนที่เขาตัดสินใจเปิดประตูออกไปจริงๆ คิมคิบอมที่ได้ยินเสียงประตูเปิดก็หันมาแล้วใช้สายตาคมกริบสั่งให้เขากลับไปนั่งที่เดิม
อยากรู้เว้ยยย
ราวกับรายนั้นรู้ว่าคนที่ได้แต่คอยกำลังหมดความอดทนจริงๆ คิมคิบอมจึงยื่นเงินปึกหนึ่งจากกระเป๋าสตางค์ให้นายตำรวจคนนั้น ก่อนที่อีกฝ่ายจะยิ้มแป้นแล้วเดินตามร่างสูงกลับมาที่รถ
ทงเฮมองนายตำรวจคนนั้นอย่างระแวดระวัง สายตาไม่เป็นมิตรเต็มที กระทั่งคิบอมกลับขึ้นมาบนรถและเตรียมตัวจะขับรถไป จู่ๆ เขาก็เคาะกระจกฝั่งทงเฮ
ทงเฮกดเลื่อนกระจกลง นายตำรวจหนุ่มเจ้าของรอยยิ้มไม่น่าไว้วางใจส่งนามบัตรใบหนึ่งให้เขา
“อยากแจ้งความเมื่อไหร่ก็โทรมาได้ตลอดเวลาเลยนะครับ”
บรืนนนนน
ทงเฮยังไม่ทันจะจับนามบัตรให้ดีรถยนต์คันหรูก็แล่นออกไปด้วยความรวดเร็ว ตำรวจหนุ่มที่ชักมือเก็บไม่ทันข้อมือถูกกระแทกไปนิดหน่อย ยังดีที่คิมคิบอมยังเหยียบเบรกไว้บ้างตอนที่เร่งเครื่อง สมองฉับไวของตำรวจนั่นถึงได้ชักมือกลับไปได้ทันท่วงที แต่ก็ยังไม่พ้นอยู่ดี
ฮันกยอง
จิตแพทย์
“จิตแพทย์? เขาไม่ใช่ตำรวจเหรอครับ”
“ไม่ใช่”
น้ำเสียงของอีกฝ่ายไม่ค่อยสบอารมณ์ ทงเฮหันมองคนข้างกายแล้วพบว่าเขาไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเดทต่อเลยสักนิด กลัวก็กลัวอยู่หรอก หน้าโหดๆ กับตาดุๆ นั่นยังเป็นสิ่งที่ทงเฮสนใจเสมอว่าตัวเองควรพูดอะไรไม่ควรพูดอะไร แต่ความอยากรู้มันมีมากกว่า
“ผมเห็นคุณเอาเงินให้เขา”
“นั่นค่ากาแฟ”
“กาแฟ?” เป็นฟ่อนๆ เลยน่ะนะ
ทงเฮแน่ใจว่าไม่ได้ตาฝาดตอนที่เห็นเหมือนคิบอมข่มอารมณ์และกัดฟันตอบ
“แก้วละหลายล้านวอน”
ท่านประธานไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะอธิบายอะไรนอกเหนือจากนี้ ทงเฮจึงเงียบแล้วคิดเองต่อในใจ เขาไม่แปลกใจหรอกถ้าใครสักคนบนโลกใบน้ีจะมีจิตแพทย์ประจำตัว โลกนี้มันเครียดจะตายชัก ยิ่งกับคนที่อยู่ในตำแหน่งสูงบนตึกเสียดฟ้าอย่างนั้น ทงเฮเข้าใจได้
แต่ที่ไม่เข้าใจคืออารมณ์ขึ้นๆ ลงๆ ที่ไว้ใจไม่ได้ของคิมคิบอมมากกว่า เขาเล่นไม่พูดอะไรเลยจนกระทั่งขับรถมาจอดหน้าซอยทางเข้าบ้านของทงเฮ เป็นอันว่าเดทแรกในค่ำคืนนี้จบลงแล้ว แถมยังจบไม่สวยเสียด้วย
“กลับดีๆ นะครับ” ทงเฮพูดแล้วเปิดประตู ทว่าแขนข้างที่ใกล้มืออีกฝ่ายที่สุดกลับถูกรั้งไว้
สีหน้าสงสัยรอให้คิมคิบอมพูด แต่อีกฝ่ายเพียงจ้องมองเขาด้วยสีหน้าที่เดาไม่ออกว่าอีกฝ่ายรู้สึกอะไร ทงเฮง่วงเกินกว่าจะรอคอยต่อไป คนไม่รู้จักคิดเลยยื่นหน้าเข้าไปจูบแก้มเกลี้ยงเกลาของท่านประธานเบาๆ หนึ่งครั้ง
