City of Evil
เขียนโดย pim_chiangrai
วันที่ 5 มกราคม พ.ศ. 2558 เวลา 13.59 น.
แก้ไขเมื่อ 5 มกราคม พ.ศ. 2558 14.41 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น
1) บทที่ 1 [30 %]
อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ
บทที่ 1
งานศพของราเชลถูกจัดขึ้นอย่างเงียบๆ ในสุสานแห่งหนึ่ง ดวงตาสีน้ำตาลขุ่นของนายอำเภอนิโคลัสจ้องมองโลงศพของลูกสาวที่ค่อยๆ เคลื่อนตัวลงสู่หลุมเบื้องล่าง ผ่านมาวันนี้เป็นวันที่ 3 แล้วที่เขาไม่เห็นเธอเดินลงมาจากห้อง ไม่เห็นกับข้าวเช้าฝีมือของเธอที่เขาไม่เคยค่อยได้แตะมันเท่าไหร่ ไม่ได้ยินเสียงไพเราะที่คอยถามด้วยความห่วงใย
...ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เขาคงจะไม่ทำเรื่องแย่ๆ กับเธอ
จนกระทั่งกลบดินฝังเรียบร้อยแล้วจึงได้สติ เขาก้มมองช่อดอกเดซี่และกุหลาบสีขาวสะอาดในมือ มันเป็นดอกไม้ที่ราเชลชอบ เขาวางมันลงที่หน้าป้ายหลุมศพแล้วถอยออกมา กระซิบกับสายลมด้วยหวังว่าลูกสาวจะได้ยินว่า “พ่อขอโทษ พ่อรักลูกนะ”
บรรดาผู้ร่วมงานเข้ามาให้กำลังใจเขาเป็นระยะๆ และต่างพากันกลับบ้าน และตอนนั้นเองเขาก็เหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งเข้า และเหมือนมีประกายบางอย่างในดวงตาของเขา
...ประกายแห่งความหวัง
มิลลี่วางดอกคาร์เนชันสีม่วงลงด้านข้างรวมกับช่อดอกไม้อื่นๆ การเป็นนักข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นก็แบบนี้แหละ รวมค่าใช้จ่ายประจำวันแล้วเงินที่ใช้ซื้อดอกไม้เพียง 2 ดอกจากแผงข้างทางเก่าๆ ก็ทำให้เดือนนี้เธอแทบจะไม่มีกินอยู่แล้ว แต่ว่ากับหญิงสาวอย่างราเชลแล้วล่ะก็...
...แค่นี้มันยังเล็กน้อยเกินไปถ้าเทียบกับสิ่งที่ราเชลเคยทำให้เธอเสียอีก
“มิลลี่ อาเมเลีย เจฟฟรีย์ใช่มั้ย ?”
เจ้าของชื่อหันไปมองตามเสียง คิ้วขมวดด้วยความประหลาดใจเมื่อเห็นผู้เรียก “นายอำเภอมีอะไรเหรอคะ ?” ถามพร้อมลุกขึ้น แกล้งเสมองไปทางอื่น
“ฉันรู้ว่าเธอไม่ชอบฉัน แต่คิดว่าเรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“เสียใจค่ะ แต่ตอนนี้เวลานอกของฉันหมดแล้ว ต้องรีบกลับเข้า...”
“ไม่ต้องห่วงทางโน้นหรอก แต่ถ้าเธอไม่ไป ฉันว่าคนที่น่าห่วงน่าจะเป็นเธอมากกว่า”
พูดเหมือนขู่ไปในที มิลลี่ขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดระคนสงสัย นายอำเภอถอนหายใจก่อนจะตัดสินใจยิงคำถามแทงใจออกไป
“เธอเห็นลูกสาวฉันมั้ย ?”
มิลลี่หน้าซีดเผือด ตวัดมองอีกคนอย่างขุ่นเคือง มือกำสายสะพายไว้แน่น “ถ้าเธอไม่เห็นล่ะก็ ช่วยตามฉันมาด้วย ถือซะว่าราเชลขอร้องมาก็แล้วกันนะ” เจ้าของข้อเสนอเหยียดยิ้มอย่างผู้มีชัยเมื่อเห็นร่างเล็กสะบัดหน้าแล้วเดินตามเขาไป
มิลลี่นั่งลงที่เก้าอี้ด้านตรงข้ามกับนายอำเภอโดยไม่เต็มใจ ที่นี่เป็นบ้านของเขา ตอนนี้เธอเห็นคุณนายสมิธกำลังจัดดอกไม้อยู่ ฟาเรล พ่อของนายอำเภอ ปู่ของราเชลเองก็กำลังช่วยอยู่เช่นกัน พวกเขาเป็นคู่สามีภรรยาตัวอย่างที่น่ารักมากเลยทีเดียว กระทั่งตอนนี้ก็ยังเป็นอยู่
“เห็นพ่อกับแม่ของฉันเหรอ ?”
“...”
มิลลี่ไม่ตอบ นายอำเภอยิ้มน้อยๆ อย่างไม่ถือสาก่อนจะเริ่มพูดว่า “เธอคิดว่าราเชลฆ่าตัวตายเพราะอะไร ?” ยังคงเงียบ ก่อนที่สักพักมิลลี่จะพูดว่า
“ฉันคิดว่าเป็นเพราะคุณ”
“...”
