Even Villains Can Love_MaleficentxGrimhilde[Yuri]

-

เขียนโดย GarlicPepper

วันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 09.02 น.

  4 chapter
  0 วิจารณ์
  7,431 อ่าน

แก้ไขเมื่อ 23 กันยายน พ.ศ. 2557 09.15 น. โดย เจ้าของนิยายฟิคชั่น

แชร์นิยายฟิคชั่น Share Share Share

 

3) จดหมายเชิญ

อ่านบทความตามต้นฉบับ อ่านบทความเฉพาะข้อความ

 

 

3

 

 

ข้าลืมตาตื่นขึ้นมากลางดึก หันไปมองคนที่นอนหลับสบายบนเตียงครั้งหนึ่งก่อนจะลุกไปทำอย่างอื่น ข้าไม่ชินกับการที่ต้องมานั่งหลับบนเก้าอี้แบบนี้เลย นางช่างใจร้ายกับข้าเหลือเกินที่ไม่ยอมให้ขึ้นไปนอนด้วย แล้วยังไม่อนุญาตให้ข้าไปนอนที่ห้องอื่นอีก

 

‘ข้าไม่ต้องการให้สโนไวท์เจอตัวเจ้า’

 

หญิงรับใช้คนนั้นชื่อสโนไวท์ นางมีผิวขาวดั่งหิมะสมชื่อจริงๆ บางทีราชินีอาจคิดจะซ่อนตัวข้าไว้ ทำเป็นแอบเลี้ยงแล้วให้ข้าวให้น้ำไปวันๆ แต่นั่นยังไม่เท่าไรถ้าได้ออกไปสูดอากาศข้างนอกบ้าง แล้วนี่อะไร นางยังไม่เคยพาข้าออกไปเดินเล่นหรือแม้แต่เยี่ยมชมอาณาจักรให้พอเป็นมารยาท อย่าว่าแต่ตัวข้าเลย นางเองไม่เคยคิดจะออกไปรับแสงเดือนแสงตะวันด้วยซ้ำ วันๆ ขลุกอยู่แต่ในห้องทำงาน จะไม่ออกไปพบปะประชาชนหน่อยหรือ?

 

ข้ารู้ว่างานบริหารบ้านเมืองเป็นงานที่ใหญ่ แต่ก็แปลกใจนักที่นางสามารถทำทั้งหมดได้ด้วยตัวคนเดียว

 

ข้าพักอยู่ที่นี่เป็นเวลาสามวันแล้ว และยังคงก่อกวนองค์ราชินีไม่เว้นวัน นางทำให้ข้าลืมความเบื่อหน่ายแบบเมื่อก่อนเป็นปลิดทิ้ง ถึงแม้นางอาจจะเบื่อข้าก็เถอะ แต่เรื่องนั้นข้าไม่สนหรอก เพราะข้ารู้แล้วว่าชีวิตต่อจากนี้ต้องการอะไร

 

มือขวาเสกเปลวไฟสีเขียวขึ้นมาดวงหนึ่ง ถึงแม้จะเคยชินกับความมืด แต่ข้าก็อยากเห็นใบหน้ายามหลับของนางชัดๆ อีกครั้ง

 

กริมไฮลด์ที่นอนปล่อยผมดูเป็นคนละคนกับที่เคยวิ่งไล่แทงข้า จะว่าไปแล้วดวงหน้าของนางก็ไม่เข้ากับบุคลิกเย็นชาเลยสักนิด

 

“กริมไฮลด์ นางหญิงแก่อัปลักษณ์” ข้าคลี่ยิ้มที่มุมปากก่อนจะเลื่อนมือไปลูบผมของราชินีเบาๆ ครั้งหนึ่ง ไม่นานก็ตัดสินใจบินออกไปทางหน้าต่าง ข้าคงนอนไม่หลับแน่ๆ ถ้ายังนั่งอยู่แบบนั้น อย่างน้อยก็ให้นอนบนหลังคาปราสาทนี้ก็ยังดี

 

รุ่งเช้า

 

ดูเหมือนข้าจะตื่นสายไปหน่อย… อืม… ตื่นขึ้นมาตอนสายๆ นั่นแหละ ข้าค่อยๆ กระพริบตาเพื่อปรับความจ้าของแสงสว่าง และยังไม่ลืมว่าตัวเองกำลังนอนอยู่บนหลังคาปราสาทที่สูงชัน

 

ป่านนี้ราชินีจอมโหดคงกำลังทำงานอยู่ ชักอยากจะรู้ว่านางเขียนอะไรนักหนา ทำไมกองเอกสารนั่นถึงไม่หมดสักที นี่ถ้าข้าต้องมีชีวิตแบบนางล่ะก็ ข้าขอโยนบัลลังก์นี่ทิ้งแล้วไปเป็นคนขายน้ำดีกว่า

 

ข้าบินไปที่ขอบหน้าต่างใกล้ๆ โต๊ะทำงานของนาง วันนี้สีหน้าของราชินีดูแปลกกว่าทุกวัน… กินยาผิดขวดหรือเปล่านะ หรือว่าดีใจที่ตื่นมาแล้วไม่เจอข้า แต่มายิ้มแบบนั้นทำเอาข้าใจสั่นตามไปด้วย ปกตินางชอบทำหน้าเคร่งเครียดไม่ใช่เรอะ!

 

ข้ารู้สึกได้ถึงความผิดปกติบางอย่าง ตลอดสามวันที่ผ่านมาข้าไม่เคยเห็นนางเป็นแบบนี้ หรือแท้จริงแล้วนางจะเป็นพวกผีเข้าผีออกบ่อยๆ

 

“ท่านแม่” สโนไวท์เดินเข้ามาในห้องโดยลืมเคาะประตู นางต้องโดนท่านแม่ดุอีกแน่คราวนี้ หึหึ

 

“อะไรจ้ะ”

 

O.O

 

นางไม่ดุ! ไม่คำรามใส่แม่หนูด้วย! แถมยังพูดจ้ะจ๋าอีก… นี่ข้าฝันไปรึเปล่า

 

ข้าไม่รอให้ความสงสัยคาใจอยู่แบบนี้ มือข้างหนึ่งก็ร่ายเวทมนตร์ทำให้แม่หนูสโนไวท์เดินสะดุดก้อนกรวดล้มจนหมดสติ… เป็นก้อนกรวดเล็กๆ แถวนั้นที่ไม่น่ามีพิษสงอะไรเลย ข้าจึงฉีกยิ้มขึ้นมากับผลงานที่ทำให้กริมไฮลด์ต้องหุบยิ้ม ปีกสองข้างไม่รอช้าที่จะบินเข้าไปในห้อง

 

“อา… นางนี่ซุ่มซ่ามจังเลยนะ” เริ่มต้นด้วยการทักทายราชินีด้วยรอยยิ้ม แม้นางจะเพิ่งหุบมันไปก็เถอะ

 

แต่ทำไมถึงจ้องข้าเขม็งซะอย่างนั้นล่ะ!

 

“ข้ารู้นะว่านี่เป็นฝีมือเจ้า”

 

“อย่าเพิ่งใส่ร้ายกันแบบนี้สิองค์ราชินี” ข้าเปรยตามองคู่สนทนาที่เตี้ยกว่ากันนิดหน่อย “วันนี้ทำไมถึงอารมณ์ดีนัก”

 

“เพราะข้าคิดว่าเจ้าคงจะไปแล้ว แต่ก็ยังลอยหน้าลอยตาอยู่แถวนี้อีก” พูดจบนางก็โยนซองจดหมายมาให้ข้า “คืนนี้ข้าจะไม่อยู่ที่นี่”

 

“งานเลี้ยงฉลองพิธีราชาภิเษกสมรส…” ข้าอ่านตามเนื้อความในจดหมาย “เจ้าจะแต่งงานใหม่รึ?” พออ่านได้แวบเดียวข้าก็เงยหน้าขึ้นมาถามนางด้วยแววตาใสซื่อ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจแล้วว่านางแค่ถูกเชิญให้ไปร่วมงานเฉยๆ

 

“…เฮ้อ” นางไม่ตอบอะไรแล้วถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ ข้าจึงฉีกยิ้มขึ้นมาเมื่อเห็นว่านางไปต่อไม่ถูก แกล้งนางแล้วสนุกชะมัด

 

“นี่กริมไฮลด์… เจ้าจะไม่พาข้าไปด้วยรึ? เจ้าเป็นถึงองค์ราชินีแห่ง…” ข้าเงียบไปครู่หนึ่งเพราะไม่รู้ว่าตกลงแล้วอาณาจักรนี้ชื่ออะไร จึงคิดสดๆ ให้สมศักดิ์ศรีของนาง “ราชินีแห่งความดุร้ายอย่างเจ้าควรจะมีผู้ติดตามไปด้วยมิใช่รึ?” อืม.. ใช่แล้ว สมญานามนี้ที่ข้าตั้งให้ช่างเหมาะกับนางที่สุด

 

ปึง!!

 

=.=

 

ยังไม่ทันที่ข้าจะหัวเราะ นางก็เขวี้ยงตำราหนาๆ ใส่หน้าข้าเต็มๆ จะโกรธอะไรนักหนานะในเมื่อมันเป็นความจริงทุกอย่าง

 

“ข้าจะไปคนเดียว ขอสั่งให้เจ้า…”

 

“หยุด!!” ข้ารีบยกมือขึ้นมาปิดหูแล้วหลับตาปี๋ ดูเหมือนนางจะเป็นพวกความจำสั้นเหลือเกิน “ข้าบอกเจ้ากี่ครั้งแล้วว่าอย่าสั่งข้า!” คราวนี้ข้าเป็นฝ่ายขึ้นเสียงใส่องค์ราชินีบ้าง นางนิ่วหน้านิดหน่อยก่อนจะทำเฉไฉว่าไม่ได้ลืม

 

“เจ้าอยู่ที่นี่… เฝ้าบ้านให้ข้า” พูดจบกริมไฮลด์ก็หยิบชิ้นเนื้อใหญ่ออกมาจากกระเป๋าก่อนจะแกว่งมันไปมา
นี่นางเห็นข้าเป็นหมาหรืออย่างไร ถึงต้องเอาอะไรมาล่อด้วยน่ะ!

 

“เข้าใจนะ เจ้า…” น้ำเสียงนั่นหยุดลงเพราะยังไม่รู้ชื่อของข้า

 

“มาเลฟิ….”

 

“เจ้าค้างคาว”

 

!!!

 

วินาทีนั้นข้าถลึงตาออกมาด้วยความโมโหสุดขีด รู้สึกได้ถึงเปลวไฟนรกสีเขียวที่กำลังห่อหุ้มร่างกาย นี่ถ้าจะตั้งชื่อให้ล่ะก็ ขอแบบที่ฟังดูน่าเกรงขามหน่อยเถิดแม่นาง

 

กริมไฮลด์ทำเป็นยิ้มให้ข้านิดหน่อยก่อนจะเดินออกจากห้อง เดี๋ยวนี้นางกล้าเป็นฝ่ายกวนประสาทข้าก่อน ทั้งที่ปกติเอาแต่งึกๆ งักๆ บนโต๊ะทำงาน

 

วันนั้นทั้งวันข้าได้แต่ส่องกระจกดูตัวเองว่าเหมือนค้างคาวตรงไหน ข้ามีทั้งปีกที่งามสง่ากับเขาที่โค้งงอนราวกับพญามังกร นางใช้อะไรพิศดูข้าห้ะ! สงสัยเหลือเกินว่าใช้ดวงตาหรือฝ่าเท้ากันแน่!

 

พอตกเย็นข้าได้ตั้งปณิธานไว้แล้วว่าจะไม่อยู่เฝ้าบ้าน… ไม่สิ ไม่อยู่ที่ปราสาทนี้ตามที่นางบอก แต่ข้าจะแอบตามนางไปเงียบๆ

 

“หึหึหึ แล้วเจ้าจะได้รู้ว่าค้างคาวอย่างข้าจะมีฤทธิ์เดชแค่ไหน” สุดท้ายข้าก็ลืมชื่อนั้นไม่ได้ แถมยังเก็บไปคิดจนเอามาพูดแทนตัวเองเป็นที่เรียบร้อย

 

นางจะได้ทำตัวเปิ่นๆ ต่อหน้าพวกชนชั้นสูงแน่ๆ ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!

 

“ท่านแม่คะ ชุดของท่านได้แล้วค่ะ” เสียงของสโนไวท์ปลุกข้าให้ตื่นจากความคิดชั่วร้าย นางถือชุดกระโปรงหรูหราฟู่ฟ่าตัวหนึ่งมาให้กริมไฮลด์ แต่ข้าว่าอย่างนางน่าจะใส่แค่ชุดคลุมท้องไปก็พอ หึหึหึ ถึงจะไม่ได้ท้องจริงๆ ก็เถอะ

 

“ขอบใจ” กริมไฮลด์รับชุดตัวนั้นมาก่อนจะเอาไปลองที่ห้อง ข้าที่ซ่อนตัวอยู่ในซอกหลืบของรูปปั้นต้องรีบบินตามนางไปทันที

 

ฟึ่บ..

 

เมื่อถึงระยะหนึ่งจึงจัดการเสกให้ชุดหรูหราเป็นเพียงชุดคลุมธรรมดาๆราชินีไม่รู้ตัวเลยสักนิดก่อนจะเข้าไปลองในห้อง จากนั้นข้าก็ได้ยินเสียงเหมือนกระจกแตกจากข้างใน คงเป็นเพราะนางเอาความโมโหไปลงกับมันแน่ๆ

 

“เจ้าจะงามเกินใครไม่ได้” ข้าระเบิดหัวเราะออกมาในจังหวะที่นางเปิดประตูออกมาพอดี ดวงตาดุดันจ้องเขม็งมาที่ข้า แต่ข้ายังคงยิ้มระรื่นให้นางอยู่อย่างนั้น

 

“เจ้าจะแกล้งข้าไปถึงไหน” นางถามเสียงเรียบ “ ข้าไม่มีเวลามาเล่นกับเจ้า ข้าไม่อยากไปสาย” ว่าแล้วนางก็โยนชุดนั่นทิ้งก่อนจะสะบัดก้นหนีกันดื้อๆ นี่ข้าผิดรึที่ไม่อยากให้ใครมองนาง? ข้าผิดอีกรึที่หวังดีเอาชุดคลุมท้องมาให้?

 

ฮึก ฮึก..

 

ข้าบินลงมาที่พื้นปราสาทแล้วเดินตามกริมไฮลด์ต้อยๆ พลางเสกหยดน้ำให้ไหลออกมาจากดวงตา ครั้งที่แล้วนางยังไม่ทันเห็นมันเลยนี่

 

“ฮะ ฮือ… ข้าผิดไปแล้ว” หวังว่าเสียงสะอื้นไห้จะทำให้ราชินีหยุดเดินแล้วหันมา อยากให้รู้ว่านางฟ้าปิศาจก็ร้องไห้เป็นนะ “กริมไฮลด์.. ข้าขอโทษ”

 

“…” นางไม่พูดอะไรได้แต่เดินฉับๆอย่างเดียว

 

“กริมไฮลดดด์”

 

หมับ!

 

ข้ารีบคว้าข้อมือนางก่อนที่นางจะเดินไปไกลกว่านี้

 

“เห็นมั้ยว่าเจ้าทำข้าร้องไห้.. ฮึก” แล้วข้าก็เสกมันขึ้นมาทุกอย่าง ทั้งน้ำหูน้ำตาที่แฉะไปหมดรวมทั้งดวงตาที่แดงก่ำ แล้วยังปากที่สั่นระริก

 

“ข้าไม่ได้ทำอะไรเจ้า” ราชินียังคงรักษามาดนิ่ง ใจแข็งเป็นบ้าเลยให้ตายสิ “ข้าจะรีบไปงาน อย่ามาเกะกะ!”

 

พูดจบนางก็ปัดมือข้าทิ้งแล้วก็รีบเดินออกจากปราสาท คงคิดจะไปร่วมงานด้วยชุดที่ใส่อยู่สินะ… ก็ดี!… แล้วเราจะได้เห็นดีกันองค์ราชินี

 

ข้าเดินมาส่งนางถึงหน้าปราสาท โบกมืออำลาให้กับรถม้า มือข้างหนึ่งยังคงถือทิชชู่ซับน้ำมูก

 

หลังจากนั้นปีกทั้งสองก็ไม่รอช้าที่จะบินขึ้นท้องฟ้ายามรัตติกาล ข้าตรงไปยังอาณาจักรที่มีชื่อว่า ‘เซนไทล์’ ที่มีกษัตริย์เฮนรีเป็นผู้ปกครอง ในจดหมายเขียนไว้ว่าได้เชิญผู้ปกครองเมืองต่างๆ มาร่วมงานกว่าสองร้อยเมือง งานเฉลิมฉลองนี้คงจัดอย่างยิ่งใหญ่แน่

 

ไม่นานนักข้าก็ไปถึงพระราชวังเป็นที่เรียบร้อย ต้องมาถึงก่อนราชินีอยู่แล้วเพราะตั้งใจจะมาดักรอ ข้าแอบดูสถานการณ์จากหน้าต่างอีกเช่นเคย บรรยากาศภายในวังนั้นครื้นเครงมาก มีผู้เข้าร่วมไม่ต่ำกว่าสองร้อยคน แสงไฟในงานช่างตัดกับท้องฟ้าคืนนี้เสียจริง

 

ข้ารอที่จะเห็นองค์ราชินีปรากฏตัวเข้ามาในงาน แต่รอเท่าไรนางก็ไม่มาเสียที หรือว่าข้าจะจำสถานที่ผิดนะ แต่ในวังนี้ก็มีงานเลี้ยงจริงๆ นี่นา

 

“หรือว่าเจ้าจะหลงทาง” เมื่อคิดได้ข้าก็รีบบินย้อนกลับไป ใช้สายตาอันฉียบคมกวาดมองรถม้าที่น่าจะอยู่แถวๆ นี้ แต่กลับไม่มีวี่แววสักอย่าง หัวใจข้าหล่นวูบไปถึงตาตุ่มเมื่อคิดว่านางอาจมีอันตราย แล้วข้าจะหานางเจอได้ที่ไหน

 

ข้าบินดูรอบๆ อีกครั้ง ค้นหาทุกซอกทุกมุมจนมั่นใจว่านางไม่ได้ผ่านมาแถวนี้แน่

 

จึก

 

ข้าเผลอกัดปากตัวเองด้วยความโมโห ไม่ใช่ว่านางจะตกอยู่ในอันตรายหรอก เพราะมันไม่มีร่องรอยการต่อสู้เลยสักนิด หมายความว่าจดหมายที่ราชินีส่งให้ข้าอ่านนั้น นางจะไม่ไปเข้าร่วมตั้งแต่แรกแล้ว

 

“กริมไฮลด์ เจ้ากล้าหลอกข้า” ข้ากำหมัดแน่นสองข้างพลันปีกแข็งแกร่งโหมทะยานกลับปราสาท คงคิดไว้แล้วสินะว่าข้าต้องตามไป ก็เลยยื่นจดหมายอีกฉบับให้เพื่อไม่ให้ข้าไปก่อกวน

 

โครม!

 

แรงถีบไม่ยั้งของข้าทำให้ประตูปราสาทต้องเปิดออก ช่างเปราะบางเหลือเกิน เวรยามก็ไม่มีสักคน ไม่มีการป้องกันใดๆ ทั้งสิ้น หวังว่านางจะไม่ประมาทข้าศึกมากเกินไปนะ

 

“กริมไฮลด์!” ข้าตะโกนเรียกตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาเหยียบ ค้นหานางทุกห้องโดยไม่สนว่าสโนไวท์จะเจอตัวข้าหรือไม่ ตอนนี้ข้าทั้งโกรธและเป็นห่วงนางในคราเดียว

 

ไม่นานนักข้าก็กลับไปที่ห้องทำงานของราชินี ซึ่งก็คือห้องเดียวกันกับห้องนอนของนางนั่นแหละ หลังจากที่รู้ว่านางไม่อยู่ที่นี่ ข้าก็ถือวิสาสะหยิบจดหมายทุกฉบับขึ้นมาอ่านเผื่อว่ามันจะเป็นเบาะแส

 

ในตอนนั้นเองข้าจึงพบกับซองจดหมายที่ปิดผนึกด้วยรูปหัวใจสีแดง ไม่คิดเลยว่าจะมีไอ้บ้าที่ไหนกล้าส่งจดหมายรักให้ราชินีจอมโหด ว่าแล้วก็รีบเปิดมันอ่านโดยไม่ลังเล

 

‘ข้าจะรอเจ้าที่สวนเวนิสคืนนี้ โปรดมาหาข้าเพียงลำพังนะ กริมไฮลด์….