กลิ่นหอมบางเบาที่ได้กลิ่นชัดเจนเมื่อทงเฮขยับเข้ามาใกล้ กระตุ้นสัญชาตญาณบางอย่างในตัวชายหนุ่มให้ตื่น ฉับพลันที่ท่อนแขนยาวเอื้อมผ่านเขาไปดึงประตูให้ปิดสนิท ก่อนจะใช้มือข้างนั้นเลื่อนเบาะของทงเฮให้ราบลงไป ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วเมื่อร่างเล็กถูกผลักให้นอนลงบนเบาะก่อนจะถูกร่างสูงใหญ่กว่าห้าส่วนเหวี่ยงตัวเองเข้ามาคร่อมไว้
ไม่มีแม้แต่เวลาให้เปล่งเสียงตกใจ คิมคิบอมจับใบหน้าตื่นตระหนกของคนที่บางครั้งก็ขี้อ้อนเหมือนลูกแมว ขี้กลัวเหมือนลูกกวาง ยิ้มทะเล้นเต็มใบหน้าเหมือนลิงซนๆ ทว่ากลับดูขาวสะอาดราวกระต่ายตัวหนึ่ง คิบอมจดจ้องใบหน้าที่ชวนให้หลงใหลตรงหน้า ก่อนจะประกบริมฝีปากหนักหน่วงลงไป
ลมหายใจที่แทรกเข้ามาในโพรงปากร้อนผ่าวเป็นพิเศษ ทงเฮรู้สึกถึงความต้องการในตัวเขาจากร่างด้านบน ตกใจก็ส่วนหนึ่ง แต่กลับคล้อยตามความเร่าร้อนไปด้วยสัญชาตญานของเด็กผู้ชายที่กำลังเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัย ปากบางอ้าออก ได้แต่รองรับกลีบปากหนาที่ไล่ดึงดูดและล่วงล้ำเข้ามาอย่างไม่อาจต้านทาน เมื่อคิบอมละปากออกเพียงนิด เจ้าเด็กช่างอ้อนกลับเผลอยื่นใบหน้าตามขึ้นไปจูบเขาอีกครั้ง โดยไม่รู้ตัวว่าการกระทำที่ทำไปเพราะอารามเคลิ้มตามจะทำให้ความร้อนในร่างกายทั้งคู่ปะทุยิ่งขึ้น
ชั่วชีวิต ทงเฮไม่เคยรู้มาก่อนว่าฝ่ามือคู่หนึ่งจะสามารถให้สัมผัสร้อนจัดได้ถึงขนาดนี้ กระทั่งตอนที่คิมคิบอมใช้มือข้างหนึ่งรวบข้อมือทั้งสองของเขาไว้เหนือศีรษะ ริมฝีปากยังไม่ละออกจากกันด้วยซ้ำตอนที่ฝ่ามือใหญ่ร้อนจัดค่อยสอดเข้าไปใต้เสื้อ ลูบไล้หน้าท้องแบนราบด้วยสัมผัสหนักหน่วง ก่อนจะค่อยเลื่อนขึ้นไปยังตำแหน่งหัวใจแล้วขยุ้มมืออย่างแรงบนอกของเขา
“อะ...อาา...”
ฝ่ามือหยาบกร้านให้ความรู้สึกแปลกเหลือเกิน โดยเฉพาะตอนที่ทงเฮรู้ตัวว่ายอดอกของเขาที่เคยอ่อนนุ่มนิ่มเริ่มแข็งขึงจากฝ่ามือ และปลายนิ้วที่ค่อยๆ ไล้วนรอบฐานด้วยความดุดันที่ค่อยๆ ลดลง
ราวกับรู้ว่าส่วนใหญ่ควรรุนแรง ส่วนไหนควรผ่อนปรน ปลายนิ้วชี้ถึงได้แตะลงแล้วบดขยี้บางเบา
“อึก...” ทงเฮหายใจสะดุด ปฏิกิริยาเป็นไปโดยไม่อาจควบคุมได้อีกต่อไป อกขวาที่ไม่ได้ถูกแตะต้องมันดันขึ้นอย่างเรียกร้องความสนใจ ได้ยินเสียง ‘หึ’ อย่างพึงพอใจเหนือริมฝีปาก ก่อนที่มือใหญ่ข้างนั้นจะดึงออกมาจากใต้เสื้อ จับชายเสื้อแล้วรั้งมันขึ้น
