วุ่นนัก รักซะเลย

9.2

เขียนโดย กลางสายฝน

วันที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 เวลา 23.36 น.

  58 ตอน
  778 วิจารณ์
  75.77K อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 00.52 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

23) ชั้ลมีแฟนแล้วนะ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

 

 

                    ชีวิตของผู้หญิงคนนึง ที่ไม่เคยได้สัมผัสกับความรู้สึกบางอย่างมาทั้งชีวิต และตอนนี้ความรู้สึกบ้าๆนั้นมันกลับเข้ามาอยู่ในชีวิตของเธอแบบที่เธอไม่รู้ตัว 

 

                    ความรู้สึกที่ ... ทำอะไรก้มีแต่หน้าของเค้า

                    ความรู้สึกที่...เหตุการณ์ของเรามันทำให้เธอยิ้มเยิ้มๆเหมือนคนบ้า

                    ความรู้สึกที่ ... เธอนั่งยิ้มอยู่คนเดียว

                    ความรู้สึกที่... คำพูดหวานๆของเค้ามันดังก้องอยู่ในใจของเธอตลอดเวลา

                    ความรู้สึกที่... ทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงทุกครั้งที่ชั้ลคิดถึงทุกสัมผัสของเค้า

 

                    ความรู้สึกเหล่านี้เค้าเรียกว่าอะไรกันนะ

 

 

 

                    " ไอ้หมากาน ความรู้สึกที่นางเอกมันพูดนี่มันยังไงวะ " ในขณะที่ชั้ลนั่งดูหนังอยู่ในโรงหนังกับไอ้เจ้ากาน มันก็มีคำพูดของนางเอกที่ทำให้ชั้ลรู้สึกเหมือนว่าชั้ลเองก็กำลังเป็นอยู่เหมือนกันในตอนนี้ และชั้ลก้คงจะเป็นเหมือนนางเอกอีกนั้นแหละ ที่ชั้ลไม่รู้ว่าความรู้สึกบ้าๆนั่นมันคืออะไร 

 

 

 

 

                    " เค้าเรียกว่าคนกำลังมีความรัก นี่โง่จริงหรือแกล้งโง่เนี่ย " ไอ้กานมันกระซิบบอกชั้ลแล้วก็หลอกด่าชั้ลไปในตัว 

 

 

 

                    ก็แล้วใครมันจะไปรู้หละวะ ก็ชั้ลไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อนนิ 

 

 

 

                    แตหนังเรื่องนี้มันเศร้านะ ทำเอาชั้ลร้องไห้จนตาบวม สุดท้ายนางเอกก็ไม่สมหวัง เพราะพระเอกรักคนอื่น นี่ชั้ลเปราะบางตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ 

 

 

 

                    เมื่อหนังจบ เราทั้งสองคนก็เดินออกจากโรงหนัง 

 

 

 

 

 

                    " แหมๆ เดี๋ยวนี้มีดูหนังแล้วร้องไห้ด้วยวะ  ปกติไม่เห็นจะร้องไห้เลย " ไอ้กานนี้ก็แซวใหญ่เลย แต่ก็จริงนั้นแหละคะ ขนาดนางเอกตาย พระเอกตาย ตอนจบไม่สมหวัง ชั้ลก็แทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย มันเหมือนเฉยๆ เข้าไม่ถึงอารมณ์ก็ว่าได้ 

 

 

 

 

                    " เออ เอาเถอะ ! " ชั้ลอายๆ ตอบมันแบบปัดๆ แล้วเดินเข้าไปร้านเครื่องสำอาง

 

 

 

 

                    " นี่เดินเข้ามาในร้านเครื่องสำอางหรอ นี่พี่เมาหรือเปล่า " ไอ้กานทำหน้างงหนัก ก่อนจะเดินถอยหลังกลับมาหน้าร้าน แล้วเดินเข้าไปหาชั้ลใหม่อีกครั้ง

 

 

 

 

                    " ก็ชั้ลเป็นผู้หญิง ชั้ลมาช็อปเครื่องสำอาง มันแปลกหรอ " เออนั่นสิ มันแปลกตรงไหนวะ ทำไมต้องทำหน้าเอ่อเหรอขนาดนั้น 

 

 

 

 

 

                    " แต่ปกติพี่ไม่ใช้เครื่องสำอางนะ " ไอ้กานยังไม่เลิกทำหน้างง 

 

 

 