แดเนียล’

 

“ใครวะ”

 

นั่นเป็นคำถามแรกที่ผุดขึ้นมาในหัว ก่อนที่มือทั้งสองจะจัดการขยำมันทิ้งแล้วรีบบินไปที่สวนเวนิสตามเนื้อความในจดหมาย

 

“เจ้าไปมีกิ๊กงั้นเรอะ” ถึงตัวเองจะไม่มีสิทธิไปห้าม แต่ก็ขอไปดูหน้าไอ้คนที่ทำให้ราชินีต้องหลอกข้า อีกอย่างนางก็แต่งงานแล้วนี่ นางมีพระสวามี! คิดนอกใจแบบนี้ข้าควรเอาเรื่องไปฟ้องดีมั้ยนะ

 

แต่จนบัดนี้ข้าก็ยังไม่เคยเห็นหน้าพระราชา ไม่เคยเจอหลักฐานใดๆ ที่บ่งบอกว่าเขาอยู่ที่นี่ แม้แต่รูปถ่ายสักใบที่ควรจะถ่ายเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ก็ยังไม่มี

 

…หรือว่านางจะรักกับสโนไวท์…

 

=.=

 

เอาเถอะ ข้าจะไม่สงสัยอะไรไปมากกว่านี้ เพราะข้าต้องหากริมไฮลด์ให้เจอก่อน
ข้าบินไปถึงสวนเวนิสภายในเวลาไม่กี่นาที โชคดีที่ก่อนหน้านี้มีเวลาสำรวจอาณาจักรจึงทำให้มาถึงจุดหมายได้อย่างรวดเร็ว

 

ข้ารีบซ่อนตัวอยู่บนต้นไม้ใหญ่ แสงจันทร์ยามค่ำคืนทำให้มองเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังยื่นช่อดอกไม้ให้ใครสักคนในสวน… และนั่น! ข้าเห็นนางแล้ว ใบหน้าของราชินีตอนนี้ดูมีความสุขเหลือเกิน

 

“แดเนียล.. เจ้าหายไปไหนมา” กริมไฮลด์หน้าแดงระเรื่อเพราะความเขินอาย

 

โอ้กก!

 

ข้าชักอยากจะอ้วกกับความหวานแบบนั้นเหลือเกิน จริงอยู่ที่ครั้งหนึ่งข้าเคยตกหลุมรักมนุษย์ แต่นั่นก็นานมาแล้วและจะเป็นบทเรียนอันใหญ่หลวงให้หลาบจำไปอีกนาน

 

“เดี๋ยวพ่อหนุ่มคนนั้นก็จะทรยศเจ้า… หึหึหึ” ข้าที่กำลังคลื่นไส้อยู่ต้องหันไปมองที่อื่นเมื่อมนุษย์คู่นี้กำลังจะเล่นบทรัก

 

ฟึ่บ!

 

แต่สุดท้ายก็ทนอยู่เฉยๆ ไม่ได้เพราะความหมั่นไส้ นิ้วชี้จึงเสกดวงไฟสีเขียวน้อยๆ ลอยไปหาพ่อหนุ่มแดเนียลก่อนที่เขาจะร้องออกมาเพราะไฟลนก้น

 

“ปะ เป็นอะไรไปแดเนียล!” กริมไฮลด์ถามด้วยความเป็นห่วงเมื่อจู่ๆ คนตรงหน้าก็กระโดดโหยงเหยง ข้าฉีกยิ้มกว้างก่อนจะเสกดวงไฟลูกที่สอง คราวนี้เป้าหมายคงไม่ใช่แค่บั้นท้าย แต่ขอเป็นขนบนหัวก็แล้วกัน

 

“อะ อ๊ากกก! ร้อน ร้อน!!” แดเนียลพยายามใช้มือตีหัวตัวเองเพื่อจะดับไฟ ช่างสะใจข้านัก ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!