แผ่นอกบางปรากฎแก่สายตา ดวงตาคมกริบจ้องมองผิวขาวเนียนที่แถบหนึ่งขึ้นสีแดงปื้นเป็นรอยมือน่ามอง โดยเฉพาะจุดเล็กๆ สีอ่อนที่ตัดกับผิวขาวอย่างเหมาะเจาะ กวาดตามองจนพอใจก่อนจะเลื่อนขึ้นมองใบหน้าของคนใต้ร่าง ทงเฮที่ดวงตาฉ่ำวาว เต็มไปด้วยความต้องการ ริมฝีปากอิ่มอ้าออกผ่อนลมหายใจ ดวงตาคู่นั้นมงเขาอย่างเว้าวอน นี่คือสิ่งที่เขาอยากได้มากที่สุด
รอยยิ้มมีเสน่ห์กรีดลึกลงบนใบหน้าหล่อจัด คิมคิบอมสะกิดยอดอกขวาที่ไม่ได้รับการแตะต้องมาก่อนแผ่วเบาอย่างยั่วเย้า ขณะพูดว่า
“เด็กน้อย...” นิ้วยาวเขี่ยปลายยอดขึ้นลง ทงเฮแทบบิดเร่า เขาอยากจะร้องไห้ “นายมันมักมาก”
ทงเฮน้ำตาไหล อารมณ์อ่อนไหวอย่างช่วยไม่ได้เมื่อถูกปั่นป่วนจนถึงขีดสุด ปล่อยเสียงร้องออกมาเต็มเสียงเมื่อริมฝีปากที่เพิ่งบริภาษเขาให้เสียหายก้มลงดูดกลืนอกขวาอย่างหยาบคาย รุนแรง ทว่ากลับเติมเต็มความพอใจจนทงเฮไม่อาจแสร้งปฏิเสธให้เขาหยุด
เด็กผู้ชายใกล้บรรลุนิติภาวะแหงนหน้าขึ้นตามแรงอารมณ์ มือข้างหนึ่งปรนเปรอยอดอกให้เด็กมักมาก และทั้งที่ปากก็ยังวุ่นวายกับติ่งไตที่รสชาติถูกปากไม่เบา สายตาคมกลับเลื่อนมองตามลำคอระหงไม่วางตา ปลายลิ้นร้อนตวัดรัวเร็วเป็นวงกลมขณะคิดว่าอีกไม่นานเขาจะทำแบบนี้กับคอขาวๆ นั่นด้วย
“อ่ะ....อ่ะ....อ๊ะ......อื๊อออ.........”
คิมคิบอมชะงัก เขาละริมฝีปากออกทันควันและก้มลงมองช่วงล่างของเด็กหนุ่ม ทงเฮหายใจหอบ เสียยงครางสิ้นสุดไปทันทีที่เป้ากางเกงเปียกแฉะเป็นวงกว้าง
“นายนี่มัน...” คิมคิบอมแทบหมดคำพูด แต่อดไม่ได้ที่จะยิ้มเอ็นดูให้เด็กมักมากที่ถูกเขาทำให้เสร็จเป็นคนแรกในชีวิต ใสซื่อเสียจนต่อให้ไม่แตะต้องส่วนนั้นก็ปล่อยออกมาได้ง่ายๆ
น่าเล่นด้วยจริงๆ
อึดใจเดียวเท่านั้นที่ลมหายใจของทงเฮเริ่มกลับมาเป็นปกติ เมื่อพายุอารมณ์ผ่านไปก็ถูกความอับอายเข้ามาแทบที่ หนีแทบตายอย่างไรสุดท้ายตากลมก็ต้องสบกับตาคมที่มองมาอย่างล้อเลียนอยู่ดี ทงเฮยกมือปิดหน้าแดงเถือก เมื่อกี้ถึงกับร้องไห้ออกมา น่าอาย น่าอาย โคตรน่าอาย!
“อะไรเล็กๆ น้อยๆ ที่ฉันหมายถึง”
สิ่งนี้เอง.......
ทงเฮแหวกนิ้วที่ปิดหน้าออก มองคิมคิบอมที่กำลังยิ้มร้ายกาจ ขณะใช้หลังมือเช็ดคราบน้ำลายที่ติดมาตอนคลุกเคล้าใบหน้ากับแผ่นอกของเขาออกจากมุมปาก
ไม่ได้เล็กน้อยเลยเหอะ!
ฉับพลันฝ่ามือหนาวางหมับลงบนกลางแกนกายที่อ่อนยวบอยู่ใต้กางเกง ทงเฮขยับขาจะดิ้นออกตามสัญชาตญาณ แต่คิบอมกลับออกแรงมากขึ้นจนทงเฮลมหายใจสะดุด
“ต่อไปเวลาทำ” เขาแสยะรอยยิ้มให้สมชื่อปีศาจเซ็กส์
“ต้องนึกถึงหน้าฉันเท่านั้น นี่เป็นคำสั่ง”
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