                    แต่ก็จริงของมันอีกนะ ปกติชั้ลไม่ใช้เครื่องสำอางหนิ แล้วทำไมตอนนี้อยากใช้วะ .... มันรู้สึกอยากสวยขึ้น อยากดูดี แบบไม่รู้สาเหตุ 

 

 

 

 

 

                    " เออ ช่างเถอะ มาช่วยเลือกดิ " ชั้ลได้แต่ตอบปัดๆ ก่อนจะจูงมือน้อชายมาช่วยเลือกลิปสติก

 

 

 

 

 

                    " แกว่าลิปสีนี้สวยป่าว " ชั้ลเลือกลิปสติกสีหวานๆ แล้วยื่นให้ไอ้กานดู 

 

 

 

 

                    " ... " ไอ้หมากานยังคงนิ่ง และมองหน้าชั้ลเหมือนสงสัยในสิ่งที่ชั้ลกำลังเป็น

 

 

 

 

                    " เอ้า กาน แก้วว " เสียงเรียกของผู้หญิงคนหนึ่ง ทำให้ไอ้กานละสายตาจากชั้ล และเราทั้งสองคนหันไปมองเจ้าของเสียงพร้อมๆกัน 

 

 

 

 

 

                    " สวัสดีคะ / ครับ ป้าเกตุ " ชั้ลและกานยกมือไหว้ป้าเกตุ เพื่อนของแม่ที่เดินเข้ามาทักเรา

 

 

 

 

                    " แม่เรานี่ไม่เบาเลยนะ ไปเกาหลีอาทิตย์ที่แล้ว พออาทิตย์นี้ไปฝรั่งเศสอีกละ เฟี้ยวจริงๆ " คำพูดของป้าเกตุ ทำให้ชั้ลและกานหันมามองหน้ากันอย่างอัตโนมัติ

 

 

 

 

 

                    " ป้าเกตุคะ แต่แม่ป่วยอยู่นะคะ จะไปเที่ยวได้ยังไง " ชั้ลถามไปแบบไม่ต้องคิด

 

 

 

 

 

                    " อะไรกันแก้ว ป่วยได้ยังไง นี่ๆ มาดูรูปสิ เราถ่ายมาสวยๆทั้งนั้นเลยนะ " ป้าเกตุเขยิบเข้ามาใกล้อีกน่อย แล้วเปิดรูปในโทรศัพท์ให้ดู แต่ไม่ทันที่ชั้ลจะได้เห็น แบตมือถือของป้ากก็ดันหมดซะก่อน

 

 

 

 

                    "  เอ้า แบตหมด " ป้าเกตุทำหน้าเซ็งๆ แต่ชั้ลนี่สิ ชั้ลสงสัยในสิ่งที่ป้าเกตุพูด 

 

 

 

 

                    "ไม่เป็นไร เดี๋ยวป้าส่งไลน์ไปให้ดูนะ ^^ " ป้าแกยิ้มๆแล้วเดินจากพวกเราไป 

 

 

 

 


                    " ไอ้หมากาน แกงงป่าว " เราสองคนหันมองป้าเกตุที่เดินจากไปเป็นสายตาเดียวกัน

 

 

 

 

 

                    " เออ งงสิเจ้ รออะไรอยู่หละ " ไอ้กานเองก็คงรู้สึกไม่ต่างจากชั้ล

 

 

 

                    แต่ป้าแกคงจะเลอะเลือนหละมั้ง แม่ป่วยอยู่จะไปเที่ยวได้ไง 

 

 

 

                    

 

 

                    " แก้ว เจ้ากาน ^^ " เออลืมบอกไปคะ นอกจากชั้ลกับกานแล้ว ก็ยังมีฟางกับไอ้ป๊อป ที่มาเที่ยวด้วยกันในวันนี้ ป๊อปชวนฟางไปดูหนังผี ที่ชั้ลเพิ่งจะดูกับพวกเฮียหนึ่งและพี่ดินมา ชั้ลก็เลยลากไอ้หมากานมาดูเรื่องนี้กับชั้ลซะเลย และเปิดโอกาสให้สองคนนั้นเค้าสวีตกัน 

 

 

 

 

                    " หลอนมั้ยฟาง 5555 " ชั้ลมองจากหน้าฟางก็น่าจะรู้ว่าไปเจออะไรมาบ้าง ฟางยิ้มแหยๆ ก่อนจะพยักหน้าน้อยๆ 

 

 

 

 

                    " เดี๋ยวให้ไอ้ป๊อปไปนอนเป็นเพื่อนนะ คริคริ " ชั้ลขยับเข้าไปใกล้ๆ แล้วแซวฟาง ดูหน้าฟางคงจะเขิล ตีชั้ลมาซะเต็มแรงเลย