 

แต่ก่อนที่ความสุขจะมีต่ออีกสักหน่อย ดูเหมือนกริมไฮลด์จะรู้แล้วว่าข้าอยู่แถวนี้ บางทีคงจำสีเปลวเพลิงของข้าได้ นางหันซ้ายขวาด้วยความไม่สบอารมณ์

 

นี่คือโทษที่นางหลอกให้ข้าบินวนไปวนมาเหมือนแมลงหวี่ หึหึ ข้าไม่ใช่แมลงหวี่ว้อย! แล้วก็ไม่ใช่ค้างคาวด้วย!

 

ผ่านไปครู่หนึ่งที่ไฟบนหัวพ่อหนุ่มแดเนียลได้ดับลง แต่กว่าจะดับได้ก็เล่นเอาเนื้อตัวเปื้อนเศษหญ้า คาดว่าหมอนี่คงจะเอาหัวไถพื้นเพื่อดับไฟสินะ

 

“ข้าลองทำขนมเอง เจ้าช่วยลองชิมหน่อยได้มั้ย” เขาพูดขึ้นพร้อมยิ้มเจื่อนๆ ขณะที่ราชินียังทำท่าหวาดระแวงอมนุษย์ที่ยังหาตัวไม่เจอ

 

แต่ตอนนั้นเองที่สายตาอันคมกริบของข้าก็สังเกตเห็นว่าพ่อหนุ่มนั่นซ่อนอะไรไว้อยู่ มันคือมีดที่เหน็บไว้ข้างเอวโดยมีเสื้อคลุมปกปิดไว้อยู่ แถมด้วยรอยยิ้มหยันแบบที่มั่นใจได้เลยว่ากริมไฮลด์ต้องถูกลวงมาที่นี่

 

ข้ายังคงรอดูเหตุการณ์ทุกอย่างโดยไม่ละสายตา อยากรู้นักว่าราชินีมาดขรึมจะไหวตัวทันรึไม่ และหากไม่ทันข้าก็จะรอดูต่อไป ไหนๆ นางก็รู้แล้วว่าข้าอยู่แถวนี้ ถ้าไม่ขอให้ข้าเป็นฮีโร่ออกไปช่วยล่ะก็ ข้าก็จะเป็นคนดูอยู่แบบนี้แหละ

 

“กริมไฮลด์… ข้ารักเจ้า” แดเนียลใช้มือสองข้างลูบไล้ที่ใบหน้านวลของนางก่อนจะโน้มหน้าลงมาเรื่อยๆ ส่วนราชินีเองก็ดูท่าจะเคลิ้มกับคำพูดพวกนั้นมาก ความดุร้ายของนางหายไปไหนหมดแล้วนะ

 

ในตอนนั้นเองมีดสั้นก็ถูกชักออกจากฝักเรียบร้อยขณะที่ทั้งคู่กอดกันกลมด้วยความรักจอมปลอม มือหนากำลังเงื้อมีดขึ้นมาเรื่อยๆ แต่หัวใจของข้ากลับเป็นฝ่ายสั่นกลัวซะเอง

 

“ข้าก็รักเจ้า แดเนียล”

 

ฉึกก!!

 

 

 

คำยืนยันของเจ้าของนิยายฟิคชั่น

✓ เรื่องนี้เป็นบทความเก่า ยังไม่ได้ทำการยืนยัน

คำวิจารณ์

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถเขียนวิจารณ์ได้


รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
คำวิจารณ์เพิ่มเติม...

โหวต

เนื้อเรื่องมีความน่าสนใจ
0 /10
ความถูกต้องในการใช้ภาษา
0 /10
ภาษาที่ใช้น่าอ่าน
0 /10

* ต้องล็อกอินก่อนครับ ถึงสามารถโหวดได้


แบบสำรวจ

 

ไม่มีแบบสำรวจ

 

อ่านนิยายฟิคชั่นเรื่องอื่น

 
รอสักครู่กำลังโหลดข้อมูล
ข้อความ : เลือกเล่นเสียง
สนทนา