Bad Race เดิมพันหัวใจกับนายแบดบอย!
เขียนโดย lucky_mewmew
วันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 เวลา 06.57 น.
แก้ไขเมื่อ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 09.13 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
9) เธอมีค่ามากกว่านั้น
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
1 อาทิตย์…
คือว่า........ก็อย่างที่ทุกคนได้อ่านกันข้างบนอ่ะน่ะว่าตั้งแต่เหตุการณ์วันนั้นมันก็ผ่านมาตั้งอาทิตย์นึงแล้ว หลังจากวันนั้นฉันก็ไม่ได้เจอกับโทโมะอีกเลย ถ้าจะมีก็มีแต่ข้อความสั้นๆที่สั่งโน้นสั่งนี้ฉันสารพัดในแต่ละวัน เช่น
‘วันนี้ฉันจะให้คนรับไปเลือกชุด ถ้าเธอไม่ไป เห็นดีกันแน่!’
‘อย่าลืมไปลองชุดที่แก้แล้วด้วย’
‘วันนี้ไปทำสปาซะ ฉันให้คนไปรับแล้ว’
และอะไรต่างๆ นานาสารพัดสิ่ง ฉันละปวดกะบาลจริงๆ -*- ทำไมน่ะทำไม ทุกคนช่วยฉันคิดหน่อยสิว่าทำไมอีตานี้ถึงกวน...ขนาดนี้ ทั้งกวน ทั้งน่าหมั่นไส้ ทั้งน่า.... หึ้ยยยย เอาตามตรงน่ะ ถ้าไม่ติดว่าอีตาบ้าบอนี้เป็นลูกชายของท่านประธานฉันคงจะจ้างมือปืนรับจ้างไปยิงกะบาลอีตานี้แน่ สาบานเลย -_-*
แล้ววันนี้ก็คือวันที่ฉันต้องไปงานการกุศลที่ท่านประธานสั่งให้ฉันไปกับตานั้นเพื่อเป็นการเปิดตัวว่าฉันเป็นว่าที่คู่หมั้นของเขา แต่สิ่งที่ฉันห่วงและกลัวมากที่สุดในตอนนี้ไม่ใช่อิสระของฉันหลังจากนี้ ไม่ใช่ว่าจะมีคนรู้จักฉันมากขึ้นในฐานะว่าที่คู่หมั้นของคนดัง และไม่ใช่ว่าฉันจะต้องมาแต่งงานกับคนที่ฉันไม่ได้รัก สิ่งที่ฉันห่วง ไม่ใช่สิ จะพูดอย่างนั้นกูไม่ถูกนัก คนที่ฉันห่วงและกลัวว่าจะรับรู้เรื่องนี้มากที่สุดก็คือ ‘ฟาง’ ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ฉันรู้เรื่องระหว่างฟางกับเขา ฉันก็กังวลเรื่องนี้มาตลอด ฉันพยายามจะบอกและอธิบายกับฟางหลายต่อหลายครั้ง แต่ทุกครั้ง ทุกๆครั้งที่ฉันเห็นใบหน้าที่ผ่องใสกลับหมองหม่น แววตาที่เคยสดใสกลับฉายแววเศร้า ผิวพรรณที่เคยสวยและบอบบางอย่างกับกลีบพิกุลกลับเศร้าหมอง ทุกครั้งที่ฉันมองเห็นทุกอย่างของยัยฟางที่เปลี่ยนไปเพราะเขา ฉันก็ไม่กล้าแม้แต่จะพูดหรือมองหน้าเธอต่อไป ฉันรู้สึกผิดและกลัว กลัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับเธอต่อไปเกินไปที่จะบอกทุกๆเรื่อง ทุกๆสิ่ง เหมือนท่ฉันเคยทำมา สิ่งที่ฉันทำได้ก็มีแต่ขอโทษเธอในใจทุกๆครั้งที่มีโอกาส ฉันบอกขอโทษเธอในใจทุกครั้งที่นึกถึงเรื่องนี้และในเวลาที่ฉันได้มองหน้าเธอ ฉันยอมรับ ฉันมันอ่อนแอเกินไป.....
ยังไงก็เถอะวันนี้ฉันจะต้องไปงานการกุศลคู่กับตานั้นและวันนี้ฉันก็ต้องมาเตรียมตัวที่จะไปงานนั้นที่บ้านไม่สิคฤหาสน์ของท่านประธานตั้งแต่บ่าย2 ฉันได้แต่หวังว่างานการกุศลน่าเบื่อๆแบบนี้คงจะมีนักข่าวไปทำข่าวไม่เยอะและออกข่าวก็คงแค่กรอบเล็กๆในหนังสือพิมพ์เท่านั้น และฟางก็ไม่ใช่คนอ่านข่าวแบบนี้ เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ก็ยังคงจะเป็นความลับต่อไป จนถึงเวลาที่ฉันพร้อม...ฉันพร้อมที่จะบอกเรื่องนั้นกับฟาง...ด้วยตัวของฉันเอง...
ตอนนี้ฉันมาอยู่ที่ห้องนอนรับแขกห้องหนึ่งที่แม่บ้านบอกฉันว่าอีตานั้นให้จัดไว้ให้ฉัน ชุดที่ฉันไปลอง(ไม่ได้เลือกหรอก ตานั้นสั่งให้ดีไซด์เนอร์ทำไว้ให้ฉันเรียบร้อยล่ะ)ก็แขวนอยู่ตรงมุมนึงของห้อง ในห้องก็มีทั้งสาวจริงสาวแท้อยู่ไม่ต่ำกว่า5คน ทั้งช่างหน้า ช่างผม และช่างชุด
“คุณแก้วมาแล้วหรอค่ะ ^0^” หนึ่งในพี่ช่างแต่งหน้าที่เป็นสาวสองมองเห็นฉันก่อนใคร จากนั้นคนที่เหลทอในห้องก็หันมาที่ฉันกันหมด
“สะ...สวัสดีค่ะพี่ๆ ^^’ ” ฉันพยายามทักพี่ๆด้วยน้ำเสียงที่พยายามที่จะให้เป็นธรรมชาติมากที่สุด แต่ฉันก็ยังเกร็งๆอยู่ดีแหละ ในเมื่อพี่ๆทุกคนนั้นล้วนเป็นช่างแต่งหน้า ทำผม และช่างทำชุดฝีมือระดับประเทศ ระดับนานาชาติกันทั้งนั้น
“ไม่ต้องเกร็งก็ได้ค่ะน้องแก้ว มานี้ม่ะ” พี่ปูดีไซเนอร์หญิงที่จัดการดูแลชุดของฉันเดินเข้ามาโอบฉันและดันข้อศอกฉันให้เดินต่อเข้าไปในห้อง “ไปอาบน้ำ ล้างตัวให้สดชื่นกันก่อนเนอะ แล้วค่อยออกมาแต่งหน้าทำผมกันน่ะ”
“ค่ะ” ฉันรับสั้นๆก่อนจะเดินตามแม่บ้านคนที่พาฉันมาที่ห้องนี้ไปที่ห้องน้ำ ห้องน้ำนี้ก็ไม่ได้แตกต่างจากที่ฉันคิดสักเท่าไหร่นัก คือเป็นห้องที่กว้างขวางมาก สว่างด้วยแสงสีส้มอ่อนๆที่ทำให้ห้องนี้ดูหรูมากขึ้นกว่าเดิมมากมาย พื้นปูด้วยหินอ่อนชั้นดี อ่างล้างหน้าสุดหรูพร้อมกระจกขนาดครึ่งตัวบานกว้าง อ่างน้ำที่ใหญ่เกินกว่าที่จะให้คนๆนึงแช่ ห้องอาบน้ำที่หรูหราและกว่าขว้างมาก ตรงกลางห้องก็มีเก้าอี้บุหนังรูปวงกลมขนาดใหญ่พอสมควรวางไว้ อ่าาาา พวกคนรวยนี้ทำอะไรก็ไม่ผิดจริงๆเนอะ
หลังจากอาบน้ำล้างตัวเสร็จฉันก็ใส่ชุดคลุมอาบน้ำเดินออกมาจากห้องน้ำ เพื่อทำการแต่งหน้าและแต่งตัว
“น้องแก้วออกมาแล้ว มานี้มา มานั่งนี้” พี่ป๋อม ช่างแต่งหน้าสาวสองฝีมือระดับเทพเดินเข้ามาหาฉันก่อนจะจูงมือฉันไปนั่งหน้ากระจกที่โต๊ะเครื่องแป้ง บนโต๊ะก็ล้วนแต่มีเครื่องสางและอีกสารพัดสิ่งวางอยู่เต็มไปหมด “นั่งเฉยๆน่ะค่ะน้องแก้ว เดี๋ยวเรื่องหน้าตาปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพี่ เดี๋ยวพี่จะเนรมิตน้องให้สวยเด่นกว่าสาวไหนในงานเลยค่ะ ^0^”
“ไม่ต้องให้ถึงขนาดนั้นก็ได้มั้งค่ะ ^^’”
“แหม ได้ไงล่ะค่ะน้องแก้ว” พี่ก้อย หนึ่งในทีมดูแลชุดเดินเข้ามายืนข้างหลังฉัน และสบสายตากับฉันผ่านบานกระจก “น้องแก้วเป็นถึง ‘คนพิเศษ’ ของคุณโทโมะ หนุ่มที่สาวทั้งประเทศหมายปองเชียวน่ะ แถมยังเป็นว่าที่ลูกสะใภ้ของท่านประธานบริษัทที่รวยติด5อันดับของประเทศเชียวน่ะ จะให้น้อยกว่านี้ได้ยังไงล่ะ”
“เอ่อออ...เอิ่มมม -////-” พอได้ฟังแบบนี้ก็แอบเขินเหมือนกันแหะ
2 ชั่วโมงต่อมา...