 

 

 

 

 

                    " เฮีย กินข้าวเหอะ ผมหิวแล้วเนี่ย " ไอ้กานเดินเข้าไปจับมือไอ้ป๊อปแล้วจูงไปร้านอาหารทันที ส่วนเราสองคนก็เดินตามหลัง สองคุณชายไป

 

 

 

 

 

                    " แก้ว พี่ดินกับแก้วคบกันหรอ " ในขณะที่เดินอยู่ จู่ๆฟางก็ถามคำถามนี่ขึ้นมา 

 

 

 

 

                    " ก็ไม่นะ เป็นพี่น้องกันหนะ ไม่ได้มีอะไร " แต่อาจจะดูสนิทกันไปหน่อย คนเลยสงสัยกันเยอะ 

 

 

 

 

 

                    " ฟางเห็นในไลน์บริษัทเค้าแซวๆกันหนะ เลยถามดู ^^  " ฟางนิไม่เบานะเนี่ย เดี๋ยวนี้มีแซวด้วยเว้ยเห้ย มียิ้มเจ้าเล่ห์ ยิ้มแซวๆด้วย สงสัยติดมาจากไอ้ป๊อปแน่นอน สงสัยชีแกคิดว่าชั้ลกับพี่ดินเป็นแฟนกันจริงๆแน่เลย

 

 

 

 

 

                    ในขณะที่เรากำลังทานข้าวกันอยู่ 

 

 

 

 

                    " เออเฮีย เมื่อนี่เจอป้าเตุด้วย เค้าหาว่าแม่ไปเที่ยวฝรั่งเศสหวะ บ้าป่าว แม่ป่วยอยู่แท้ๆ จะไปเที่ยวได้ไง " ไอ้กานพูดกับป๊อป หน้าตามันดูซีเรียสมากเลยนะ ชั้ลเองก็ลืมถามเรื่องนี้ไปเลย มัวแต่กินอยู่

 

 

 

 

 

                    " บ้าหรอ ป้าแกคงจะจำผิดมั้ง " ไอ้ป๊อปพูด 

 

 

 

 

                    " กานก็ว่างั้นแหละ แต่แปลกนะ เพื่อนสนิทกันตั้งแต่ทำงาน ไหงจำหน้าแกไม่ได้ " กานเริ่มเปิดประเด็น ชั้ลก็เริ่มคล้อยตามไอ้กานเลยคะ คำพูดมันฟังดูมีเหตุผล

 

 

 

 

 

                    " เออน๊าา กินข้าวเถอะ แม่แกป่วยอยู่ คงไม่มีแรงลุกขึ้นไปเที่ยวหรอก " แต่คำพูดไอ้ป๊อปฟังดูแปลกๆหวะ ดูหน้าตามันลุกลี้ลุกลนแปลกๆ

 

 

 

 

 

                    " แต่กานไม่ได้คุยกับแม่มาสองอาทิตย์แล้วนะ ทำไมเดี๋ยวนี้โทรหาแม่ไม่ติดเลย " กานโว้ยต่อ ซึ่งข้อนี้ชั้ลก็เป็น 

 

 

 

 

                    " เออ ไอ้ป๊อป ตกลงเมื่อไหร่แม่จะกลับมา " ชั้ลเสริมทันที ไอ้ป๊อปนิ่งไป

 

 

 

 

                    " เออ งั้นเดี๋ยวโทรหาไอ้หมอให้แล้วกัน หมอมันก็บอกชั้ลมาแบบนี้หวะ " ป๊อปพูด ชั้ลกับกานพยักหน้า แล้วกินต่อ 

 

 

 

 

 

                    หลังจากทานข้าวเสร็จ เราก็แยกย้ายกันกลับบ้าน โดยไอ้ป๊อป ไอ้เจ้ากาน และฟางไปด้วยกัน ส่วนชั้ลขอตัวพาลิ้นจี่ไปอาบน้ำก่อน 

 

 

 

 

 

 

                    " หายไปไหนมา โทรไปก็ไม่รับ " ทันทีที่ชั้ลเปิดประตูห้องเข้าไป ไอ้คนเดิมๆหน้าเดิมๆ ก็ดันนั่งอยู่ที่เดิมๆในห้องของชั้ล ซึ่งกำลังจะกลายเป็นห้องของเค้าในอีกไม่ช้า

 

 

 

 