นายอำเภอยิ้ม ดวงตาเดาอารมณ์ไม่ได้ พยักหน้าเบาๆ คล้ายรู้คำตอบอยู่แล้ว “ดี นั่นแหละประเด็น” เขาดึงลิ้นชักออก ดึงจดหมายของราเชลออกมายื่นให้เธอ
“ฉันอยากให้เธอใช้ความสามารถพิเศษของเธอตามหาราเชลในซิตี้ ออฟ อีวิล เจอแล้วก็ถามเธอว่าเพราะอะไรกันแน่ แล้วก็... ฝากบอกราเชลด้วยว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน”
“คงจะสายไปสักนิดล่ะมั้งคะ”
มิลลี่เหน็บ “ค่าตอบแทนคือทุกอย่างที่เธออยากได้ คิดรอไว้เลย เสร็จงานแล้วฉันจะให้เธอ เริ่มคืนนี้ได้เลยจะดีมาก” รีบเปลี่ยนเรื่องแล้วลุกขึ้นเดินออกจากห้องไป มิลลี่ถอนหายใจ เก็บจดหมายใส่กระเป๋า ก่อนจะรีบโทรศัพท์ไปลางานกะทันหันเพื่อกลับบ้านไปเตรียมตัว
การเป็นนักข่าวภาคสนามก็ดีอยู่อย่าง คือทำให้เธอรู้ว่าควรจะเตรียมอะไรไปในที่ต่างๆ บ้าง และทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ถูกจับได้เมื่อต้องเข้าไปตามข่าวอย่างลับๆ
กล้องบันทึกภาพ แบตเตอรี่สำรอง สมุดบันทึกและซองใส่เอกสาร เธอเก็บทั้งหมดใส่กระเป๋าเป้ มองนาฬิกาที่ฝาผนัง มันบอกว่ากำลังเป็นฤกษ์ดีที่เธอควรจะออกบ้าน มิลลี่จัดเสื้อเชิ้ตให้เข้าที่ คว้าเป้ขึ้นสะพายหลังแล้วตรงดิ่งไปยังรถคู่ชีพทันที
ดวงเนตรสีน้ำตาลอ่อนมองตรงไปด้านหน้า สลับกับครุ่นคิดไปด้วยว่าเมื่อไปถึงแล้ว เธอควรจะทำอย่างไรเป็นอันดับแรก ? จะให้เดินเข้าไปซึ่งๆ หน้า ประกาศว่ามาตามหาราเชลอย่างนั้นเหรอ ? หรือว่าจะงัดเข้าไปสืบแบบเงียบๆ เหมือนที่เคยเห็นในหนังดี ?
มิลลี่สูดหายใจเข้าลึก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเกี่ยวข้องกับข่าวที่เป็นเรื่องเหนือธรรมชาติแบบเต็มๆ ซิตี้ ออฟ อีวิลเป็นสถานที่สำหรับคนตายและอยากตาย ไม่แน่ใจเลยว่าสำหรับเธอนั้นจะเข้าไปได้มั้ย แต่ลือกันว่าใครที่ไม่เห็นที่นั่นเป็นที่รกร้าง ก็สามารถเข้าไปได้ทุกคน แต่จะกลับออกมาได้หรือเปล่าก็ไม่รู้
รถคู่ใจพาเธอมาถึงที่หมาย กินเวลาพอสมควร มิลลี่สะพายเป้ขึ้นหลังแล้วลงจากรถแล้วไปยืนหน้าประตูรั้ว ภาพที่เธอเห็นตรงหน้าคือเมืองที่เต็มไปแสงไฟ มีประหลาดใจบ้างที่เธอไม่เห็นว่าจะมีอะไรออกมาเพ่นพ่านแบบที่เธอคิดไว้ เมืองดูเรียบร้อยสะอาดกว่าที่คิด มิลลี่ยืนมองอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะตัดสินใจผลักประตูเข้าไป
มีแต่ความเงียบ ไม่มีเสียงลั่นเอี๊ยดอ๊าดของประตู มันเงียบมากจนได้ยินเสียงลมหายใจของตัวเอง มิลลี่รวบรวมความกล้าเดินเข้าไปด้านใน
เสียงฝีเท้าดังก้องสะท้อนไปมาฟังดูน่าขนลุก แต่ที่เธอคิดว่าขนลุกยิ่งกว่าก็คือเหมือนเมืองนี้จะมีแค่เธอคนเดียว
บรรยากาศเริ่มไม่น่าไว้ใจ โชคดีที่เธอมีความรู้ในเรื่องลี้ลับอยู่บ้าง มิลลี่หยิบกล้องวิดีโอขึ้นมาเปิด กดบันทึกภาพแล้ววาดไปทั่วบริเวณ ภาพจากกล้องยังไม่มีอะไร หญิงสาวถอนหายใจก่อนจะเดินไปต่อในขณะที่กล้องก็บันทึกภาพต่อไปเรื่อยๆ เธอเดินตรงไปยังอาคารสูงเบื้องหน้า แต่ทันทีที่เข้าใกล้ประตูแกะสลักรูปฮาเดสแล้วนั่นทำให้เธอเปลี่ยนใจ
คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น
✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน
คำวิจารณ์
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
โหวต
* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้
แบบสำรวจ