“เสร็จแล้วจ๊ะ” สิ้นคำพูดของพี่ป๋อมฉันก็ลืมตาขึ้นมองกระจก แต่ว่า...คนในกระจกนี้ใครกันน่ะ มันไม่ใช่ฉันแน่นอน เธอสวยเกินไป
“แต่งเสร็จออกมาแล้วนี้กลายเป็นคนละคนเลยน่ะค่ะเนี่ย” พี่ป๋อมสบสายตาฉันผ่านกระจก
“คงงั้น...มั้งค่ะ ^^’” ฉันยิ้มแห้งๆ
“งั้นเรามาทำผมต่อกันเลยดีกว่าเนอะ” พี่กุ้ง ช่างทำผมสาวสองเดินมาข้างหลังจันและเริ่มจำโน้นจับนี้อย่างคล่องแคล้ว เพียงไม่นานพี่กุ้งกูจับผมฉันม้วนเป็นลอนและเกล้าไว้ข้างหลัง ปล่อยผมลอนไว้ข้างๆเล็กน้อย มีเปียเล็กที่คาดผ่านจากซ้ายไปขวา พร้อมกับดอกไม้ดอกสวยสีเงินประดับคริสตัลตกแต่งอยู่เพียงเท่านั้น (http://www.weddinghitz.com/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A3/%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%9A%E0%B8%9C%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%AB%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%86-%E0%B8%AD%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B9%88%E0%B8%B0 รูปที่3)(http://pantip.com/topic/30571633ดอกไม้รูปที่2)
“หน้าก็เสร็จแล้ว ผมก็เสร็จแล้ว งั้นเรามาแต่งตัวกันดีกว่าน่ะค่ะน้องแก้ว เดี๋ยวจะไปไม่ทันงานเอา” พี่ปูเดินเข้ามาพูดกับฉัน ฉันยิ้มพร้อมกับพยักหน้าน้อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินตามพี่ปูไปที่ห้องแต่งตัว
ชุดราตรีที่นายโทโมะเลือกให้ ฉันเป็นชุดราตรีเข้ารูปบานตรงปลายชุดสีเงิน ชุดเป็นผ้าลื่นอย่างดี ผ่าหลังถึงประมาณเอว ชุดถูกตกแต่งด้วยเลื่อมและมุกสีเทาเข้มตั้งแต่ไหล่สองข้างมาบรรจบที่หน้าอกข้างซ้ายและพาดสะพายไปที่สะโพกทางด้านขวา ที่ขอบผ้าที่ผ่าทางด้านหลังก็ถูกตกแต่งด้วยมุกสีเมาเช่นกัน ฉันนี้ไม่อยากจะคิดถึงราคาของชุดนี้เลยทีเดียว แค่ไข่มุกอย่างดีที่ประดับชุดก็มีไม่ต่ำกว่าร้อยเม็ดแล้วมั้ง ไหนยังจะผ่าไหมเนื้อดีอีก (http://www.mx7.com/view2/yBRYTwU79ehKgiSE)
อย่างอื่นก็มีแค่รองเท้าเลื่อมสีเงินความสูง3นิ้วกว่าๆ(http://www.wedding2hand.com/forum_posts.asp?TID=8681&PID=32008 คู่ที่2) กับกระเป๋าคลัชสีเทาขนาดพอเหมาะที่ประดับด้วยมุกสีขาวเม็ดเล็กน้อยๆทั่วทั้งใบ
“ว๊ายยยยยยย น้องแก้ววว >///<” พี่ๆทุกคนต่างกรีดร้องเป็นเสียงเดียวกัน อะไรกัน พี่ๆเค้าเป็นอะไรกันไปเนี่ย หรือมันไม่สวยหรอ ‘.’
“ทำไมหรอค่ะ มันไม่สวยหรอ”
“อุ๊ย พูดอะไรอย่างนั้นค่ะน้องแก้ว” พี่ป๋อมเดินเขามาตีแขนฉันดังเพี๊ยะทันทีที่ฉันพูดจบ
“มันสวยมากๆๆๆๆๆๆๆเลยต่างหากล่ะค่ะ” พี่ก้อยเดินเข้ามาเสริมทัพ
“ใช่ค่ะ น้องสวยจนพวกพี่ตะลึงไปเลยละค่ะ” พี่กุ้งเดินเข้ามาเสริมอีกคน
“งั้นหรอค่ะ แก้วก็ไม่เคยใว่อะไรแบบนี้เหมือนกันอ่ะค่ะ เลยไม่ค่อย...รุ้อะไรสักเท่าไหร่” ฉันยิ้มแหย่ๆ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงที่ประตูดึงความสนใจของทุกคนในห้องให้หันไปมอง อ่า นี้ฉันสายแล้วหรอเนี่ย ตานั้นต้องส่งคนมาตามฉันแน่เลย แย่แน่ๆเลยยยย ยัยแก้วเอ๊ยยยยย ><*
“เดี๋ยวพี่ไปดูเองน่ะ อยู่นี้ล่ะ” พี่ปูละออกจากฉันและเดินไปเปิดประตู ขณะที่พี่ๆคนอื่นรุมกันจับโน้น จัดนี่ และถ่ายรูปฉันอยู่
“อ้าว คุณโทโมะ” ชื่อที่ออกมาจากปากของพี่ปูนั้นชวนให้สายตาทุกคนหันไปมองอย่างหาไม่ได้ ตอนนี้เขาช่างดูดีราวกับคุณชายที่เพิ่งหลุดออกมาจากหนังสือนิทานตอนเด็กๆของเด็กผู้หญิงไม่มีผิด ตอนนี้ผมที่เคยเป็นที่ทองของเขาได้ถูกย้อมกลับมาเป็นสีดำแล้ว เขาอยู่ในชุดสูททักซิโดสีดำที่สุดเรียบหรู กับผมที่ถูกเซตเข้าที่อย่างดูดี ตอนนี้เขาเป็นเหมือนเจ้าชายที่มายืนรอรับเจ้าหญิงไปงานเลี้ยงเต้นรำไม่มีผิด ผิดอยู่ก็แต่ตรงที่ฉัน...ไม่ใช่เจ้าหญิงเท่านั้นเอง...
“มีอะไรให้รับใช้หรือเปล่าค่ะ”
“พวกคุณออกกันไปก่อน” เขาพูดเสียงเรียบๆ “โอจีฟ คุณช่วยจัดการเรื่องเงินด้วย” เขาหันไปพูดบางอย่างกับคุณพ่อบ้านที่ฉันได้ยินไม่ถนัดนัก
“พวกพี่ไปก่อนน่ะน้องแก้ว แล้วเจอกันตอนวันงานแต่งของน้องน่ะ” พี่ป๋อมเดินเข้ามาพูดกับฉันก่อนจะเดินออกไป อ่า จะให้ฉันพูดตอบว่าไงดีล่ะเนี่ย
“ค่ะ แล้วไว้เจอกันใหม่น่ะค่ะ ^^’” ฉันตอบตามมารายาท
หลังจากที่ทุกคนออกกันไปหมดแล้วนายโทโมะก็เดินเข้ามาในห้องก่อนจะดันประตูปิดลง และเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงเดินตรงเข้ามาหาฉัน ยัยแก้วววว แกควรจะทำยังไงต่อไปดีฮะ ทำไงๆๆๆๆๆ แล้วทำอะไรดีๆๆๆๆๆๆ
“วันนี้เธอดูแปลกตาไปน่ะ” เขาเอามือออกจากกระเป๋าข้างนึงแล้วเอานิ้วเรียวยาวของเขามาคลอเคลียเกลี่ยไปมาอยู่บนใบหน้าฉัน ตั้งแต่แก้ม ไปทีหางตา ต่อด้วยจมูก และก็มาหยุดอยู่ที่ริมฝีปาก…. สายตาของเราสองคนสอดประสานกันอยู่อย่างนั้น แววตาของเขายังคงมีประกายเจ้าเลห์และมีเสน่ห์น่าหลงไหลที่ชอบชุดดึงฉันให้ตกหล่นลงไปในห้วงบางอย่างอยู่อย่างเคย
ตาบ้านี้! จงใจแสดงความต้องการให้เห็นกันโต้งๆอย่างนี้เลยหรอ >////<
“วันนี้นายก็ดูแปลกไปเหมือนกันน่ะ สีผมก็เปลี่ยน ลุดก็เปลี่ยน” ฉันพยายามชวนเขาคุย เขาจะได้เลิกคิดที่จะทำอะไรๆก็ตามสักที
“ชีวิตเราก็ต้องมีเปลี่ยนกันบ้างสิ จะให้ทำอะไรอยู่เดิมๆก็น่าเบื่อแย่”แล้วเค้าก็ยอมเอามือออกจากหน้าฉันและเอากลับไปล้วงกระเป๋ากางเกงอย่างเดิม “จริงสิ ฉันมีอะไรจะให้เธอด้วย” ก่อนฉันจะได้พูดอะไร เขาก็เอื้อมมือมาฉุดข้อมือฉันให้เดินตามเขาไปที่โต๊ะเครื่องแป้ง
เขาจับฉันให้หันหน้าเข้าหากระจก ส่วนเขาที่ยืนอยู่ข้างหลังฉันก็หยิบกล่องกำมะหยี่สีดำออกมาจากข้างในเสื้อสูท พอเขาเปิดกล่องออกฉันก็เห็นต่างหูเพชรระย้าคู่หนึ่งพร้อมกับสร้อยข้อมือเพชรเส้นหนึ่ง เขาค่อบๆหยิบต่างหามาใส่ให้ฉัน แต่ฉันก็เอี่ยวตัวไปหาเข้าเสียก่อน (http://www.mx7.com/view2/yBS8oHzAqIfgBVkl)
“คุณ มันไม่มากไปหรอที่จะให้ฉันนะ”
“ทำไม หรือเธอไม่ชอบ”
“ก็ไม่ชอบนะสิ มีอย่างที่ไหน จู่ๆก็ซื้อเพชรมาให้ฉันมากมายขนาดนี้ แค่ชุดนี้ฉันก็คิดไม่ตกละน่ะ ว่าจะสามารถดูแลรับผิดชอบมันไหวไหม”
“เธอนี้ยังไงกัน ผู้หญิงคนอื่นไม่เห็นโวยวายอย่างเธอเลย มีแต่จะเรียกร้องกันซะด้วยซ้ำ”
“ก็เพราะว่าฉันไม่ใช่ผู้หญิงคนอื่น ไม่ใช่ผู้หญิงพวกนั้นของคุณไง ฉันไม่ได้อยากได้ หรืออยากเรียกร้องอะไรจากคุณสักอย่าง เพราะฉะนั้นฉันรับมันไม่ได้จริงๆ ฉันไม่มีความสามารถพอที่จะดูแลทั้งชุด ทั้งต่างหูเพชร ไหนจะสร้อยข้อมือเพชรให้คุณได้หรอกน่ะ ฉันกลัวทำมันเสียหาย ฉันรับไว้ไม่....... OxO” จู่ๆคำพูดทั้งหมดของฉันก็ถูกหยุดลงด้วยริมฝีปากของเขา ฉันพยายามดันเขาออกไปจากตัวฉัน แต่ก็ไม่เป็นผลเลยสักนิด เหมือนฉันเอาแรงมดไปสู้กับแรงช้างไม่มีผิด เขาเริ่มละเลียดริมฝีปากไปบนปากฉันอย่างช้าๆ ก่อนจะเริ่มขยับจูบเป็นจังหวะที่เร็วมากขึ้นเล็กน้อย ตอนนี้ฉันเหมือนโดนเข้าสูบพลังไปไม่มีผิด จู่ๆแรงของฉันก็เหือดหายไปหมดจนแทบจะไม่เหลือ มือที่ก่อนดันเขาไม่หยุด บัดนี้มันค่อยๆกลายเป็นการวางบนอกเขา เพื่อเว้นระยะห่างระหว่างเราเอาไว้เพียงเท่านั้น
ในขณะที่ฉันกำลังจะลงไปกองบนพื้นเพราะหมดเรี่ยวแรง เขาก็ตวัดวงแขนโอบรอบตัวฉันและดึงฉันเข้าหาตัวเขาจนระหว่างเราแทบจะไม่มีที่ว่างให้อากาศผ่านแล้วซะด้วยซ้ำ ฉันไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แต่พอฉันรู้สึกว่าฉันกำลังไม่มีอากาศหายใจเขาก็ค่อยๆถอนจูบออกช้าๆอย่างอ้อยอิ่ง ประหนึ่งว่ากำลังเสียดายอะไรบางอย่าง
“ที่ฉันให้เพราะว่าฉันอยากให้ เธอไม่ใช่ผู้หญิงแบบนั้น เธอมีค่ามากกว่านั้นเยอะ เพราะฉะนั้นต่อจากนี้ห้ามเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับคนอื่นอีกน่ะ ส่วนของที่ฉันให้ก็เอาไปเหอะ ส่วนเธอจะเอาไปทำอะไรต่อมันก็แล้วแต่เธอ แต่ฉันอยากให้รู้ว่าที่ฉันให้ที่นี้ ณ ตอนนี้ เป็นเพราะฉันอยากให้เธอจริงๆ” พอพูดจบเขาก็เอาต่างหูในมือค่อยๆใส่ให้ฉันช้าๆอย่างเบามือ โดยที่มืออีกข้างยังคงรัดเอวฉันแน่น สุดท้ายเขาก็เอาทับหลังต่างหูมาคาบไว้ที่ฟัน ก่อนจะก้มลงมาที่ข้างหูฉัน เพื่อใส่ทับหลังที่ต่างหู ลมหายใจร้อนๆของเขามันกำลังทำให้ใจฉันเต้นแรงกว่าเดิมจนแทบจะออกมาเต้นอยู่นอกอก ขนทั่วทั้งร่างกายพากันลุกขั้นตั้งชัน พอเขาทำท่าว่าจะใส่ต่างหูอีกข้างนึงด้วยวิธีของเขาฉันก็ชิงคว้ามันเอาไว้ก่อน แล้วใช้แรงทั้งหมดดันเขาออกจากตัว
“ดะ...เดี๋ยวฉันใส่เองก็ได้” พูดจบฉันก็ลนลานใส่ต่างหูอย่างรวดเร็ว
“เอามือมานี้” พอฉันใส่ต่างหูเสร็จ เขาก็ดึงมือขวาฉันไปเกาะกุมไว้ เขาหยิบสร้อยข้อมือในกล่องออกมาแล้วใส่เข้าที่ข้อมือขวาของฉัน (http://www.mx7.com/view2/yBS8krPp1FiDVCBe)
“แค่นี้ใช่มั้ย เราไปกันได้รึยัง” ฉันชักมือกลับ และทำท่าจะเดินออกไปที่ประตู แต่เขาที่มือไว้กว่าทุกสิ่งทุกอย่างบนโลกใบนี้เอื้อมมือมาขว้าแขนฉันไว้ได้ก่อน “มีอะไรอีกหรอ”
“มีอีกอย่างหนึ่งที่เธอต้องมี และฉันยังไม่ได้ให้เธอ” พูดจบ เขาก็ปล่อยมือจากฉันแล้วล้วงหยิบกล่องกำมะหยี่สีน้ำเงินเข้มใบเล็กๆอีกใบออกมาจากกระเป๋ากางเกง พอเขาเปิดกล่องออกฉันถึงได้เห็นว่ามันคือแหวนเพชร!!!
“อันนี้จำเป็นมาก เธอต้องใส่มันเอาไว้ตลอดเวลา นับตั้งแต่นี้เป็นต้นไป” เขาพูดพร้อมกับสวมมันลงที่นิ้วนางข้างซ้ายของฉัน มันเป็นแหวนที่ไม่ใหญ่มาก เพชรก็ไม่ได้ใหญ่มากจนสะดุดตา “อันนี้เป็นแหวนหมั้นเพราะฉะนั้นวงมันจะไม่ใหญ่มาก เธอจะได้วงจริงก็วันแต่งนั้นแหละ” (http://www.mx7.com/view2/yBS5MHhUQh5EL6oY)
“นี่!!! ฉันไม่ได้คิดอย่างนั้นเลยน่ะ” ตาบ้านี้ยังไงกัน จู่ๆก็มามองว่าฉัน...เห็นแก่อะไรพวกนี้ อยากจะจับหัวตานี้โขกกับกำแพงสักร้อยที หน่อยยยยย -*-
"ส่วนวงนี้" เขาหยิบแหวนเพชรอีกวงออกจากระเป๋าข้างในสูท "ถือว่ามันเป็นของขวัญจากฉันล่ะกัน" เขายักคิวนิดๆ แล้วก็สวมแวนวงนั้นลงที่นิ้วนางข้างขวาของฉัน (http://www.mx7.com/view2/yBS68jZw8HIASTWh)
"นี่!!!" พอฉันทำท่าจะถอดแหวนวงนั้นออกจากนิ้ว เอาก็ฉุดมือฉันออก
"ฉันบอกแล้วไงว่าให้ถือว่าเป็นของขวัญจากฉัน และฉันให้เพราะว่าฉันอยากให้ หรือต้องให้ทบทวนความทรงจำ หื้อ?" ไม่เพียงแต่พูดเท่านั้น แต่ตานั้นโน้มหน้าลงมาใกล้หน้าฉันจนใบหน้าเราห่างกันแค่นิ้วชี้
"มะ...ไม่ต้องๆ -///-"
“เอาเถอะ ไม่ว่าจะเธอคิดว่าฉันคิดอะไรยังไงกับเธอ มันก็เรื่องของเธอ แต่ตอนนี้เราควรจะไปกันได้แล้ว ฉันไม่อยากไปงานที่เกี่ยวกับพ่อโดยตรงสายหรอกน่ะ” เขาพูดพร้อมกับยกแขนขึ้นให้ฉันคล้อง ฉันตล้องแขนตาบ้านี้ก่อนจะเดินออกไปพร้อมกับเขา.....
‘ทำไมตานี้ขยันทำให้ฉันหวั่นไหวจังเลยน่ะ...นายรู้บ้างไหมว่าหัวใจฉันใกล้จุดที่จะรับไม่ไหวเข้าทุกทีละน่ะ’
สวัสดีทุ๊กกกกกกกคน >< เรากลับมาแล้วน้า ลืมเรากันรึยังหว่า ขอโทษน่ะ หายไปน๊านนนนนน นาน นาน นาน นาน เลย ^^’55555555 คือแบบ...พูดไปก็เหมือนแก้ตัวอ่ะเนอะ แบบๆเราเรียนหนักมากกกกกก ยิ่งโรงเรียนเราเลื่อนสอบให้เร็วกว่ากำหนดเดิมตั้งอาทิตย์นึง การเรียนการสอนของเราก็เลย ทั้งเร็วแล้วก็แน่นกว่าเดิมมากอ่ะ คือแบบเหนื่อยสุดๆ คือยิ่งมอปลายวิทย์-คณิตอีก โอ๊ยแทบบ้าค่ะ -*- จะบอกให้น่ะว่างานทุกงานเราเคลียร์เสร็จตอนวันสอบวันสุดท้ายอ่ะเอาดิ คิดดูว่าหนักหนาสาหัสขนาดไหน ยิ่งเจอครูที่สอนภาษาคนไม่รู้เรื่องอีก แทบอยากโดดตึก 80 ชั้นค่ะคุณขา แต่ข่าวดีก็คือ..... เราสอบเสร็จแล้วจ้าาาา >///< คือบับ...โล่งอ่ะเธอวววว เพราะฉะนั้นเราจะพยายามมาอัพบ่อยๆเนอะ จุ๊บุๆ
อ่อ ส่วนใครที่ถามหาอีกสองคู่น่ะ ติดตามกันให้ดีๆล่ะ น่าจะประมาณ2-3ตอนก็จะออกแล้วล่ะ ทุกคู่ทุกคนที่คุณติดตามจะมาโผล่และรวมตัวกันในวันงานหมั้นและงานแต่งของโมะกับแก้วจ๊ะ รอกันด้วยน่ะ <3
ส่วนใครอยากติ ชม หรืออยากให้เพิ่ม ให้ลดอะไรก็บอกกันมาได้เลยน่ะ เราอ่านทุกคอมเม้นเลยล่ะจะบอกให้ แล้วเจอกันตอนหน้าน่ะทุกคน
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