                    " ชั้ลไปเที่ยวกับน้องมา  นี่นายเข้ามาในห้องอีกแล้วนะ "ชั้ลบ่นใส่เค้าเบาๆอย่างเหนือยๆ ก่อนจะเดินหาลิ้นจี่

 

 

 

 

 

                    " นี่เป็นอะไร ทำไมดูแปลกๆ " เค้าเดินตามชั้ลมาเรื่อยๆ 

 

 

 

 

                      " ชั้ลจะพาลิ้นจี่ไปอาบน้ำนะ นายออกไปแล้วปิดห้องให้ด้วย " แต่ชั้ลไม่มีอารมร์จะตอบคำถามใครหรอกนะ เพราะชั้ลกลุ้มใจเรื่องแม่อยู่

 

 

 

 

 

                    หลังจากที่ชั้ลอุ้มลิ้นจี่ออกมาจากห้อง หมอนั่นก็เดินตามออกมา และเดินตามชั้ลลงมาข้างล่าง

 

 

 

 

 

                    " ไป เดี๋ยวพาไป " เค้าจับมือชั้ลแล้วจูงชั้ลไปที่รถของเค้า เค้าเปิดประตูให้ แล้วอุ้มลิ้นจี่ไปนอนที่เบาะหลัง ก่อนจะเดินกลับไปนั่งยังตำแหน่งคนขับ

 

 

 

 

 

                    " นี่นาย วันนี้ฟางเค้าไปกับไอ้ป๊อปนะ นายไม่ต้องเสียเวลากับชั้ลหรอก อีกนานกว่าฟางเค้าจะกลับ " 

 

 

 

 

 

                    " ชั้ลมาหาเธอ ไม่ได้มาหาฟาง ต้องให้บอกกี่ครั้งถึงจะเชื่อ " มือหนาๆหนักๆของหมอนั้น เลื่อนขึ้นมาวางอยู่บนหัวชั้ลก่อนที่มันจะออกแรงโยกหัวชั้ลไปมา

 

 

 

 

 

                    " หรอ .. แล้วมาทำไม " ทำเป็นถามไปงั้นแหละ แต่ในใจนี่โครตจะรู้สึกดีเลย บอกตรง

 

 

 

 

                    " คิดถึงเลยมาหา ^^ " มันบิดหน้าชั้ลให้หันกลับไปมองหน้ามัน ก่อนที่มันจะพูดเบาๆแล้วยิ้มให้กับชั้ล

 

 

 

 

                    ให้ตายเถอะ รอยยิ้มของหมอนั่นทำให้ความเครียดของชั้ลหดหายไปได้ทันตาเห็น 

 

 

 

 

 

                    หลังจากที่ลิ้นจี่อาบน้ำเสร็จแล้ว ชั้ลก็เดาว่าเค้าจะพาชั้ลมาส่งที่คอนโดและกลับไป แต่ชั้ลเดาผิด ... หมอนั่นพาชั้ลกับลิ้นจี่ มาที่สวนสาธารณะที่ไหนสักแห่ง ที่บรรยากาศโครตจะดี 

 

 

                    เค้าปูเสื่อและเอาขมท้ายรถมาวางกองบนเสื่อ พร้อมกับหมอนเล็กๆ ไว้หนุนนอน 

 

 

                    แล้วเราก็นั่งกันอยู่บนเสื่อใต้ต้นไม้ใหญ่ริมสระน้ำ ในสวนสาธารณะ

 

 

 

 

 

                    " ไหนเล่าดิ ว่าเครียดเรื่องอะไรอยู่ " เค้านั่งยืนขายาว แล้วหันมามองหน้าชั้ลอย่างตั้งใจ ... นี่เค้าสนใจเรื่องความเป็นอยู่ของชั้ลขนาดนี้เลยหรอ

 

 

 

 

 

                    " ก็เรื่องแม่หนะ " แต่ชั้ลก็ยอมรับนะ ว่าชั้ลดีใจ มากกก

 

 

 

 

 

                    " เรื่องแม่ ?? ยังไงหละ " 

 

 

 

 

 

                    " แม่ชั้ลป่วยเป็นโรคมะเร็ง แล้วหมอส่งตัวไปรักษาที่ต่างประเทศ ชั้ลโทรหาแม่ไม่ติดมาสองอาทิตย์แล้ว ไม่รู้ว่าแม่เป็นยังไงบ้าง ชั้ลเป็นห่วงแม่ " มันเหมือนพูดได้ไม่เต็มเสียง มันจุกๆอยู่ที่คอ เหมือนจะร้องไห้ 

 

 

 

 

 

                    " แสดงว่ามันก่อนที่เธอไปโรงพยาบาล เธอไปหาแม่หรอ " 

 

 

 

 

                    " วันไหน นี่นายแอบตามชั้ลไปหรอ " เห้ย นี่ตกใจเลยนะ หมอนี่เป็นโรคจิตหรือเปล่าวะ 

 

 

 

 

 

                    " เออ ก็ตามไป ก็อยากรู้ว่าไปไหน " มันหันหน้าไปอีกทาง ... หลบตาชั้ลทำไม 

 

 

 

 

                    " อยากรู้ไปทำไม "

 

 

 

 

 

                    " ก็อยากรู้อะ อยากรู้ทุกเรื่อง " มันพูดนิ่งๆ แล้วหันหน้าหนีไปอีกทาง

 

 

 

 

                    " ^^ " ชั้ลก็ได้แต่หันไปอีกทาง แล้วแอบยิ้มอยู่คนเดียว

 

 

 

 

                    " เขิลอะดิ " หมอนั่นหันหน้ากลับมามองชั้ล มันจ้องตาหันเหมือนสงสัย จนชั้ลหุบยิ้มไม่อยู่ ตาหมนั่นมันหวานเยิ้มมมมมม  มันเป็นประกายแวบๆวาวๆ จนชั้ลไม่อาจที่จะจ้องตาของเค้าได้นานๆ 

 

 

 

 

                    " นี่นายย อย่าจ้องหน้าชั้ลสิ " ชั้ลผลักหน้าหมอนั่นให้หันไปทางอื่นเพราะเขิล 

 

 

 

 

                    " นี่ .. เปลี่ยนจากเรียกนาย เป็นเรียกอย่างอื่นได้ป่าว " หน้านั้นจับมือชั้ลมากุมไว้ แล้วจ้องหน้าชั้ล 

 

 

 

 

                    ตึกตักตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ใจเจ้ากรรมก็เต้นแรงไม่เป็นจังหวะขั้นมาอีกคร้ัง

 

 

 

                    " แล้วจะให้เรียกว่าอะไรหละ " จะรีบพูดอะไรก็พูดมาเถอะ ชั้ลจะช็อตตายอยู่แล้วเนี่ย

 

 

 

 

                    " เรียก.... " มันค้างเอาไว้ ก่อนจะเลื่อนหน้าเค้ามาใกล้ๆหูชั้ล 

 

 

 

                    จักจี้ เป็นบ้าเล๊ยยยย 

 

 

 

 

                    " เรียกอะไรเล๊า " เออรีบๆบอกมาสิ ขนลุกแล้วเนี่ย 

 

 

 

 

                    " เรียกแฟนได้มั้ย " มันกระซิบเบาๆข้างหูของชั้ล 

 

 

 

 

                    มันอึ้ง มันตื่นเต้น มันมึนไปหมด ชั้ลรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังฝันอยู่ มันคือความจริงใช่มั้ย นี่ผู้ชายกำลังขอชั้ลเป็นแฟนหรอ ใช่หรอ ชั้ลหันขวับกลับไปหาเค้า

 

 

 

                    กึก จมูกของเราชนกัน >< 

 

 

 

 

 

                    " ไหนหละ เรียกแฟนได้มั้ยย " มันมนๆจมูกของตัวเองบนจมูกของชั้ล อยากจะบ้าา 

 

 

 

 

                    " ไม่ตอบ จูบนะ " มันหยุดมนจมูกตัวเอง แล้วเริ่มจะเลื่อนปากเข้ามาใกล้ชั้ลมากขึ้น จนชั้ลต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่น 

 

 

 

 

 

                    " เออๆ จะให้เรียกอะไรก็เรียกงั้นแหละ "  อยากจะบ้าตายกับผู้ชายตรงหน้า นี่ชั้นเคลิบเคลิ้มกับคารมขอหมอนี้ขนาดนี้เลยหรอ 

 

 

 

 

                    " เราเป็นแฟนกันแล้วนะ " มันจุ๊ฟแก้มชั้ลหนึ่งครั้งตอนชั้ลเผลอ 

 

 

 

 

                    " นี่ชั้ลไปตอบตกลงเป็นแฟนกับนายตอนไหนเนี่ย "

 

 

 

 

 

                    " กวนตีนแล้วคะ " มันเบิ๊ดกระโหลกชั้ลหนึ่งครั้ง ให้ความมึนของชั้ลมันหายไป 

 

 

 

 

                    

 

 

 

 

 

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
8.9 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
9.3 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
9.3 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา